4

895 Words
“วิ่งเร็วเข้า!” เมฆคำรามสั่งนวลจันทร์ เท้าใหญ่ของชายชั่วหญิงเลวเหยียบบนพงหญ้ารกทึบ วิ่งไม่คิดชีวิตหนีเข้าไปในป่าใหญ่ เศษไม้ข้างทางขูดขีดแขนขาพวกเขาจนได้เลือด เจ็บแค่ไหนไม่สามารถหยุดดูแผลตัวเองได้ จูงมือกันวิ่งต่อเนื่องหวังให้ความรกทึบของป่าใหญ่ช่วยพรางกายพวกเขาให้พ้นจากอสูรในร่างมนุษย์ ที่ไล่ตามหลังมาติดๆ และยิงปืนมั่วไม่สนใจว่าจะลูกกระสุนร้อนจะไปปักลงที่ไหน ความชันของเนินเขาอาจจะนับได้ว่าเป็นการเดินที่ยากลำบากสำหรับคนต่างถิ่น แต่สำหรับคนที่ใช้ชีวิตในแถบนี้มาไม่ต่ำกว่ายี่สิบปี ไม่ต่างจากการวิ่งไปบนพื้นราบ “พี่ ฉันวิ่งไม่ไหวแล้ว” ขาสองข้างอ่อนยวบ กอปรกับอาการปวดแปลบบนท้องน้อยส่งผลให้สาวสวยก้าวขาไม่ไหว หล่อนหอบหายใจถี่จนหน้าอกพองโต หยุดยืนกลางความมืดมิดของพงไพร เอามืออีกข้างมากุมท้อง ไม่ยอมก้าวเดินไปตามแรงฉุดจากชายข้อมือใหญ่ หล่อนเจ็บท้อง ปวดขา แสบแขน สารพัดความเจ็บปวด ที่ต้องอดทนอดกลั้นตลอดเส้นทางหลายกิโลเมตรที่หนีตามเขา “เอ็งอยากตายหรือไงนังนวล นายอัคจับได้ ทั้งเอ็งทั้งข้าได้ตายเป็นผีเฝ้าป่าแน่!” ชายฉกรรจ์ฉุดดึงข้อมือเรียว “เร็วเข้า ลุกขึ้นมา!” หล่อนส่ายหน้า ก้าวขาไม่ไหวจริงๆ “นังนวล!” เมฆกลัวจนตัวสั่น เขาวิตกกังวลเสียงฝีเท้าของคนกลุ่มใหญ่ก้าวสวบสาบแหวกพงหญ้าตามมา หลายคนในนั้นชำนาญป่าแค่ส่องไฟฉายไปตามทาง สังเกตเห็นต้นไม้ใบหญ้าหักแค่เพียงเล็กน้อย สามารถชี้บอกเส้นทางถูกต้อง ให้พรรคพวกแกะรอยไล่ตามมา ใช่ว่าเขาไม่เหนื่อย หัวใจเขาเต้นแรงสั่นรัวมากกว่ามีใครเอาไม้มากระหน่ำตีลงบนกลอง วิ่งหนีมาเป็นระยะทางกว่าหนึ่งกิโลเมตรกว่าจะตัดเข้ามาในชายป่าสำเร็จตามแผน อันตรายไปสักหน่อยกับการเข้าป่ากลางดึก เสี่ยงเจอสิงสาราสัตว์ และติดบ่วงนายพรานที่ทำไว้ดักจับสัตว์ป่าไปลักลอบขาย แต่เขาไม่มีทางเลือก! ให้หันหลังออกจากป่าตอนนี้ จากที่มีโอกาสรอดออกไปจากป่าน้อย พวกเขาอาจจะต้องตายโหง เพราะถูกปืนจ่อยิงที่กลางศีรษะแบบเน้นๆ รัวยิงจนหมดลูกกระสุน จากนายหัวอัครา บุคคลจอมอาฆาต ที่วิ่งไล่ตามพวกเขามาถึงชายป่า และขู่พวกเขาด้วยการยิงปืนรัวถึงสามนัด! อัคราไม่ใช่แค่ขู่ ทิศทางลูกระสุนยิงตรงมาทางพวกเขา ถ้าหากไม่มีความน่าเกรงขามของป่าใหญ่ขวางกั้น ไม่แน่ว่าหนึ่งในสามนัดนั้นอาจจะฝังเข้าที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายพวกเขา “ข้าขอร้อง ช่วยอดทนอีกนิดเถอะนะ” กระซิบเสียงเข้ม สั่งแกมขอร้องให้นวลจันทร์อดทน “ฉันเจ็บท้องเหลือเกินพี่” คนหน้าซีดกัดขอบปากล่างที่สั่นระริก แสงจันทร์จากคืนเดือนหงายสะท้อนมาบนใบหน้าพวกเขา สาวงามประจำหมู่บ้านตอนนี้แทบจะไม่เหลือเค้าโครงความสวย หน้ามอมแมมเปื้อนคราบเหงื่อไคล ปากซีดไม่มีสีแดงแต่งแต้มตามความชอบ ผมของหล่อนจากยาวสลวยตามประสาคุณนายเหมือง พันกันรุงรังสภาพไม่ต่างจากนังเป๋อ คนบ้าที่เที่ยวไปลักขโมยของชาวบ้าน นวลจันทร์หมดเรี่ยวแรง เลื่อนกายอ่อนเพลียลงไปนั่งคุกเข่าบนผืนป่า พายุฝนเพิ่งหยุดตกไปไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงพื้นดินจึงมีสภาพเปียกแฉะ ส่งผลให้กางเกงยีนของสาวงามเปรอะเปื้อนโคลน “เราหาที่ซ่อนแถวนี้ได้ไหมพี่ รอฟ้าสว่างค่อยออกเดิน...” “เอ็งอย่าถามอะไรที่รู้คำตอบแต่แรกว่าไม่ได้สิวะ” “งั้นพี่... ไปก่อน ฉันเจ็บท้องจะตายอยู่แล้ว” “ข้าไม่ทิ้งเอ็งหรอก เอ็งไม่รักข้าแล้วเหรอ ไหนเอ็งบอกจะไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กับข้าไง” ถึงจะรักตัวกลัวตาย แต่อดห่วงใยคนท้องไม่ได้ “รักสิพี่ แต่ฉันเจ็บท้อง...” ดึงฝ่ามือสองข้างมากุมบนหน้าท้อง หน้าถอดสีกับอาการปวดจี๊ดที่เล่นงานไปทั่วช่องท้อง “อดทนอีกนิดนะนวล เข้าป่าได้เราสองคนจะปลอดภัย รอให้ฟ้าสว่างเราเดินข้ามเขาไปต่อเรือล่องแม่น้ำไปหาที่ซ่อนตัว ขอแค่รอดไปได้ ข้าสัญญาจะดูแลเอ็งกับลูกให้สุขสบาย” เขาให้คำมั่นสัญญา “ข้ารักเอ็งนะ ถ้าเอ็งรักข้า รักลูก เอ็งก็ต้องลุกขึ้นมา” “จ้ะ พี่” นวลจันทร์ส่งสายตาเชื่อมั่นไปให้ชายฉกรรจ์ ยื่นมือเรียวบางไปให้ชายชู้ของหล่อนฉุดดึงเรือนร่างเพรียวบางขึ้นยืน ขาสองข้างสั่นเล็กน้อยเกือบจะเซล้มอีกรอบถ้าหากไม่มีมือคู่แข็งแรงโอบหลัง ก่อนจะก้าวขาซ้ายสลับขวาถี่ๆ พยุงเรือนร่างอ่อนแรงมุ่งตรงเข้าในความมืด “พวกมึงไปมุดหัวอยู่ที่ไหน!” เสียงนายหัวอัคราอยู่ไม่ไกล “พี่...” นวลจันทร์มองตาขลาดเขลาของชายชู้ “เร็ว!” เมฆสั่ง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD