ตอนที่ 5 ฉันไม่ใช่พ่อเธอ

1473 Words
รัณย์กลับเข้ามายังห้องทำงานของตัวเองภายในร้านจิลเวลรี่หลังจากที่สองพ่อลูกกลับไป เขาเดินมาทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ทำงาน เอนหลังพิงไปกับพนัก ดวงตาคู่คมค่อยๆ ปิดลง แล้วภาพของเด็กสาวเจ้าของใบหน้าจิ้มลิ้มก็ฉายชัดขึ้นมาในมโนภาพของเขาแทบจะในทันที รอยยิ้มสดใส ดวงตาที่เจิดจ้าเป็นประกาย น้ำเสียงใสๆ ที่เอื้อนเอ่ยออกมา ตอนนี้มันดังก้องอยู่ในโสตประสาทอย่างที่เขาไม่เคยเป็นมาก่อน "เป็นบ้าอะไรวะ ตามมาหลอกหลอนไม่เลิก" รัณย์ลืมตาขึ้นระบายลมหายใจหนักหน่วงแล้วส่ายศีรษะราวกับจะขับไล่ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในห้วงความคิดออกไปให้หมด จนเขารู้สึกปวดหัวตุบๆ รัณย์เดินไปหยิบยาแก้ปวดมาใส่ปากตนเองแล้วตามด้วยน้ำ ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาโน้มตัวไปข้างหน้า หลุมตาลงต่ำ สองมือประสานกันไว้ ศอกเท้าบนหัวเข่าอย่างคนใช้ความคิด "ลุงเป็นเจ้าชายขี่ม้าขาวของภิณนะ" "เจ้าชายขี่ม้าขาว หึ...เพ้อเจ่อสิ้นดี" รัณย์แสยะยิ้มเมื่อนึกถึงคำพูดของเด็กสาวก่อนจะเอนหลังพิงพนักโซฟาเงยหน้าขึ้นแล้วหลับตาลง เอาขาพาดกับโต๊ะกลางไว้และหลับไปในที่สุด วันต่อมา "พี่สาวคนสวยขา" น้ำเสียงใสๆ เอ่ยเรียกพนักงานสาวของร้าน จิลเวลรี่ "อ้าวน้องคนเมื่อวานนี่" พนักงานสาวคนที่ภิณเจอเมื่อวานทักทายเมื่อเงยหน้าขึ้นจากงานที่ทำอยู่ "สวัสดีค่ะ ลุงอยู่ไหมคะ หนูมาหาลุง" ภิณบอกความต้องการของตัวเองทันที "ลุง? คุณอารัณย์ใช่ไหม" พนักงานมีสีหน้างุนงงเล็กน้อย "ใช่ค่ะ" ภิณยิ้มแป้นพยักหน้าหงึกหงัก "วันนี้คุณอารัณย์ยังไม่เข้ามานะ" "เหรอค่ะ แล้วลุงจะมาตอนไหนคะ" คนตัวเล็กหน้าสลดลงทันทีอย่างรู้สึกผิดหวังที่ไม่ได้เจอคนที่เธออยากพบ "พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน ปกติคุณอารัณย์ก็มาบ้างไม่มาบ้างอยู่แล้ว ส่วนมากคุณอารัณย์จะอยู่ที่สนามแข่งรถมากกว่าที่จะมาที่ร้าน" "สนามแข่งรถเหรอคะ" ภิณมีสีหน้าผิดหวังเข้าไปอีก "ใช่จ้ะ ช่วงนี้ใกล้ถึงวันแข่งคุณอารัณย์น่าจะซ้อมอยู่ที่สนาม" "แล้วสนามแข่งรถของลุงอยู่ที่ไหนเหรอคะ พี่สาวคนสวยพอจะรู้ไหมคะ" "อยู่แถวๆ ชานเมืองเลยค่ะ มันไกลน้องไปเองไม่ได้หรอก น้องเป็นหลานคุณอารัณย์เหรอ" "งั้นหนูกลับก่อนนะคะ ขอบคุณพี่สาวคนสวยมากค่ะ" ภิณไม่ตอบคำถามของพนักงานสาว ขอบคุณเสียงแผ่วเบาอย่างคนผิดหวัง สองมือกระชับสายกระเป๋าเป้กลับหลังหัน "ระวัง!" พนักงานสาวร้องเตือนแต่ก็ไม่ทันการณ์ ปึก! ขณะที่คนตัวเล็กหันหลังจะเดินออกจากร้านจิวเวลรี่ก็ชนเข้ากับแผงอกแกร่งของใครบางคน มือหนาคว้าเอวเล็กไว้ไม่ให้ล้มหงายหลัง "ลุง" คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของแผงอกแกร่งที่เผลอเดินชน ก่อนที่ริมฝีปากเรียวเล็กจะฉีกยิ้มกว้างด้วยความดีใจ "มาทำไม" รัณย์ถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา คิ้วหนาขมวดกันเป็นปมตามแบบฉบับของเขา "มาหาลุงไง" "เธอเห็นที่นี่เป็นสนามเด็กเล่นหรือไง" "ภิณไม่ได้มาเล่น ภิณมาหาลุง ภิณมาหาลุงไม่ได้เหรอ" คนตัวเล็กเอียงคอถามอย่างน่ารักอยู่ในอ้อมแขนแกร่ง พนักงานสาวสามคนต่างหันมองหน้ากัน ขณะที่เจ้านายหนุ่มยืนประคองกอดเด็กสาววัยใสไว้ แล้วยังต่อล้อต่อเถียงกันอีก ซึ่งเป็นภาพที่พวกเธอไม่เคยเห็นมาก่อน ต่างซุบซิบกันด้วยความแปลกประหลาดใจ แต่เมื่อเจอสายตาคมจ้องเขม็งด้วยความดุดัน แผ่รังสีอำมหิตอย่างที่เคยเป็น พนักงานสาวต่างรู้สึกเย็นสันหลังวาบรีบแยกตัวกันออกไปทำงานของตัวเอง "น่ารำคาญฉิบ" รัณย์ปล่อยแขนที่ประคองคนตัวเล็กโดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัวจนล้มหงายหลัง "ว้าย!!! ...เจ็บๆ อย่างกับชนกำแพงหินแหนะ" มือหนากระชากแขนเล็กกลับขึ้นมาจนจมูกโด่งเล็กชนแผงอกของเขาเข้าอย่างแรง มือเล็กยกขึ้นจับจมูกตัวเองด้วยความเจ็บ "ปล่อยหัวฝาดพื้นตายไปเลยซะดีมั่ง" น้ำเสียงของคนตัวสูงเย็นชาและดุดันมากขึ้น "ลุงอย่าใจร้ายสิ ภิณเจ็บ เป่าให้ภิณเลยนะ" เสียงเล็กเอ่ยว่าใบหน้างอง้ำ เงยหน้ามองคนตัวสูง ดวงตากลมโตมีน้ำใสเอ่อคลอพร้อมจะไหลออกมาทุกเมื่อ ดวงตาคู่คมมองจมูกโด่งเล็กที่เป็นสีแดงก่ำ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะแรงปะทะหรือเป็นเพราะผิวขาวๆ ของเธอกันแน่ที่ทำให้ดูบอบบาง กระทบอะไรนิดอะไรหน่อยก็ขึ้นรอยแดง แต่เมื่อเห็นดวงตาของเธอก็ทำให้พอรู้ว่าเธอคงจะเจ็บจริงๆ "เกิดมาเพื่อเป็นภาระจริงๆ" คนตัวสูงเอ่ยว่าด้วยน้ำเสียงเย็นชาและแข็งกระด้าง ก่อนจะจับมือเล็กดึงเข้าไปในห้องทำงาน แต่ด้วยขาที่สั้นกว่าเขามากทำให้คนตัวเล็กก้าวเท้าไม่ทัน "โอ๊ย!!" ร่างเล็กล้มขมำลงไปกับพื้นทั้งที่มือใหญ่ยังจับมือของเธอไว้ กลายเป็นว่าเขากำลังลากเธอไปกับพื้น "เฮ้ย!!" คนตัวสูงหันมาแล้วก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น รีบเข้าประคองเธอลุก "ฮือๆ ภิณเจ็บ ลุงใจร้าย แกล้งภิณทำไม ฮือๆ" คนตัวเล็กร้องไห้โฮ ต่อว่าคนตัวสูงเสียงสะอื้น "ใครไปแกล้งเธอ ถ้าจะโทษต้องโทษที่ขาเธอสั้นเอง" "อุ้มภิณเลย ภิณลุกไม่ไหวแล้ว" เรียวแขนเล็กอ้าออกกว้างรอให้คนตัวสูงมาอุ้ม "ฉันไม่ใช่พ่อเธอนะ ถึงจะต้องมาอุ้มเธอ" "ภิณก็ไม่ให้ลุงมาเป็นพ่อภิณหรอก อุ้มภิณเลยนะ" เสียงสะอื้นแฝงไปด้วยการบังคับขู่เข็ญกลายๆ "เวรกรรมอะไรของกูวะเนี่ย" รัณย์บ่นอุบอิบอย่างหัวเสีย แต่ก็ยอมอุ้มคนตัวเล็กขึ้นมา เรียวแขนเล็กโอบรอบลำคอแกร่ง ส่วนขาขาวเกี่ยวกระหวัดเอวสอบของอีกฝ่ายทันทีเพราะกลัวตก อยู่ในท่าหันหน้าเข้าหากัน "ลุงจะไปไหน" ภิณถามหลังจากที่รัณย์วางเธอลงบนโซฟา เขาเดินออกไปทันทีโดยไม่ยอมตอบคำถามเธอ "ไปซื้อยามานี่เอง" ภิณยิ้มแป้นทันทีที่รัณย์เดินกลับเข้ามาพร้อมถุงยา "มาทำไม" รัณย์ย่อตัวลงไปตรงหน้าคนตัวเล็กเอ่ยถามเสียงเรียบขณะทายาแก้ฟกช้ำที่หัวเข่าให้เธอ "ภิณก็บอกไปแล้วไงว่ามาหาลุง" "เฮ้อ!" รัณย์ถอนหายใจออกมาหนักๆ อย่างรู้สึกเหนื่อยหน่ายหัวใจ ก่อนจะป้ายยาแก้ฟกช้ำไปที่จมูกของเธอ "ถอนหายใจมากระวังแก่เร็วนะ" "กลับไปได้ละ" คนตัวสูงบอกหลังจากทายาให้เธอเสร็จ "คุณพ่อยังไม่มารับเลย" "แล้วมาแถวนี้ทำไมทุกวัน" "มาเรียนกวดวิชา แต่วันนี้เลิกเร็ว" "ก็โทรให้พ่อมารับสิ" "ก็อยากมาหาลุง ลุงไปกินข้าวบ้านภิณไหม คุณย่าภิณทำอาหารอร่อยนะ" "ไม่ แล้วก็โทรให้พ่อเธอมารับเดี๋ยวนี้" รัณย์ปฏิเสธอย่างไม่ใยดี "ถ้าลุงจะทำงานลุงก็ทำไปสิ ภิณไม่กวนลุงหรอก" "โทรให้พ่อเธอมารับเดี๋ยวนี้" น้ำเสียงของเขาพยายามสะกดกลั้นอารมณ์ บอกกับเธออย่างเน้นย้ำชัดถ้อยชัดคำ "ภิณจะอยู่กับลุง" เสียงเล็กใสแฝงไปด้วยความจริงจังและหมายมั่นอย่างไม่ยอม ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เปิดกระเป๋าเป้ของตัวเอง หยิบหนังสือออกมา ถอดรองเท้าผ้าใบออกแล้วล้มตัวนอนคว่ำเหยียดยาวไปกับโซฟา กางหนังสือออกอ่าน "อยากโดนจับทุ่มออกไปหรือไง" คนตัวสูงตวาดเสียงดังสนั่นหู สีหน้าเคร่งขรึมจริงจัง "ลุงอย่าใจร้ายนักสิ ภิณไม่กวนลุงหรอก จะไม่ทำเสียงดังด้วย ภิณจะอ่านหนังสือเงียบๆ อยู่ตรงนี้" เสียงหวานใสออดอ้อน ดวงตากลมโตกะพริบปริบๆ "ทำไมดื้อแบบนี้วะ อย่าให้ได้ยินเสียงนะ ไม่งั้นโดนจับทุ่มออกไปข้างนอกแน่" นัยน์ตาของคนตัวเล็กเป็นประกายด้วยรอยยิ้มต่างกับคนตัวสูงที่มีสีหน้าดุร้ายสายตาดุดันคมกริบอยากจะจับเธอทุ่มออกไปเสียตอนนี้เลย แต่ก็ทำได้เพียงเดินไปนั่งทำงานที่โต๊ะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD