ตอนที่ 1
“คุณจะไม่ทิ้งลดาไปใช่ไหมคะ”
“ผมรักคุณมากนะลดา ผมไม่มีวันที่จะทิ้งคุณอย่างแน่นอน ที่ผมไปดูงานที่อังกฤษครั้งนี้ก็เพราะผมต้องการที่จะขอย้ายตัวเองมาประจำอยู่ที่ประเทศไทย และเมื่อผมกลับมาเราจะแต่งงานกัน”
ร่างกายกำยำของหนุ่มผู้ดีอังกฤษตรงเข้าสวมกอดร่างงามระหงที่ยืนนิ่งมองออกไปยังนอกหน้าต่าง คำพูดของชายหนุ่มคนรักสร้างความมั่นใจให้กับหญิงสาวเป็นอย่างมาก มือเรียวใหญ่โอบกอดรัดร่างงามเอาไว้แน่น ก่อนจะจับให้ร่างงามนั้นหันกลับมาเผชิญหน้าเขา ดวงตาสีดำสนิทของเพชรลดาจ้องมองสบดวงตาสีฟ้าของชายหนุ่มนิ่ง ความเศร้าในดวงตาเหมือนจะค่อยๆ คลายลงไป
มาคัสอยากจะปลอบประโลมหญิงคนรักให้หายกังวลยิ่งนัก ก่อนจะโน้มใบหน้าหล่อเหลาเข้าหาริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูของอีกฝ่าย บรรจงจูบอย่างแผ่วเบา ร่างงามระหงที่อยู่ภายในอ้อมกอดของชายหนุ่มถูกริมฝีปากร้ายจูบซุกไซ้ไปทั่วอย่างเอาแต่ใจ ร่างกำยำจุดไฟรักให้หญิงสาวไปอย่างช้าๆ จนตอนนี้ร่างงามระหงของเพชรลดาล้มลงไปนอนแผ่หลาอยู่บนเตียงนอนหนานุ่มขนาดใหญ่ในเวลาต่อมา
ชุดชั้นในสีหวานถูกมือเรียวใหญ่บรรจงถอดมันออกมาอย่างง่ายดาย เต้าทรวงของหญิงสาวทั้งสองข้างเผยออกให้ชายหนุ่มตรงหน้าได้ดูดดึงมันอย่างหิวกระหาย ริมฝีปากร้ายของมาคัสหยอกเย้าปลายยอดถันสีชมพูของอีกฝ่าย ส่วนมือเรียวใหญ่ก็ไม่ยอมน้อยหน้าเช่นกัน ยังคงบีบเคล้นคลึงหยอกเย้าไม่ยอมหยุด
“โอว...ฉันรักเธอ...เพชรลดา...เป็นของฉันเถอะนะ”
มาคัสตอกย้ำคำพูดของตนเองอีกครั้งเพื่อให้หญิงสาวมั่นใจ เพราะเขาเองก็มั่นใจเช่นกันว่าตนเองนั้นรักหญิงสาวตรงหน้ามากไม่น้อยไปกว่าเธอ ไม่มีเสียงตอบใดๆ ลอดออกมาจากริมฝีปากอวบอิ่มนอกจากการพยักหน้าให้เป็นการตอบรับในสิ่งที่เขาขอ
เรือนร่างกำยำขยับตัวเข้าหาร่างงามระหงอีกครั้ง ก่อนที่ริมฝีปากร้ายบรรจงมอบจูบให้กับหญิงสาวไล้เล็มชิมรสผิวขาวเนียนละเอียดเรื่อยลงมาตั้งแต่พวงแก้มเนียน ไล้ไปจนถึงลำคองามระหง ในขณะที่มือเรียวใหญ่ข้างหนึ่งบีบเคล้นปลายยอดถันสีชมพู ส่วนอีกข้างกำลังหยอกเย้าอยู่กับกลีบกุหลาบงาม และมันก็กำลังสร้างความเสียวซ่านให้กับเพชรลดายิ่งนัก
ร่างงามระหงของเพชรลดาบิดส่ายไปมาด้วยความเสียวซ่านในสิ่งที่ชายหนุ่มมอบให้ นิ้วเรียวใหญ่ของเขาเกลี่ยคลึงที่กลีบกุหลาบงามทั้งสองข้าง ในขณะที่ปลายลิ้นร้ายก็เฝ้าเย้าแหย่เม็ดทับทิมสีสวยที่ซุกซ่อนอยู่ท่ามกลางกลีบกุหลาบ เอวบางส่ายวนหนีลิ้นร้ายด้วยความเสียวซ่านยิ่งนัก ก่อนจะกระดกขึ้นลงเป็นจังหวะ พร้อมกับขยำผ้าปูที่นอนเอาไว้แน่นหมายจะยึดเป็นหลักเพื่อช่วยลดความเสียวกระสันลงได้บ้าง
“ลดา เธอชอบแบบนี้มั้ย?”
มาคัสร้องถามพร้อมกับใช้นิ้วเรียวใหญ่สอดใส่เข้าไปในช่อกุหลาบที่ตอนนี้ภายในเกสรมีน้ำหวานฉ่ำเยิ้มอยู่เต็มที่แล้ว ก่อนจะขยับเข้าออกภายในช่อกุหลาบของเธออย่างเร่าร้อนช่ำชอง ก่อนจะเพิ่มความเร็วขึ้นจนทำให้สะโพกสวยนั้นส่ายไหวเร่งรับจังหวะเข้าออกอย่างไม่ยอมน้อยหน้ากัน ก่อนที่เพชรลดาจะกรีดร้องออกมาเสียงดังก้องเมื่อชายหนุ่มพาเธอเดินทางมาส่งถึงปลายทางแล้วอีกครั้งหนึ่ง
ดวงตาสีดำสนิทของเพชรลดามองสบตาสีฟ้าของมาคัสนิ่งแล้วพูดออกไปว่า
“ลดารักคุณ รักคุณคนเดียวนะคะ มาคัส”
“ฉันก็รักเธอคนเดียวเหมือนกัน”
มาคัสตอบรักน้ำเสียงหนักแน่นก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงของตัวเอง เพชรลดามองร่างเปลือยเปล่าของอีกฝ่ายอย่างเต็มตา ใบหน้านวลเนียนแดงระเรื่อขึ้นมาทันที ดวงตาคู่สวยมองจ้องไปเรื่อยๆ จนไปหยุดอยู่ที่แก่นกายของชายหนุ่มที่ตอนนี้มันได้ผงาดออกมาอย่างเต็มที่ เพชรลดาถึงกับตาค้างรีบกระถดร่างถอยหนีด้วยความตื่นตระหนก
“ฉันสัญญาว่าเธอจะไม่เจ็บ”
มือเรียวใหญ่ลูบไล้ไปที่เรียวขานวลเนียนก่อนจะจับมันไว้มั่น เขาค่อยๆ แยกขาทั้งสองข้างออกกว้าง เพชรลดาโอนอ่อนอย่างว่าง่ายด้วยความรักที่หญิงสาวมีต่อชายหนุ่มตรงหน้าทำให้เธอยอมเขาทุกอย่าง มาคัสค่อยๆ สอดแทรกแก่นกายอันใหญ่โตเข้าหาช่อกุหลาบงามของหญิงสาวอย่างช้าๆ
“โอย...เจ็บ...เจ็บ”
เพชรลดาถึงกับน้ำตาไหลริน หญิงสาวบอกชายหนุ่มเสียงเครือ นั้นยิ่งทำให้มาคัสต้องใจเย็นให้มากขึ้นเป็นเท่าตัว เขาได้แต่ค่อยๆ เคลื่อนกายเข้าไปอย่างช้าๆ เพราะไม่ต้องการให้หญิงสาวต้องเจ็บมากไปเพราะเขาเป็นต้นเหตุ
“เจ็บมากมั้ยลดา”
มาคัสถามพร้อมกับจูบไปที่หน้าผากโหนกนูนเบาๆ
“ทนเจ็บอีกนิดนะ”
เขาจูบย้ำไปที่ริมฝีปากอวบอิ่ม แล้วมือเรียวใหญ่ก็จับเรียวขางามให้แยกออกมากกว่าเดิม ก่อนจะดันสะโพกสอบเข้าหาช่อกุหลาบงามอีกครั้งหนึ่ง เสียงกรีดร้องของเพชรลดาตามมาในทันทีที่แก่นกายของชายหนุ่มได้เข้าไปฝั่งร่างอยู่ภายในช่อกุหลาบงามของหญิงสาวได้เป็นผลสำเร็จ
มาคัสหยุดนิ่งเพียงครู่ เพื่อที่จะให้หญิงสาวได้ปรับสภาพรับกับสิ่งแปลกปลอมที่อยู่ภายในกายเธอให้ได้ ก่อนจะเริ่มขยับร่างกำยำอย่างช้าๆ และเมื่อเห็นว่าหญิงสาวเริ่มตอบสนองเพิ่มมากขึ้น เขาก็เริ่มควบกระหน่ำเข้าใส่ร่างงามระหงอย่างฮึกเหิมในทันที
“อา...มาคัส...”
เพชรลดาครางเรียกชื่อของชายคนรักออกมาด้วยความเสียวซ่านยามเมื่อถูกลิ้นร้ายของเขารุกเร้าไม่ยอมหยุดจนเธอแทบจะตั้งรับไม่ไหว ด้านบนริมฝีปากร้ายของมาคัสนั้นทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม และมีหรือที่ด้านล่างจะยอมน้อยหน้ากัน เขาละจากริมฝีปากอวบอิ่มแล้วหันมาจับที่สะโพกสวยของหญิงสาวเอาไว้มั่น ก่อนจะขยับกายกำยำให้แรงและเร็วยิ่งขึ้น ส่งผลให้ร่างงามระหงของเพชรลดาสั่นสะท้านไปทั้งร่าง ก่อนจะกรีดร้องออกมาเมื่อไม่สามารถอดกลั้นกับความเสียวกระสันที่ชายหนุ่มมอบให้เอาไว้ได้
“กรี๊ดดดดดด”
สิ้นเสียงร้องของเพชรลดา มือเรียวบางก็ปาดป่ายไปทั่วร่างกายกำยำของมาคัสที่เพิ่งมอบความเสียวซ่านให้เธอ มือเรียวสวยขยำเข้ากับผ้าปูที่นอนแน่นในขณะที่เอวบางบิดส่ายไปมาด้วยความทรมาน
“ทนอีกนิดนะ...โอว”
เสียงมาคัสพูดออกมาพร้อมกับครางในลำคอ ร่างงามระหงของเพชรลดาไม่ได้ตอบอะไรกลับมา ก่อนที่มาคัสจะจับร่างของหญิงสาวให้พลิกหันหลังและให้คุกเข่า ทั้งๆ ที่ร่างกายของคนทั้งคู่ยังเชื่อมติดกัน แล้วคว้าจับแขนทั้งสองข้างของเพชรลดาเอาไว้ให้มั่นเหมือนอย่างกับจับบังเ**ยนขี่ม้า ก่อนจะโจนจ้วงส่งแรงอัดเข้าโหมใส่ร่างงามระหงอย่างไม่ยั้ง เสียงเนื้อกระทบกันดังเร่งเร้าให้ชายหนุ่มออกแรงซอยถี่ยิ่งขึ้น จนร่างของหญิงสาวเกร็งกระตุกขึ้นอย่างรุนแรง พร้อมๆ กับเสียงกรีดร้องของเพชรลดาและเสียงครางกระหึ่มของมาคัสก็ดังขึ้นมาพร้อมๆ กัน
มาคัสทิ้งกายกำยำลงบนเตียงข้างๆ กายของหญิงสาว อ้อมแขนแข็งแรงโอบกอดร่างงามระหงของเพชรลดาเอาไว้แน่น ก่อนจะเป็นฝ่ายพูดทำลายความเงียบขึ้นมา
“ฉันจะแต่งงานกับเธอ...ลดา”
“โอ้...มาคัส คุณจะแต่งงานกับลดาจริงๆ เหรอคะ”
“เราจะแต่งงานกันทันทีที่ฉันกลับมา”
ริมฝีปากของมาคัสจูบลงบนหน้าผากโหนกนูนของหญิงสาวดั่งเป็นการให้สัญญา
น้ำตาเม็ดใสไหลรินรดแก้มเนียนของหญิงสาวครั้งแล้วครั้งเล่า และมันคือเหตุการณ์ที่ทำให้เพชรลดาไม่อาจที่จะลืมหรือแม้แต่จะลบมันออกไปจากความทรงจำได้เลยแม้แต่น้อย มาคัสบอกกับเธอว่าจะไปดูงานเพียงแค่หนึ่งเดือน และเมื่อกลับมาเธอกับเขาจะแต่งงานกัน
เหตุการณ์ในวันนั้นที่เพชรลดายอมทอดกายให้เขาเชยชมตามคำขอของชายคนรัก เพราะหลงเชื่อคำสัญญาว่าเขาจะกลับมาขอเธอแต่งงาน และมันก็เพียงแค่ครั้งเดียว ครั้งเดียวเท่านั้นที่มีอะไรกับมาคัส แต่มันก็ส่งผลให้เธอต้องตั้งท้องชีวิตน้อยๆ ก่อเกิดขึ้นมาในท้องของเธอได้ ชีวิตน้อยๆ ที่เกิดจากความรักของเธอที่มีต่อเขา หนำซ้ำสิ่งที่ทำให้หญิงสาวต้องตัดสินใจออกจากงานในที่สุดนั่นก็คือ มารดาของมาคัส มาดามแคทเธอลีนนั่นเอง นางบินตรงมาประเทศไทยทันทีที่รู้ว่ามาคัสขอย้ายมาประจำที่ประเทศไทย และต้องการที่จะแต่งงานกับเธอ
เพชรลดาถูกตามตัวให้เข้าไปพบกับท่านประธานในทันที หญิงสาวถูกต่อว่าด้วยคำพูดดูถูกดูแคลนจากมาดามแคทเธอลีนเป็นอย่างมาก ด้วยเพราะได้วางตัวคู่หมั้นคู่หมายให้กับลูกชายเอาไว้แล้ว และนางไม่เห็นด้วยและไม่ต้องการลูกสะใภ้ที่เป็นพนักงานภายในบริษัทฯ ของตน หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วันเพชรลดาก็ลาออกจากงานที่ทำ ด้วยข่าวที่หญิงสาวเข้าไปพบกับท่านประธานได้หลุดออกมา ซึ่งเป็นฝีมือการปล่อยข่าวของมาดามแคทเธอลีน ทำให้เธอไม่อาจทนแรงกดดันจากสายตารอบข้างของเพื่อนร่วมงานและหัวหน้างานได้ ที่กล่าวหาว่าเธอเอาตัวเข้าแลกเพื่อที่จะจับผู้บริหารระดับสูง นั่นก็คือ มาคัส
และก่อนที่หญิงสาวจะดำดิ่งจมลงไปกับเหตุการณ์ที่ผ่านมามากไปกว่านี้ เสียงร้องไห้จ้าของหนูน้อยวัยขวบเศษก็เรียกสติของคนเป็นแม่กลับมาได้อีกครั้ง
ร่างงามระหงของหญิงสาวคนหนึ่งที่วิ่งออกมาจากห้องครัวของบ้านหลังเล็กชั้นเดียวด้วยใบหน้าตื่นตระหนก ด้วยเพราะเสียงแผดร้องของหนูน้อยวัยขวบเศษที่เปล่งเสียงร้องออกมาไม่ยอมหยุด จนทำให้เธอต้องรีบวิ่งออกมาดูอาการของผู้เป็นลูกชาย
“น้องเพชร เป็นอะไรลูก?”
เพชรลดาร้องถามลูกชาย ก่อนจะยกหนูน้อยขึ้นอุ้มเอาไว้ในวงแขน แล้วพาเดินไปรอบๆ บ้านเพื่อปลอบโยนให้หนูน้อยได้หยุดร้อง
“หนูลดา พาน้องเพชรไปหาหมอหรือยังล่ะ ป้าเห็นน้องเพชรไม่สบายมาหลายวันแล้วนะ”
ป้าแมวพูดถามเพชรลดาขึ้นด้วยความเป็นห่วงหนูน้อย
หญิงสาวหันกลับมามองหญิงสูงวัยที่พักอาศัยอยู่บ้านเช่าหลังติดกัน และยังเป็นพี่เลี้ยงให้กับลูกของตนในยามที่เธอต้องออกไปทำงาน
“ลดาพาไปมาแล้วป้าแมว หมอบอกว่าน้องเพชรเป็นไข้หวัดแล้วก็มีน้ำมูกน่ะจ้ะ เขาให้ยากลับมากินที่บ้านไม่กี่วันก็หาย น้องเพชรคงจะหายใจไม่ออกน่ะจ้ะป้าก็เลยงอแง โอ๋ๆ อย่าร้องลูก”
“ถ้าพาไปหาหมอแล้วป้าก็ค่อยหายห่วงหน่อย หมู่นี้ฝนฟ้ามันเอาแน่เอานอนไม่ค่อยจะได้ นึกอยากจะตกก็ตก บางทีก็ตกเอาแบบไม่ลืมหูลืมตาเลยนะแต่ก็เป็นบางวันน่ะ แล้วนี่จะออกไปทำงานไม่ใช่เหรอ รีบไปสิ เดี๋ยวป้าดูน้องเพชรให้เอง ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก”
พูดจบป้าแมวก็เดินเข้ามาอุ้มน้องเพชรออกไปจากอ้อมกอดของคนเป็นแม่อย่างเบามือ ก่อนพูดต่ออีกว่า
“เดี๋ยวยังไงลดาก็อย่าลืมเอายาที่จะให้น้องเพชรกินน่ะมาวางไว้ที่โต๊ะกินข้าวด้วยนะ ป้าจะได้เอายาให้น้องกินตามเวลา”
“ลดาเอามาวางไว้ที่โต๊ะแล้วจ้ะ เดี๋ยวลดาบอกรายละเอียดเกี่ยวกับยาของน้องเพชรให้ป้าแมวฟังก่อนแล้วลดาค่อยไปทำงาน ลดาโทรไปบอกหัวหน้างานแล้วล่ะว่าวันนี้ลดาจะเข้างานช้าหน่อย”
พูดจบเพชรลดาก็อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับยาให้ป้าแมวฟังทันที ก่อนจะก้มลงหอมแก้มยุ้ยของลูกชายที่ตอนนี้แดงเป็นลูกตำลึงสุกอย่างแสนรัก แล้วเดินออกไปจากบ้านเพื่อไปทำงานเหมือนอย่างเช่นทุกวัน
ในเวลาต่อมา
เพชรลดาเดินออกมาจากซอยแคบๆ เลาะเลียบมาตามถนนเรื่อยๆ ถนนหนทางในซอยนี้คับแคบนัก แต่มันก็เป็นสถานที่ที่มีบ้านเช่าราคาถูกที่หญิงสาวพอมีกำลังสามารถหาอยู่ได้กันสองคนแม่ลูก ด้วยเพราะเพชรลดาจะต้องประหยัดและเก็บเงินให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนที่น้องเพชรจะเข้าเรียนอนุบาลได้ และที่สำคัญเพื่อไม่ให้มาคัสตามหาตัวเธอเจอ ซึ่งข้อนี้หญิงสาวก็ไม่อาจรู้ได้ว่าหากเมื่อวันใดวันหนึ่งเธอและเขาได้มาพบกันอีกอะไรจะเกิดขึ้นกับเธอ เพชรลดาเดินไปก็คิดเรื่องลูกและตัวเองไปและมันก็ทำให้หญิงสาวหวนคิดถึงวันที่มาดามแคทเธอลีนเรียกให้เธอเข้าไปพบเมื่อครั้งนั้น
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! เพชรลดาเคาะประตูห้องท่านประธานก่อนเพื่อเป็นการขออนุญาต
ก่อนจะเปิดประตูแล้วก้าวเข้าไปภายในห้อง เธอพบกับร่างของสุภาพสตรีท่านหนึ่งที่ตอนนี้ยืนหลังตรงตั้งอย่างสง่าหันหลังให้กับเธอเหม่อมองออกไปยังนอกหน้าต่าง ก่อนจะค่อยๆ หันกลับมาเมื่อหญิงสาวเดินเข้าไปใกล้
มาดามแคทเธอลีนหันกลับมามองสบตากับเพชรลดานิ่ง ก่อนจะนั่งลงยังเก้าอี้ประจำตำแหน่ง หญิงสาวมองสบตากับมารดาของชายคนรัก มาคัสช่างมีใบหน้าเหมือนกับมาดามแคทเธอลีนยิ่งนัก
“สวัสดีค่ะ ท่านประธานเรียกให้ดิฉันมาพบต้องการให้ดิฉันรับใช้เรื่องอะไรคะ”
เพชรลดาเปิดฉากสนทนาทันที ภาษาของหญิงสาวอยู่ในขั้นดีเยี่ยมไม่เช่นนั้นเธอคงไม่ดำรงตำแหน่งเป็นเลขาของรองประธานบริษัทอย่างมาคัสได้ และเพราะความใกล้ชิดจึงทำให้ทั้งคู่รักกัน และมันก็นำพาความยุ่งยากมาถึงเธอในวันนี้ได้ หญิงสาวไม่ชอบสายตาดูหมิ่นดูแคลนของมารดาคนรักเอาเสียเลย
มาดามแคทเธอลีนเหยียดยิ้มที่มุมปากออกมาพลางนึกในใจว่า ‘สำเนียงดีไม่แพ้เจ้าของภาษาเลย ดี! จะได้พูดอะไรแล้วเข้าใจได้ง่ายๆ หน่อย’ แล้วพูดขึ้นว่า
“ดี ถ้าอย่างนั้นฉันจะไม่พูดอ้อมค้อมล่ะนะ ฉันต้องการให้เธอเลิกยุ่ง เลิกติดต่อกับลูกชายของฉัน”
คำพูดของมาดามแคทเธอลีนทำให้ใบหน้าสวยซึ้งของเพชรลดาจ้องมองหน้าคนพูดตาค้าง ดวงตาของหญิงสาวนั้นเต็มไปด้วยคำถามมากมายที่อยู่ๆ ถูกเรียกมาเพื่อที่จะให้เธอเลิกกับมาคัส ริมฝีปากอวบอิ่มเอ่ยถามหาเหตุผลออกไปทันที
“ดิฉันขอเหตุผลที่ท่านประธานจะให้ดิฉันเลิกยุ่งเลิกติดต่อกับคุณมาคัสด้วยได้หรือเปล่าคะ”
“เหตุผลน่ะเหรอ ได้สิ ข้อแรกก็คือ มาคัสเขาเป็นนายจ้าง ส่วนเธอเป็นแค่ลูกจ้างไม่มีอะไรที่เหมาะสมหรือว่าคู่ควรกับลูกชายของฉันได้เลย ข้อสอง ภรรยาของมาคัสจะต้องเป็นผู้หญิงที่ฉันเลือกให้เท่านั้น และคุณสมบัติของคนที่จะมาเป็นลูกสะใภ้ของฉันก็จะต้องประกอบไปด้วย ชาติตระกูล การศึกษา และเงินทอง ที่มันเทียมหน้าเทียมตากัน ไม่ได้ยากจนทำงานเป็นลูกจ้างเขาเหมือนอย่างเธอ และข้อสามซึ่งข้อนี้สำคัญที่สุดคือฉันไม่ต้องการได้เธอมาเป็นลูกสะใภ้ของฉันเข้าใจหรือยังล่ะ! คิดอยากจะรวยทางลัดล่ะสิถึงได้เอาตัวเข้าแลก ลูกไม้ตื้นๆ แบบนี้อย่านึกว่าฉันจะไม่รู้ทันเธอนะเพชรลดา เธอเองก็ทำงานดีมาโดยตลอดจากแฟ้มประวัติการทำงานที่ระบุไว้ รูปร่างหน้าตาก็สะสวยไม่น่าคิดสั้นแบบนี้เลยนะ”
มาดามแคทเธอลีนมองหน้าเพชรลดาตลอดเวลาที่พูด นางนึกเสียดายหญิงสาวคนนี้ยิ่งนัก ไม่ว่าจะเป็นความสวยหรือว่าความฉลาด ยิ่งได้มาเห็นหน้าตาชัดๆ ใกล้ๆ แบบนี้แล้วต้องยอมรับว่าเพชรลดาเป็นผู้หญิงที่จัดว่าสวยซึ้งคนหนึ่งเลยทีเดียว มิน่าล่ะ มาคัสถึงร่ำร้องขอย้ายตัวเองมาประจำที่ประเทศไทย
ที่หนักไปกว่านั้นก็คือบุตรชายบอกว่ากลับมาเมืองไทยเที่ยวนี้จะมาแต่งงานกับคนรักที่เป็นสาวไทยอีกด้วย นั่นถึงกับทำให้มาดามแคทเธอลีนนั่งเก้าอี้ไม่ติดไปเลยทีเดียว ต้องอ้างกับคารอสผู้เป็นสามีและมาคัสลูกชายสุดรักสุดหวงของนางว่าจะมาเที่ยวกับเพื่อนๆ ที่ฮ่องกง แล้วโฉบมาที่ประเทศไทยเพื่องานนี้โดยเฉพาะ
เพชรลดาเบิกตากว้างขึ้นทันทีที่ได้ยินเหตุผลทั้งสามข้อของมาดามแคทเธอลีน หญิงสาวนึกถึงเหตุผลข้อที่สามของหญิงสูงวัยตรงหน้าแล้วอยากจะพูดออกไปดังๆ เหลือเกินว่าไม่จำเป็นจะต้องยกเหตุผลข้อที่หนึ่งและสองมากล่าวอ้างให้เสียเวลาไปทำไม สู้บอกออกมาตรงๆ เลยก็ได้ว่าไม่ต้องการได้เธอมาเป็นลูกสะใภ้ พูดง่ายๆ แค่นี้เธอก็รับรู้แล้ว ใบหน้าสวยซึ้งเริ่มซีดลงแถมดวงตากลมโตยังเริ่มคลอขังเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาพร่างพราว
ดวงตาของมาดามแคทเธอลีนจิกมองใบหน้าสวยซึ้งที่เริ่มซีดเผือดลงอย่างเห็นได้ชัด รอยยิ้มแห่งชัยชนะผุดขึ้นมาบนใบหน้าของหญิงสูงวัยในทันที แล้วรีบพูดต่ออีกว่า
“เหตุผลที่ฉันบอกเธอทั้งสามข้อมันคือความจริงที่เธอจะต้องรับรู้ ชีวิตคู่ไม่ได้มีเพียงแค่เธอกับมาคัสเท่านั้น แต่มันยังมีครอบครัวของมาคัส และครอบครัวของเธอด้วย แล้วฉันก็จ้างนักสืบให้สืบประวัติของเธอและครอบครัวแล้ว พ่อแม่ของเธอตายหมดแล้ว เธออยู่กับพี่ชายที่เปิดร้านอาหารเล็กๆ เท่านั้น แต่ว่าครอบครัวของเธอฉันไม่สนใจหรอก ฉันสนใจแต่ครอบครัวของฉันเท่านั้น”
เสียงของมาดามแคทเธอลีนดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพชรลดาเอาแต่นิ่งเงียบ ก่อนจะพูดขึ้นมาเสียงแผ่ว
“ถึงดิฉันจะเป็นลูกจ้าง ไม่มีทรัพย์สินเงินทองมากมาย ดูแล้วก็ไม่มีอะไรเทียบกับท่านได้ แต่ดิฉันก็รักลูกชายของท่านด้วยหัวใจที่แท้จริง ดิฉันรักมาคัสไม่ได้คิดที่จะมาหลอกลวงหรือว่าต้องการยกระดับตัวเองให้สูงขึ้นเลยแม้แต่น้อย”
“คุณมาคัส! เธอจะต้องเรียกลูกชายของฉันว่าคุณมาคัส! เพราะว่าเขาเป็นนายจ้างของเธอ ไม่ใช่คนที่เธอจะมาเอ่ยเรียกชื่อเฉยๆ แบบนี้ได้ ตราบใดที่เธอยังทำงานกินเงินเดือนของฉันอยู่ และถ้าหากเธอยังดื้อดึงที่จะคบกับลูกชายของฉันอยู่ละก็ไม่เพียงแต่เธอจะเดือดร้อน พี่ชายของเธอก็จะเดือดร้อนด้วย ฉันจะไม่ยอมทนนั่งนิ่งมองดูผู้หญิงที่ไม่มีอะไรคู่ควรเลยแม้แต่นิดเดียวมาเป็นภรรยาของลูกชายฉันได้หรอก หรือเธอจะลองต่อกรดูกับฉันก็ได้นะฉันไม่ว่า แต่เธอจะได้ไม่คุ้มเสียซะละมากกว่า”
มาดามแคทเธอลีนพูดน้ำเสียงเกรี้ยวกราดใส่อารมณ์เต็มที่ ความรักความหวงในตัวลูกชายคนเดียวนั้นมีมากมายนัก ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วมาดามแคทเธอลีนเป็นคนที่มีจิตใจดี ไม่เคยคิดร้ายหรือว่าดูถูกเหยียดหยามคนที่มีฐานะด้อยกว่าตนเลย
แต่ที่เป็นไปได้ถึงเพียงนี้คงเป็นเพราะว่าความรักและหวงลูกชายคนเดียวมากเกินไปนั่นเอง ที่สำคัญ! มาคัสไปพูดอะไรกับคนเป็นแม่ถึงการขอย้ายมาประจำอยู่ที่เมืองไทยและการแต่งงานกับหญิงสาวคนรักกันแน่ ถึงได้กำลังตกเป็นคู่กรณีอยู่กับมาดามแคทเธอลีนอยู่ในขณะนี้
เพชรลดาพูดไม่ออก หญิงสาวเอาแต่นั่งก้มหน้านิ่ง ลำคอตีบตันไปหมด นี่คือความจริงที่หญิงสาวกำลังเผชิญกับมันอยู่ ความไม่เหมาะสม ไม่คู่ควร นายจ้าง ลูกจ้าง สิ่งเหล่านี้มันเกิดขึ้นกับเธอจริงๆ หรือนี่ เพชรลดาเฝ้าถามกับตัวเอง
มาดามแคทเธอลีนเห็นอาการของหญิงสาวที่แสดงออกมานั้นก็รีบพูดตอกย้ำเข้าไปอีก
“เห็นมั้ยล่ะว่าสิ่งที่ฉันพูดน่ะมันเป็นความจริง เธอกับลูกชายฉันไม่มีอะไรที่เหมาะสมกันเลยแม้แต่นิดเดียว แถมเธอยังจะนำความเดือดร้อนมาสู่พี่ชายของเธอที่เป็นคนค้าขายอีกด้วย แต่เพื่อไม่ให้เธอหาว่าฉันใจไม้ไส้ระกำ และถือซะว่าฉันให้เธอไปตั้งต้นชีวิตใหม่ เอ้า เอาเงินก้อนนี้ไปซะ”
มาดามแคทเธอลีนเปิดลิ้นชักหยิบเช็คเงินสดที่กรอกตัวเลขเอาไว้แล้วยื่นส่งให้กับหญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงหน้านาง
เพชรลดาหลุบตามองเช็คเงินสดที่กรอกจำนวนตัวเลขสูงถึงเจ็ดหลักที่วางอยู่ตรงหน้า ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองสบตากับเจ้าของเช็ค มาดามแคทเธอลีนต้องการให้เธอออกไปจากชีวิตลูกชายของนางมากถึงเพียงนี้เชียวหรือ ถึงขนาดยอมสั่งจ่ายเช็คเงินสดเป็นตัวเลขถึงเจ็ดหลักให้กับเธอ เพชรลดาพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้ไหลรินออกมา หญิงสาวหันหน้าหนีไปอีกทางก่อนจะหันกลับมามองหน้ามาดามแคทเธอลีนอีกครั้งแล้วพูดขึ้น
“ดิฉันรักคุณมาคัสด้วยหัวใจที่แท้จริง ไม่ว่าท่านจะให้ดิฉันมากกว่านี้อีกกี่เท่าดิฉันก็ไม่ขาย เก็บเงินของท่านกลับไปเถอะค่ะ ดิฉันรับปากท่านว่าจะเลิกยุ่งเลิกติดต่อกับคุณมาคัส แค่นี้ใช่มั้ยคะที่ท่านต้องการจะพูดกับดิฉัน ถ้าไม่มีอะไรแล้วดิฉันขอตัวก่อน”
ร่างงามระหงลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินตรงไปที่ประตู ทว่าเสียงของมาดามแคทเธอลีนก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง
“จองหอง! อย่าลืมคำพูดของเธอก็แล้วกันเพชรลดา แต่ถ้าเธอยังอยู่ที่เดิมลูกชายของฉันก็คงจะตามเธอเจอแน่นอน จะไปก็ช่วยไปอยู่ที่ที่มาคัสเขาจะตามหาเธอไม่เจอด้วยก็แล้วกัน ที่ฉันให้เงินเธอก็เพราะฉันรู้ว่ามาคัสเขาต้องตามหาตัวเธออย่างแน่นอน ฉันก็แค่อยากจะช่วยให้เธอไม่ต้องลำบากมากนักก็เท่านั้น แต่ในเมื่อเธอไม่รับเงินจากฉันก็ตามใจเธอ”
“ขอบคุณค่ะที่ท่านคิดจะช่วย”
พูดจบเพชรลดาก็เปิดประตูก้าวออกมาจากห้องท่านประธานในทันที และนั่นก็เป็นที่มาว่าเพราะเหตุใดหญิงสาวถึงต้องมาพักอยู่ในที่ชุมชนแออัดเช่นนี้