บทที่6.ปะทะ

1523 Words
บทที่6.ปะทะ เมรีถอนลมหายใจแรงๆ เธอฉุนจนจุก เพราะยิ่งห้ามอีธานเข้าใกล้อันนา ก็ดูเหมือนว่าจะไปถูกต่อมบ้ายุของเขา คงเป็นนิสัยส่วนตัวของชายหนุ่ม เขาไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ ใครจะไปคิดล่ะว่าโลกมันกลมขนาดนี้ 5 ปีที่เธอไม่เคยเจอเขา พอได้เจอ เขาดันเป็นเจ้านายของเธอเสียอีก แถมยังแอบรู้จักกับอันนาโดยที่เธอไม่เคยระแคะระคายเสียอีก “ดิฉันคงห้ามคุณไม่ได้ แต่ขอเถอะอย่ามายุ่งกับเราสองคนเลย” เมรีวิงวอนด้วยเสียงที่อ่อนล้า เธอคงไม่สามารถต่อกรกับคนอย่างเขาได้ ดังนั้น ทางเดียวที่เธอจะเก็บความลับนี่ไว้กับตัวได้อีก เธอควรร้องขอกับเขาดีๆ “ไม่ได้...” ชายหนุ่มตอบแบบไม่ต้องคิด เขาพอใจที่จะทำ เมื่อสิ่งที่ทำลงไปนั้น เขารู้สึกสุขใจด้วย เมรีกัดริมฝีปากล่าง เธอหมุนตัวเดินหนี จูงอันนาตามมาด้วย คร้านที่จะต่อปากกับคนดื้อด้าน!! “จะไปไหนล่ะ ฉันไปส่ง” อีธานเดินตาม เขาปรายตามองปลายจมูกโด่งนิดๆ บนหน้าเมรีแบบนึกสนุก “ขอบคุณค่ะ เรากลับเองได้” หญิงสาวตอบเสียงสะบัด เธอขุ่นใจจนอยากจะโวย แต่คงป่วยการทำ “ฉันเต็มใจ” “ไม่ค่ะ ขอบคุณ” ในขณะที่หนุ่มสาวเถียงกลับไป กลับมา เด็กน้อยหนึ่งเดียวในที่นี้ กลับมองป้ายไฟหน้าร้านไอครีมเจ้าโปรดตาปรอย อันนาถอนใจดังๆ แต่ ผู้ใหญ่สองคนได้ยิน... “เธอกำลังทำร้ายจิตใจ...ไอ้หนูนี่อยู่นะ” อีธานกล่าวติง...เขารู้ถึงความต้องการของเด็กชาย เมื่อดวงตาคู่นั้น ไม่ละไปจากสิ่งที่เขาต้องการเลย “อันอันควรรู้ ไม่มีอะไรในโลกนี้ที่เราจะได้ทุกอย่าง” เมรีตอบกลับ เธอขัดใจลูก ก็เพราะต้องการสั่งสอนเขา “ของแบบนี้สอนกันได้ แล้วอันอันก็ฉลาดจะตาย เขารู้หรอกน่าว่าสิ่งไหนผิด สิ่งไหนถูก” “ผิดแล้วค่ะ ปีนี้อันอันแค่สี่ขวบ เขายังรู้ไม่พอ ถ้าดิฉันไม่สอน” เหมือนการโต้วาที มีเด็กน้อยกับความประพฤติของเขาเป็นข้อโต้ และใช่!! อันนาแค่สี่ขวบ เขาไม่รู้ในสิ่งที่ลุง กับ แม่ ตอบโต้กัน เวลานี้สิ่งที่เขาต้องการคือการดื่มด่ำกับไอครีมถ้วยโปรด “โครกกกกก...” เสียงท้องของอันนาร้องดังลั่น มืออ้วนป้อมยกขึ้นลูบท้องไปมา มองป้ายไฟหน้าร้านไอครีม น้ำลายจวนจะหยด “ไอ้หนูหิวเหรอ?” อีธานเปรยถาม อันนารีบพยักหน้ารัวๆ เขายิ้มแหยๆ ให้มารดาเมื่อท่านถลึงตาใส่ “เห็นมั้ย ไว้สอนวันอื่นเถอะ วันนี้ขอละกัน” อีธานย่อตัวลง เขาช้อนอุ้มเด็กชายไว้ในอ้อมแขน เดินลิ่วๆ ตรงไปยังร้านไอครีมเจ้าดัง โดยที่เมรีวิ่งตามและร้องห้าม... “ปล่อยลูกดิฉันลงนะคะ คุณไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้” “เหรออออ...” ชายหนุ่มตอบแบบกวนอารมณ์ เขาสาวเท้าเร็วขึ้น เมรีจึงต้องเร่งฝีเท้าขึ้นอีก “คนบ้า!!” หญิงสาวกระซิบด่า เธอยืนหอบแฮกๆ ในขณะที่ชายหนุ่มยังคงยิ้มหน้าระรื่น มือจิ้มลงไปบนแผ่นพับ สั่งไอครีมถ้วยโปรดให้เด็กชายข้างตัว ไม่สนใจอาการฟึดฟัดของคนเป็นแม่!! สีหน้าหงิกงอไม่ต่างอะไรกับม้าหมากรุก มือเรียวยกกอดอกแน่น หน้าเชิดขึ้นสูง ทอดสายตามองออกไปด้านนอก พยายามไม่เหลือบแลไปยังพื้นที่ข้างตัว อันนาดื่มด่ำกับไอครีมถ้วยโปรด เด็กชายยิ้มหน้าระรื่น กับ ‘ลุง’ ใจดี โดยที่มารดานั่งหน้าหงิกอยู่ข้างๆ “ลุงๆ วันหลังพาอันอันมาอีกนะคร๊าฟ” รสหวานในอุ้งปาก กับความตื่นตารอบตัว อันนาเลยติดใจ เขาเหมือนไข่ในหิน ไม่ว่าจะคุณตา คุณยาย แม่ ไม่มีคนไหนพาเขามาเที่ยวนอกบ้านบ่อยนัก “อันอัน!! กลับไปบ้าน หม่าม๊ากับลูกคงต้องคุยกันเรื่องนี้” เมรีกล่าวเสียงแข็ง อันนาเยาว์วัย จนไม่รู้ว่าใครมาดี มาร้าย และที่สำคัญ อันนาควรอยู่ห่างจากอีธานทุกทาง “ครับ แต่...” เด็กชายรับคำเสียงอ่อย แต่เพราะความฉลาดทันคน เขาเลยพยายามแย้ง “คุณตางานยุ่ง คุณยายก็เอาแต่ไปสมาคมแม่บ้าน หม่าม๊าก็ทำงาน ไม่มีใครพาอันอันมาเที่ยวแบบนี้เลยอะ” ครอบครัวเล็กๆ ของเธอ ทุกคนมีงานรัดตัว ในวันธรรมดา หลังจากกร่ำงานมาทั้งวัน พวกเขาเลยอยากนอนพักสบายๆ อยู่บ้านมากกว่า และยิ่งในวันหยุด...เป็นการพร้อมหน้าพร้อมตาทุกคน เมรีคิดว่าการสังสรรค์กันในบ้าน จะเป็นการดีกว่าการออกมาตะลอนๆ นอกบ้าน เสี่ยงกับมลพิษ และความวุ่นวาย...วันนี้เอง เธอเพิ่งรู้ว่าคนเองคิดผิด... อันนาเป็นเด็กฉลาด วัยของเขาคือชอบสนุก และได้เห็นความแปลกใหม่ ไม่ใช่การจับเจ่าอยู่ในบ้าน แม้นั่นจะปลอดภัยที่สุดสำหรับตัวเอง “โอเค...หม่าม๊าจะพยายามหาเวลาพาอันอันออกมาข้างนอก แต่ต้องมากับหม่าม๊า ไม่ใช่คนแปลกหน้าที่ไหนไม่รู้!!” ยกนี้เธอเพลี่ยงพล้ำ เมรียอมถอย เธอหาทางแก้สวยๆ ด้วยการแอบจิกอีธานนิดๆ ในฐานะที่เขายุ่งไม่เข้าเรื่อง “ฉันไม่ใช่คนแปลกหน้า ฉันเป็นเจ้านายเธอ และเป็น ‘ลุง’ ของเจ้าหนูนี่ด้วย” ชายหนุ่มพูดขัด...เขาชี้แจงให้หล่อนเข้าใจ เขาหวังดีกับเด็กนั่น ไม่ได้จับไปเรียกค่าไถ่ หรือทำร้ายสักหน่อย “ไม่มีเจ้านายคนไหนหรอกค่ะมิสเตอร์อีธาน ที่เขาดอดไปรับตัว ‘ลูก’ ของพนักงานในบริษัทออกว่าตระเวนเที่ยว โดยไม่บอกให้แม่ของเขารู้” เมรีกล่าวโต้...เธอหัวใจแทบวาย ตอนที่เดินทางมาถึงโรงเรียน แต่ไร้เงาบุตรชาย หัวใจเธอแทบหยุดเต้น “ก็ฉันมันเจ้านายที่ไม่เหมือนคนอื่นไง” อีธานตอบโต้ เขายักคิ้วให้เมรี เมื่อเธอมองเขาแบบจะกินเลือดกินเนื้อ หญิงสาวถอนใจแรงๆ ยิ่งพูด ยิ่งเหมือนพายเรือวนอยู่ในอ่าง ไร้ทางออก และไม่มีทางชนะ “ขอเถอะค่ะ อันอันคือหัวใจของดิฉัน หากเขาเป็นอะไรดิฉันคงอยู่ไม่ได้” เมรีวิงวอนเสียงเครือ ในชีวิตนี้ อันนาคือหัวใจของเธอ หากเขาเป็นอะไรไป เธอคงไม่สามารถมีชีวิตอยู่ต่อได้ อีธานอึ้ง!! เขาไม่รู้ว่าจะโต้กลับอย่างไร ในแววตาที่เคยเด็ดเดี่ยวเป็นนิจของหล่อน เวลานี้อ่อนเศร้า และมีแต่แววเว้าวอน “ก็ได้...ครั้งต่อไปฉันจะบอกเธอก่อน” ชายหนุ่มยอมถอย แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเลิกวุ่นวายกับหล่อน และลูก ไม่รู้เป็นอะไรสิ เขารู้สึก ‘รัก’ เด็กชาย อยากเห็นเขาทุกวัน ไม่ว่าจะยิ้ม หัวเราะ ร้องไห้ “หึ!!” เมรีกระแทกลมหายใจแรงๆ ชายหนุ่มดื้อด้านกว่าที่คิด เธอถลึงตาใส่เขา สะบัดหน้าหนี เมื่อจบลงแบบเดิม เขายังคงตอแยเธอกับลูก แม้จะข้อร้องก็แล้ว หลังจากออกจากร้านไอครีม อันนาเดินจูงมือกับอีธาน มีเมรีเดินตามติด เธอเม้มปากแน่น ไม่พูดอะไรเลย แต่สองหนุ่มต่างวัยก็รู้ดีว่า คนที่เดินตามไม่พอใจอย่างแรง “หม่าม๊าชอบอ่านหนังสือครับ ลุงแวะเข้าร้านหนังสือซิครับ บางทีหม่าม๊าอาจอารมณ์ดีขึ้น” อันนาอยากให้บรรยากาศรอบตัวดีขึ้น เขาแหงนหน้ากระซิบเบาๆ กับอีธาน คนเป็นพ่อที่ยังไม่รู้ตัวขยิบตารับลูกที่เด็กชายโยนให้ เขาช้อนอุ้มเด็กชายอายุสี่ปี ก่อนจะเดินหน้าตั้ง เมื่อเห็นร้านค้าเป้าหมาย... หญิงสาวสาวเท้าให้เร็วขึ้นจนเหมือนจะวิ่ง เมื่อผู้ชายตรงหน้าเธอ ขายาวเหมือนยีราฟ ช่วงก้าวของเขา เท้ากับสองก้าวของเธอ เมรีหอบแฮกๆ เมื่ออีธานหยุดหน้าร้านค้าแห่งหนึ่ง เธอชำเลืองมองสองหนุ่มต่างวัย...ดวงตากลมโตหรี่ลง มีแววรู้ทัน!! “จะเข้ามั้ย ฉันว่าน่าจะมีหนังสือนิทานสนุกให้อันอันได้อ่านช่วงว่างๆ นะ” อีธานชวนคุย เขาเดินนำ มีอันนากอดคอเขาพร้อมกับฉีกยิ้มแป้น เมรีกระแทกลมหายใจแรงๆ เธอเดินตามเข้าไปด้านในแบบเสียไม่ได้ แต่เมื่อเข้าไปด้านใน หนังสือปกสวย เนื้อหาดีๆ ก็ทำเอาเมรีลืมสองหนุ่มไปเสียสนิท เธอหยิบหนังสือหลายเล่มมาเปิด พร้อมกับชั่งใจ เมื่อเงินในกระเป๋าเธอมีจำกัด เธอมีภาระที่แบกรับไว้หลายอย่าง โดยไม่อยากรบกวนบิดา เมื่อตนเองโตพอที่จะรับผิดชอบตัวเองได้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD