“พวกมึงว่ายัยไอรินนี่น่ากินไปทั้งตัวมั้ยวะ”
ซียู หนึ่งในสี่เพื่อนของเควินพูดลอยๆ ขึ้นมาหลังจากเห็นไอรินเดินเข้าไปซื้อชีทงานที่ร้านขายชีท
“เออ ได้ทีหนึ่งจะไม่ลืมพระคุณเลย”
แฝดพี่อย่างเทรย์ ชายหนุ่มรูปงามอีกคนก็เอ่ยขึ้นมาแบบหน้านิ่ง
แต่กูเห็นมีไอ้เด็กนกฮูกเดินตามต้อยๆ อยู่นี่ เป็นแฟนกันหรือเปล่า ทรอยแฝดน้องว่า คงจะหมายถึงคีย์ เพื่อนของไอรินสินะ แล้วคำว่านกฮูกก็ใช้เรียกเด็กสถาปัตย์ด้วย
“เออ ก็คงแดกกันมาตั้งแต่อยู่สลัมด้วยกันแหละมั้ง”
หัวหน้าแก๊งอย่างเควินได้ทีพูดขึ้นบ้าง
“แต่กูว่าไม่ใช่น้าา ดูทรงยัยนั่นออกจะเรียบร้อย”
ซียูเริ่มเข้าข้างแม่สาวร่างบางนมโตเพราะเขาก็สนใจเธออยู่ไม่น้อย
“เหอะ เรียบร้อยหรือว่ามีเป็นร้อยก็เรียบ กูว่าหุ่นแบบนั้นไม่น่ารอดมาจนถึงอายุสิบเก้าขนาดนี้”
เควินค่อนขอดพร้อมกับมองเหยียดไปที่ไอริน
“ชั่งเถอะถึงจะผัวเป็นร้อยกูก็ไม่สน ขอให้ได้จับกดสักทีกูก็พอใจแล้ว” ไอ้เจ้าซียูก็ไม่เลิกหื่นสักที
“ดูทรงแล้วน่าจะง่ายว่ะ พวกเรามาทำอะไรสนุกๆ กันมั้ย”
ทรอยตัวร้ายพูดขึ้นมาแล้วยิ้มร้าย ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขารู้กันแบบนี้ สมัยมัธยมก็เหี้ยกันมาสุดๆ แล้วก็เคยทำแบบนี้มาก่อน มันคือการเล่นเกมของพวกเขานั่นเอง เกมเดิมพันที่มีชื่อว่า The Devil's Game
เจ้าพวกผู้ชายเจ้าเล่ห์จะพนันกันแล้วแข่งกันเข้าหาสาวคนใดคนหนึ่งที่เขาเลือก ว่าจะเป็นเป้าหมายแล้วเริ่มตามจีบ ใครจีบติดก่อนคนนั้นชนะ ยิ่งถ้าได้จับทำเมียยิ่งแสดงว่าเจ๋ง
ด้วยความคึกคะนอง เควินผู้ไม่เคยใส่ใจความรู้สึกใครอยู่แล้ว แล้วเกมนี้ก็เป็นเกมแก้เบื่อสำหรับเขาเป็นอย่างดี แถมไม่พอเป้าหมายยังเป็นคนที่เขาเกลียดขี้หน้า ถ้าได้จับกดแล้วหลอกให้รักจนหัวปักหัวปำแล้วทิ้งคงน่าสนุก เควินคิดแล้วผุดยิ้มมุมปาก
“รอบนี้เอาเป็นอะไรดีล่ะ กูไม่เอารถแล้วนะ มีเยอะแล้ว” เควินถามหาสิ่งที่ใช้เดิมพัน
“งั้นกูเอาผับแถวXXX มาพนัน” ลูกมาเฟียแฝดพี่อย่างเทรย์รีบชิงพูด
“เฮ้ยนั่นทรัพย์สินของบ้านไอ้พี่เวร มึงจะเอามาพนันได้ไง” แฝดน้องอย่างทรอยแย้ง
“กูไม่คิดว่ากูจะแพ้” เทรย์ผุดยิ้มมุมปาก
“เอองั้นกูเอาอ่างของกูลงพนัน”
ทรอยเสนอขึ้นมาว่าจะเอาธุรกิจ อาบ อบ นวด เข้าพนัน ก็นะ พวกเขาพี่น้องมันลูกมาเฟียที่คุมธุรกิจสีเทาเกือบทั้งหมดของเมืองนี่หน่า
“บ้านพักตากอากาศของกูที่ภูเก็ต” ซียูพูดหน้านิ่ง
“สิบล้าน” เควินพูดขึ้นมาอีกคน
รอยยิ้มผุดที่มุมปากของคนทั้งสี่ แผนการร้ายที่พวกเขาทำมาเสมอ ถึงแม้จะมีแต่ผู้หญิงเข้าหา แต่การเล่นพนันแบบนี้มันเรียกความตื่นเต้นให้วัยคะนองและพวกมีอันจะกินแบบเขาได้ยิ่งกว่าอะไร คิดแค่เล่นสนุกสินะเจ้าพวกลูกคนรวย
เขาจะรู้มั้ยนะว่าเกมของเขาครั้งนี้มันจะเปลี่ยนชีวิตของเขาและเธอไปตลอดกาล
ตัดภาพมาที่พวกไอรินและคีย์แถมนั่งอยู่กับพี่ธัญรุ่นพี่สุดหล่อพวกเขามักอยู่ด้วยกันสามคนจนสนิทกันมาก เนื่องจากพี่ธัญนิสัยดีมากแถมยังเข้ากันกับพวกไอรินได้ดี พวกเขาจึงมักรวมกลุ่มกันเสมอ
“มึงดูไอ้พวกนั้นมองมึงตาเป็นมันเลยไอ” เสียงคีย์พูดขึ้นมาตอนที่เหลือบมองพวกแก๊งนั้น แถมคีย์ยังมอค้อนกลับไปแบบไม่เกรงกลัวอีกด้วย
“นั่นสิ จ้องเหมือนอยากจับกินเลย” พี่ธัญพูด แต่มันก็จริงนะ จะจ้องอะไรกันขนาดนั้นก่อน แถมยังพูดคุยกันเสียงดังไร้มารยาทมาก
ไอรินมองค้อนกลับไปตาดุแต่พวกเขาหาได้สลดไม่ ตอนนี้พวกเขาคิดแต่จะชนะเกมเดิมพันของพวกเขาได้ยังไง มันก็เท่านั้น ไอรินก็หารู้ไม่ว่าตัวเองกำลังจะเจอกับอะไร หมาป่าพวกนี้กำลังจ้องขย้ำเธอ
อึดใจเดียวที่เธอมองค้อนพวกหมาป่า รุ่นพี่ปีสองคณะของเธอก็เดินเข้ามาหาที่โต๊ะใต้ต้นไม้ ดูเหมือนจุดประสงค์ก็น่าจะ…
“นะคะน้องไอ ช่วยคณะเราหน่อยเถอะ ปีนี้ความหวังของคณะเราคือน้องไอนะคะ”
รุ่นพี่ปีสอง สามสี่คนเดินเข้ามาขอร้องไอรินจนแทบจะกราบตักได้แล้วมั้ง เรื่องที่ให้เธอเข้าประกวดดาวมหาลัย ก่อนเป็นดาวมหาลัยก็ต้องเป็นดาวคณะซะก่อน แต่ว่าไม่ใช่ว่าตำแหน่งนี้ยัยเกรซี่ที่เดินตามเจ้าเควินต้อยๆ นั่นเล็งอยู่หรอ ยิ่งคิดเธอยิ่ง งง
“อะ เอ่อ รุ่นพี่คะ มีคนเหมาะสมกว่าหนูอีกตั้งเยอะนะคะทำไมรุ่นพี่ไม่ไปขอ หนูได้ยินว่าคุณเกรซี่ลูกคุณหนูคนนั้นกำลังเล็งตำแหน่ง”
ไอรินพูดด้วยท่าทีอ่อนน้อม เพราะเธอไม่อยากเป็นจุดเด่นแถมถ้าทำกิจกรรมเยอะไปเธออาจจะไม่มีเวลาไปหาเงินมาช่วยที่บ้านและแค่รับน้องมันก็หนักพอแล้วเพราะงั้นเลี่ยงได้เลี่ยงดีกว่า
“โห รายนั้นอ่ะโคตรเรื่องเยอะเลย เอาแต่ใจตัวเองสุดๆ พี่กลัวว่าถ้าส่งเข้าไปประกวดจะทำเสียชื่อคณะเรานะสิ”
ก็จริงแฮะ ดูเอาแต่ใจสุดๆ มองยังไงก็ไม่เป็นมิตรถ้าไม่พอใจผลตัดสินขึ้นมามีหวังโวยวายลั่นแน่ แต่ว่าจะให้เธอมารับหน้าที่หนักอึ้งนี่มันก็กะไรอยู่ เธอจึงบอกรุ่นพี่ไปว่า
“งั้นหนูขอเก็บไปคิดดูก่อนนะคะ”
รุ่นพี่เห็นท่าไม่ดีหรือยังไงก็ไม่รู้รีบยื่นข้อเสนอสุดท้ายขึ้นมาดื้อๆ
“ทุนค่ะ น้องไอริน ถ้าหนูช่วยลงประกวด ทางเรายินดีระดมทุนเพื่อการศึกษาของหนูแน่นอน”
กริ๊ก เสียงเงินในสมองฉันมันกระเด้งกระดอนออกมาจนเก็บอาการไม่อยู่ เมื่อกี้ว่าอะไรนะ เงินงั้นหรอ พระเจ้าไม่อยากจะเชื่อว่าประกวดดาวก็ได้เงินงั้นหรอ หึหึ คนอย่างไอรินไม่ใช่คนเห็นแก่เงิน แต่เป็นคนที่เห็นแก่เงินที่สุดในโลกต่างหาก
“รับค่ะ รับ หนูเข้าประกวดแน่ๆ”
เสียงร่างบางเอ่ยอย่างตื่นเต้นปนกระตือรือร้นช่างน่ารักจนคนกลุ่มเควินมองมาอย่างเอ็นดู
“เฮ้อ มึงเนี่ยน้าาา พอเห็นเงินไม่ได้เลย” คีย์มองเพื่อนอย่างเอือมระอาพลางส่ายหัวไปมา
“โลกมันหมุนด้วยเงินนะมึง มึงก็รู้” ไอรินหันหน้าไปพูดกับเพื่อนด้วยตาเป็นประกาย
“ฮ่าๆ น้องไอนี่ตรงไปตรงมาดีนะคะ น่ารักจัง” พี่ธัญมองเธออย่างเอ็นดูแล้วยิ้มให้
ทางด้านเควิน
“เอ้า พี่ไปขอร้องให้แล้วนะเควินเธอตอบตกลงเพราะบอกว่าจะมีทุนให้สำหรับคนที่เข้าประกวด”
“หึ ว่าแล้วว่าเห็นแก่เงิน”
เควินผุดยิ้มมุมปากเพราะแผนการเอาเธอมาเป็นดาวได้สำเร็จ ส่วนตัวเขาจะเข้าประกวดเดือนของคณะ นี่ก็ถือว่าก้าวเร็วกว่าพวกเพื่อนเขาก้าวหนึ่งแล้ว
เขาคิดแล้วโอนเงินให้รุ่นพี่ทันที