เหล่าผู้จัดการและหัวหน้างานของแต่ละแผนกพากันมายืนคอยต้อนรับท่านประธานของพวกเขาที่ชั้นล่างของอาคาร ทันทีที่รถยุโรปราคาแพงที่ทางบริษัทฯ ส่งไปรับท่านประธานในตอนเช้าก็ขับเคลื่อนเข้ามาจอดลงที่หน้าบริษัทฯ
ร่างสูงใหญ่ของไรอันซึ่งรับหน้าที่เป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวของเพื่อนรักจะเป็นคนเปิดประตูรถแล้วก้าวลงมาก่อน ตามมาด้วยร่างกายสูงใหญ่กำยำไม่แพ้กันของมาคัสจะก้าวลงมาจากรถ
ใบหน้าหล่อเหลาของมาคัสแหงนมองบริษัทเดินเรือที่คารอสผู้เป็นบิดาตัดสินใจลงทุนทำธุรกิจชนิดนี้เมื่อสามปีที่แล้วหลังจากที่เขาประสบอุบัติเหตุทางสายตา ไม่น่าเชื่อเลยว่าธุรกิจประเภทนี้จะสามารถทำกำไรให้กับครอบครัวของเขาได้อย่างมหาศาล ก่อนจะกวาดตามองดูเหล่าพนักงานของบริษัทฯ ที่พากันมายืนรอต้อนรับเขาที่หน้าบริษัทฯ พร้อมกับพนมมือไหว้เขาอย่างสวยงาม
“ผมสมยศครับท่าน เป็นผู้จัดการบริษัทฯ เชิญท่านประธานขึ้นไปที่ห้องทำงานที่ทางเราจัดไว้ให้ก่อนนะครับ เชิญครับ”
สมยศซึ่งเป็นผู้จัดการบริษัทK&Kกรุ๊ปเดินเข้าไปแนะนำตนเองและทำการเดินนำท่านประธานเข้าไปยังด้านภายในของตัวอาคาร เพื่อตรงไปยังลิฟต์ของผู้บริหารระดับสูงเท่านั้น
มาคัสพยักหน้าให้นิดๆ ก่อนจะก้าวเดินตามสมยศเข้าไปภายในบริษัทฯ โดยมีไรอันบอดี้การ์ดจำเป็นเดินตามไปไม่ห่าง
แต่ทว่าสายตาที่ทอดมองพนักงานประชาสัมพันธ์ที่ยืนอยู่ประจำหน้าเคาน์เตอร์นั้นช่างหวานหยดย้อยสมกับเป็นเพลย์บอยเจ้าสำราญไม่ยอมทิ้งลายให้ใครดูถูกได้เลยจริงๆ
“หมายกำหนดการประชุมเริ่มตอนบ่ายโมงตรงนะครับท่าน ระหว่างนี้หากท่านต้องการเดินดูภายในบริษัทฯ ผมจะเป็นคนพาท่านเดินดูเองหากว่าท่านประธานต้องการ” สมยศบอกย้ำท่านประธานของตนอีกครั้งหนึ่ง
“เอาไว้หลังจากที่ประชุมแล้วกัน ตอนนี้ผมขอดูเอกสารที่จะใช้ในที่ประชุมก่อนแล้วกัน”มาคัสพูดบอกน้ำเสียงราบเรียบ ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมาทั้งสิ้น
“ครับท่านประธาน ถ้าอย่างนั้นบ่ายโมงตรงผมจะมารับท่านไปที่ห้องประชุมนะครับ”สมยศพูดบอกพร้อมกับเดินออกจากห้องทำงานของท่านประธานไปในเวลาต่อมา
“มาคัส ทำไมหน้าแกมันเศร้านักวะ แกอย่าคิดมากนักเลยเรื่องที่ไปตามหาพี่ชายของแฟนแกไม่เจอน่ะ ฉันว่าอีกไม่นานก็คงได้เบาะแสน่ะ แกเองก็จ้างนักสืบไปแล้วไม่ใช่เหรอ” ไรอันถามเพื่อนรักออกมาหลังจากที่สังเกตอยู่นานแล้ว
“อืม จ้างแล้ว แต่ฉันอยากรู้ว่าเพราะอะไรพวกเขาถึงพากันย้ายบ้านแล้วก็เซ้งร้านอาหารไปด้วย พวกเขามีความจำเป็นอะไร ฉันอยากจะรู้ไรอัน”
มาคัสถอนหายใจออกมาหนักๆ รู้สึกมืดแปดด้าน ที่เมื่อสามวันก่อนหลังจากที่เขากลับมาถึงเมืองไทย ชายหนุ่มก็ออกไปหาเพชรลดาที่บ้านเช่าในทันที แต่ก็ได้รับคำตอบจากคนเช่าบ้านหลังนั้นแทนว่าหญิงสาวย้ายออกไปจากที่นี่ได้สองปีกว่าแล้ว
ครั้นพอเขาตามไปที่ร้านอาหารที่เป็นของพี่ชายคนรัก เจ้าของร้านอาหารนั้นก็บอกกับเขาว่าเจ้าของร้านเดิมนั้นเซ้งร้านอาหารแห่งนี้ให้กับเขามากว่าสองปีแล้วเหมือนกัน นั่นแสดงว่าทั้งเพชรลดาและพี่ชายพากันย้ายบ้านและเซ้งร้านอาหารแทบจะพร้อมๆ กัน มันเกิดอะไรขึ้นกับเธอ...เพชรลดา
แถมคำพูดของคนเป็นแม่ที่ฝากคนเป็นพ่อมาบอกกับเขาอีกอย่างว่าไม่แน่คนรักของเขาตอนนี้อาจจะมีลูกมีสามีไปแล้วก็ได้ นั่นยิ่งทำให้เขาคิดมากขึ้นไปอีก ไม่มีทาง! เพชรลดาไม่มีวันที่จะทรยศกับความรักของเขาอย่างเด็ดขาด เธอจะต้องรักเขาคนเดียว ในเมื่อเธอเป็นของเขาแล้วใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์!
ตืดดดดด! ตืดดดดด! ตืดดดดด! มาคัสล้วงหยิบโทรศัทพ์ออกมาจากเสื้อสูท มองดูเบอร์ที่กำลังโทรฯ เข้ามาหาเขา ก่อนจะรีบกดรับสายทันทีเพราะมันเป็นเบอร์ของนักสืบเอกชนที่เขาจ้างให้ตามสืบหาเบาะแสของเพชรลดาคนรักของเขาและพี่ชาย
“ฮัลโหล! เจอตัวเพชรลดาแล้วใช่มั้ย” มาคัสถามออกไปน้ำเสียงตื่นเต้นแกมร้อนรน
“พบแล้วครับ แต่ผมอยากให้คุณมาคัสดูรูปภาพนี้ก่อนว่าใช่เธอจริงๆ หรือเปล่า เพราะข้อมูลที่คุณให้มามันไม่ตรงกัน ผมไม่อยากทำงานผิดพลาด ยังไงคุณมาคัสดูรูปถ่ายแล้วยืนยันอีกครั้งด้วยนะครับ เดี๋ยวผมจะส่งภาพเข้าไปทางไลน์ของคุณมาคัสเดี๋ยวนี้เลย”
นักสืบเอกชนพูดจบก็กดวางสายไป สักพักรูปภาพที่นักสืบต้องการให้มาคัสยืนยันก็ถูกส่งเข้าโทรศัพท์มาเป็นจำนวนสิบรูป มาคัสรีบเลื่อนดูรูปภาพนั้นไปอย่างช้าๆ เพียงแค่รูปแรกที่เห็นเขาก็จำได้ว่ามันคือรูปคนรักของเขาอย่างแน่นอน ดวงตาสีฟ้าจากที่หม่นเศร้ากลับเปล่งประกายไปด้วยความดีใจ ใบหน้าหล่อเหลายิ้มให้กับรูปภาพที่เห็น มือเรียวใหญ่เลื่อนรูปต่อไปทันที ก่อนที่รอยยิ้มบนใบหน้าของมาคัสจะค่อยๆ จางหายไปแปรเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม แต่นิ้วเรียวใหญ่ยังคงเลื่อนรูปภาพไปเรื่อยๆ จนครบทั้งสิบรูป
หัวใจของมาคัสเจ็บหนึบขึ้นมาทันที เขาวางโทรศัพท์ลงพร้อมกับหลับตาแน่น ไรอันเห็นอาการของเพื่อนรักที่ตอนแรกนั้นยิ้มหน้าบานเหมือนจานเชิงอยู่ดีๆ ก็เปลี่ยนเป็นหุบยิ้มและเคร่งขรึม แนวกรามบนใบหน้าถูกขบเข้าหากันอย่างเห็นได้ชัด ชายหนุ่มจึงเดินเข้าไปหยิบโทรศัพท์ของเพื่อนรักมากดเปิดดูรูปภาพที่นักสืบส่งมาให้อีกครั้งหนึ่ง
ภาพแรกเป็นภาพของหญิงสาวหน้าตาสวยหวานยิ่งนัก เห็นแล้วก็ให้นึกอิจฉาเพื่อนรักขึ้นมาทันที นี่ถ้าหากไม่รู้มาก่อนว่าเป็นแฟนเพื่อนละก็เขาคงจะจีบเธออย่างแน่นอน แล้วเลื่อนดูภาพต่อไป
ไรอันชะงักงันไปชั่วขณะเมื่อเห็นภาพที่สอง เป็นภาพของหญิงสาวกับเด็กน้อย แต่เห็นจากด้านข้าง แล้วจึงเลื่อนดูภาพที่สาม สี่ ต่อๆ ไป จนครบทั้งสิบภาพ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นภาพของหญิงสาวกับเด็กน้อยวัยขวบเศษ ถ่ายในระยะไกล มองเห็นไม่ชัดใบหน้าของเด็ก และถ่ายได้จากทางด้านข้างซะมากกว่า และก็มีบางภาพที่มีชายหนุ่มกำลังกอดหอมเด็กน้อยและคนรักของเพื่อนอยู่ประมาณสามรูป
แต่ก็เห็นจากด้านหลังและด้านข้าง แถมเห็นหน้าไม่ชัดอีก มันใช้กล้องหรือโทรศัพท์รุ่นไหนถ่ายรูปวะเนี่ย เห็นชัดแต่รูปผู้หญิง รูปอื่นไม่ช้ดสักรูป แล้วนี่ก็หมายความว่าคนรักของมาคัสมีลูกมีสามีไปแล้วหรือนี่ ก็ไหนบอกว่ารักกันมากยังไงล่ะ โอ้ มายก๊อด เขาไม่อยากจะเชื่อ แล้วอย่างนี้เพื่อนเขาก็ต้องอกหักน่ะสิ
“แกไม่เป็นอะไรนะมาคัส” ไรอันถามออกไปอย่างห่วงใย
“ฉันสบายดี ขอบใจที่เป็นห่วง”
มาคัสพูดพร้อมกับลืมตาขึ้นมองหน้าเพื่อนรัก ก่อนที่จะแบมือเพื่อขอโทรศัพท์ของตนเองคืน แล้วกดโทรออกไปหานักสืบเอกชนทันที
“ภาพที่ส่งมาคุณถ่ายได้จากที่ไหน”
ทันทีที่ปลายสายรับ ชายหนุ่มก็กรอกเสียงถามออกไปทันที
“ผมถ่ายได้จากหน้าร้านอาหารแห่งหนึ่งแถวบางนาน่ะครับ คุณมาคัสดูรูปแล้วใช่คนที่คุณตามหาอยู่หรือเปล่าครับ เพราะคุณบอกว่าผู้หญิงคนนั้นโสด แต่ผู้หญิงคนนี้เธอมีลูกแล้ว ผมถึงถ่ายรูปส่งมาให้คุณมาคัสดูก่อน”
“ผู้หญิงคนนี้แหละที่ผมจ้างให้คุณตามหาน่ะ อ้อ ผมต้องการที่อยู่ของเธอ คุณช่วยส่งมาให้ด้วยแล้วกัน ส่วนเรื่องค่าจ้างผมจะโอนในส่วนที่เหลือให้ทันทีที่ผมได้ข้อมูลจากคุณทั้งหมด” มาคัสบอกน้ำเสียงเครียดขรึม
“ได้ตามที่คุณมาคัสขอทันทีครับ ขอบคุณที่ใช้บริการของเราสวัสดีครับ”
นักสืบเอกชนพูดจบก็วางสายไปทันที ถือเป็นการปิดงานที่สวยหรูอีกงานหนึ่ง
“แล้วแกจะเอาไงต่อไปล่ะมาคัส คนรักของแกก็มีลูกมีผัวไปแล้ว ยังไงแกก็ตัดอกตัดใจเสียเถอะ”
ไรอันพูดปลอบเพื่อนด้วยความเห็นใจ แต่ไม่คิดว่ามันจะกลายเป็นการตอกย้ำชายหนุ่มทางอ้อม
“ตัดใจเหรอไรอัน! ฉันทำผิดอะไร! ทำไมลดาเขาต้องทำอย่างนี้กับฉัน! เธอเป็นคนขอให้ฉันสัญญาว่าอย่าทิ้งเธอ! ยอดทอดกายให้ฉันได้เป็นคนแรกของเธอ! ที่สำคัญ! เราสัญญากันไว้ว่าจะแต่งงานกัน! แล้วเขาไปแต่งงานกับคนอื่นได้ยังไงกัน เหมือนกับที่มัมของฉันพูดบอกเอาไว้ไม่มีผิด เธอไม่ได้รักฉันจริง…เพชรลดา!”
มาคัสพูดขึ้นมาเสียงดัง อารมณ์ชายหนุ่มตอนนี้พลุ่งพล่านเป็นยิ่งนัก ผสมกับความเสียใจที่ถูกหญิงคนรักนอกใจ ปันใจให้กับชายอื่นจนถึงขนาดมีลูกด้วยกัน ไรอันเห็นอารมณ์ของเพื่อนรักก็รีบร้องห้ามเสียงหลง
“เฮ้ยๆ ใจเย็นๆ วันนี้แกมาประชุมนะโว้ย คิดเอาไว้สิ แกคือท่านประธานนะ เดี๋ยวลูกน้องก็กลัวกันจนหัวหดหรอก เรื่องนี้เอาไว้คุยกันทีหลัง เอาเรื่องงานก่อน”
พูดจบไรอันก็เดินอ้อมไปตบที่บ่ากำยำของเพื่อนรักอย่างให้กำลังใจ แต่มาคัสยังจมอยู่กับอารมณ์ที่กรุ่นโกรธไม่จางหาย ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วเดินเข้าไปภายในห้องน้ำที่อยู่ในโซนด้านหลังของห้องทำงาน ซึ่งภายในห้องทำงานนี้ยังถูกดีไซน์ให้มีห้องนอนเพื่อใช้เป็นที่พักผ่อนยามเมื่อครั้งที่คารอสผู้เป็นบิดาเดินทางมาดูงานที่นี่เองอีกด้วย ห้องทำงานแห่งนี้จึงแทบจะสามารถเป็นห้องพักภายในตัวได้อย่างดีเยี่ยมหากว่าเจ้าของห้องไม่ต้องการที่จะกลับไปพักที่คอนโด
“แก้ว ลดา ท่านประธานมาถึงแล้วนะ ตอนนี้อยู่ที่ห้องทำงาน เดี๋ยวพวกเธอยกของว่างเข้าไปที่ห้องได้เลยนะ อย่าช้าล่ะ”อมรศรีเดินเข้ามาหาลูกน้องสาวทั้งสองคนพร้อมกับสั่งการทันที
“ค่ะพี่อมรศรี ทางนี้แก้วกับลดาก็เตรียมของเรียบร้อยแล้วเหมือนกันค่ะ”
เอริยาพูดบอกอมรศรีน้ำเสียงสดใส โดยมีเพชรลดากำลังคนกาแฟกลิ่นหอมกรุ่นอยู่ข้างๆ
“ดีๆ ถ้าอย่างนั้นพวกเธอก็ยกเข้าไปเลย แล้วอย่าลืมถามท่านด้วยล่ะว่าอยากรับประทานอาหารเที่ยงเป็นอะไรพี่จะได้จัดเตรียมได้ถูก ถ้าไม่กล้าถามท่านก็ถามเอากับบอดี้การ์ดของท่านก็ได้นะ แล้วเดี๋ยวยังไงโทรบอกพี่ด้วย พี่ขอไปตรวจดูความเรียบร้อยของเอกสารอีกครั้งก่อนแล้วอย่าช้าล่ะ”
พูดจบอมรศรีก็เดินลิ่วๆ จากไปจากตรงนั้นทันที เพชรลดามองตามหลังหัวหน้าแผนกของตนไปพร้อมกับยิ้มน้อยๆ ให้กับความละเอียดของหัวหน้าตน ก่อนจะพยักหน้าให้กับเอริยาเพื่อนรักให้ช่วยกันยกของว่างที่เตรียมไว้ไปเสิร์ฟให้กับท่านประธานและบอดี้การ์ดของท่านที่ห้องทำงานตามที่ได้รับมอบหมายเช่นกัน