ณ กรุงลอนดอน
มาคัสนอนลืมตาอยู่ภายในอ่างจากุชชี่ น้ำอุ่นที่กำลังหมุนวนอยู่ภายในทำให้เขาผ่อนคลายลงไปได้มาก ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาเบาๆ ตลอดระยะเวลาสองปีที่เขาต้องตกอยู่กับความมืดมิด ไม่มีครั้งไหนเลยที่เขาจะหลับสนิท เขาเฝ้าฝันถึงแต่ค่ำคืนสุดท้ายที่ได้อยู่ร่วมกับเพชรลดาหญิงสาวคนรักของเขา มันเป็นภาพความฝันที่สวยงามยิ่งนัก
เขาได้แต่หวังว่าปาฏิหาริย์จะบังเกิดขึ้นกับเขาให้สามารถกลับมามองเห็นได้อีกครั้งหนึ่ง แต่ก็เปล่าเลย เพราะการผ่าตัดทั้งสองครั้งของเขาประสบความล้มเหลว ความหวังที่จะกลับมามองเห็นมันช่างมืดมิดเสียนี่กระไร แม้รอบข้างเขาจะคอยให้กำลังไม่ให้ท้อก็ตาม แต่ใครไม่มาเป็นอย่างเขาคงไม่มีทางรู้หรอกว่ามันเจ็บปวดทรมานแค่ไหนที่ต้องทนทุกข์อยู่กับความว่างเปล่าในโลกมืดเช่นนี้
มาคัสถอนหายใจออกมาแรงๆ ก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นจากอ่างจากุชชี่ด้วยเพราะเขาไม่อยากคิดถึงเรื่องดวงตาที่มืดมิดของเขาให้ทุกข์ใจไปมากกว่านี้ เมื่อก้าวออกมาจากอ่างอาบน้ำได้ชายหนุ่มก็เอื้อมหยิบเสื้อคลุมอาบน้ำที่แขวนอยู่ในที่ที่จัดวางไว้ให้อยู่เป็นประจำ โดยที่ไม่ต้องคลำหาหรือเรียกให้ใครมาช่วยให้ยุ่งยาก เพราะเขาชินกับการใช้ชีวิตอยู่กับความมืดและของทุกชิ้นที่เขาใช้ก็ถูกตั้งไว้ในที่เดิมไม่เคลื่อนย้ายไปไหน
มาคัสเดินออกมาจากห้องน้ำก่อนจะเดินไปนั่งที่เตียง เอื้อมมือคลำไปที่โต๊ะข้างหัวเตียงแล้วกดอินเตอร์คอมฯ เรียกหาคนรับใช้เพื่อที่จะขอน้ำส้มคั้นสดดื่มให้ชื่นใจ
“คุณมาคัสต้องการอะไรคะ”แอนนา แม่บ้านประจำคฤหาสน์เกรฟเว่นกรอกเสียงถามออกไป
“ฉันอยากได้น้ำส้มสักแก้ว”
“ค่ะ คุณมาคัส”
ไม่นานน้ำส้มที่มาคัสต้องการก็ถูกนำมาเสิร์ฟให้กับชายหนุ่มภายในห้อง แต่คนที่นำมาให้กลับไม่ใช่แม่บ้านของคฤหาสน์แต่เป็นมาดามแคทเธอลีนคนเป็นแม่ที่เดินเคียงคู่เข้ามาพร้อมกับคารอสคนเป็นพ่อแทน ก่อนจะยื่นส่งแก้วน้ำส้มให้กับลูกชาย
“นี่จ้ะน้ำส้มที่ลูกต้องการ”
มาดามแคทเธอลีนพูดบอกเสียงนุ่ม ก่อนจะนั่งลงเคียงข้างๆ ลูกชายบนเตียงนอนหนานุ่ม
“ขอบคุณครับมัม”มาคัสรับแก้วน้ำส้มมาจากมือมารดา
ก่อนจะค่อยๆ ยกขึ้นดื่มอย่างช้าๆ มาดามแคทเธอลีนและคารอสมองสบตากันนิ่งก่อนจะพยักหน้าให้กันและเสียงของผู้เป็นพ่อก็เป็นฝ่ายพูดเอ่ยขึ้น
“มาคัส ลูกจะไม่ลองคิดทบทวนดูใหม่เหรอลูก เรื่องที่คุณหมอแนะนำให้ลูกลองเข้ารับการผ่าตัดดูอีกครั้งหนึ่งน่ะ แด๊ดกับมัมอยากให้ลูกลองผ่าตัดดูอีกครั้งนะ”
มาคัสถอนหายใจออกมาแรงๆ ตลอดระยะเวลาสองปีที่ผ่านมาเขาเข้ารับการผ่าตัดดวงตาและปฏิบัติตามคำสั่งของหมออย่างเคร่งครัด ดูแลตัวเองอย่างดีด้วยเพราะมีความหวังว่าจะกลับมามองเห็น
ทว่าผลออกมากลับล้มเหลว การผ่าตัดไม่ประสบความสำเร็จ มันทำให้เขาเองก็หมดกำลังใจ ท้อแท้ สิ้นหวัง ทำให้ไม่อยากที่จะเข้ารับการผ่าตัดอีก ถ้าหากครั้งนี้ผ่าตัดแล้วไม่สำเร็จนั้นเท่ากับว่าเป็นเครื่องยืนยันแน่นอนว่าเขาจะต้องอยู่ภายในโลกมืดไปตลอดชีวิต
“ทำไมครับ แด๊ดกับมัมเบื่อที่จะต้องมาดูแลลูกตาบอดคนนี้แล้วเหรอครับ?”
“เปล่าเลยนะมาคัส มัมกับแด๊ดไม่เคยคิดเบื่อที่จะต้องมาดูแลลูกเลย แต่มัมกับแด๊ดอยากจะให้ลูกหายเป็นปกติต่างหาก” มาดามแคทเธอลีนพูดบอกลูกชายอย่างใจเย็น
“ถ้ามันจะหายมันก็คงหายไปนานแล้วล่ะครับมัม มันคงไม่ต้องผ่าแล้วผ่าอีกอยู่แบบนี้หรอก” มาคัสพูดน้อยใจในโชคชะตาของตน
มาคัสยกแก้วน้ำส้มขึ้นดื่มจนหมดแก้วแล้วเอื้อมไปวางตั้งไว้ที่โต๊ะบนหัวเตียงใกล้ๆ แต่เสียงวางแก้วนั้นไม่เบาเลย ซึ่งบ่งบอกอารมณ์ของชายหนุ่มได้เป็นอย่างดี คารอสเห็นเช่นนั้นก็อดไม่ได้จึงพูดขึ้นเสียงดังเพื่อเป็นการเตือนสติลูกชาย
“ก็เป็นซะแบบนี้น่ะสิ มันถึงไม่หายสักที ผ่าตัดไม่กี่ครั้งพอมันไม่สำเร็จก็ท้อแท้หมดหวังซะแล้ว ทำไมถึงไม่นึกถึงหัวอกของมัมกับแด๊ดบ้าง ว่ามัมกับแด๊ดเองก็หวังเหมือนกัน หวังที่จะเห็นแกกลับมามองเห็นเหมือนอย่างเคย ผ่าตัดสองสามครั้งยังไม่เห็นก็น่าที่จะลองต่อไป ไม่คิดสงสารมัมกับแด๊ดบ้างหรือยังไง มัมกับแด๊ดก็แก่ลงทุกวัน ถึงจะมีทรัพย์สมบัติไว้ให้แกมากมายขนาดไหนแต่ก็ไม่เท่ากับที่แกจะกลับมามองเห็น แล้วไหนจะคนรักของแกอีกล่ะ แกจะให้ใครตาม แกอยากจะไปตามหาเขาไม่ใช่เหรอ นี่ผ่านมาตั้งสองปีเข้าไปแล้วคนรักของแกจะเป็นยังไงบ้างแกเคยคิดบ้างมั้ย”
คารอสใส่ไม่หยุด หวังว่าคำพูดของเขาคงพอที่จะทำให้มาคัสคิดได้บ้าง มาดามแคทเธอลีนได้แต่นั่งสะอื้นอยู่ข้างๆ ลูกชายเบาๆ อยู่อย่างนั้น
มาคัสเองถึงกับน้ำตาคลอ นี่เขาคิดถึงแต่ตัวเอง ไม่เคยนึกถึงแด๊ดกับมัมเลยว่าต้องทุกข์ทรมานไปกับเขาด้วย แด๊ดกับมัมต่างก็หวังที่จะให้เขากลับมามองเห็น ไม่เคยท้อไม่ว่าการผ่าตัดดวงตากี่ครั้งที่ไม่ประสบความสำเร็จ ยังคงมีความหวังอยู่เสมอ
และเพชรลดาหญิงคนรักของเขา เขาเอาแต่เฝ้าฝันถึงแต่เธอแต่ไม่คิดที่จะสนใจอยากรักษาดวงตาให้หาย นี่เขาเป็นบ้าอะไรอยู่เนี่ย เขาลืมไปได้ยังไงกัน ป่านนี้เธอจะเป็นอย่างไรบ้าง ต่อให้คร่ำครวญขนาดไหนถ้าหากเขาไม่เข้ารับการผ่าตัดก็คงไม่มีทางหายอย่างแน่นอน คิดได้เช่นนั้นมาคัสก็ตัดสินใจพูดออกไปว่า
“แด๊ดครับ ผมจะเข้ารับการผ่าตัดรักษาดวงตาอีกครั้งครับ”
“มาคัส! จริงเหรอลูก ลูกยอมที่จะผ่าตัดดวงตาอีกครั้งแล้วจริงๆ นะ”
มาดามแคทเธอลีนพูดเสียงสะอื้นด้วยความดีใจที่มาคัสยอมเข้ารับการผ่าตัดรักษาดวงตาอีกครั้ง
“จริงครับมัม ผมขอโทษที่ผมอ่อนแอและเห็นแก่ตัว ผมท้อแท้และสิ้นหวังมากไปจนลืมคิดถึงแด๊ดกับมัมที่เป็นห่วงผมมากขนาดนี้”
มาคัสพูดพร้อมกับยื่นมือออกไปข้างๆ ตัวที่มาดามแคทเธอลีนนั่งอยู่ ก่อนจะคว้าจับมือของคนเป็นแม่เอามากุมไว้แน่น พร้อมกับยกมือนุ่มขึ้นมาจุมพิตและเอามาแนบไว้ที่แก้มแล้วพูดเสียงเครือว่า
“ยกโทษให้ลูกคนนี้ด้วยนะครับมัม แด๊ด”
“มาคัส มาคัสลูกรักของมัม”
มาดามแคทเธอลีนร้องไห้โฮกับคำพูดของมาคัสออกมาทันที คารอสที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ก็พลอยน้ำตาซึมไปกับสองแม่ลูกด้วยเช่นกัน
“คิดได้แบบนี้แด๊ดกับมัมก็ดีใจมากแล้วล่ะ ยังไงก็เตรียมตัวแล้วกัน แด๊ดจะประสานงานเรื่องการผ่าตัดให้อย่างเร็วที่สุด และครั้งนี้แด๊ดก็มั่นใจมากว่าแกต้องกลับมามองเห็นอีกครั้งอย่างแน่นอน”
น้ำเสียงของคารอสบอกออกมาชัดเจนมากว่าเขามั่นใจในการผ่าตัดดวงตาครั้งนี้มากเพียงไร ยิ่งเห็นความมุ่งมั่นที่มีของมาคัสอีกครั้งก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกว่าการผ่าตัดครั้งนี้จะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน
ภายในโรงพยาบาล
มาคัสนั่งอยู่บนเตียงภายในห้องพิเศษของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งของกรุงลอนดอน หลังจากที่เขายอมที่จะเข้ารับการผ่าตัดรักษาดวงตาอีกครั้งหนึ่ง คารอสจึงรีบติดต่อกับทางโรงพยาบาลและรีบดำเนินการในทันที และวันนี้ก็เป็นวันครบกำหนดที่จักษุแพทย์จะทำการเปิดผ้าก๊อซที่ปิดดวงตาเอาไว้
จักษุแพทย์ค่อยๆ แกะผ้าก๊อซที่พันปิดตาของมาคัสออกอย่างระมัดระวัง คารอสและมาดามแคทเธอลีนต่างก็พากันลุ้นจนตัวโก่งว่าการผ่าตัดครั้งนี้จะสำเร็จหรือไม่
“คุณมาคัสค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาช้าๆ นะครับ”จักษุแพทย์บอกกับชายหนุ่มเสียงนุ่ม และมาคัสเองก็ทำตามที่แพทย์บอกอย่างเชื่อฟังคือค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ
“มาคัส...ลูกเห็นมันมั้ย”มาดามแคทเธอลีนก้าวเข้าไปหาลูกชายก่อนจะโน้มหน้าเข้าไปหามาคัสใกล้ๆ แล้วพูดต่ออีกครั้ง
“เห็นแม่มั้ยลูก”มาคัสไม่ตอบ
หากแต่ยิ้มกว้างให้กับคนเป็นแม่พร้อมกับหอมไปที่แก้มนุ่มของมาดามแคทเธอลีนทันที
“ผมรักมัมครับ” มาคัสพูดออกมาทั้งน้ำตา
“คุณค่ะ ลูกของเรากลับมามองเห็นอีกครั้งแล้วค่ะ”มาดามแคทเธอลีนพูดบอกสามีด้วยความดีใจอย่างที่สุด คารอสเองก็ดีใจที่การผ่าตัดดวงตาครั้งนี้ประสบความสำเร็จ
“ผมมองเห็นแล้วครับมัม แด๊ด”มาคัสพูดบอกออกมาเสียงดังอย่างดีใจที่ตัวสามารถกลับมามองเห็นได้อีกครั้งหนึ่ง
จักษุแพทย์เองก็รู้สึกพอใจกับผลการผ่าตัดในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน
“ถึงแม้ว่าการผ่าตัดในครั้งนี้จะทำให้คุณมาคัสกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง แต่หมออยากจะให้คนไข้พักรักษาดวงตาไปอีกสักระยะหนึ่งนะครับ ถ้าหากว่าคุณมาคัสไม่ต้องการที่จะปิดตา คุณมาคัสก็ต้องสวมแว่นกันแดดเพื่อป้องกันพวกฝุ่นละอองและก็ลม และอีกอย่างที่ต้องระวังมากที่สุดในช่วงนี้ก็คือห้ามให้น้ำเข้าตาอย่างเด็ดขาดนะครับ เพราะถึงแม้ว่าดวงตาจะเพิ่งกลับมามองเห็นก็ไม่ควรที่จะหักโหมและใช้ดวงตามากจนเกินไป ต้องให้ดวงตาได้รับการปรับสภาพให้ชิดกับแสงและสิ่งที่อยู่รอบๆ ตัวเสียก่อน”
“ข้อห้ามเยอะจังครับหมอ แล้วแบบนี้ผมจะกลับไปพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านจะได้มั้ยครับ”
มาคัสพูดถามหมอเสียงอ่อย เขาอยากที่จะกลับไปพักที่คฤหาสน์จะแย่อยู่แล้ว ที่สำคัญเขาอยากที่จะบินกลับเมืองไทยไปหาเพชรลดาใจแทบขาดแล้วตอนนี้
“ไม่ได้ๆ มาคัสต้องนอนที่โรงพยาบาลก่อน เกิดมีอะไรผิดพลาดขึ้นมาคุณหมอจะได้ช่วยเหลือได้ทัน”
มาดามแคทเธอลีนพูดขัดขึ้นทันทีที่ได้ยินว่าลูกชายอยากจะกลับไปพักรักษาตัวที่บ้านเอง
“แด๊ดก็เห็นด้วยกับมัมนะมาคัส ยังไงก็นอนอยู่ที่โรงพยาบาลน่าจะดีกว่าที่บ้าน เชื่อมัมเขาเถอะ มัมกับแด๊ดไม่อยากให้ลูกต้องกลับไปอยู่ในโลกมืดแบบนั้นอีก”
มาคัสมองสบตากับคนเป็นพ่อและแม่ด้วยความตื้นตัน ชายหนุ่มมองเห็นความรักความห่วงใยในดวงตาของแด๊ดและมัมจึงยอมทำตามอย่างว่าง่าย
“ก็ได้ครับ ผมจะพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตามความต้องการของแด๊ดกับมัม”
มาคัสคิดว่าก็ดีเหมือนกัน พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอีกสักระยะหนึ่งให้มั่นใจว่าดวงตาของเขาจะกลับมามองเห็นอย่างปกติดีทุกอย่าง ชายหนุ่มเองก็ไม่ต้องการที่จะกลับไปอยู่ในโลกมืดแบบนั้นอีกแล้วเหมือนกัน