อิงฟ้าโดนดุจนน้ำตาซึม ใช่แค่เรื่องที่โกหกพ่อแม่ว่าไปนอนบ้านนังเปรี้ยว
ปกติเธอไม่ใช่เด็กเถลไถล กลับบ้านตรงเวลา มีเที่ยวกลางคืนในวัยเข้าสังคมแต่ก็ไม่บ่อยนัก บ้านแฟนหนุ่มอย่างพี่บิ๊กไม่เคยไปค้างตามลำพัง ตามที่พ่อแม่ขอร้องเอาไว้ว่าให้แต่งงานเป็นเรื่องเป็นราวก่อน อย่าไปเป็นดอกไม้ริมทางให้เขาชิมชม
“จับแต่งให้หายอายเลยดีไหมล่ะมึง”
“ไม่เอา พ่อ... แม่... ไม่แต่ง อาพีแก่จะตาย”
“แล้วมึง!” คุณแม่ตีแขนลูกสาวเข้าให้ด้วยความโมโห ตะคอกเสียงดังว่า “ตามไปนอนบ้านเขา เพิ่งมาพูดว่าเขาแก่!”
ทวียศและวรรณภาไม่ใช่คนพูดจาไพเราะ ด้วยนิสัยหัวหน้าช่างอู่ซ่อมรถ ลูกสาวเลยโดนสั่งสอนชุดใหญ่เรื่องไปนอนบ้านผู้ชาย แถมผู้ชายคนนั้นไม่ใช่คนอื่นไกล ดันเป็นรุ่นน้องของคุณพ่อ เป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนของคุณแม่
อายไปสามบ้านแปดบ้าน! โดยเฉพาะหมู่บ้านนี้ พักอาศัยมานานตั้งแต่เจ้าของบ้านยังเป็นเด็กจนลูก ๆ โตหมดแล้ว จึงรู้จักกันหมด เพื่อนบ้านทั้งหลายเป็นมนุษย์ป้ามนุษย์ลุงนักสอดแนม รู้เรื่องของทุกคนยกเว้นเรื่องของตัวเอง เรื่องนินทาไม่ต้องพูดถึง...
อิงฟ้ายกมือลูบแขนแรง ๆ ทำปากขมุบขมิบเถียง “ทำไมพ่อแม่ว่าแต่หนูอะ ไม่ไปว่าฝ่ายชายบ้าง หนูเป็นคนเสียหายนะ”
“กูนี่แหละให้อาเขาไปรับมึงกลับมา ดีนะไม่โดนลากไปรุมโทรมเป็นข่าวหน้าหนึ่งให้พวกกูขายหน้าอีก…”
พ่อแม่ประสานเสียงด่าเป็นชุด แค่ให้รู้ว่าไม่พอใจมาก ๆ เท่านั้นแหละ...
โชคดีที่เจ้าแสบเพิ่งตื่นมาทำตาแป๋ว อิงฟ้าเลยไม่ถูกลากคอไปต่อว่าข้างบนบ้านให้อายพี่ชาย อายป้ากับลุงอีก แต่เธอก็แปลกใจว่าทำไมคุณอาไม่ถูกต่อว่าเลยสักคำเดียว ต่อให้พ่อจะวานให้เขาไปช่วยดูลูกสาวก็ตามที
“กูไม่อยากจะพูด อย่าท้องกลับบ้านเอาหลานมาให้เลี้ยงอีกคนละกัน”
“ผู้ชายมีตั้งเยอะแยะ มึงอย่าคร่ำครวญให้มันมากนังฟ้า ไปกินเหล้าให้มันได้อะไรขึ้นมา เอาเวลาไปทำมาหากินดีกว่าไหม ว่างนักก็มาช่วยกันเลี้ยงหลาน...”
อิงฟ้าได้สติกลับมาบ้างพอถูกดุว่า เตือนสติเรื่องผู้ชายคนเดียวที่ทิ้งไปทำไมต้องไปใส่ใจ ควรรักตัวเองมาก ๆ มองหาอนาคตดีกว่า ประจวบเหมาะพอดีพี่ชายสองคนเมาแอ๋กลับบ้านมา กลิ่นน้ำมันเครื่องยนต์กลิ่นเหล้าคละคลุ้งไปทั้งตัว ธรรมดาช่างทำงานมาทั้งวัน เลิกงานก็นั่งกินเหล้ากับเพื่อนร่วมงานกว่าจะได้ฤกษ์กลับบ้าน ทำให้คุณแม่หันไปบ่นพี่ชายสองคนแทน
บ้านนี้เสียงดังเป็นเรื่องปกติ ถึงแม้ว่าจะค่อนข้างดึกแล้วต้องพยายามลดเสียงลง
พีระพงษ์รอให้ทุกคนเงียบเสียก่อน ด้วยความสงสารสาวน้อยที่กำลังยืนก้มหน้าก้มตา จึงเข้าไปยกมือไหว้ขอโทษรุ่นพี่ รับผิดแทนหญิงสาว
“พี่ยศอย่าดุลูกสาวเลยครับ ผมผิดเอง... ผมยินดีรับผิดชอบน้อง แต่ว่าผมไม่ได้ทำอะไรน้องนะ สาบานได้ ดูกล้อง CCTV ได้ ผมบริสุทธิ์ใจ”
คุณพ่อทำตาขวางว่า “ไม่มีปัญญาหรอกมึงน่ะ...”
“ไม่มีปัญญาจริง ๆ ครับพี่ ผมกำลังสร้างเนื้อสร้างตัว ยังไม่พร้อมมีเมีย ผมไม่มีมรดกเก่า ปากกัดตีนถีบมากับพี่ชาย ลำพังตัวผมเองมีเงินเก็บไม่เยอะ ค่าสินสอดให้น้องได้เต็มที่สักห้าล้านสิบล้าน ไม่รวมค่างานแต่ง ค่าเรือนหอ ยังไม่พอค่าเทอมลูกเลย มีชีวิตคู่ไปคงอยู่ลำบากแล้วครับ”
นั่นประชดหรือเปล่า! หญิงสาวเบิกตากว้างมองคุณอาที่พูดจาไม่เข้าท่าเอาเสียเลย เป็นคุณแม่เข้ามาห้ามปรามเขา
“เฮ้ย พี... ฉันอยากให้แกมีชีวิตดี ๆ มีอนาคตดี ๆ เจอผู้หญิงดี ๆ เหมาะสมกับแก ไอ้ลูกสาวฉันน่ะแค่ยี่สิบบาทยังเหลือแหล่ เอาไปปวดหัวเป็นภาระอีก”
“อ้าวแม่... ไหงพูดงี้อะ ค่าตัวหนูยี่สิบบาท? ถูกไปเปล่า หนูทำกับข้าวได้นะ งานบ้านก็ทำได้ หาเงินได้ไม่เดือดร้อนใคร มันต้องได้ค่าตัวมากกว่าแม่บ้านดิ”
“เถียงคำไม่ตกฟาก ดื้อเงียบ หนีเที่ยวเก่ง มันจะมีอะไรให้เสียอีกล่ะ”
“หนูเรียบจบหรือเปล่า ตอนเรียนก็ช่วยทำงานหาเงิน ช่วยพ่อช่วยแม่...”
“เรียบจบแล้วไม่ใช่ว่าจะทำอะไรก็ได้ ดูสภาพบ้านเรา เหมือนชาวบ้านชาวช่องเขาที่ไหน ลูกสาวคนนึงท้องกลับบ้านมา ทิ้งหลานให้ตายายเลี้ยงค่อยกลับไปสานต่อความฝันเป็นสก๊อย อีกคนเล่นรุ่นใหญ่... ดีนะที่เป็นพีระพงษ์ เพื่อนแม่”
คุณแม่ไม่ติดขัดอะไรกับเพื่อนร่วมรุ่น แต่คุณพ่อเห็นจะอับอายกับลูกแต่ละคนเหลือเกิน จำเป็นต้องส่งแขก แถมดึกแล้วแต่ละคนยังส่งเสียงดัง รู้สึกเกรงใจเพื่อนบ้าน ถึงที่ผ่านมาจะลงทุนทำกำแพงผนังแบบอย่างดี ไม่ให้เสียงดังรบกวนเพื่อนบ้าน
ลูกชายคนโตสุดยังไม่วายเดินตามน้องสาว ส่งเสียงอ้อแอ้เพราะเมาแอ๋ ลูกชายอีกคนเข้ามากอดคอน้อง ดึงแขนลากพาให้ไปส่งคุณอาถึงหน้าบ้าน
“หน้าตาดีนะเรา สวยสุดในบ้านแล้วต้องหาผัวรวย ๆ แบบอาพีนี่แหละ เชื่อพี่ชาย พี่ว่าเขยคนนี้ผ่าน”
“บ้านไม่ต้องนอนไอ้น้อง... นอนกับเพื่อนพ่อเพื่อนแม่นี่แหละ อย่าให้เสียชื่ออิงฟ้า เล่นทั้งทีต้องเล่นรุ่นใหญ่! คุณอาขา...” เสียงดัดแหลมเล็กของพี่ชายทำอิงฟ้ามองตาขวาง
วรรณภาทนไม่ไหวหันไปตะโกนว่าแบบเหมารวมยกเข่ง “ไอ้ห้อย ไอ้เปี๊ยก อิงฟ้า พวกมึงนี่นะ อยากโดนสักทีไหม!”