เสียงเครื่องยนต์รถดังกระหึ่มขึ้น พร้อมๆ กับแสงไฟจากหน้ารถที่ทำให้รอบๆ ตัวสว่างไสว คนตัวเล็กที่นั่งฟุบหน้าหลับอยู่กับโต๊ะกลางสนามหน้าบ้านจึงสะดุ้งตื่น
“พี่ชาย...”
หล่อนรีบสลัดความงัวเงีย และถลาออกไปยังทางเดินที่รถแท็กซี่จอดสนิทอยู่อย่างรวดเร็ว ร่างสูงใหญ่ของเคียร์สก้าวลงมาจากรถ ก่อนที่แท็กซี่จะขับออกไปอย่างรวดเร็ว
หล่อนฉีกยิ้มกว้างให้กับพี่ชายที่รัก มองเขาด้วยความยินดีเป็นที่สุด หัวใจเต้นแรงระรัวด้วยความภักดี
“พี่... พี่ชาย...”
เขาจ้องหน้าหล่อน มองหล่อนตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ก่อนจะแค่นยิ้มออกมา
“ทำไมยังไม่นอน”
เคียร์สไม่เคยทำสุ่มเสียงแบบนี้ใส่หล่อนเลยสักครั้งเดียว และนั่นก็ทำให้หล่อนตกใจกับน้ำเสียงดุดันเย็นชานี้ยิ่งนัก แต่กระนั้นก็พยายามที่จะฝืนยิ้มออกมา
‘พี่ชายคงเครียด คงเหนื่อยกับการเดินทาง’
หล่อนบอกตัวเองแบบนี้นับล้านครั้งในหัวใจ เพื่อทำให้สมองไม่คิดมาก หัวใจจะได้ไม่ทรมาน
“คือ... หนูอัญรอพี่ชายค่ะ”
“รอ?”
คิ้วเข้มหนาดกเลิกสูง ดวงตาคมกล้าที่เคยเต็มไปด้วยความอ่อนโยนยามมองมาที่หล่อนตอนนี้มืดดำและแสนจะเย็นชา หล่อนสะท้านในอกจนร้าวราน
นี่พี่ชายเป็นอะไรไป?
“รอทำไม”
คำพูดของเคียร์สทำไมถึงไร้เยื่อใยนักนะ นี่หล่อนหูฝาดไปเองใช่ไหม พี่ชายไม่มีวันพูดจาแบบนี้กับหล่อนเด็ดขาด
“ก็... หนูอัญคิดถึงพี่ชายค่ะ อยากเจอ...”
เขาแค่นยิ้มหยันใส่หล่อนอีกครั้ง หล่อนเผยอปากมองอย่างตกใจกับกิริยาของเขา
“ทำไมต้องอยากเจอฉันด้วย หรือว่ามีอะไรจะสารภาพกับฉัน”
“เรา... เราไม่ได้เจอกันตั้งนาน หนูอัญก็แค่คิดถึง...”
“หึ... หลีกทาง ฉันจะขึ้นไปพักผ่อน”
เขาเบี่ยงตัวเดินจากไปอย่างไม่ไยดี หล่อนมองตามไปทั้งน้ำตา ในหัวเต็มไปด้วยความสับสน
“พี่ชาย...”
ผู้ชายตัวโตหยุดเดินแล้ว และหล่อนหวังว่าเขาจะหันกลับมาพร้อมกับรอยยิ้ม จากนั้นก็อ้าแขนทั้งสองข้างออก เพื่อรับร่างของหล่อนเอาไว้ภายใน แต่มันกลับไม่ใช่
“เลิกเรียกฉันแบบนี้ด้วย ฉันไม่ชอบ”
“พี่ชาย...”
“ก็บอกให้เลิกเรียกไง” เขาหมุนตัวกลับมาและตวาดใส่หน้าหล่อนเสียงดุดัน “เรียกฉันว่าเคียร์ส จำเอาไว้”
หล่อนสะดุ้งตกใจ น้ำตาไหลออกมาอาบแก้ม เหตุการณ์ตรงหน้าทำให้หล่อนช็อก
“พี่... พี่ชายเป็นอะไรไปคะ ทำไมถึงได้...”
หล่อนยังถามไม่จบ เขาก็หมุนตัวเดินจากไปเสียก่อน หล่อนสะอื้น ตกใจเสียใจจนหัวใจทรมาน
‘นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน ทำไม... ทำไมเคียร์สถึงได้เปลี่ยนไปแบบนี้ หรือว่าเขา... ไม่ได้รัก ไม่ได้เมตตาน้องสาวคนนี้อีกแล้ว’
อัญชันทรุดร่างลงนั่งร้องไห้กับพื้นหญ้า หยาดน้ำตาไหลออกมาอาบแก้มนับครั้งไม่ถ้วน สมองยังคงมึนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น แม้ลางร้ายจะร้องเตือนมาก่อนหน้าหลายปีแล้วกับความห่างเหินของเคียร์ส แต่นั่นหล่อนคิดว่าเขาเรียนหนัก และยุ่งกับงานจึงไม่มีเวลาติดต่อกลับมาเหมือนเคย แต่ตอนนี้... ตอนนี้ทุกอย่างมันเริ่มชัดเจนแล้ว พี่ชายเกลียดหล่อน เขาเกลียดหล่อนเพราะอะไรกัน
“พี่ชาย... พี่ชายเป็นอะไรไปคะ ไม่รักหนูอัญแล้วเหรอคะ”
หล่อนร้องไห้ไม่หยุด หัวใจปวดร้าวจนแทบจะแหลกสลาย หยาดน้ำตาอุ่นๆ ไหลทะลักออกมาราวกับเขื่อนแตก กายสาวสั่นสะท้านเพราะแรงสะอื้นราวกับต้องลมพายุ
ดารินที่ยังไม่ได้ขึ้นนอนเพราะนั่งดูละครหลังข่าวอยู่กับป้าสมใจภายในห้องโถงเอ่ยทักบุตรชายขึ้น เมื่อเห็นชายหนุ่มเดินตัวปลิวเข้ามาภายในบ้าน
“กลับมาแล้วเหรอเคียร์ส”
ชายหนุ่มหยุดเดิน หมุนตัวมาหามารดา ใบหน้าดุดันค่อยๆ มีรอยยิ้มบางๆ แซมขึ้น
“ครับ ว่าแต่คุณแม่ยังไม่นอนอีกหรือครับ”
ดารินยังไม่ทันตอบ ป้าสมใจก็แทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงขบขันเสียก่อน
“คุณผู้หญิงท่านยังนอนไม่ได้หรอกค่ะ กำลังติดละครอยู่”
“แหม... แม่สมใจก็พูดเข้า”
ดารินปรามป้าสมใจก่อนจะหันไปถามลูกชายหัวแก้วหัวแหวน
“แล้วนี่ไม่ได้พาหนูอัญเข้าบ้านมาด้วยเหรอ น้องไปรอพ่อเคียร์สตั้งแต่ตอนตะวันยังไม่ตกดินเลยนะ”
สีหน้าของเคียร์สเคร่งขรึมขึ้น แต่ก็พยายามที่จะซ่อนความรู้สึกบางอย่างเอาไว้
“เดี๋ยวคงเดินตามเข้ามาครับ” เขาตอบเสียงเย็นชา และยังไม่ทันจะพูดอะไรต่อ ป้าสมใจก็อุทานขึ้น
“นั่นไงคะคุณหนูอัญ”
ดารินหันไปมอง ก่อนจะระบายยิ้มกว้างและกวักมือเรียก
“หนูอัญไปไหนมาลูก ทำไมไม่เข้าบ้านมาพร้อมกับพ่อเคียร์สล่ะ”
หล่อนเดินมาหยุดตรงหน้าของดาริน พยายามฝืนยิ้ม และตอบในสิ่งที่ห่างไกลจากความเป็นจริงมากที่สุด “หนูอัญ... ยืนตากลมเล่นน่ะค่ะคุณป้า”
หล่อนตอบออกไปแบบนั้น ดารินพยักหน้ารับเข้าใจ แต่เคียร์สกลับยิ้มหยันกับคำตอบของหล่อน
นี่เขาเป็นอะไรไปนะ หล่อนทำอะไรผิดกัน?
ดารินยิ้มให้กับอัญชันด้วยความเอ็นดู “นี่พี่เขาก็มาแล้ว หนูอัญกินข้าวเย็นได้แล้วใช่ไหมจ๊ะ”
“เอ่อ...” หล่อนอึกอักยังไม่ทันได้ตอบ ก็ประสานสายตากับดวงตาดุดันที่เต็มไปด้วยการตำหนิของเคียร์สเสียก่อน หน้าของหล่อนจึงซีดเผือดมากยิ่งขึ้น
“เป็นเด็กเป็นเล็ก ริอ่านอดข้าวเย็นหรือ”
“มันไม่ใช่อย่างนั้นพ่อเคียร์ส” ดารินจะอธิบาย แต่ดูเหมือนเคียร์สจะไม่ยอมรับฟัง เพราะเขาได้ตัดสินหล่อนไปแล้ว
“หรือว่ากำลังลดหุ่นกันล่ะ อยากสวยว่างั้นเถอะ”
หล่อนทำได้แค่ยืนอึ้งกับความคิด และคำพูดของพี่ชายที่รัก น้ำตาเอ่อล้นคลอสองหน่วยตา
“เคียร์ส ทำไมพูดกับน้องแบบนั้นล่ะ” ดารินเริ่มไม่พอใจ แต่ตอนนี้เคียร์สกลายร่างเป็นผู้ชายที่ไม่สนใจอะไรอีกแล้ว โดยเฉพาะความรู้สึกของหล่อน
“ผมขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะครับคุณแม่ ผมไปล่ะป้าสมใจ”
แล้วผู้ชายเจ้าของความงดงามปานเทพบุตรก็เดินหายไปจากห้องโถง อัญชันเม้มปากแน่นเพื่อกลั้นเสียงสะอื้นในอกเอาไว้ ดวงตากลมโตมองเขาผ่านม่านน้ำตา
หล่อนไม่เข้าใจเลย... ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าทำไมเหตุการณ์แบบนี้มันถึงเกิดขึ้นได้ ทั้งๆ ที่ก่อนที่เคียร์สจะเดินทางไปเรียนต่อเมืองนอก เขารักและเมตตาหล่อนยิ่งกว่าใครๆ
“หนูอัญอย่าไปถือสาพี่เคียร์สเลยน่ะลูก พี่เขาเพิ่งเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลกลับมาถึง คงยังเหนื่อย ก็เลยหงุดหงิดเป็นธรรมดา มานี่มา มานั่งดูละครกับป้าดีกว่า”
ดารินก็ยังคงเมตตาหล่อนไม่เปลี่ยนแปลง หล่อนมองท่านด้วยความซาบซึ้งใจ ก่อนจะยกมือขึ้นไหว้ท่าน
“ไหว้ป้าทำไมล่ะหนูอัญ”
“หนูอัญขอบคุณที่เมตตาหนูอัญมาตลอดนะคะ”
ดารินรั้งร่างอรชรสมส่วนของอัญชันให้นั่งลงข้างกาย ก่อนจะยกมือขึ้นลูบศีรษะทุยสวย
“ป้าจะเมตตาหนูอัญไปตลอดชีวิตนั่นแหละ เพราะป้ากับแม่ของหนูอัญเรารักกันมาก และหนูอัญก็เป็นเด็กดีเหลือเกิน ใครๆ เห็นก็ต้องรักกันทั้งนั้นแหละ”
หล่อนยิ้มเศร้าหมอง เพราะตอนนี้ดูท่าว่าพี่ชายนอกไส้อย่างเคียร์สจะไม่ได้มีความรักความเมตตาให้กับหล่อนอีกแล้ว
“คุณหนูอัญหิวไหมคะ เดี๋ยวป้าจะไปตั้งโต๊ะให้”
“หนูอัญยังไม่หิวหรอกค่ะป้าสมใจ ขอบคุณมากนะคะ” หล่อนยกมือไหว้ป้าสมใจเหมือนกับทุกครั้งที่เคยทำมา จนป้าสมใจแกเหนื่อยที่จะยกมือขึ้นรับไหว้ตอบแล้ว
“ไม่ได้นะหนูอัญ ยังไงก็ต้องกินเสียบ้าง” ดารินออกความเห็น “เอาอย่างนี้สิ หนูอัญก็ไปกินข้าว เสร็จแล้วก็ยกนมอุ่นๆ ขึ้นไปให้พ่อเคียร์สด้วย จำได้ไหมว่าพี่เขาชอบดื่มนมก่อนนอนทุกคืน”
ชื่อของเคียร์สทำให้หล่อนเต็มไปด้วยความหวัง พวงแก้มนวลแดงระเรื่อน่ามอง
“จำได้ค่ะคุณป้า”
“งั้นเอาอย่างนี้ สมใจเดี๋ยวหนูอัญกินข้าวเสร็จ เตรียมนมอุ่นๆ ให้สักแก้วนะ หนูอัญจะได้เอาขึ้นไปให้พ่อเคียร์ส”
“รับทราบค่ะคุณผู้หญิง”
ดารินละสายตาจากป้าสมใจมามองหน้าอัญชันอย่างพิจารณา
“หนูอัญไม่ต้องเป็นกังวลหรอกนะ พ่อเคียร์สเคยรักเคยเอ็นดูหนูอัญยังไง ตอนนี้ก็เป็นอย่างนั้น ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง”
แม้ส่วนลึกของหัวใจจะร้องเตือนว่าสิ่งที่ดารินพูดมันไม่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงในตอนนี้เลย แต่เพราะอยากให้กำลังใจทำให้หล่อนเลือกที่จะคิดเช่นเดียวกับดาริน
“ค่ะคุณป้า”
“งั้นไปกินข้าวเถอะ”
“ไปค่ะคุณหนูอัญ ป้าจะตั้งโต๊ะให้”
ป้าสมใจเดินนำออกไปจากห้องโถงแล้ว อัญชันที่กล่าวราตรีสวัสดิ์ดารินแล้วเช่นกันจึงรีบเดินตามไป
ดารินมองตามร่างอรชรของอัญชันไปด้วยความพึงพอใจ หล่อนเลี้ยงดูอัญชันมาตั้งแต่ยังเล็ก รู้จักนิสัยใจคอของอัญชันดีกว่าเป็นยังไง และก็หมายมั่นปั้นมือว่าจะต้องได้เด็กสาวแสนดีคนนี้มาเป็นลูกสะใภ้