ตอนที่ 7

1029 Words
สายลมเย็นฉ่ำยามค่ำคืนที่พัดเข้ามาปะทะตัวแรงๆ ไม่สามารถทำให้ร่างกายของเขาเย็นลงได้เลย ภายในยังคงรุ่มร้อนทรมานด้วยความรู้สึกที่น่าละอาย ความรู้สึกของเพศผู้ที่ปล่อยให้ตัณหาราคะเป็นเรื่องใหญ่ในสมอง มาร์ติเนซยืนนิ่ง นิ้วมือจิกลงบนขอบระเบียงไม้แรงๆ อย่างลืมตัว พยายามห้ามปรามความคิดน่าสะอิดสะเอียนในหัว แต่มันก็ช่างยากเย็นเหลือเกิน ในเมื่อตอนนี้รับรู้อยู่เต็มอกว่าสราวลีเป็นภรรยาของเขาอย่างสมบูรณ์แล้วทางนิตินัย เขาอยากแตะต้องหล่อนอย่างที่เคยใฝ่ฝันมานาน อยากสำรวจร่างกายบอบบางใต้เสื้อผ้าสีหวานนั้นว่าจะให้ความรู้สึกยังไงยามเมื่อได้สัมผัสลูบไล้ บ้าชิบ! เขาสบถอย่างโมโหตัวเอง ที่หื่นได้แม้กระทั่งกับภรรยาที่ร่างกายอ่อนแอ เขาควรจะให้เวลาหล่อน ควรที่จะรอจนกว่าหล่อนจะพร้อมทั้งกายและหัวใจ ไม่ใช่จ้องแต่จะหักหาญเช่นนี้ สมองของเขาคิดได้ แต่ร่างกายมันกลับไม่ยอมทำตาม มันแข็งมันคึกอยู่แน่นที่ซอกขาจนแทบจะระเบิด ซึ่งแน่นอนว่าเขาไม่อาจจะกลับไปนอนร่วมเตียงกับภรรยาได้ เพราะไม่อย่างนั้น เขาคงจะตบะแตก และจัดการลิ้มรสสวาทจากสราวลีในค่ำคืนนี้ ทั้งๆ ที่หล่อนยังไม่ได้เต็มใจจะมอบให้เลย “คุณมาร์ตคะ เรียบร้อยแล้วค่ะ” เสียงของแสงแก้วทำให้เขาได้สติชั่วขณะ เขาปรับเปลี่ยนสีหน้าและหมุนตัวกลับไปเผชิญหน้า “ขอบใจมากนะแสงแก้ว” แสงแก้วระบายยิ้มบางๆ ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยถาม “เอ่อ คุณมาร์ตจะกลับเข้าไปในห้องหอเลยไหมคะ พอดีคุณหนูเธอกำลังจะนอนแล้วน่ะค่ะ” ศีรษะทระนงของมาร์ติเนซส่ายเล็กน้อย “ยังหรอก แสงแก้วไปนอนเถอะ นี่ก็ดึกมากแล้ว” “แต่ว่า...” แสงแก้วยังคงไม่สบายใจ “ไปเถอะ ทางนี้ฉันจัดการเอง” อาจารย์หนุ่มรูปงามระบายยิ้มน้อยๆ และตัดบทด้วยการหมุนตัวกลับไปมองนอกระเบียงไม้เช่นเดิม แสงแก้วไม่มีทางเลือกจำต้องเดินจากไปทั้งๆ ที่ยังเป็นกังวล เมื่อบุคคลที่สามเดินจากไปแล้ว เสียงถอนหายใจแรงๆ ก็ดังออกมาจากปลายจมูกโด่งเป็นสันของมาร์ติเนซ ชายหนุ่มกัดฟันแน่น และตัดสินใจที่จะไม่กลับเข้าไปในห้องหออีก ไม่ใช่เพราะรังเกียจหรือไม่ไยดี แต่เป็นเพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของสราวลีมากกว่า ร่างสูงใหญ่หมุนตัวเดินตรงไปยังห้องรับแขกที่อยู่ห่างออกไปไม่มากนัก เปิดประตูและแทรกตัวหายเข้าไปในนั้นเงียบๆ เช้าวันต่อมา... ที่โต๊ะอาหารเช้าภายในคฤหาสน์หรูของตระกูล มาเลซาสโซ มาเรียและมาริโอนั่งรับประทานอาหารเช้ากันอยู่ก่อนหน้าแล้ว โดยมีลูกชายคนโตอย่างมาร์ติเนซนั่งร่วมโต๊ะอยู่ด้วย สราวลีถูกแสงแก้วเข็นรถเข็นเข้ามาร่วมสมทบ หญิงสาวกล่าวทักทายพ่อแม่สามีอย่างสุภาพ ก่อนจะกล่าวสวัสดีสามีทางนิตินัยของตัวเองเสียงแผ่วเบา “สวัสดีตอนเช้าจ้ะหนูวลี” มาเรียกล่าวทักทายตอบอย่างเอ็นดู ในขณะที่มาริโอระบายยิ้มเป็นมิตรให้ หล่อนยิ้มตอบทั้งสองคน ก่อนจะเข้าไปนั่งข้างๆ มาร์ติเนซ “เมื่อคืนหลับสบายดีไหมจ๊ะ” คำถามของมาเรียทำให้คนที่กำลังจะหยิบช้อนคนข้าวต้มในชามใบสวยชะงัก ดวงหน้าสวยหวานมีแววลังเลเล็กน้อย ก่อนจะตัดสินใจอ้อมแอ้มตอบออกไป “หลับ...สบายดีค่ะคุณป้า...เอ่อ...คุณแม่” มาเรียอมยิ้ม “หลับสบายก็ดีแล้ว แม่อยากให้หนูวลีอยู่ที่นี่ได้อย่างสบายใจ และสะดวกใจที่สุด คุณแม่ของหนูจะได้ไม่ต้องเป็นกังวลเวลากลับไปรักษาตัวที่อิตาลี” หล่อนฝืนยิ้มตอบออกไป ทั้งๆ ที่ภายในอกอยู่ห่างจากคำว่าสุขสบายเหลือเกิน “ขอบคุณค่ะคุณแม่” มาเรียอมยิ้มอีกครั้ง ก่อนจะหันไปหาลูกชายคนโต “แล้วมาร์ตล่ะ หลับสบายดีหรือเปล่า” คนที่กำลังจัดการกับอาหารเช้าอยู่เงียบๆ เงยหน้าขึ้น แววตาคมกริบตวัดมองหน้าหล่อนเล็กน้อย ก่อนจะอ้อมแอ้มตอบออกไปเสียงราบเรียบ “ผมหลับสบายดีครับ เตียงนุ่มมาก” สราวลีกำช้อนแน่นเมื่อได้ยินคำตอบของเจ้าบ่าวล่องหน ก็ต้องหลับสบายดีสิ ในเมื่อเขาไม่ได้นอนกับหล่อนนี่ หล่อนเต็มไปด้วยความน้อยอกน้อยใจ คนเป็นแม่ระบายยิ้มกว้าง เพราะคิดไปในแง่ที่ดี แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงป้าไอรีน แม่บ้านที่ตามติดหล่อนมาจากอิตาลีเอ่ยขึ้นด้านหลัง “คุณมาร์ตหมายถึงเตียงในห้องหอเหรอคะ” มาร์ติเนซเอียงคอมองป้าไอรีน แววตาของเขาเต็มไปด้วยความกังขา “ทำไมหรือครับป้าไอรีน” “แหม ก็เมื่อเช้าป้าเห็นคุณมาร์ตเดินออกมาจากห้องรับแขกน่ะสิคะ ป้าก็เลยคิดว่าเตียงที่ว่านุ่มๆ น่าจะเป็นเตียงในห้องรับแขกมากกว่าในห้องหอน่ะค่ะ” สีหน้าของมาร์ติเนซเจื่อนลง และก็ต้องเจื่อนลงอีกเมื่อหันไปสบตากับมารดาที่จ้องมองมาเขม็ง สราวลีก้มหน้าซ่อนความอับอายเอาไว้สุดกำลัง หยาดน้ำตาแทบจะรินออกมาอาบแก้ม เมื่อตอนนี้ทุกคนในห้องอาหารล่วงรู้แล้วว่าหล่อนคือเจ้าสาวที่ถูกทิ้งให้นอนในห้องหอเพียงลำพัง “จะแก้ตัวว่ายังไง มาร์ติเนซ” คำถามของมารดาทำให้มาร์ติเนซระบายลมหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะตัดสินใจตอบออกไป “ผมไม่อยากกวนวลีน่ะครับ เห็นว่าหลับแล้ว” “จริงเหรอหนูวลี” มาเรียเอ่ยถามลูกสะใภ้ สราวลีเงยหน้าขึ้น สบตากับสามีตัวโตเล็กน้อย ก่อนจะตัดสินใจตอบออกไปเสียงแผ่วเบา “เอ่อ...ค่ะ” “แต่เจ้าบ่าวก็ไม่ควรทิ้งเจ้าสาวให้นอนคนเดียวในคืนเข้าหอ ใช้ไม่ได้เลยจริงๆ นะมาร์ติเนซ” มาเรียตำหนิลูกชาย ก่อนที่มาริโอผู้เป็นสามีจะเอ่ยปราม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD