บทที่5.ทายาทอสูร.............

1501 Words
อันนาคือของขวัญจากพระเจ้า อันนาทำให้เธอรู้ถึงความรักของบิดา มารดา ดวงใจของพ่อแม่ คือบุตรน้อยในอุทร... ไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างในชีวิต ลูก ก็ยังเป็นลูกวันยังค่ำ “หม่าม๊า!!” ร่างกลมป้อมของบุตรชายโถมเขาใส่ มืออ้วนป้อมจับทึ้งชายกระโปรงเธอแรงๆ พร้อมกับตะโกนเรียกเธอด้วยสีหน้าเหยเก “อันอัน!!” เมรีรีบทรุดนั่ง เธอรวบกอดบุตรชาย มือลูบไล้ไปตามเนื้อตัวของเขา พร้อมรีบพูดปลอบประโลม เพราะหน้าของอันนาแดงก่ำ เขากำลังจะร้องไห้ “หม่าม๊าอยู่นี่หนุ่มน้อย ไม่ร้องไห้ค่ะอันอันลูกหม่าม๊าเป็นคนเก่ง ไม่ร้องนะคนดีเดี๋ยวสาวๆ เมิน ไม่มีสาวๆ ชอบหรอกเด็กขี้แยหรอกนะ” นี่อาจจะเป็นอีกข้อที่อันนาติดมาจากอีธาน บุตรชายของเธอชอบที่จะเป็นขวัญใจของสาวๆ เมรีมองเลยไปทางด้านหลัง เธอเห็นกลุ่มคนขนาดย่อม ยืนหอบแฮกๆ อยู่ตรงนั้ง คงเป็นเพราะวิ่งไล่ตามบุตรชายเธอมา ถัดไป...ก็คือเขา...อีธาน จาง...เขาเป็นทั้งเจ้านาย และพ่อของลูกเธอ เมรีทรงตัวขึ้นยืน เธอจับมือบุตรชายไว้แน่นๆ ไม่จำเป็นต้องหนี เธอไม่จำเป็นต้องกลัว หนุ่มเสน่ห์แรง!! ร่ำรวยหูดับ!! เขาไม่สนใจแม่หม้ายลูกติดอย่างเธอหรอก สาวๆ ในคอลเลคชั่นเขามีให้เกร่อ...ดังนั้นเธอคงไม่ต้องหวั่นไหว เพราะ...เขาคงไม่รู้...อันนา เป็นลูกชายของเขา ที่เกิดขึ้น...หลังจากค่ำคืนวันนั้น “ขอบคุณค่ะที่ดูแลลูกชายของดิฉันให้... ตอนที่ดิฉันกำลังสติแตก!!” เมรีค้อมศีรษะลง เธอกล่าวเบาๆ เตรียมจะเดินหนี แต่... “เดี๋ยว!!” อีธานรั้งไว้ เขาขมวดคิ้ว มองอันนาสลับกับการมองเธอ? “สามีเธอเป็นลูกครึ่งเหรอ?” เมื่อเห็นเมรีจังๆ มารดาของอันนา หาใช่คนที่เขาคาดไว้ ความแตกต่างนั่นเห็นได้ชัด เมื่อเมรีมีเส้นผมสีดำสนิท แต่เพราะผมสีอ่อนบนศีรษะเด็กชาย ประกอบดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของอันนา ที่บ่งบอกว่าเด็กชายตัวอ้วนป้อมคนนี้ มีลูกผสมของสองสายพันธุ์ เมรีกลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ เธอก้มหน้าลง ถลึงตาใส่บุตรชาย เมื่อมือเล็กๆ นั่น กระตุกชายกระโปรงของเธอแหย็งๆ “หม่าม๊า!!” เด็กน้อยพยายามสอดการพูด แต่มารดาปรามด้วยสายตาไว้ก่อน เขาจึงจำเป็นต้องเม้มปากแน่น หน้าหงิกงอขึ้นมาทันควัน “ค่ะ สามีฉัน เป็นลูกครึ่ง” เมรีตอบ เธอไม่ได้โกหกเขา เมื่อ ‘พ่อของลูก’ เธอเขามีส่วนผสมของสองสายพันธุ์จริงๆ อีธานถอนใจแรงๆ ความรู้สึก คันยิบๆ ในใจนี่คืออะไร? เขาพยายามค้นหาความรู้สึกนั่น แต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร เพราะ...นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้ชายอย่างเขาแคร์ เพศหญิง!! ทั้งที่หล่อนเป็นแค่พนักงานคนหนึ่งในบริษัทเขา แถมหล่อนยังมีลูกน้อยตำตา หล่อนไม่ได้สวยสะมากมาย มองส่วนไหนก็แค่ผู้หญิงเกรดต่ำ...แต่ทำไมล่ะ!? ทำไมเขาสลัดเงาหล่อนออกไปไม่ได้สักที หล่อนกับลูกเข้ามาคอยกวนใจเขาตลอด “หม่าม๊า อันอันอยากกินติม” นิ้วอ้วนป้อมยัดใส่ปาก เมื่อเกิดความรู้สึกกระดากอาย ตอนนี้ร้านไอครีมเจ้าโปรดอยู่ไกลไม่เกินสิบก้าว...ดวงตาของอันนาจ้องมองป้ายไฟหน้าร้านตาพราว “กลับบ้านกันดีกว่า วันนี้อันอันของหม่าม๊าซนมากรู้มั้ยครับ... อันอันทำให้หม่าม๊าเป็นห่วง ดังนั้น ไอครีม...งดจ้ะ!!” เพราะอันนาฝ่าฝืนคำสั่งเธอ เขาออกมาจากโรงเรียนกับคนแปลกหน้า โดยที่เธอไม่อนุญาต ถึงคนแปลกหน้าคนนั้นจะเป็นผู้ให้กำเนิดเขาก็เถอะ การฝ่าฝืนครั้งนี้ ทำให้เธอเกือบใจสลาย ดังนั้นอันนาจะต้องรู้ไว้ การไม่ทำตามคำสั่งของแม่นั้น อาจจะเกิดอันตรายได้ ครั้งนี้ถ้าเธอปล่อยผ่าน ในอนาคต อาจจะเกิดผลร้าย หน้ากลมป้อมสลดลง เขาก้มหน้าจนปลายคางจรดอกอิ่ม ดวงตากลมโตคลอขังไปด้วยน้ำใสใส อันนารับรู้ความห่วงใยของมารดา เขารู้ดีว่าตนเองทำผิด แม้ ‘ลุง’ จะใจดี แต่เขาก็เป็นคนอื่น อีธานขมวดคิ้ว “แค่ไอครีม เธอก็ยังจะขัดใจลูก” ลูก...คำสั้นๆ แต่กระทบใจชายหนุ่มจังๆ เขาหรี่ตาลง ประเมิณในใจคร่าว หน้าเด็กชาย กระเดียดมาทางเขา แม้ดวงตานั่นจะสีอ่อนกว่าก็ตาม แต่มันอาจจะเป็นยีนด้อยของเขาก็เป็นได้ หากเด็กชายนั่น ก่อเกิดขึ้นเพราะเขาเป็นคนทำ...เมื่อหล่อนกับเขา เคยมีซัมติงกันในอดีต... “มันไม่ใช่แบบนั้นหรอกค่ะ ฉันแค่อยากสั่งสอนลูก เขาไม่ควรไปมาไหนกับคนแปลกหน้า” เมรีเชิดปลายคางขึ้น เธอตอบเขาเสียงเรียบ แอบตำหนิชายหนุ่มกลายๆ “คนแปลกหน้า!! ฉันนี่นะคนแปลกหน้า ฉันเป็นเจ้านายเธอยัยบ้า!! แล้วฉันนี่เหรอจะทำร้ายลูกเธอ” ชายหนุ่มยกมือเท้าเอว เขาตะคอกเมรีเสียงลั่น มองหญิงสาวตาขวาง เขาแค่อยากพาเด็กนั่นออกมาเปิดหูเปิดตาเท่านั้น ไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องใหญ่โต หล่อนดันทะลึ่งไปหาลูกหล่อนตอนนั้นทำไม เพราะหากหล่อนยังนั่งทำงานอยู่ที่บริษัท เมรีจะไม่มีวันรู้ว่าเขาฉก ลูกชายหล่อนออกมาเริงร่าอยู่กลางห้างสรรพสินค้า อันนาวิ่งไปหลบด้านหลังมารดา เขาโผล่หน้ามามอง ลุง แบบไม่เข้าใจ “ค่ะ...ดิฉันไม่อนุญาตให้คนแปลกหน้าคนไหน? พาลูกออกมานอกโรงเรียน ยกเว้นคนในครอบครัวค่ะ” เมรีตอบเสียงเรียบ การที่เธอปกป้องลูกมันเป็นสิทธิ์ของเธอ เขาเป็นคนนอกที่ไม่มีสิทธิ์อะไรเลย “และครั้งนี้ดิฉันคงต้องตำหนิทางโรงเรียนที่ปล่อยอันอันออกมากับใครก็ไม่รู้” เมรีกล่าวต่อ...เธอมองชายหนุ่มแบบตำหนินิดๆ เมื่อเขาเป็นต้นเหตุของความวุ่นวายครั้งนี้ “เธอจะด่าฉัน ก็ด่ามาตรงๆ เถอะ ฉันแค่อยากเห็นเด็กนั่นยิ้ม ได้สนุกเหมือนเด็กคนอื่นๆ บ้าง เธอน่ะ เอาแต่ทำงาน ไม่รู้หรอกว่าเด็กนั่นอยากเที่ยวแค่ไหน” ชายหนุ่มโต้กลับ สิ่งที่เขาทำ ก็เพราะความหวังดี ใครจะคิดล่ะว่าหล่อนจะรีบร้อนกลับไปที่โรงเรียน ก่อนที่เขาจะพาอันนากลับไปส่งกันล่ะ “ดิฉันไม่กล้าตำหนิคุณหรอกค่ะ” เมรีเอ่ยประชด ถึงอีธานจะเป็นเจ้านายของเจ้านายของเธอ แต่เขาก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะทำอะไรเช่นนี้ เมื่อมันเหมือนกับการลักพาตัว ‘ลูก’ ของคนอื่น ถึงเด็กที่เขาพาออกมานั้นจะเป็นลูกของเขาก็ตาม แต่ไม่มีใครรู้เรื่องนี้นี่ “เอาเถอะ ฉันสัญญา ครั้งต่อไปฉันจะบอกเธอก่อน” เมรีกลอกตามองบน เธอบีบกระชับมือของบุตรชายแน่นขึ้น “ไม่มีครั้งต่อไปค่ะ ดิฉันจะกำชับครูของอันอัน ต่อแต่นี้ไป... ห้ามอันอันออกมากับคนแปลกหน้าทุกคน หากดิฉันไม่อนุญาต” เมรีกล่าวเสียงเข้ม เธอถลึงตาใส่อีธาน ไม่เกรงใจแล้วกับอำนาจพ่วงท้ายของเขา เมื่อมันขึ้นอยู่กับความปลอดภัยของบุตรชาย “ถ้าคิดว่าฉันจนปัญญาแค่นี้ ก็ทำไปเถอะ แต่ฉันคงทำอีกแน่ ไว้ไปเที่ยวกันอีกนะไอ้หนู!!” อีธานกล่าวท้าทายคนเป็นแม่ แล้วก็ขยิบตาให้คนเป็นลูก ที่ยืนหลบอยู่ด้านหลัง อันนายิ้มกว้าง เด็กชายรีบพยักหน้ารับ ก่อนจะรีบก้มหลบ เพราะมารดาหันขวับกลับมามองตาขุ่นขวาง “คุณ!!” “ทำไมหึ?” ชายหนุ่มสอดมือล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง เขาเลิกหัวคิ้วขึ้นสูง เมรีสูดลมหายใจแรงๆ เธอพยายามข่มอารมณ์โกรธ เมื่อมันไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้น “ไม่ทำไมหรอกค่ะ แต่การให้ความหวังกับเด็กคนหนึ่ง ทั้งที่คุณไม่มีเวลา มันจะเป็นการทำร้ายจิตใจของเขาหรือเปล่าคะ?” เมรีติง...อีธานขึ้นแท่นเป็น CEO เต็มตัว เขาทำงานในตำแหน่งประธานบริษัท ไม่มีเวลาว่างมาเที่ยวเล่นแบบไร้ประโยชน์ ดังนั้นเธอจึงไม่อยากให้อันนามีความหวังและตั้งตารอ อีกอย่าง สายเลือดเดียวกัน มันต้องมีสายใยบางอย่างสื่อถึงกันแน่ เธอจึงควรกันเขาให้อยู่ห่างๆ ลูกชายของเธอ ก่อนที่ความลับจะแตก... ชายหนุ่มยิ้ม “ฉันมีเวลาเสมอ หากฉันต้องการ” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นมุมปากสีเข้ม เขาชูนิ้วก้อยให้เด็กชายเหมือนกำลังสัญยิงสัญญากับบุตรชายของเธอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD