บทที่ 2 หลุดเข้ามาเป็นนางร้ายที่จะตายอย่างอนาถ

2168 Words
กึง กึง ล้อเกี้ยวม้ากระทบตกหลุมล่องจนเกิดเสียง ภายในรถม้าปรากฏร่างของหญิงสาวสองนาง เครื่องแต่งกายถูกขโมยไปจนหมดเหลือไว้เพียงชุดผ้าไหมราคาแพงเท่านั้นที่ติดตัว ทั้งสองยังคงไม่ได้สติ หนึ่งสตรีนอนอยู่ริมสุด ขณะที่อีกหนึ่งพิงตัวพาดชิดผนัง ศีรษะเล็กโงนเงนกระแทกกระดอนไปมากับขอบหน้าต่างรถม้า แรงสั่นสะเทือนดังปึกๆ ส่งผลให้เปลือกตามีการเคลื่อนไหว จากการปลุกสุดเจ็บปวด เปลือกตาของหญิงสาวจึงค่อยๆ ปรือขึ้นมาอย่างช้าๆ แสงจากพระจันทร์เอนไหว ส่องกระทบดวงตากลมโตติดเฉี่ยวเล็กน้อยคู่สวย แพขนตาหนาพลิ้วไหวขึ้นลงตามการกะพริบถี่ของเจ้าตัว จมูกโด่งเป็นสันดูรั้นนิดๆรับกับริมฝีปากอวบอิ่มสีกุหลาบได้รูป องค์เครื่องหน้าประกอบกันแล้วช่างงดงามราวกับบรรจงปั้น คิ้วเรียวเรียงตัวสวยขมวดเข้าหากัน ปวดหัว.. คือสิ่งแรกที่เธอคิด และอาการถัดมานั้นคือช็อคสุดขีด อะไรกันวะเนี่ย!! ซินดี้จำได้ว่าตัวเองถูกคานทับตาย เอาล่ะเธอคิดว่าข่าวหน้าหนึ่งคงจะประมาณนี้ ‘หญิงสาวสุดสวยดวงกุดถูกคานหล่นทับดับอนาถขณะที่วิ่งหนีตายในผับย่าน xxx สาเหตุหลักของการเกิดโศกนาฏกรรมนี้คือหมากฝรั่งเป็นผู้คร่าชีวิตของเธอ!!’ ถ้าเธอกลายเป็นผีละก็จะไปตามหาเจ้าของหมากฝรั่งหลอกให้หัวล้านเลยคอยดูสิ! เธอข่มเขี้ยวเคี่ยวฟันคาดโทษเจ้าของหมากฝรั่งไว้ในใจและจะขอด่าต่อ ๆ ไปทุกภพทุกชาติ! แต่ว่าในตอนนี้ช่างหัวหมากฝรั่งไปก่อนแล้วกัน เพราะสิ่งที่เธอกำลังตระหนักมากที่สุดนั่นคือตอนนี้เธออยู่ที่ไหน.. สายตามองสอดส่องไปรอบด้าน ขณะที่เธอพยายามขยับทว่าไม่สามารถลุกเขยื้อนตัวได้ดั่งใจ เมื่อก้มลงมองบนตัวก็พบว่าตัวของเธอถูกมัดไว้ด้วยเชือกสีน้ำตาล มันถูกพันไว้หนาประมาณสองสามรอบเห็นจะได้ ความรู้สึกอัดอึดที่ถูกรัดตัวเป็นความรู้สึกเดียวกันกับที่เกิดขึ้นบริเวณข้อเท้าของเธอ ซินดี้จึงก้มมองยังปลายเท้าและพบว่ามันถูกมัดรวบไว้เช่นเดียวกัน “...” ตัวของเธอชะงักลง สะบัดหน้าสองสามทีเรียกสติ พยายามประมวลผลตามความเข้าใจของตัวเอง.. ‘อะไรกัน นี่คือการพาไปสวรรค์แบบใหม่งั้นเหรอ เซอร์วิสแย่มากนะคะ มีกดปุ่มดิสไลก์ตรงไหนรึเปล่าเอ่ย’ เธอเอียงคอนั่งคิดติดตลกอยู่ประมาณสองวินาทีและ ....ดิสไลก์กับผีหน่ะเส้!!! นี่มันผิดปกติมากนะนังซินดี้! หญิงสาวมีทีท่าหวาดผวามองรอบตัวอย่างถี่ถ้วนอีกครั้ง เธอกำลังสวมชุดฮั่นฝูสีเหลืองอมน้ำตาลเข้ม ซึ่งเธอแอบคิดในใจว่าเป็นสีที่คล้ายกับขี้สิ้นดีใครเป็นคนเลือกให้เธอใส่กัน ทำร้ายกันทางอ้อมชัดๆ! ชั่วขณะที่กำลังก้มด่าเสื้อผ้าของตัวเอง มันได้มีลมพัดผ่านเข้ามา เธอได้กลิ่นของป่าและดินชื้นผ่านเข้ามาจากช่องว่างของหน้าต่าง ประกอบกับรถม้าเก่าๆหนึ่งคันที่เธอกำลังนั่งอยู่ มันกำลังวิ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็ว และเสียงควบม้าวิ่งขนาบข้างจากด้านนอก เหตุการณ์แบบนี้.. เธออยู่ที่ไหนกันล่ะวะคะ!! ตอนนี้เธอรู้แค่ว่าเธอโผล่เข้ามาที่ไหนสักที่และสถานการณ์ตอนนี้ไม่ได้สู้ดีนัก เพราะมันคือการลักพาตัวตามฉบับในนิยายที่เธอเคยอ่านชัดๆเลยไม่ใช่เหรอ! อีกทั้งการใช้รถม้าเก่าๆแบบนี้เป็นไปได้ว่าเธออาจทะลุมิติโผล่เข้ามาในยุคจีนโบราณก็เป็นได้.. “บ้ารึเปล่า” ซินดี้สงบจิตสงบใจเหยียบความขี้มโนของตนเองให้จมดินไปก่อน ไม่มีทางหรอกน่า คนเราจะตายแล้วทะลุมิติมาอีกร่างหนึ่งได้จริงเหรอ! ในขณะนั้นเองที่เสียงพูดคุยจากภายนอกดังลอดเข้ามาให้ได้ยิน สิ่งที่น่าตกใจนั่นคือมันเป็นเสียงพูดคุยกันเป็นภาษาจีน ซึ่งเธอไม่ควรจะเข้าใจเพราะเธอมันไทยแท้ แต่ที่มันน่าตกใจยิ่งกว่าคือเธอสามารถเข้าใจพวกเขาชัดเจนทุกถ้อยคำ! “ครั้งนี้ได้มาถึงสองคนเลยรึ” “ขอรับ สินค้าชั้นดี เป็นสตรีสูงศักดิ์ทั้งคู่” “น่าแปลก ไม่ใช่ว่าเราได้รับค่าจ้างมาแค่ส่วนของสตรีหนึ่งในนั้นหรอกรึ” “ใช่แล้วขอรับ แต่ช่วงเช้ามืดของคืนก่อนมีขุนนางหนุ่มผู้หนึ่งตรงเข้ามาพร้อมกับวางเงินจำนวนมาก ราวกับล่วงรู้อยู่แล้วว่าพวกเราคือกลุ่มพ่อค้าทาสหาใช่พ่อค้าทั่วไปไม่ คำขอของเขาช่างน่าแปลก บอกให้ปล่อยสตรีที่กำลังจะถูกจับตัวไปและแลกตัวของสตรีอีกผู้หนึ่งมาแทน ขุนนางหนุ่มผู้นั้นได้บอกชื่อและพรรณนาลักษณะของนางไว้อย่างชัดเจนเชียว” “เป็นผู้ใด” “แม่นางเสวี่ยซิน ดอกไม้แห่งแคว้นต้าฉินขอรับ” “เผ้ย! เจ้ารับค่าจ้างมาโดยไม่คำนึงถึงผลลัพธ์เลยรึไง นางเป็นที่จับตามองถึงเพียงนั้น พวกเราไม่พาลเดือดร้อนกันเพราะนางในภายหลังหรอกรึ!” “พี่ใหญ่ท่านใจเย็นก่อน ท่านไม่รู้อะไร แม่นางผู้นี้จิตใจหยาบช้า ล้างผลาญเงินตระกูลไปกับการร่ำสุราจัดงานรื่นเริงเป็นว่าเล่น เหยียบย่ำผู้คนตาดำๆ น่าสงสารและต่ำต้อย ยกตัวเองสูงส่งเทียบราชวงศ์สร้างศัตรูมากกว่าสร้างมิตรทั่วแคว้น หากจะตะขิดตะขวงใจสงสัยเราป่านนั้นพวกเราคงพ้นนอกด่านไปแล้ว” “..ไยจึงไม่ทำตามคำขอ กลับจับมาถึงสองคน ข้ามิต้องหาชุดคลุมหัวเพราะความสะเพร่าที่เจ้าก่อรึ!” “พี่ใหญ่ เห็นกองเงินตรงหน้าเช่นนี้แล้วจะปล่อยผ่านไปได้อย่างไร สุดท้ายเราก็หนีออกนอกด่านอยู่ดี เบื้องหน้าเราเป็นเพียงพ่อค้าเร่เดินทางพักแรมตามเมืองเท่านั้น เพียงเพิ่มคนมาอีกสักคนย่อมไม่เป็นที่สงสัย หากผ่านพ้นหน้าด่านทิศเหนือของแคว้นต้าฉินไปยังแคว้นจางได้สำเร็จเราก็รอดแล้ว” “อืม.. ที่เจ้าพูดมาก็มีเหตุผล ฮ่าๆ ข้าชักอยากจะเชยชมแม่บุปผางามของแคว้นต้าฉินเร็วๆเสียแล้วสิ เฮ้ย! พวกเราเร่งฝีเท้าเต็มกำลัง!” มันหันไปออกคำสั่งด้วยความกระตือรือร้น พร้อมกับคำตอบรับจากลูกน้องของมันมากกว่าสิบชีวิต ส่วนซินดี้นั้นได้นิ่งค้างไปตั้งแต่คำว่าจ้าวเสวี่ยซินแล้ว และยิ่งมั่นใจขึ้นอีกเมื่อเธอได้ยินคุณศัพท์ชั้นดีประจำตัวของแม่นางร้ายในนิยายที่เธอเพิ่งอ่านบทสรุปไป! เธอสัมผัสได้ถึงคราวซวยของตน จึงอุทานออกมาเบาๆว่า “ฉิบหายล่ะ!" เธออดไม่ได้ที่จะหันหน้าไปมองยังสตรีที่ยังคงไม่ได้สติตรงมุมหนึ่งของตัวรถม้า เนื่องจากเป็นคาราวานลำเลียงสินค้า ข้างในตัวเกี้ยวม้าจึงค่อนข้างที่จะกว้างแต่มันก็ถูกหีบกล่องไม้เล็กใหญ่กินพื้นที่ไปแล้วกว่าครึ่ง หญิงสาวสวมอาภรณ์สีอ่อนนอนฟุบลงบนกล่องไม้ใหญ่กล่องหนึ่ง เธอมองนางได้ไม่ถนัดตานักแต่แสงที่ส่องผ่านเข้ามาเป็นช่วง ๆ ทำให้พอมองออกมาว่าแม่นางคนนี้เป็นคนที่งดงามพอตัว ซินดี้สูดหายใจเข้าออก เอาล่ะ ตอนนี้เธอจะชื่อจ้าวเสวี่ยซินผู้เป็นนางร้าย หรือ หลานอี้หนานกันผู้เป็นนางเอก มาลุ้นกันค่ะ!! หญิงสาวขยับตัวเข้าไปใกล้อย่างอยากลำบากเนื่องจากยังมีเชือกมัดรอบตัวเธออยู่ ในที่สุดซินดี้ก็ลากสังขารครูดกับพื้นมาหยุดตรงหน้าแม่นางผู้นี้ได้สำเร็จ เธอถอนหายใจ ระหว่างพินิจมองใบหน้าของหญิงสาวตรงหน้า อืม.. ยิ่งมองใกล้ๆก็ยิ่งพบว่าแม่นางผู้นี้ช่างมีใบหน้าที่น่ารักน่าชังเสียงจริง ปากนิดจมูกหน่อยพวงแก้มสีแดงระเรื่อราวกับตุ๊กตาปั้น โว้ยมันใช่เวลาไหมล่ะ! ซินดี้สบถกับตัวเองภายในใจ เธอเองก็จำเนื้อเรื่องได้เพียงคล่าวๆ ส่วนมากจะฟินกับช่วงพ่อพระรองไมโครเวฟเสียมากกว่า แต่หากเป็นยามต้นเรื่องเธอก็พอถูไถจำได้ลางๆอยู่บ้าง ริมฝีปากอวบอิ่มของหญิงสาวถูกเม้มเข้าหากัน ระหว่างนั้นก็บ่นกับตัวเองภายในใจว่าเธอจะดวงซวยอีกหรือไม่ ซินดี้เลือกมองหาสิ่งที่คาดว่าจะเป็นตัวบ่งชี้ถึงตัวตนของเจ้าตัว และในที่สุดเธอก็พบ ซึ่งเธอพบมันได้แสนง่ายดาย เพราะมันคือรอยแผลแห้งที่หูข้างขวาของนางนั่นเอง ซึ่งสาเหตุก็เกิดจากที่ตัวของนางร้ายได้กระชากต่างหูหยกที่เฉียนยี่เป็นผู้มอบให้เป็นของขวัญวันเกิดด้วยความอิจฉาตาร้อนก่อนที่แม่นางเอกจะหายตัวไปนั่นเอง “ไอ้!!!!!” อยากจะร้องดังๆอย่างหยาบคายแต่ทว่าเธอจำต้องกลืนคำสบถลงคอไปเสียก่อน เพียงแต่ในวินาทีถัดมา ทันทีที่รู้ตัวว่าเธอเข้ามาสวมร่างนางร้ายที่กำลังจะตายด้วยการถูกจิ้มคอหอยแล้ว ความรู้สึกปวดหัวเหมือนดั่งตอนแรกได้ตีขึ้นมาอย่างฉับพลัน ความทรงจำต่าง ๆ ก่อนที่เธอจะฟื้นคืนสติแต่กลับจำไม่ได้ประดังประเดเข้ามาไม่คาดสาย วีรกรรมชั่วช้าต่าง ๆ นานาของนางในอดีตถูกฉายย้อนขึ้นมาเป็นฉากๆ ทุกฉากที่ผ่านเข้ามานั้นราวกับว่านางได้นั่งดูอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นการกลั่นแกล้งเฉียนยี่น้องชายของตนเอง ลักขโมยเครื่องหยกและเพรชพลอยไปขายเพื่อนำมาจัดงานรื่นเริงและเล่นการพนัน กลั่นแกล้งนางเอกสารพัดวิธี เช่นการผลักตกน้ำ ขยำข้าวคลุกกับดินให้กินเมื่อมีโอกาส และที่เด่นชัดสุดในความทรงจำและเป็นความทรงจำที่ยาวนานที่สุดก็คือช่วงที่นางเพิ่งพ้นวัยปักปิ่น ไม่รู้ว่านางเอาความใจกล้ามาจากไหนวางยาท่านแม่ทัพเฉินปีนขึ้นเตียงเขา!! ทว่าท่านแม่ทัพได้รับราชโองการมีกำหนดการประจำยังหัวเมืองทิศบูรพาภายในสามวันหลังจากได้รับตำแหน่งในทันที จ้าวเสวี่ยซินช้ำใจหนัก นอกจากบุรุษในดวงใจจะฟันนางแล้วทิ้ง ตัวเขากลับห่างหายไร้การติดต่อนานถึงห้าปี ความเป็นบ้าของนางจึงยิ่งเพิ่มมากขึ้นนับแต่นั้น อีกทั้งข่าวว่าท่านแม่ทัพได้ส่งของบรรณาการกลับมาให้กับราชครูในทุกปี และเพื่อแผ่ไปยังบุตรสาวของเขาแล้วด้วยยิ่งทำให้นางสติแตก ยามนี้จ้าวเสวี่ยซินมีอายุครบยี่สิบหนาว พ้นวัยออกเรือนมามากแล้วแต่ทว่านางก็ยังคงรอให้เฉินเฟยหยางกลับมา ซึ่งต่างจากบุตรสาวราชครูหลาน หลานอี้หนาน ที่ตั้งมั่นว่าจะไม่ออกเรือนจนกว่าจะพบบุรุษที่ผูกดวงชะตาคู่กันเท่านั้น เวลาล่วงเลยจนกระทั่งนางอายุครบยี่สิบหนาว ตามธรรมเนียมของแคว้นต้าฉิน หญิงสาวที่ยังไม่ออกเรือนจะต้องทำพิธีปักปิ่นอีกครั้งในทุกๆห้าปี ราวกับเป็นการย้ำเตือนให้รีบออกเรือน และเป็นการประกาศหาคู่ครองอีกทางหนึ่งเช่นกัน ทั้งนี้ทั้งนั้น ทันทีที่ข่าวแพร่กระจายออกไป ทางหน้าด่านทิศบูรพาก็มีการเคลื่อนไหวส่งของบรรณาการเข้ามาซ้ำอีกครา ราวกับเป็นกล่าวโดยนัยว่าแม่ทัพเฉินต้องตาต้องใจในตัวบุตรสาวราชครูเข้าแล้ว ด้วยความริษยาเป็นทุนเดิมทำให้นางเลือกใช้วิธีที่น่ารังเกียจที่สุด อย่างการจ้างวานพ่อค้าทาสให้พาตัวของหลานอี้หนานไปขายทิ้งเสีย ภาพของสตรีสวมอาภรณ์สูงศักดิ์วางเงินมากกว่าสองถุงใหญ่ลงบนโต๊ะไม้ พร้อมกับริมฝีปากที่กำลังแสยะยิ้มร้ายกาจนึกถึงศัตรูหัวใจ เป็นภาพความทรงจำสุดท้ายที่ซินดี้ได้เห็น "...." เอิ่ม.. …หญิงสาวที่รับข่าวสารในคราวเดียวอยู่ในสภาพมึนตึ๊บ สมองทำงานหนักชั่วขณะจนเกือบจะขอกัดลิ้นตัวเองตายอีกรอบ นอกเหนือจากความชั่วร้ายในนิยายที่กำลังจะเกิดขึ้นแล้ว ยังมีความฉิบหายก่อนหน้าที่ทำไว้อีกเรอะ!! ซินดี้หรือต้องยอมรับว่าตัวเองคือจ้าวเสวี่ยซินนางร้ายในนิยายที่มีชะตาต้องตายโดยการถูกเสียบคอหอย นางมีเพียงคำพูดเดียวที่ต้องขอมอบให้กับตัวของนางเองนั่นคือ.. ‘อีเด็กเปรตตตตตตตตตตต!!!!!'
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD