หลังจากที่ฉันกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้าน สุดท้ายก็ต้องกลับมาฉลองวันเกิดอีกครั้ง ฉันเลิกคิ้วเมื่อลูกปลาส่งสายตาบอกให้ช่วยแยกพี่โยออกไปจากพี่คินทร์ มันเป็นแผนลองใจที่ฉันไม่อยากจะทำเลยสักนิด
ได้แต่สายหน้าจ้องตากับลูกปลา ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี วันๆตามกรี๊ดแต่ไอดอลในดวงใจ มีเวลาที่ไหนไปจีบหนุ่มล่ะ เพราะฉะนั้นไม่มีทางที่จะรู้ทฤษฎีจีบผู้ชายแน่
"มีอะไรหรือเปล่า" ไม่ใช่เสียงใครหรอกค่ะ เสียงพี่โยเอง
"น้ำส้มค่ะ ลูกปลามันชอบดื่มน้ำส้ม" ฉันเผลอพูดอะไรออกไปเนี่ย แถมไม่ตรงประเด็นอีก
"อ้อ ใช่ค่ะ ที่นี่มีน้ำส้มหรือเปล่า ลูกปลาอยากดื่ม" ลูกปลาต่อบททันที ยังไงก็อย่าให้เสียชื่อเสียงชมรมละครและดนตรีก็แล้วกัน
"งั้นเดี๋ยวพี่ไปเอามาให้"
เข้าทาง พี่โยเดินออกไปไม่นาน ลูกปลาก็เดินออกไปตามทันที ฉันฉีกยิ้มก่อนที่สายตาจะเผลอไปสบตากับเจ้าของดวงตาสีนิล รอยยิ้มที่ฉีกกว้างค่อยจืดจางลงทันที เพราะไม่รู้จะทำอะไร ด้วยอาการตื่นตระหนกมืออันว่องไวดันคว้าเครื่องดื่มมาตรงหน้ากรอกเข้าปากจนหมดแก้ว
แคก แคก!! ให้ตายสิ ทำไมแกบื้อแบบนี้ หยิบอะไรไม่หยิบ ดันหยิบเหล้าขึ้นดื่ม ขมคอชะมัด "ไม่เคยดื่มหรือไง"
เคร้ง เสียงทุ้มดังขึ้นก่อนที่แก้วที่ฉันถือจะหล่นแตก ก็เล่นเดินมาไม่ให้ซุ่มให้เสียงนี่
"ขอโทษค่ะ" ย่อตัวนั่งยื่นมือก้มเก็บเศษแก้วที่ทำแตก แต่ไม่ทันระวังกลับกลายเป็นโดนบาด เผลอขมวดคิ้วกับอาการแสบเจ็บ เลือดสีแดงสดไหลออกจากปลายนิ้วจนน่ากลัว
"ทำอะไรไม่ระวัง"
ฉันเบิกตากว้างเมื่อมือพี่คินทร์กุมมือฉันแล้วพาเดินไปล้างแผล มือฉันถูกดึงจนทำให้เซไปชนกับแผงอกที่เต็มไปด้วยกลิ่นกายหอมสะอาด สายตาที่จดจ่ออยู่กับภาพตรงหน้าละเงยไปมองใบหน้าหล่อแบบลูกครึ่ง จมูกโด่ง ริมฝีปากอมชมพูสมส่วนกับเค้าโครงของใบหน้า ทว่า ผิดเพียงแค่แววตาที่แสนเรียบนิ่งคู่นั้นที่ทำให้ฉันเริ่มรู้สึกถึงความลึกลับ
"ยิ้มอะไร"
"ปะ เปล่าค่ะ" ฉันชักมือกลับมาคืนเมื่อแผลถูกปิดทับด้วยพลาสเตอร์
แกต้องพิสูจน์ด้วยการอ่อย ถ้าพี่คินทร์มีการตอบสนองต่อเพศตรงข้ามแปลว่าพี่คินทร์เป็นผู้ชายที่ชอบผู้หญิงชัวร์
จู่ๆ เสียงของลูกปลาก็ดังแว่วเข้ามาในโสตประสาท ฉันกลับไปนั่งที่เดิมที่มีเพื่อนพี่คินทร์นั่งนัวเนียกับผู้หญิงข้างกายไม่ยอมห่างกาย แต่มีแค่พี่คินทร์กับพี่โยที่ไม่สนใจผู้หญิง ขณะนั้นเอง ความคิดก็ผุดเข้ามา สายตาลดทอดมองแก้วน้ำที่ผสมแอลกอฮอล์ตรงหน้าก่อนตัดสินใจคว้ามันขึ้นมายกดื่มแบบไม่ยั้ง ถ้าฉันเมามันอาจจะทำให้ฉันกล้าที่จะทำอะไรบ้าๆก็ได้ และนี่คือความคิดที่เริ่มก่อตัวขึ้นมา
"คินทร์มึงไม่สนใจสาวสวยสักคนหน่อยเหรอ" เสียงทุ้มของพี่ทีดังขึ้น
"ไม่..." เสียงพูดคุยของคนในห้องเริ่มเจ้าหูซ้ายทะลุหูขวาแล้ว โลกดูหมุนแถมเอียง ฉันพยายามสะบัดอาการเหล่านั้น แต่ด้วยความกล้าที่เกิดจากอาการมึนเมานั้นมันทำให้ฉันต้องบอกลาวงการกุลสตรีไทยในที่สุด
"เฮ้ย" เสียงอุทานของกลุ่มเพื่อน เมื่อร่างบางเดินไปนั่งบนตักของคินทร์ที่นั่งโดยไม่มีผู้หญิงข้างกายเลยสักคน
"ทำอะไร" น้ำเสียงเรียบนิ่งเอ่ยถามโดยไม่มีท่าทีตกใจแต่กลับได้รับคำตอบที่ทำให้คนฟังไม่เข้าใจ
"พิสูจน์" และขณะนั้นเองมือบางก็เอื้อมมาคล้องคอเขา ตามด้วยริมฝีปากอมชมพูกดลงจูบที่ซอกคอจนทำให้ฝ่ายที่ถูกกระทำสะดุ้ง คินทร์จึงดันคนบนตักให้ออกห่าง เพราะเขากลัว กลัวว่าถ้าไม่รีบหยุดตอนนี้ เขาอาจจะเผลอทำอะไรที่ไม่ดีออกไป
"กูว่าน้องเมาแล้วว่ะ" เสียงฉลามดังขึ้นทำให้คินทร์ละสายตาจากใบหน้าหวานหันไปมองเพื่อน แต่ไม่ทันไรริมฝีปากของคนบนตักก็ทาบทามลงมาที่ริมฝีปากเขาอีกครั้ง ทว่า ครั้งนี้มันทำให้คนที่อยู่ในห้องถึงกับอุทานคำหยาบออกมากับภาพที่เห็นตรงหน้า
"แมวน้ำ!!"
คนบนตักไม่แม้จะสนใจเสียงของคนรอบข้าง แอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้ามาในร่างกายทำให้ควบคุมร่างกายและสติไม่ได้ จูบที่ไม่ได้รุกล้ำไดๆ ทว่า คินทร์กลับเลื่อนมือจับเอวบางก่อนที่เขาจะปรับองศาของใบหน้าขยับปากจูบอย่างกับได้ลิ้มลองขนมหวาน และเริ่มเป็นฝ่ายคุมเกมอีกครั้ง
ริมฝีปากหยุนบดจูบอย่างเชื่องช้า ดวงตาสีนิลยังคงจดจ้องคนบนตักไม่ยอมละ จนกระทั่งถอนริมฝีปากออก เขาเพียงมองคนที่นั่งบนตักหลับตาพริ้มเท่านั้น คินทร์หันไปมองเพื่อนที่นิ่งไม่ขยับเขยื้อน บางคนถึงขั้นอ้าปากค้างกับการกระทำ จ้องมาที่เขาโดยไม่ละสายตา
"จะไปไหนวะ" กลุ่มเพื่อนทักขึ้นเมื่อคินทร์อุ้มร่างบางในท่าเจ้าสาว
"ไปห้อง"
"เรียกแม่บ้านมาคนหนึ่งให้ตามไปที่ห้อง" คินทร์หันไปสั่งโยที่ยื่นอึ้งไม่ต่างกับคนอื่น ก่อนจะอุ้มร่างบางขึ้นไปบนห้องพักส่วนตัวในบ้านหลังใหญ่
ไม่นานก็มีเสียงจากด้านนอก ซึ่งเป็นแม่บ้านที่ประจำอยู่ที่นี่ "พระองค์..."
"ช่วยเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอที"
พูดจบคินทร์ก็เดินออกจากห้องปล่อยให้ผู้หญิงเขาจัดการกันเอง ก่อนจะชะงักหยุดเมื่อพบกับองครักษ์คนสนิทยืนอยู่หน้าห้อง พร้อมกับแววตบ่งบอกว่ามีคำมากมายอยู่ภายในใจ
"เรามั่นใจ"
"แล้วถ้าเธอรู้ว่าพระองค์คือใคร.."
"วันนั้นยังมาไม่ถึง อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด นายไม่ต้องห่วงหรอก แมวน้ำไม่มีพิษมีภัยต่อคนอื่น"
องครักษ์คนสนิทมองเจ้าชายที่กำลังยกยิ้มยามพูดถึงเด็กสาวคนนั้น ฮิลฟารามีกฎในการปฎิบัติมากมายรวมถึงกฎของราชวงศ์ในการเลือกคู่ครอง
"ว่าแต่นายไปทำอะไรมาตั้งนาน" สิ้นเสียงวัลดัส ชาร์ลอทถึงกับสะดุ้งตกใจ
"กระหม่อม เอ่อ.."
"ช่างเถอะ ถ้านายอยากจะมีใครสักคนเราจะไม่ได้ห้าม เด็กคนนั้นก็ดูเหมือนจะชอบนายนี่"
เสียงเครื่องปรับอากาศบวกกับอากาศเย็นที่ปกคลุมทั่งห้อง ทำให้ฉันค่อยเปิดเปลือกตา ตื่นลืมตาขึ้นมาปรับสายตามองไปรอบห้อง ทว่า กลับพบเห็นในสิ่งที่คาดไม่ถึง
มือที่มีอุณหภูมิอุ่นยกปิดปากตัวเองเมื่อรู้ว่าตอนนี้กำลังหนุนตักของใครคนหนึ่งเป็นหมอนอยู่ และจะเป็นใครไปได้นอกจากเจ้าของห้อง เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น ทำไมฉันได้มานอนอยู่บนตักของพี่คินทร์แถมในห้องนอน บนเตียงเขาอีก
"ตื่นแล้วเหรอ" พี่คินทร์ที่นั่งพิงหัวเตียงลืมตาขึ้นเหมือนรู้หน้าที่ว่าจะต้องตื่น
"เมื่อคืน..."
"ไม่มีอะไร แมวน้ำเมาพี่ก็เลยพามานอนที่ห้อง โยบอกที่บ้านแล้วว่าแมวน้ำนอนที่นี่"
น้ำเสียงฟังดูงัวเงีย ทรงผมที่ดูยุ่งแต่ไม่ได้ทำให้พี่คินทร์หล่อน้อยลงเลย นี่มันเทพบุตรเจ้าชายชัด ๆ
"ว่าแต่เมื่อคืนแมวน้ำไม่ได้ทำอะไรแปลกไปใช่มั้ยคะ" ร่างสูงชะงักครู่หนึ่งก่อนจะกลับมาเป็นปกติ
"เช่นอะไร ที่ว่าแปลก"
"ก็อย่างเช่น พูดจาเกรี้ยวกราด โวยวาย หรือร้องไห้ออกมา อะไรทำนองนี้" คือเวลาฉันเมาถ้าไม่เพ้อถึงไอดอลในดวงใจ ก็มักจะลวนลามคนอื่น ถ้าบางครั้งเมามาก ฉันจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าตัวเองทำอะไรไปบ้าง อย่างเช่นเมื่อคืน
พี่คินทร์เลือกที่จะส่ายหน้าตอบ ฉันที่พอเดาคำตอบออกถึงกับถอนหายใจโล่ง
"แล้วทำไมแมวน้ำถึงได้ใส่ชุดนี้" ฉันมองเสื้อผ้าที่ใส่อยู่ตอนนี้ มันเป็นชุดแปลกตาคล้ายกับชุดฝั่งยุโรป
"แม่บ้านเข้ามาเช็ดตัวให้แล้วก็เปลี่ยนชุด" โล่งอก ฉันพ้นลมออกจากปากก่อนจะเหลือบไปมองเห็นหนังสือเล่มหนึ่งที่มีตัวหนังสือไม่คุ้นตา
"หนังสืออะไรเหรอคะ แถมเป็นภาษาเหมือนภาษาเยอรมันเลย โอ๊ะ ฮิลฟารา" มันมีตัวหนังสือที่เป็นภาษาอังกฤษที่เขียนว่าฮิลฟารา ฉันจับพลิกหน้าพลิกหลังก็อ่านไม่ออกเพราะมันเป็นภาษาที่ไม่สามารถคาดเดาและอ่านออก
"รู้จักฮิลฟาราด้วย"
"ก็อยากรู้จักค่ะ เพราะอาจารย์ให้ทำรายงานเรื่องนี้ ว่าแต่พี่หมอคินทร์อ่านหนังสือแบบนี้ด้วยเหรอคะ หรือว่าพี่หมอเป็นคนฮิลฟารา"
ถ้ามองให้ดี ถึงเขาจะเป็นลูกครึ่งไทยแต่ฉันไม่เคยรู้เลยว่าเขามีพ่อเป็นคนประเทศไหน
"ใช่" ยิ่งกว่าได้บัตรคอนเสิร์ตก็ได้รู้ว่าพี่คินทร์เป็นคนฮิลฟารานี่แหละ โอ้แม่เจ้าโว้ย ลูกเจอเจ้าชายขี่ม้าขาวมาช่วยให้รอดพ้นจากอาจารย์มารศีแล้ว
"จริงเหรอคะ งั้นพี่หมอก็ต้องรู้ประวัติฮิลฟารานะสิ"
พี่คินทร์เพียงพยักหน้าตอบเท่านั้น
"แล้วหมอเคยเห็นเจ้าชายวัลดัสมั้ย เขามีรูปร่างหน้าตายังไง แบบว่าหล่อไหม ดูดีไหม เจ้าชายเขาแต่งงานยัง มีลูกยัง แล้ว..."
หึ!! ฉันชะงักอ้าปากค้างกลืนคำพูดกลับคืนเมื่อพี่คินทร์มองหน้าฉันพร้อมกับหัวเราะ
"ขำอะไรคะ"
"ก็พอรู้บ้าง" อยากกระโดดเข้าไปกอดแต่กลัวพี่คินทร์ถีบลงจากเตียง ในที่สุด หึ อาจารย์คิดผิดแล้วที่ให้รายงานเรื่องนี้กับแมวน้ำ
"งั้นพี่ช่วยเล่าประวัติของเจ้าชายวัลดัสกับฮิลฟาราให้ฟังหน่อยได้มั้ยคะ" ร่างสูงลุกเดินออกจากเตียงก่อนจะมุ่งหน้าไปในห้องน้ำ โดยไม่ทันได้รับปากใด ๆ
"นะ ถ้าพี่คินทร์ช่วยทำให้รายงานเรื่องนี้เสร็จสมบูรณ์ จะให้แมวน้ำทำอะไรก็ได้"
พี่คินทร์หันหน้ามามองฉันก่อนจะเลิกคิ้ว "อาบน้ำพร้อมกันมั้ย"
"คะ" ฉันหันไปมองโดยรอบก็พบว่าฉันเดินเข้ามาในห้องน้ำแล้ว ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อพี่คินทร์ปลดกระดุมเสื้อต่อหน้า
"ชะ..เชิญตามสบายเลยค่ะ" พูดจบสองขาอันว่องไวก็วิ่งออกจากห้องน้ำทันที ก่อนจะคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาดู ถึงต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นลูกปลากับทิวโทรมามากกว่าสิบสาย
ทิวลี่ร้อยผัว : แมวน้ำแกรีบมาที่ชมรมเลยนะ พี่แคทมีเรื่องจะคุยกับแก
ลูกปลา : โอ้ย อีทิว แมวน้ำคงจะเปิดอ่าน ป่านนี้คงนอนกินบ้านกินเมืองอยู่ที่ห้องพี่คินทร์แล้วมั่ง
ทิวลี่ร้อยผัว : หมายความว่าไงยัยแมวน้ำ แกไปนอนห้องคุณหมอของฉันได้ยังไง เล่ามาฉันรู้ว่าแกอ่าน
อุ๋ง อุ๋ง : มันไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ เดี๋ยวฉันเล่าให้ฟัง
ฉันกลับมาอาบน้ำแต่งตัวที่ห้องเพื่อไปมหาลัย ผ่านไปยี่สิบนาทีฉันเดินทางมาถึงมหาลัยก่อนจะเห็นเพื่อสองคนนั่งรออยู่ ฉันเดินเข้าห้องชมรมศิลปะการแสดงโดยที่มีเพื่อนสองคนเดินตามเข้ามา
"พี่แคทมีอะไรจะคุยกับแมวน้ำเหรอคะ"
พี่แคทคือประธานชมรมศิลปะการแสดง ซึ่งชมรมนี้จะมีแยกย่อยออกมาเป็นการแสดงกับดนตรี ซึ่งฉันอยู่การแสดงเกี่ยวกับดนตรีและฉันมีหน้าที่เป็นนักร้องนำของวง
"อาทิตย์หน้าจะมีการจัดงานเพื่อการกุศล ซึ่งจะมีการแสดงจากภาพยนต์เรื่องโรมิโอแอนจูเลียต"
เป็นงานที่จะจัดขึ้นทุกปีเพื่อนำเงินที่ได้จากการจำหน่ายบัตรเข้าชมไปบริจาคให้บ้านเด็กกำพร้า ซึ่งฉันยังไม่เคยได้เข้าไปชมเลยสักครั้งเพราะฉันพึ่งเข้ามาเรียนเป็นปีแรก
"ค่ะ"
"พี่เลยอยากให้แมวน้ำช่วยร้องเพลงประกอบการแสดงครั้งนี้"
"ได้เลยค่ะ" ฉันอยากร่วมช่วยงานการกุศลแบบนี้มานานแล้วแต่ไม่มีโอกาสสักที
"แมวน้ำน้องพี่น่ารักที่สุด งั้นเริ่มซ้อมพรุ่งนี้ตอนเย็นนะ ส่วนนี่เป็นเนื้อเพลงเอาไปซ้อมคืนนี้" ฉันมองเนื้อเพลงก่อนจะเผยยิ้มออกมา
"แกเลิกยิ้มน้อยยิ้มใหญ่แล้วเล่ามาให้หมด ว่าแกไปนอนห้องหมอคินทร์สุดหล่อของฉันได้ไง" ฉันมองหน้าทิวก่อนจะส่ายหน้า
"ฉันเมานอกนั้นก็จำไม่ได้ ฉันเจ็บนะ" มือลูบแขนตัวเองเมื่อลูกปลาตีเข้าให้
"ฉันรู้ว่าเวลาแกเมาแล้วเป็นยังไง แกจำไม่ได้จริงเหรอว่าเมื่อคืนแกจูบพี่หมอคินทร์"
"จูบหมอคินทร์!!" ไม่ใช่เสียงฉันหรอกค่ะ มันคือเสียงอีทิว ส่วนฉันนั่งช็อกอยู่
"ฉันทำแบบนั้นลงไป ให้ตายสิ มันเป็นเรื่องที่น่าอายและไม่น่าให้อภัยเลยสักนิด" ยกมือนวดขมับตัวเองทันที แล้วฉันจะกล้าไปเจอหน้าพี่คินทร์มั้ยเนี่ย
"แล้วแกเป็นเมียพี่หมอยัง"
"แกจะบ้าหรือไง"
"แต่พี่หมอคินทร์ชอบผู้หญิงชัวร์ หลังที่แกจูบพี่หมอจากนั้นเขาก็อุ้มแกขึ้นห้องเลย ว่าแต่แกยังไม่ได้เป็นเมียพี่เขาจริง ๆ นะ"
"ยัง แล้วพวกแกยิ้มอะไร"
"แม่ชะนีน้อยรู้ตัวหรือเปล่าว่ากำลังจะมีผัวในไม่ช้า"
"ทิวแกเงียบเลยนะ ฉะ.. ฉันกลับดีกว่า" ฉันพูดด้วยน้ำเสียงติดขัด หาทางหนีเอาตัวรอดจากเพื่อนทั้งสองคน