บทที่5.ทายาทอสูร.........

1393 Words
 “คุณยังไม่ตอบดิฉันนะคะ...คุณรู้จักลูกชายดิฉันตอนไหนและพาเขาออกไปข้างนอกได้ยังไง คุณใช่มิสเตอร์อีธานจริงเหรอ?” เมรียิงคำถามรัวๆ เธอสับสนและร้อนใจไปหมด “อ๋อ...ฉันกับเจ้าหนูนี่สนิทกันมากนะ ส่วนที่เธอถามว่าฉันตัวจริงหรือเปล่าเธอต้องมาดูเอง...ตอนนี้ฉันอยู่ที่...” อีธานไม่มีปัญหา หากมารดาของอันนาอยากพิสูจน์ เขาหวังดีกับเจ้าหนูนี่ ไม่เคยคิดร้ายสักนิด “รออยู่ที่นั่นนะคะ อีกสิบนาทีดิฉันคงไปถึง” อาการเจ็บป่วยของเมรีแทบจะหายเป็นปลิดทิ้ง เธอห่วงบุตรชายจับจิต เร่งรีบเดินทางไปหาเขา และหากหายตัวได้ เมรีคงทำไปแล้ว เมรีกระโจนลงจากรถแท็กซี่สีเขียวเหลือง เธอสาวเท้าเดินเร็วๆ กวาดตามองหาบุตรชาย และสิ่งที่เมรีมองเห็น เกือบทำให้เธอช็อกตาย!! แม้จะเป็นความทรงจำแสนนาน มันรางเลือนเพราะเธอพยายามกดมันเอาไว้ แต่เธอไม่มีทางลืมเค้าหน้าเขา ผู้ชายที่เธอกับเขา ผ่านค่ำคืนเร่าร้อนมาด้วยกัน จนกระทั่งมี...อันนา ในนาทีนี้ เมรีรู้สึกเหมือนแผ่นดินตรงหน้าจะยุบวาบลงจนเป็นหุบเหวลึก พระเจ้ากำลังเล่นตลกอะไรกับเธอ? ...ผู้ชายที่ควรหายไปจากชีวิตเธอ วันนี้กลับโผล่มายืนอยู่ตรงหน้าดื้อๆ แถมท่าทางยังสนิทชิดเชื้อกับบุตรชายของเธอเกินกว่าคนรู้จักทั่วไป...ที่สำคัญ เขาเป็นคนที่เธอเอื้อมไม่ถึง เป็นนายจ้าง...เป็นคนร่ำรวย...เป็นคนที่เธอต่อกรด้วยไม่ได้แน่ๆ หากเขารู้ความจริง... มันอาจจะไม่ใช่ ‘เค้า’ ก็ได้... เมรียืนอึ้งเกือบสิบนาที เธอรวบรวมสติที่กระเจิดกระเจิงไปกลับคืนมา ผู้ชายคนนั้นจะไม่มีวันได้รู้...ห้าปีมานี่เขาไม่เคยรู้ ดั        งนั้น จากนี้ไป เขาก็จะไม่รู้ สิ่งที่เธอควรทำ คือการกันเขาออกห่างๆ บุตรชาย   อีธานมองผู้หญิงที่เดินหน้าบึ้งเข้ามาหาเขา...ตาเขม็ง!! เค้าหน้าจางๆ ของผู้หญิงคนนั้น ลอยเข้ามาซ้อนทับกับหล่อน ชายหนุ่มตระหนก...เธอยืนอยู่ตรงหน้า ผู้หญิงที่กระโจนหนีเขา ทันทีที่หล่อนรู้สึกตัว ไม่ทิ้งร่องรอยให้เขาติดตาม “สวัสดีค่ะ ดิฉันมารับลูก” เมรีกล่าวเสียงเย็น เธอไม่ยอมสบตากับอีธาน เบือนหน้าหนีแบบคนมีพิรุธ “อ๋อ...รออีกพักแล้วกัน เจ้าหนูนั่นกำลังสนุก” อีธานตอบ เขาแอบสำรวจผู้หญิงตรงหน้าไปด้วย...ห้าปีผ่านไป เมรีโตขึ้น แต่ความเย้ายวนของหล่อนที่เขาเคยสัมผัส ยังคงอยู่เช่นเดิม แม้จะถูกซ่อนไว้ใต้ความเรียบง่าย กระโปรงสีทึมๆ เสื้อสีขาวสะอาด เสื้อผ้าเชยๆ กับการพรางสายตาคนรอบข้างด้วยความเย็นชา... “ไม่ค่ะ ดิฉันจะพาลูกกลับเลย” เมรีกล่าวเสียงแข็ง เธอต้องรีบพาอันนาไปให้พ้นจากที่นี่ “หยวนๆ น่า ไม่เห็นเหรอไง เจ้าหนูนั่นมีความสุขแค่ไหน?” “ไม่ค่ะ คุณไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้ คุณรู้มั้ย... ฉันตกใจแค่ไหนที่ลูกหายไปจากที่ ที่เขาควรอยู่” เมรีตะโกนเสียงดัง หัวใจเธอร้อนรน หวาดระแวง และ...กลัว!! ชายหนุ่มสูดลมหายใจลึก เขาหมุนมองไปรอบตัว เวลานี้ เขาและเธอกำลังตกเป็นเป้าสายตา “ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันไม่คิดว่าเธอจะกลับมาหาเจ้าหนูนั่น ในเวลานี้นี่” ไม่ได้มีความสำนึกผิดอยู่ในกระแสเสียง มันแฝงด้วยคำตำหนิเล็กๆ เหมือนว่าเธอเป็นฝ่ายผิด ที่ดันทะเล่อทะล่า กลับมาผิดเวลา เมรีซุกมือกับกระเป๋ากระโปรง เธอแอบซ่อนความตระหนกในใจไม่ให้เขารับรู้ “ขอฉันพาลูกกลับนะคะ ได้โปรด?” “อีกสักพักแล้วกัน...เจ้าหนูนั่น กำลังสนุก” ชายหนุ่มโบกมือ หมุนตัวหันหลังให้เมรี เรียวคิ้วขมวดแน่น มุมปากได้รูปยกยิ้ม เขาเจอหล่อนแล้ว... “คุณ!” เมรีโมโหจนหน้ามืด ร่างกายที่อ่อนล้าอยู่แล้ว รู้สึกอ่อนแอเพิ่มมากขึ้น “เธอรู้แล้วนี่ว่าฉันตัวจริง แบบนี้ยังจะกลัวอะไรอีกล่ะ” อีธานเปรย เขาไม่ได้หันมามองเมรีด้วยซ้ำ เมรีหมุนตัว เธอวิ่งหนีไป เมื่อคิดอะไรไม่ออก เธอคงต้องรีบหาทางแยกอันนา กับเขา ก่อนที่ทุกอย่างจะสายไป จังหวะเดียวกันนั้น...อันนาหันมาเห็นเมรีเข้าพอดี เด็กชายใจเสีย เมื่อจู่ๆ มารดาก็วิ่งหนีไป เขารีบมุดออกมาจากกองของเล่น วิ่งถลาเข้าไปหาอีธาน “อันอันจะไปหาหม่าม๊า…ฮือออ” เด็กชายเกาะขาอีธาน ร้องไห้จนหน้านองน้ำตา แหงนมองหน้า ‘ลุง’ ปลายเท้าน้อยๆ ก็เขย่งขึ้นกระโดดเหย่งๆ มือเล็กจ้อยฉุดรั้งขากางเกงของชายหนุ่มแรงๆ เมื่อรู้สึกใจเสีย “อันนา!! ...ไม่ร้องครับ เดี๋ยวหม่าม๊าก็กลับมา” ชายร่างสูงย่อตัวลงนั่ง มือใหญ่ยกกรีดรอยน้ำตาออกให้ ปวดร้าวหัวใจเหมือนมันจะขาดออกจากกันยามได้ยินเสียงสะอื้นของเด็กชาย “ฮือออ…ไม่เอาอันอันจะไปหาหม่าม๊า” เด็กชายสุดแสบส่ายหน้าดิ้กๆ ดิ้นแรงๆ ยกมือผลักดันวงแขนแกร่งที่เอาแต่โอบกอด เขาพยายามดิ้นลงจากตักของอีธาน…ร่างอ้วนป้อมดันแขนใหญ่ออก แล้วรีบวิ่งเร็วๆ ไปข้างหน้า แม้ไม่รู้ว่ามารดาอยู่ทิศทางไหน หัวใจดวงน้อยรู้แค่ว่า เขาเป็นห่วงมารดาจับใจ “ตามซิวะ!!” ชายหนุ่มตวาด จนการ์ดร่างใหญ่สะดุ้ง พวกขาลนลาน รีบวิ่งตามเด็กชายไปแบบตะลีตะลาน มีอีธานวิ่งตามมาห่างๆ ชายหนุ่มล้วงโทรศัพท์ส่วนตัวขึ้นมากดโทร. ออก เขาฟังเสียงสัญญาณที่ดังกระหึ่ม แต่กลับไม่มีการรับ จากปลายสาย... “ยัยบ้า...ทำห่าอะไรอยู่วะ ไม่รู้ไง... โลกจะแตกอยู่รอมร่อแล้วนี่หะ” ชายหนุ่มบ่นพึม เขาไม่คิดว่าเด็กชายสุดน่ารักที่เคยพบเจอนั้น จะฤทธิ์มากถึงเพียงนี้ เพียงแค่ได้ยินเสียงร้องของอันนา สมองของเขาเหมือนถูกปิดสวิตช์ ในนั้นว่างเปล่า แทบจะทำอะไรไม่ถูก น้ำใสใสจากดวงตาของเด็กชายนั่นอีก อีธานไม่เคยคิด มันจะมีอิทธิพลอะไรกับเขา มากมายเช่นนี้ เด็กชายวิ่งสะเปะสะปะไปทั่ว ปากเล็กๆ ร้องเรียกหามารดาไม่หยุด “หม่าม๊า หม่าม๊า” มีชายร่างใหญ่วิ่งตามเป็นพรวน แตกตื่นไปทั้งห้างสรรพสินค้า เมื่อคนรั้งท้ายขบวน หล่อเหลาไม่ต่างอะไรกับนายแบบ จนบางคนคิดว่าเป็นการแสดงละคร มีหลายคนหยุดมอง และเก็บภาพไว้   เมรีเดินใจลอย กลัวชายหนุ่มจนฟิวส์ขาดสติหลุด!! เธอจึง ‘ทิ้ง’ อันนาไว้กับเขาหนีมาตั้งหลัก... เพราะเชื่อว่า อีธานเป็นคนเดียวที่จะไม่ทำร้ายบุตรชายของตน แต่เอาเข้าจริงๆ เธอกลับไปไหนไกลไม่ได้ เธอกับอันนาผ่านความลำบากมาด้วยกันในอดีต ช่วงเวลาที่ผ่านมาเธอมีความสุขจนล้นปริ่ม แม้จะเป็นครอบครัวที่ขาด!! ไม่เหมือนครอบครัวของคนอื่นๆ แต่เธอก็ไม่เคยทำให้อันนารู้สึกถึงความ ‘ขาด’ นั้น เมรีเป็นได้ทั้ง พ่อ และ แม่ ในเวลาเดียวกัน แต่เพราะ...เขาโผล่เข้ามาในชีวิตแสนเรียบง่ายของตัวเอง นับตั้งแต่อีธานปรากฏตัว...ถนนที่เคยราบเรียบของเธอ กลับเต็มไปด้วยขวากหนาม “โผล่มาทำไม?” หญิงสาวเปรยลอยๆ เธอไม่เคยคิดว่าจะได้พบเจอกับเขา ‘พ่อของลูก’ ในความทรงจำที่ค้างคาอยู่ อีธานเป็นคนแปลกหน้า ที่บังเอิญผ่านเข้ามาในชีวิต เขาเป็นคนทำให้ อันนา เกิดขึ้นมา...แค่นั้น...และเขาไม่รู้!! เมรีไม่กล่าวโทษเขา...เมื่อทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้น...มันเป็นเพราะตนเอง สะเพร่าเอง หากในวันนั้นไม่ใช่เพราะเธอน้อยใจบิดา เรื่องก็คงไม่เกิดขึ้น อีธานก็ไม่ติดร่างแห จนก่อให้เกิดอุบัติเหตุในชีวิต
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD