แก้วนมอุ่นๆ ในมือกำลังจะเย็นชืดเพราะหล่อนมัวแต่ยืนมองบานประตูห้องนอนของเคียร์สมาเกือบสิบนาทีแล้ว หล่อนไม่กล้า... พอจะยกมือขึ้นเคาะประตู ความหวาดหวั่นลึกๆ ภายในใจก็ร้องเตือนให้หยุด หล่อนยกมือค้างอยู่กลางอากาศมาเป็นสิบครั้งแล้ว และก็ได้แต่ยืนนิ่งอยู่หลังบานประตูนั้นราวกับคนเสียสติ
“เอาน่า พี่ชายคงอารมณ์ดีแล้ว...”
ครั้งนี้หล่อนตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะเคาะประตู มือเล็กขาวสะอาดกำเป็นกำปั้นและยกลอยอยู่กลางอากาศ บานประตูอยู่ตรงหน้า และกำลังจะเคาะลงไป
“เธอมาทำอะไรตรงนี้”
บานประตูตรงหน้าเปิดกว้างออก พร้อมกับเคียร์สในชุดนอนสีน้ำเงินอมดำยืนจ้องมองมา
“พี่ชาย...”
ใบหน้าของเคียร์สเกลี้ยงเกลากว่าตอนที่เจอเมื่อครู่นี้ คงเพราะเขากำจัดหนวดเคราบนแก้มและปลายคางออกไปตอนที่อาบน้ำ หล่อนเบิกตากว้างมองเขาด้วยความหลงตะลึงจนไม่อาจจะควบคุมตัวเอง ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน แต่เคียร์สก็ยังคงหล่อเหลาเหมือนเดิม ไม่... ไม่สิ พี่ชายของหล่อนหล่อยิ่งกว่าเดิมเสียอีก หล่อจนหล่อนต้องเผยอปากมองเขาตาค้างราวกับคนบ้า
“ฉันถามไม่ได้ยินหรือไง มายืนหน้าห้องฉันทำไม”
คำพูดดุดันของเขาทำให้หล่อนได้สติ หล่อนรีบกะพริบตาเร็วๆ และตั้งสติให้มั่น
“คือหนูอัญ...”
เขากอดอกยืนมองหล่อนด้วยสายตาไร้เมตตา จนคนถูกมองจำต้องเสหลบตาด้วยความทรมาน
“หนูอัญเอา... นมอุ่นๆ มาให้พี่ชายค่ะ”
แทนที่เขาจะซึ้งในน้ำใจของหล่อนเหมือนดั่งเช่นในอดีต แต่เขากลับทำหน้าแค่นยิ้มหยันใส่แทน
“อ่อยผู้ชายเก่งนี่เราน่ะ”
“พี่ชาย...”
“ทำไมล่ะ ฉันพูดผิดตรงไหนกัน”
หล่อนน้ำตาซึม ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเคียร์สถึงได้เปลี่ยนแปลงไปเป็นคนละคนแบบนี้
“หนูอัญไม่ได้จะมาอ่อยพี่ชายนะคะ หนูอัญก็แค่... เอานมอุ่นๆ มาให้พี่ชาย”
หล่อนสะอื้นไห้ น้ำตาไหลพราก แต่ก็พยายามพูดต่อจนจบประโยค
“พี่ชายจะได้นอนหลับ... สบายยังไงล่ะคะ”
เขาไม่ตอบแต่เดินเข้าไปในห้องนอน หล่อนจึงเดินตัวลีบตามเข้าไป เอาแก้วนมวางบนโต๊ะเครื่องแป้ง
“หนูอัญวางนมเอาไว้ตรงนี้นะคะ พี่ชายอย่าลืมดื่มล่ะ เดี๋ยวจะนอนหลับไม่สบาย”
หล่อนไม่รู้หรอกว่าตัวเองพูดออกไปด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาแค่ไหน แต่ก็พยายามที่จะพูดจนจบ แม้ว่าภายในหัวใจจะเต็มไปด้วยความปวดร้าวก็ตาม
“งั้น... หนูอัญขอตัวก่อนนะคะ”
หล่อนกำลังจะหมุนตัวและเดินออกไปจากห้องนอนของพี่ชายนอกไส้สุดที่รัก แต่น้ำเสียงกระด้างของเขาดังขึ้นเสียก่อน หล่อนดีใจเพราะคิดว่าเขาจะคุยดีๆ ด้วยแล้ว แต่ก็ต้องผิดหวัง เมื่อเห็นสายตาชิงชังที่เขาตวัดมองมา หัวใจสาวสะท้านและแสนเจ็บปวด
“อย่าเพิ่งไปสิ”
“เอ่อ... พี่ชายต้องการอะไรเพิ่มเหรอคะ”
เขาเดินมาหยุดตรงหน้าของหล่อน ที่ยืนอยู่ห่างจากแก้วนมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ระยะห่างจากสองร่างเหลือแค่เพียงก้าวเดียวเท่านั้น และมันก็ทำให้อัญชันที่โหยหาในอ้อมกอดของเคียร์สไม่อาจจะทานทนต่อความคิดถึงได้ หล่อนโผเข้ากอดร่างกำยำที่ตอนนี้เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อเอาไว้แน่น
“หนูอัญ... คิดถึงพี่ชายเหลือเกินค่ะ”
หล่อนปล่อยหยาดน้ำตาออกมา เมื่อซบหน้าลงกับแผงอกกว้าง เสียงหัวใจของเขาเต้นอยู่ใต้ใบหู ร่างสูงใหญ่ที่สวมกอดเอาไว้สะท้านเกร็งจนรู้สึกได้ แต่หล่อนก็ไม่คิดจะใส่ใจอะไรอีกแล้ว หล่อนกอดรัดเขาแน่น แน่นหนาเพราะไม่ต้องการให้เขาจากไปไหนอีก
“คิดถึง... คิดถึงเหลือเกิน...”
“ปล่อยฉัน”
คำพูดของผู้ชายที่หล่อนกำลังกอดรัด และซบหน้าลงกับแผงอกดังขึ้น หล่อนจำต้องเงยหน้าขึ้นจากแผงอก และช้อนตาขึ้นมองเขา มองด้วยน้ำตาแห่งความเสียใจ
“พี่ชาย...”
เขาเมินหน้าหนีน้ำตาของหล่อน ก่อนจะผลักหล่อนออกห่าง กรามแกร่งของเขาขบแน่นเป็นสันนูน
“อย่ามาแตะต้องเนื้อตัวฉันอีก เราไม่เหมือนเดิมกันแล้ว”
“พี่ชาย...”
“และก็เลิกร้องไห้ทำตัวเป็นเด็กน้อยไร้เดียงสาสักที เพราะฉันรู้ดีว่ามันไม่ใช่”
“พี่ชาย... กำลังพูดถึงอะไรคะ”
“ต้องให้ฉันบอกหรือว่าฉันรู้ ฉันเห็นอะไรมา”
หล่อนส่ายหน้าทั้งน้ำตา ท่าทางรังเกียจชิงชังที่เคียร์สแสดงใส่มันทำให้หล่อนเจ็บราวกับถูกมีดคมกริบเฉือนเนื้อหัวใจ หล่อนไม่รู้เลยว่าพี่ชายกำลังพูดถึงเรื่องอะไร
“หนูอัญไม่เข้าใจ... พี่ชายเป็นอะไรไปคะ ทำไมใจร้ายกับหนูอัญเหลือเกิน...”
หล่อนยังคงสะอื้นไห้ และเดินเข้าไปหา แต่เขาก้าวถอยหนีด้วยกิริยาชิงชัง
“ไม่รักหนูอัญแล้วเหรอคะ พี่ชาย...”
วูบหนึ่งในดวงตาดุดันของเคียร์สไหวกระตุก แต่วินาทีต่อมามันก็เต็มไปด้วยความเย็นชา เกลียดชังเช่นเดิม นี่หล่อนไปทำอะไรให้เคียร์สโกรธเกลียดขนาดนี้กัน
“ฉันไม่เคยรักเธอ!”
“พี่ชาย...”
ขาทั้งสองข้างอ่อนแรงจนแทบทรุดลงกองกับพื้น หล่อนคว้าเก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้งเอาไว้ มองเขาด้วยความเสียใจเป็นที่สุด ไม่เคยคิดเลยว่าพี่ชายที่แสนดีจะกลับกลายเป็นคนใจร้าย ทำเหมือนกับคนไม่เคยรู้จักกันมาก่อนแบบนี้
“เลิกทำตัวน่าสมเพชเสียที และก็กลับห้องไปได้แล้ว” เขาเค้นเสียงลอดไรฟันออกมาอย่างโมโห “เพราะฉันไม่มีทางหวั่นไหวกับผู้หญิงสองหน้าแบบเธอหรอก อัญชัน”
“พี่ชาย...”
หล่อนเรียกชื่อของเขาเสียงแผ่วเบา ไม่... ไม่ใช่แค่แผ่วเบา แต่มันแทบไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมาเลยต่างหาก หล่อนมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง และเจ็บปวด
“หนูอัญ... หนูอัญกลับก็ได้ค่ะ พี่ชายดื่ม... ดื่มนมซะนะคะ”
หล่อนเห็นเขากัดฟันแน่น กรามแกร่งของเขาปูดเป่งขึ้นเป็นสันนูน และจ้องเขม็งมาที่หล่อน
“ฉันไม่ดื่มนมของเธอหรอก”
เขาว่าแบบนั้น ก่อนจะคว้าแก้วนม และเดินตรงไปที่หน้าต่าง หล่อนจ้องมองไปทั้งน้ำตา ก็ได้เห็นว่าเขาโยนแก้วใส่นมที่หล่อนอุตส่าห์นำขึ้นมาให้ด้วยหัวใจโยนทิ้งลงไปอย่างไม่ไยดีเสียแล้ว
“พี่ชาย... ทำไมพี่ชายใจร้ายกับหนูอัญแบบนี้คะ”
เขาเดินกลับมาหยุดตรงหน้าหล่อน มือใหญ่กุมบ่าบอบบางของหล่อนเอาไว้ และกดแรงๆ จนหล่อนเจ็บ
“ถ้าไม่อยากให้ฉันใจร้ายอีก ก็อย่ามาวุ่นวายกับฉัน และถ้าเป็นไปได้ก็ไสหัวไปให้พ้นหน้า จำเอาไว้”
“พี่ชาย...”
“ออกไปจากห้องของฉันได้แล้ว”
หล่อนสะอึกสะอื้น ตกใจ เสียใจกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นจนขาไม่มีแม้แต่แรงจะเดิน หล่อนทรุดฮวบลงกับพื้นห้อง ท่ามกลางสายตาชิงชังของเคียร์สที่จ้องมองมา
“พี่ชาย...”
เคียร์สกอดอกและยิ้มหยันกับภาพที่เห็น หากเป็นเมื่อก่อนเขาคงรีบวิ่งเข้าไปช้อนร่างเล็กขึ้นมากอดปลอบประโลมแล้ว แต่ตอนนี้ไม่มีทาง ไม่มีทางเป็นเช่นนั้นเด็ดขาด
“อย่ามาทำเป็นสำออย ออกไปซะ!”
อัญชันร้องไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือด ก่อนจะกัดฟันพยุงตัวเองออกมาจากห้องนอนของเคียร์สด้วยหัวใจที่แตกสลาย ความเจ็บปวดกับความสับสนมึนงงยังคงทำให้หล่อนทรมานได้เท่าเทียมกัน
มันเกิดอะไรขึ้นกับเคียร์สกันแน่ ทำไมเขาถึงได้เปลี่ยนแปลงไปแบบนี้ หรือเรื่องราวในอดีตมันไม่ใช่เรื่องจริง ความรักความเมตตาของเขามันไม่ได้มีอยู่จริงใช่ไหม
สาวน้อยพาตัวเองเดินโซซัดโซเซกลับมายังห้องนอน ทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นหลังบานประตูที่เพิ่งลงกลอน หยาดน้ำตาไหลออกมานองหน้า ร้องไห้จนน้ำตาแทบเป็นสายเลือด แต่ก็ยังไม่อาจจะขบคิดหาเหตุผลได้ว่าทำไมเคียร์ส ถึงได้เปลี่ยนไปแบบนี้
“พี่ชาย... นี่พี่ชายไม่รักหนูอัญแล้วเหรอคะ”
หล่อนคร่ำครวญครั้งแล้วครั้งเล่า ร้องไห้ราวกับคนเสียสติ แต่กระนั้นความปวดร้าว ความเจ็บช้ำก็ยังอัดแน่นอยู่ภายในหัวใจไม่เสื่อมคลาย หล่อนทรมาน ทุกข์ระทมจนแทบอยากจะหยุดหายใจ เพราะอะไร เพราะอะไรกัน เหตุการณ์แบบนี้ถึงได้เกิดขึ้น
อัญชันร้องห่มร้องไห้อยู่ที่เดิมตรงนั้น ก่อนจะผล็อยหลับไปทั้งน้ำตาในที่สุด