ตอนที่ 4

1063 Words
“พิม... พิมช่วยน้องด้วย กิ่งปวดหัวอีกแล้ว” เสียงตะโกนตื่นตกใจของแม่ดังขึ้นทันทีที่หล่อนกลับมาถึงบ้านในตอนเย็น พริมารีบตรงดิ่งขึ้นบ้านด้วยความรีบร้อน และเข้าไปคว้าร่างของกิ่งดาวมาสวมกอด “กิ่ง... เป็นอะไร กิ่ง...” “กิ่งปวดหัว ปวดหัวเหลือเกินพี่พิม โอ๊ย...” น้องของหล่อนดิ้นทุรนทุรายอยู่ในอ้อมแขน ทุกคนตกใจหน้าตาตื่น หล่อนเองก็ใจคอตกไปอยู่ที่พื้นหมดแล้ว ภาวนาให้น้องไม่เป็นอะไร “กิ่งทำใจดีๆ ไว้นะ พี่จะพาไปหาหมอ” “แต่เรามีเงินไม่มากแล้วนะ พิม” แม่ของหล่อนบอกขึ้นทั้งน้ำตา “แม่ไม่ต้องห่วงนะ พิมหาได้” หล่อนน้ำตาไหล และรีบหันไปหาแม่ “แม่ไปเรียกลุงข้างบ้านนะ บอกว่าพิมขอเช่ารถไปโรงพยาบาล” “พ่อแกไปตามอยู่ เดี๋ยวก็คงมา” แม่ของหล่อนบอกเสียงสั่น “กิ่ง อดทนหน่อยนะ พี่กำลังจะพากิ่งไปหาหมอ” หล่อนกอดน้องที่ดิ้นทุรนทุรายเพราะปวดหัวเอาไว้แน่น และพยายามปลอบใจ แต่อาการของกิ่งดาวไม่ได้ทุเลาลงเลย “พี่พิม... กิ่งจะตายไหม กิ่งยังไม่อยากตาย...” กิ่งดาวร้องไห้ไม่หยุด “ไม่ตายหรอก แค่กิ่งผ่าตัด กิ่งก็จะหายแล้ว” หล่อนพยายามปลอบน้องสาว “แล้วกิ่ง... จะได้ผ่าตัดเมื่อไหร่พี่พิม” พริมาหันไปสบตากับแม่ของตัวเอง ก่อนจะพูดปดออกมาอย่างไม่มีทางเลือก “ภายในอาทิตย์นี้จ้ะกิ่ง” กิ่งดาวระบายยิ้มออกมา ก่อนจะหมดสติไป “กิ่ง... กิ่งเป็นอะไรไป กิ่ง...” หล่อนตะโกนเรียกน้องสาวซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่น้องก็ไม่ตื่นขึ้นมา ทุกคนในครอบครัวร้องไห้ด้วยความหวาดกลัว ไม่เว้นแม้แต่ยายของหล่อนที่แก่ชรามากแล้ว กิ่งดาวถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเอกชนอีกครั้ง เพราะโรงพยาบาลรัฐตอนเย็นแบบนี้ไม่มีหมอเฉพาะทางอยู่ แม้จะต้องใช้เงินเยอะ แต่หล่อนก็ไม่มีทางเลือก “คุณหมอคะ น้องของหนูเป็นยังไงบ้างคะ” หล่อนละล่ำละลักถามคุณหมอที่เดินออกมาจากห้องฉุกเฉิน “จากประวัติเดิม อาการของโรคน่าจะกำเริบ หมอคิดว่าควรจะต้องผ่าตัดให้เร็วที่สุด” หล่อนน้ำตาไหล ดวงตาแดงก่ำ “โรงพยาบาลบอกหนูว่าต้องรออีกเป็นเดือนเลยค่ะคุณหมอ” หล่อนได้ยินเสียงหมอถอนใจเบาๆ “คนไข้จะรอไม่ไหวนะ ความจริงน่าจะผ่าในวันนี้พรุ่งนี้เลยด้วยซ้ำ” “หนูไม่มีเงิน” “หมอเห็นใจ และเข้าใจหนูนะ หมอก็ขอให้น้องสาวของหนูรอถึงวันนั้นให้ได้ หมอขอตัวนะ” คุณหมอเดินจากไปแล้ว แต่หล่อนก็ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิมไม่เขยื้อนไปไหน หล่อนจะทำยังไงดี จะทำยังไงที่จะสามารถช่วยกิ่งดาวได้ น้องของหล่อนกำลังจะตาย หากไม่รีบผ่าตัดสมองให้เร็วกว่านี้ “ไม่... พี่ยอมให้กิ่งตายไม่ได้” ร่างเล็กสั่นเทาทรุดนั่งลงบนเก้าอี้สีฟ้าหน้าห้องตรวจอย่างหมดเรี่ยวแรง หล่อนจะไปหาเงินมากมายขนาดนั้นมาจากที่ไหนกัน พริมายกมือขึ้นปิดหน้าร้องไห้อย่างไร้หนทาง “เรียบร้อยไหมแม่เจียม” คุณหญิงปรานีรีบเอ่ยถามด้วยความตื่นเต้น เมื่อบ่าวคนสนิทเดินกลับเข้ามาหา “เรียบร้อยแล้วค่ะคุณท่าน ตอนนี้ก็รอแค่สาวๆ ส่งใบสมัครเข้ามาเท่านั้น” แม่บ้านสูงวัยยิ้มกว้าง แต่ก็ยังไม่กว้างเท่ากับรอยยิ้มของคุณหญิงปรานี “ฉันจะได้อุ้มหลานในเร็วๆ นี้แล้วใช่ไหม” “แน่นอนค่ะ ถ้าคุณกวินให้ความร่วมมือ” แม่เจียมยังพูดไม่ทันจะจบประโยคดี เสียงดุดันของกวินก็ดังขึ้น พร้อมกับการปรากฏตัวของเขา “ผมไม่ให้ความร่วมมือใดๆ ทั้งสิ้นครับ” “คุณกวิน!” “พ่อกวิน” หญิงสูงวัยเจ้าแผนการทั้งสองคนตกใจไม่น้อย เมื่อจู่ๆ กวินโผล่เข้ามา “ผมเห็นข้อความในหนังสือพิมพ์แล้วนะครับ และผมไม่ชอบใจเอามากๆ เสียด้วย” “พ่อกวินฟังแม่นะ แม่ก็แค่อยากได้หลาน” “แล้วทำไมจะต้องทำเรื่องใหญ่โตแบบนี้ครับ ประกาศหาอีตัวให้ผมทำไม” คนพูดโกรธจัด “แม่ก็แค่หาผู้ช่วย...” “คุณแม่ปิดผมไม่มิดหรอกครับ ผมรู้ว่าคุณแม่จะรับผู้หญิงพวกนี้เข้ามาทำไม ผมพูดถูกต้องไหมครับป้าเจียม” ชายหนุ่มตวัดตาจ้องหน้าแม่บ้านคนสนิทของมารดาเขม็ง ป้าเจียมหน้าเจือนและเสหลบตา “คือป้า...” “ผมขอประกาศเอาไว้ตรงนี้เลยนะครับ ว่าผมไม่ต้องการมีครอบครัว และที่สำคัญไม่ต้องการหาเมียทางออนไลน์ด้วย ดังนั้นยกเลิกประกาศบ้าบอนั้นซะเถอะครับ เพราะมันไม่มีประโยชน์” “ก็แกไม่ยอมแต่งงาน แม่ก็ต้องใช้วิธีนี้นะสิ” “ก็เพราะผมยังไม่เจอผู้หญิงที่คู่ควรจะเป็นเมียนี่ครับ เอาเป็นว่าคุณแม่และป้าเจียมล้มเลิกความคิดนี้ได้แล้วนะครับ เพราะผมจะไม่ให้ความร่วมมือเลย ไม่ว่าจะกรณีใดๆ ทั้งสิ้น” แล้วชายหนุ่มที่อุตส่าห์ขับรถกลับมาจากที่ทำงานเพราะต้องการมาปฏิเสธมารดาแบบต่อหน้าก็เดินออกไปพร้อมกับโทสะ คุณหญิงปรานีถอนใจอย่างหมดหวัง ก่อนจะหันไปหาป้าเจียม “เห็นไหมว่ามันไม่ได้ผล” “คุณหญิงอย่าเพิ่งถอดใจสิคะ” “ก็จะไม่ให้ถอดใจได้ยังไง นี่แม่เจียมไม่เห็นฤทธิ์เดชพ่อกวินเมื่อกี้หรือไง” “เห็นค่ะ แต่ยังไงซะดิฉันก็คิดว่าคุณกวินไม่น่าจะปฏิเสธผู้หญิงสวยๆ ได้ ดังนั้นเราจะต้องคัดเลือกผู้หญิงที่ดีที่มีเสน่ห์ที่สุดเพื่อมาปฏิบัติภารกิจนี้” “ฉันหวังว่าจะสำเร็จนะ” คุณหญิงปรานีถอดใจไปแล้วเกือบครึ่งพูดอย่างท้อแท้ “ต้องเสี่ยงกันสักตั้งค่ะคุณท่าน” ป้าเจียมให้กำลังใจเจ้านายอยู่ดีๆ โทรศัพท์มือถือที่พกอยู่ก็กรีดร้องขึ้น “ขอตัวสักครู่นะคะคุณท่าน มีสายเข้า” “อืม จะไปทำอะไรก็ไปเถอะ ตามสบาย” “ค่ะ” ป้าเจียมรีบเดินออกมาจากห้องรับแขก และกดรับสายโทรศัพท์ที่เรียกเข้ามา “สวัสดีค่ะ จากไหนคะ” “ป้าเจียม นี่พิมเองนะคะ” “พิม...? พิมไหนอ่ะ” ป้าเจียมพยายามนึกแต่นึกไม่ออก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD