เพราะเมื่อคืนร้องไห้อย่างหนัก ตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ สีหน้าแววตาของเจียงซูเหยาจึงไม่ค่อยดีนัก แน่นอนว่าเรื่องราวในเรือนไป๋เซ่อมีหรือจะรอดพ้นสายตาของผู้ใหญ่ในจวนไปได้ ยังไม่พ้นยามซื่อดีหลิวซีเย่ก็ให้แม่นมฮุ่ยย่วนประคองมายังเรือนพำนักของลูกสะใภ้ ด้านหลังยังมีบ่าวรับใช้ยกขนมของว่างอีกหลายอย่างตามเข้ามา พอเห็นท่าทางไร้ชีวิตชีวาของเจียงซูเหยาแล้ว จิ้งฮูหยินก็อดต่อว่าบุตรชายในไส้ของตนไม่ได้ เพราะจิ้งเฉินเป็นเช่นนั้นจึงทำให้สะใภ้ของตนผู้นี้ต้องลำบาก มายืนตรงหน้าลูกสะใภ้แล้วแต่อีกฝ่ายกลับเหม่อลอยราวไม่เห็นตนเอง หลิวซีเย่ก็ได้แต่นั่งลงพลางรั้งมือข้างหนึ่งมากุมไว้ “เหยาเอ๋อ” สัมผัสอบอุ่นกลางฝ่ามือนั้นทำให้เจียงซูเหยารู้สึกตัว คราแรกนางมองแม่สามีอย่างตื่นตกใจอยู่บ้างทว่าหลังจากสัมผัสถึงแววตาอบอุ่นก็พลันกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ไหว “มารดา...มารดา ข้า...” “เจ้าอยากออกนอกจวนหรือไม่” คำถามนี้คล้ายเป็น