ตอนนที่ 6

1081 Words
งานแต่งงานยิ่งใหญ่ถูกจัดขึ้นมาในอีกสิบกว่าวันต่อมา ซึ่งเป็นงานแต่งงานที่ผู้คนกล่าวขานถึงกันมากที่สุด ไม่ใช่เพราะของชำร่วยในงานคือทองคำแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะเจ้าบ่าวและเจ้าสาวต่างมีรูปโฉมประดุจไม่ใช่มนุษย์เดินดินคนธรรมดาทั่วไป ติดอยู่นิดเดียวก็คือเจ้าสาวพิการเท่านั้นเอง เสียงปิดประตูห้องหอดังขึ้นเป็นครั้งสุดท้าย พร้อมๆ กับความกระอักกระอ่วนใจของสราวลีที่ระเบิดขึ้น การอยู่ในห้องหอกับเจ้าบ่าวสุดหล่อตามลำพัง แถมยังในค่ำคืนแห่งการวิวาห์ มันคือความสุขที่สุดในชีวิตของลูกผู้หญิงคนหนึ่ง แต่...คงไม่ใช่ความสุขที่สุดของหล่อน ในเมื่อมาร์ติเนซไม่ได้มีทีท่าหื่นกระหายกับหล่อนเลย เรือนร่างสูงใหญ่ของมาร์ติเนซในชุดสีขาวสะอาดตาเดินมาหยุดที่ขอบเตียง หลังจากแขกผู้ใหญ่คนสุดท้ายก้าวพ้นออกไปจากห้องหอสักพักแล้ว ดวงตาคมกล้าที่จ้องมองมาที่หล่อนยังคงเย็นชาและเฉยชาเช่นเดิม ไม่มีร่องรอยของดวงตาเจ้าบ่าวที่พร้อมจะมอบความสุขล้ำลึกให้กับเจ้าสาวในคืนวิวาห์แม้แต่น้อย เขาคง...ไม่อยากแตะต้องหล่อน สราวลีทั้งเจียมตัวทั้งน้อยใจ แต่ก็ต้องพยายามเก็บซ่อนความรู้สึกนั้นเอาไว้ให้ล้ำลึก แสดงออกมาในความรู้สึกที่ตรงกันข้ามกันอย่างสิ้นเชิง “วลีจะออกไปนอนอีกห้องค่ะ” “ทำอย่างนั้นไม่ได้หรอก ผู้ใหญ่จะตำหนิเอาได้” หล่อนเชิดหน้าสูง น้อยใจจนน้ำตาซึม “ก็แค่ตำหนิ แต่อย่างน้อยๆ มันก็สามารถทำให้พี่มาร์ตหายอึดอัดได้” “พี่อึดอัด?” เขาย้อนถาม “ใช่ค่ะ วลีรู้ดีว่าพี่มาร์ตอึดอัดใจแค่ไหน” หล่อนพยายามจะกระเถิบลงจากเตียง ทั้งๆ ที่ทำได้ไม่ถนัด จนเขาต้องห้ามเอาไว้เสียงเฉียบขาด “วลีจะไปไหน” “จะเข้าไปอาบน้ำค่ะ” “จะไปยังไง” หล่อนมองไปที่รถเข็นของตัวเองที่แสงแก้วเตรียมเอาไว้ให้ “นั่งไงคะ รถเข็นของวลี” “พี่จะช่วยเอง ไม่ต้องใช้มันหรอก” เขาหวังดี แต่หล่อนไม่อยากให้เขาสมเพชเวทนามากไปกว่านี้ หล่อนตะเกียกตะกายสุดแขน แต่เขาขวางเอาไว้ทั้งตัว “อย่าดื้อนะวลี พี่ไม่ชอบเด็กดื้อ” “พี่มาร์ตหลีกทางไปนะ” เขาโน้มตัวลงมาหา จนปลายจมูกแทบชนเข้ากับแก้มนวลเลยทีเดียว สราวลีตกใจกับความใกล้ชิด หน้าตาแดงก่ำ และรีบผงะศีรษะออกห่างทันควัน “จะทำอะไรคะ” มาร์ติเนซค่อยๆ ผ่อนลมหายใจออกมา กรามแกร่งของเขาขบกันจนขึ้นสันนูน “จะอุ้มวลีไปอาบน้ำยังไงล่ะ” “ก็บอกแล้วไงคะว่าวลีไปเองได้” ชายหนุ่มส่ายหน้าน้อยๆ และจัดการช้อนร่างภรรยาสาวขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน “อย่าดื้อน่า พี่ไม่ทำอะไรวลีหรอก” เชอะ ไม่ต้องบอกหล่อนก็รู้อยู่แล้วล่ะว่าเขาไม่คิดจะทำอะไรหล่อนหรอก ในเมื่อเขาไม่ได้รัก ไม่ได้ปรารถนาในตัวของหล่อนแม้แต่นิดเดียว ความน้อยใจตีขึ้นมาในอกราวกับระลอกคลื่นทะเล “ค่ะ วลีทราบค่ะ” ชายหนุ่มระบายยิ้ม ส่ายหน้าน้อยๆ และนำพาร่างของสราวลีเข้าไปในห้องน้ำกว้างขวาง วางหล่อนบนโต๊ะยาวที่ทำขึ้นเป็นพิเศษเพื่อหล่อน จากนั้นก็ย่อตัวลงนั่งตรงหน้า “ถามจริงๆ เถอะ อาบเองได้จริงหรือ” หล่อนหน้าแดงน้อยๆ และหลบสายตาคมกริบที่มีวี่แววหยอกเย้าซ่อนอยู่ “ก็...อาบเองมาตลอดนี่คะ” “แต่นั่นมีแสงแก้วช่วยนี่” “ค่ะ” “ให้พี่ช่วยอาบให้นะ” หล่อนเบิกตากว้าง ก่อนจะตอบปฏิเสธเสียงตกอกตกใจ “ไม่...ไม่ต้องค่ะ วลีอาบเองได้จริงๆ แค่อุ้มวลีลงไปในอ่างก็พอค่ะ” “ลงไปแล้วจะขึ้นยังไงล่ะ ให้พี่อาบให้ดีกว่า” “ก็บอกว่าไม่ต้องไงคะ วลีจะอาบเอง” มาร์ติเนซเอียงคอน้อยๆ มองแม่เจ้าสาวแก้มแดงด้วยความขบขัน หล่อนอายจนหน้าแดงก่ำเลยทีเดียว “อายพี่หรือ” “ปละ เปล่า...สักหน่อย” คนตัวโตกัดฟันลุกขึ้นยืน และถอยออกห่างเล็กน้อย “พี่จะไปเรียกแสงแก้วให้มาช่วยอาบให้ก็แล้วกันนะ” “ก็บอกว่าไม่...” หล่อนยังพูดไม่จบประโยค คนตัวโตก็ก้าวหายออกไปจากห้องน้ำพอดี ประตูปิดลง พร้อมๆ กับหัวใจของหล่อนที่ถูกซ่อนลงในลิ้นชักเหมือนเคย “ไม่ต้องมาทำดีเลย...รู้นะว่าแค่เวทนา...” หล่อนเศร้าหมองและก็น้ำตาซึมออกมาจนได้ สักพักแสงแก้วก็เข้ามาหา และช่วยหล่อนจัดการกับเนื้อตัวอย่างเช่นที่เคยทำ งานแต่งงานในค่ำคืนนี้ มันช่างห่างไกลจากสิ่งที่หล่อนคาดหวังเอาไว้มากมายเหลือเกิน แต่จะทำยังไงได้ล่ะ ในเมื่อผู้ชายเขาแต่งกับหล่อนเพียงเพราะความจำเป็นนี่ “คุณหนูขา...พักผ่อนนะคะ” แสงแก้วพาหล่อนกลับมาที่เตียง และจัดการห่มผ้าให้ “แล้ว...พี่มาร์ตล่ะแสง” หล่อนมองไปรอบๆ ห้องแล้วไม่เจอเขา ก็อดที่จะถามหาไม่ได้ แสงแก้วหันไปมองรอบๆ บ้างก่อนจะตอบอย่างแปลกใจ “เมื่อกี้ก็ยังอยู่ในนี้นะคะ สงสัยออกไปนอกห้องแล้ว เดี๋ยวแสงไปตามให้นะคะ” “ไม่ต้องหรอกแสง พี่มาร์ตเขาจะทำอะไรก็ช่างเขาเถอะ” “แต่ว่าคืนนี้มันเป็นคืนแต่งงานของคุณหนูนะคะ” แสงแก้วมีร่องรอยไม่สบายใจเต็มใบหน้า “วลีโอเค แล้วก็ง่วงนอนมากแล้วด้วย ส่วนพี่มาร์ตจะกลับเข้ามาหรือเปล่าก็แล้วแต่เขาเถอะ” หล่อนพูดตัดบท และหลับตาลงช้าๆ ซ่อนความเจ็บปวดเอาไว้สุดฤทธิ์ แต่แสงแก้วรู้ทัน “อย่าคิดมากนะคะคุณหนู ทำใจให้สบาย วันนี้คือวันที่คุณหนูต้องมีความสุขที่สุด” แสงแก้วบีบมือของเจ้านายสาว “แสงขอตัวออกไปก่อนนะคะ” “ฝันดีจ้ะแสง” “ฝันดีค่ะคุณหนู” แสงแก้วเดินออกไปจากห้องหอแล้ว สราวลีจึงลืมตาขึ้น หยาดน้ำตาที่เอ่ออยู่ภายในร่วงหล่นมาทางหางตา หัวใจเจ็บปวดเมื่อไม่อาจไขว่คว้าในสิ่งที่ตัวเองควรจะได้เอาไว้ได้ ในที่สุดก็ต้องหลับไปพร้อมกับหยาดน้ำตานั่นเอง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD