พล็อตเรื่องน้ำเน่า แต่นับว่าเป็นนิยายเรื่องโปรดของเธอและยังเป็นเรื่องที่โด่งดังในอินเทอร์เน็ตมากทีเดียว ได้รับการพูดถึงว่ามีชั้นเชิงทางวรรณศิลป์และวางปมปริศนาต่างๆ ในเรื่องได้ดี เสียอย่างเดียวคือนิยายออกมาได้เล่มที่สามแล้วยังไม่มีวี่แววจะจบเลยแม้แต่น้อย ได้ยินมาว่านักเขียนหยุดเขียนไปดื้อๆ การเคลื่อนไหวบนอินเทอร์เน็ตก็ไม่มี ซ้ำบรรดานักอ่านยังไม่มีใครรู้ว่าผู้เขียนคือใคร รู้จักกันแต่เพียงนามแฝงบนเว็บไซต์ที่ลงนิยายให้อ่าน สำนักพิมพ์ที่เป็นผู้เช่าซื้อลิขสิทธิ์นิยายเรื่องนี้ก็ปิดเงียบแม้ว่าจะถูกแฟนหนังสือโวยวาย ซ้ำยังให้คำตอบไม่ได้ด้วยว่านิยายเรื่องนี้จะจบเมื่อไร ขนาดเล่มต่อไปออกเมื่อไรยังบอกไม่ได้เลย
ความหวังริบหรี่ มีแววถูกลอยแพสูง แต่ถึงอย่างนั้น มีนาก็ยังจะซื้อนิยายเรื่องนี้มา และก็ไม่ได้มีอารมณ์จะมาสนใจเรื่องของคนอื่นในตอนนี้ด้วย เธอพยายามเพ่งสมาธิอ่านเนื้อหาในหนังสืออย่างสุดความสามารถ หากแต่การอ่านนิยายเรื่องโปรดของเธอในวันนี้มันช่างไม่ได้อรรถรสเอาเสียเลย อ่านไปก็หงุดหงิดไปกับการพร่ำพรรณาของพระรองที่มีต่อนางเอก
‘แม้ตัวข้าต้องตาย ข้าก็จะขอรักมั่นเพียงเจ้า’
‘ต่อให้ดวงใจของเจ้าไม่เคยมีข้า ข้าก็จะรักเพียงเจ้า’
‘ข้า...คิมคังยูจะขอรักเพียงแต่เจ้า’
รักกันเข้าไป น่ารำคาญ!
โสดแล้วพาลคือมีนาคนนี้นี่เอง ยิ่งอ่านยิ่งอารมณ์เสีย ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้จะรักผู้หญิงที่ไม่เคยเห็นค่าตัวเองไปถึงไหน นางเอกก็เล่นตัวเหลือเกิน ทั้งที่อีกฝ่ายออกจะแสนดี ดูแลใส่ใจมากกว่าพระเอกของเรื่องเสียอีก
ถ้าจะไม่ชายตาแลมองขนาดนี้ล่ะก็นะ เสียของชะมัด!
อดคิดไม่ได้เลยว่าถ้าเธอเป็นยัยนางเอก เธอคงจะเป็นฝ่ายตบแต่งผู้ชายที่ชื่อคิมคังยูคนนั้นเป็นสามีโดยไม่ต้องรอให้ฝ่ายนั้นพาผู้ใหญ่มาทาบทามแล้ว ดีไม่ดีจะเป็นฝ่ายจับพระรองปล้ำด้วย
ยิ่งอ่านก็ยิ่งหงุดหงิดที่นางเอกหักหาญน้ำใจพระรองอย่างไม่น่าให้อภัย
ถ้าไม่เอาก็ส่งมานี่ คิดว่าผู้ชายดีๆ อย่างนั้นหาจากที่ไหนบนโลกนี้ได้อีกหรือไงแม่คนเรื่องมาก!
อินอะไรเบอร์นี้ กระแทกหนังสือลงบนพื้น ดันตัวขึ้นนั่ง ยกมือไหว้ท่วมหัวไปอีก
“ถ้าสวรรค์มีจริงหรือนรกมีตาก็ส่งผู้ชายคนนี้มาให้ลูกด้วยเถ๊อะ ผู้ชายดีๆ แบบนี้ ถ้าแม่นั่นไม่เอา ลูกจะเอาเอง สาธุ!”
กะอ่านนิยายให้คลายเครียดแท้ๆ กลายเป็นเครียดกว่าเดิมเสียอีก
มีนาพ่นลมหายใจออกมาเต็มแรง คว้าขวดโซจูมากระดกดื่มระบายความหัวเสียอีกครั้ง ตอนนี้ไม่มีอะไรทำแล้วจึงเข้าสู่โหมดเครียดรับประทาน ซัดทุกอย่างที่ซื้อมาจากซูเปอร์มาร์เก็ตเข้าปาก ความขมฝาดของเหล้าโซจูในตอนแรกเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นรสชาติหวานล้ำเมื่อเริ่มรู้สึกมึนเมา
ไม่แน่ใจนักว่าเธอดื่มไปกี่ขวด รู้เพียงแต่ว่าสิ่งสุดท้ายที่เธอเห็นคือภาพผนังห้องหมุนคว้างก่อนจะผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว
รุ่งอรุณใหม่มาถึง แสงสีทองที่สาดส่องผ่านผ้าม่านมากระทบเปลือกตาปลุกให้หญิงสาวต้องลืมตาตื่นด้วยรำคาญแสงที่แยงตา ร่างบางบิดตัวพลิกอย่างเกียจคร้านครู่หนึ่ง หากแต่พอจะผงกศีรษะขึ้นมาด้วยหมายจะไปเข้าห้องน้ำ เจ้าหล่อนก็ต้องฟุบลงนอนไปอีกรอบด้วยมึนศีรษะสุดกำลัง
เมื่อคืนนี้ท่าทางจะดื่มหนักไป...
มือที่ปัดไปโดนขวดเปล่าเกลื่อนกลาดข้างตัวบอกให้รู้ว่าเมื่อคืนนี้เธอดื่มหนักมากจริงๆ
เสียผู้เสียคนสุดๆ
หญิงสาวอดต่อว่าตัวเองไม่ได้ ดีที่วันนี้ไม่มีตารางเรียนหรือกิจกรรมใดๆ เธอจึงสามารถนอนต่อได้
ร่างเล็กยังคงขยับไปมาบนพรมเพื่อขับไล่ความเมื่อยขบ เมื่อคืนไม่ได้ไปนอนที่เตียงเพราะเมาหลับไปก่อน แต่เมื่อรู้ตัวก็ไม่ได้พยายามที่จะพาตัวเองไปนอนยังที่ที่สมควรนอนแต่อย่างใด นอกจากปิดเปลือกตาอยู่อย่างนั้น พลิกตัวไปอีกฝั่งหนึ่งที่ไม่มีขวดเหล้าเปล่าเกลื่อนกลาด
เมื่อคืนทั้งกินทั้งดื่มประชดชีวิตไปแล้ว งั้นวันนี้ก็จะขอนอนประชดชีวิตด้วยเลยแล้วกัน!
ประชดทุกอย่างให้สาแก่ใจกับชีวิตรักซังกะบ๊วย นอนให้ตาย นอนให้ปวดหัวไปเลย อย่างน้อยการนอนหลับก็ทำให้หยุดคิดถึงเรื่องผู้ชายคนนั้นไปได้ช่วงเวลาหนึ่ง
ทว่ามีนาไม่ได้หลับสมดังใจด้วยจังหวะที่พลิกตัวนั้น มือของเธอพาดผ่านไปโดนบางสิ่งที่สร้างความรู้สึกแปลกประหลาด
แข็ง...และอุ่น
ไม่ใช่อะไรลามกเทือกนั้น แต่เป็นร่างกายของมนุษย์ต่างหาก สัมผัสมันทำให้เธอรู้สึกราวกับว่ามีใครมานอนอยู่ข้างๆ
เดี๋ยวนะ! มีใครมานอนข้างๆ งั้นเหรอ!
มีนาลืมตาขึ้นทันทีแล้วก็ต้องเบิกโพลงกว้างเมื่อเห็นว่าบางสิ่งที่เธอกำลังเอาแขนพาดอยู่เป็นร่างกายของผู้ชายคนหนึ่งที่เธอไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน
คะ...ใครเนี่ย!
สัญชาตญาณส่งผลให้เธอรีบลุกขึ้นยืนพรวดพราด ถอยหลังกรูดไปติดกำแพงห้องอย่างรวดเร็ว ความเมามายมึนหัวอะไรที่เล่นงานอยู่ก่อนหน้าหายวับไปกับตาราวกับไม่มีแอลกอฮอล์ตกค้างในกระแสเลือดมาก่อน ตอนนี้เธอเอาแต่จ้องอีกฝ่ายเขม็งและยิ่งระวังตัวมากขึ้นไปอีกเมื่อผู้ชายคนนั้นค่อยๆ ขยับตัวและส่งเสียงครางออกมา
จับใจความไม่ได้เลยแม้แต่น้อยว่าผู้ชายคนนั้นพูดว่าอะไร แต่มีนาก็ไม่มีอารมณ์จะมาใคร่ครวญอะไรแล้ว พุ่งตัวไปคว้าขวดโซจูเปล่ามาไว้ในมือเป็นที่เรียบร้อย กะว่าถ้าผู้ชายตรงหน้าจะทำมิดีมิร้าย เธอจะใช้ขวดฟาดให้หัวแตกไปเลย
หากแต่เขาไม่ทำอะไร เพียงแค่ขยับตัวและส่งเสียงอืออาในลำคออย่างที่เห็น เปลือกตายังไม่เปิดเลยด้วยซ้ำ เห็นอย่างนั้น ในหัวของมีนาก็คิดวุ่นเป็นพัลวัน
เข้ามาได้ยังไงน่ะ หรือว่า...เมื่อคืนจะเมาจนเผลอไปหิ้วผู้ชายเข้าห้อง!?
คิดแล้วก็อ้าปากค้างด้วยไม่อยากเชื่อว่าตัวเองจะเหลวแหลกได้ถึงขนาดนี้
นี่หล่อนลากผู้ชายมาปล้ำถึงในห้องเลยเหรอไอ้มีนา!
รู้ถึงไหน อายไปถึงนั่น มุดหัวหนีอายไปถึงเปลือกโลกชั้นแม็กม่าแล้วยังไม่หายอายเลย แต่พอคิดๆ ดูอีกทีแล้วมันไม่น่าจะเป็นไปได้เลยด้วยซ้ำ คนอย่างเธอเนี่ยนะที่จะลากผู้ชายเข้ามาปล้ำถึงในห้อง ผู้ชายคนนั้นตัวใหญ่กว่าเธอเยอะเลยเถอะ คิดเหรอว่าชะนีแคระ ความสูงแค่ร้อยห้าสิบปลายๆ จะลากเขาเข้ามาไหว
คิดเลยเถิดไปใหญ่แล้ว!
ถึงอย่างนั้นก็ยังตั้งท่าระวังตัวเพราะไม่อาจวางใจได้ว่าผู้ชายตรงหน้าจะมาดี ก็ดูเสื้อผ้าที่เขาใส่สิ มันช่าง...โบราณ
โบราณจริงๆ ไม่ใช่เชยนะ ย้ำว่าโบราณ
อย่างกับหลุดออกมาจากละครจักรๆ วงศ์ๆ ของเกาหลีอย่างไรอย่างนั้นแหละ!
ดวงตาคู่สวยปราดมองไปตามเสื้อผ้าสีแดงเลือดหมูสลับดำ ขณะที่ผู้ชายคนนั้นเองเริ่มจะรู้สึกตัวทั้งที่มีนายังสำรวจอีกฝ่ายไม่ละเอียดดี