EP 5. บ้านน้อยหลังสีขาว
ผู้ชายคนนี้มีเสน่ห์ล้นเหลือ เขามีพลังบางอย่างที่สามารถสะกดให้เธอยอมศิโรราบ ทั้งที่เธอพยายามจะปฏิเสธมัน ทำไม...ทำไมเธอจึงไม่อาจบงการหัวใจตัวเอง
“ความจริงฉันไม่เห็นความจำเป็นที่เธอต้องไปอุ้มบุญให้อินตรา เพราะถ้าเธออยากมีลูก ฉันสามารถทำให้เธอได้ หัวปีท้ายปีเลยก็ยังไหว สนใจหรือเปล่าดารินทร์” เขากระซิบแผ่วที่ข้างหูด้วยถ้อยคำดูหมิ่น หญิงสาวใบหน้าแดงก่ำเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่น
“สำคัญตัวเองผิดไปหรือเปล่าคะคุณอเล็กซานโดร” น้ำเสียงเย็นชาของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของบ้านเลิกคิ้วขึ้นสูงแล้วปล่อยหญิงสาวออกจากอ้อมกอด พิศมองใบหน้าโกรธขึ้งของหญิงสาวตรงหน้าด้วยความแปลกใจ
“ฉันอุ้มท้องเด็กคนนี้เพราะอินตรา ไม่ใช่เพราะคุณ อย่าคิดเข้าข้างตัวเองว่าฉันจะหลงรูปจนยอมนอนกับคุณ จำเอาไว้ด้วยว่าคุณจะเป็นผู้ชายคนสุดท้ายที่ฉันจะเหลียวมอง” เธอมองเขาอย่างไม่ยอมแพ้ แม้เธอจะขอความช่วยเหลือจากเขา แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะมีสิทธิ์เหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเธอได้ตามอำเภอใจ
“อย่างนั้นเชียวหรือ” เขาดูขบขันมากกว่าจะโกรธเคืองในขณะที่หญิงสาวร่างเล็กโกรธจนควันแทบออกหู ใบหน้าของเธอแดงก่ำจนเขาอยากยื่นมือไปหยิกแต่ก็กลัวว่าจะทำให้เธอโกรธมากไปกว่านี้ ซึ่งคงไม่ส่งผลดีกับเด็กในท้องนัก
“ใช่ ฉันรังเกียจคุณเสียยิ่งกว่าไส้เดือนกิ้งกือ ผู้ชายที่มีดีแค่หน้าตาอย่างคุณไม่เคยอยู่ในสายตาฉันหรอก” เธอพยายามหาถ้อยคำเผ็ดร้อนเพื่อต่อว่าเขา ทว่าเขากลับทำแค่เลิกคิ้วสูงแล้วยักไหล่อย่างไม่สะทกสะท้าน
“คุณมันคนเจ้าชู้มักมาก ชาตินี้คงไม่มีผู้หญิงคนไหนจริงใจกับคุณแน่ คุณต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวไปตลอดชีวิต เพราะคุณมันเผด็จการ เห็นแก่ตัวที่สุด” หญิงสาวหายใจหอบ ใบหน้าแดงก่ำสลับซีดขาวในขณะที่ อเล็กซานโดรมองเธอด้วยสายตาที่ทำให้เธอรู้สึกร้อนไปทั้งตัว
“พูดไปก็เท่านั้นเพราะต่อมสามัญสำนึกของคุณคงพิการไปแล้ว” หญิงสาวหมุนตัวหมายจะเดินหนีไปให้พ้นๆ จากชายหนุ่มเพราะเถียงไปก็รังแต่จะแพ้ ทว่าจังหวะนั้นเองอเล็กซานโดรกลับรั้งข้อมือของเธอเอาไว้แล้วกระชากเบาๆ ร่างเล็กก็ถลาเข้ามาในอ้อมกอด หญิงสาวเงยหน้าขึ้นหมายจะร้องประท้วงแต่ริมฝีปากหยักหนาได้รูปกลับฉกฉวยริมฝีปากของเธออย่างรวดเร็ว
“อือ...” ดารินทร์พยายามจะร้องประท้วงแต่นั่นกลับกลายเป็นว่าเธอเปิดโอกาสให้เขาแทรกลิ้นร้อนเข้ามาควานหาความหอมหวานภายในกลีบปากสีกุหลาบได้อย่างง่ายดาย
จูบแรก...
ทั้งยังไม่ประสากับสัมผัสชาย ทำให้หญิงสาวตัวสั่นราวกับลูกนก หัวสมองหมุนคว้าง ตัวเบาโหวง หัวใจหวิวไหว ปลายเท้าแทบยืนไม่ติดพื้น เมื่อลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัดและรุกไล่ เธอก็ระทวยอยู่ในอ้อมกอดของเขา หญิงสาวมีโอกาสหายใจได้เต็มปอดเมื่อเขาค่อยๆ ถอนจูบออกไป แต่แล้วเขากลับบดเบียดด้วยจูบร้อนอีกครั้ง คราวนี้มือหนาเลื่อนจากต้นคอลงไปยังแผ่นหลัง โอบที่เอวแล้วเลื่อนต่ำลงไปที่สะโพกอย่างตรวจตรา
“ไม่...” เธอเบือนหน้าหนีรสจูบด้วยความตกใจ สติที่เตลิดหายกลับคืน ทว่าคนตัวโตกลับไม่ปล่อยโอกาสให้เธอได้ผลักไส เขาใช้อีกมือรวบท้ายทอยของเธอให้หงายเงยรับจุมพิตดูดดื่มได้อย่างถนัดถนี่ มือที่กุมสะโพกไว้เลื่อนชุดคลุมท้องขึ้นสูงแล้วสัมผัสที่ท้องของดารินทร์แผ่วเบา
“ฉันแค่อยากพิสูจน์ว่าเธอท้องจริงๆ ไม่ใช่ท้องลมเหมือนน้องสาวของเธอ” เขาผละออกจากร่างบางแล้วเหยียดยิ้ม แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อเห็นว่าดารินทร์ยืนอึ้ง น้ำตาร่วงเผาะลงอาบแก้ม ใบหน้าของเธอซีดเผือด
“คะ...คุณ คุณ...”
“คุณใจร้ายมาก” ต่อว่าด้วยเสียงแหบโหยคล้ายกลั้นสะอื้นก่อนที่สติสุดท้ายจะดับวูบลง
“ดารินทร์!” เขารีบคว้าร่างบางเอาไว้อย่างรวดเร็ว อุ้มเข้าไปในห้องนอนแล้ววางเธอลงบนเตียงอย่างทะนุถนอม
“ถึงกับเป็นลมเลยเหรอ” ชายหนุ่มยกมือขึ้นบีบที่สันจมูก ขณะมองแม่บ้านทำการปฐมพยาบาลหญิงสาว รู้สึกใจไม่ดีที่เป็นต้นเหตุทำให้หญิงสาวเป็นลม
เขายอมรับเลยว่าแค่คิดจะจูบแกล้งคนปากดีเท่านั้น ทว่าเมื่อได้ลองลิ้มรสหวานกลับทำให้เขามิอาจถอดถอนจากความหวานปานน้ำผึ้งรวงได้เลย เขาได้แต่ดื่มด่ำมันอย่างกระหายราวดื่มกินน้ำหยดสุดท้ายท่ามกลางทะเลทรายร้อนระอุ เธอทำให้เขาร้อนและต้องการเพียงเพราะท่าทางไม่ประสา เนื้อตัวที่สั่นเทายามเขาโลมไล้กอบกุมสะโพกสวยเอาไว้นั้นปลุกความเป็นนักล่าในกายของเขาให้ตื่นขึ้น
ผู้หญิงแบบนี้น่ากลัว!
ชายหนุ่มบอกกับตัวเองขณะทอดมองใบหน้าซีดเผือดราวกับเธอคือนางแม่มดร้ายที่ไม่น่าเข้าใกล้ แค่เธอยืนเฉยๆ ยังมีอิทธิพลกับเขาได้มากขนาดนี้ แล้วถ้าวันหนึ่งเธอคิดยั่วยวนเขาขึ้นมาล่ะ คิดได้ดังนั้นแล้วก็ส่ายหน้าหวืออย่างไม่อยากคิดต่อ เขาจะแพ้อย่างหมดรูปเพราะยายผู้หญิงท้องโตหน้าจืดๆ นี่น่ะเหรอ
ไม่มีทาง!