“ฝ้าย”
“คะเฮีย...”
“ขอกล่องปฐมพยาบาล”
“...ทำไมเหรอคะเฮีย เฮียเป็นอะไรคะเดี๋ยวฝ้ายทำแผลให้ค่ะ ไหนคะฝ้ายขอดูแผลหน่อย”
“ไม่เป็นไรฝ้าย เอามาให้ตามที่บอกก็พอฉันไม่ได้เจ็บอะไรคนที่เจ็บคือแฟนฉัน เดี๋ยวฉันทำให้แฟนฉันเอง”
แฟน?
แฟนนี่นะ?
เรียกฉันว่าแฟนต่อหน้าพนักงานของตัวเองนี่นะ!
แฟน เหอะ! แค่คนรู้จักฉันยังไม่อยากจะให้สถานะนั้นกับนายเลยไอ้บ้าแม็คเวร!
“คะ...” อึ้ง? อ่อ! อึ้งที่เจ้านายมีแฟนหลายคนล่ะสิ
“ขอตอนนี้เลยนะฝ้าย เร็ว ๆ ล่ะ ”
“...ค่ะเฮีย เดี๋ยวฝ้ายไปหยิบก่อน แล้วเฮียจะให้เอาไปให้ที่ไหนคะ”
“ห้องพัก”
“...คะ? ห้องทำงานดีกว่าไหมคะเฮียห้องพักน่าจะ... / ขอตอนนี้ อย่าช้า ไปกันเถอะ” ลูกน้องของเขากำลังพูดแต่พูดไม่ทันจบเขาก็พูดตัดบทแล้วก็หันมาบอกฉันจากนั้นก็ดึงมือฉันให้เดินตาม เดินผ่านหน้าพนักงานของเขาไปเลย
“เด็กนายเหรอ” พอห่างออกมาไกลพอสมควรฉันก็เอ่ยถามทันที ที่ถามเพราะอะไรรู้ไหมคะ เพราะขมิ้นคนนี้สัมผัสได้ถึงความเป็นก้างชิ้นใหญ่ของคนตรงหน้าที่แม่หมา เอ๊ย! แม่แมวสาวกำลังหวงยังไงล่ะ
พนักงานคนสวยเมื่อกี้แสดงออกให้ฉันรู้ว่ากำลังหวงคนที่เธอเรียกว่า เหี้ย เอ๊ย! เฮีย ถึงจะแสดงออกมาแค่นิดเดียวแต่ก็สัมผัสได้ เซ้นส์ผู้หญิงมันแรงนะคะ โดยเฉพาะเซ้นส์การรับพลังงานความหึงหวงจากผู้หญิงด้วยกัน คนเมื่อกี้เป็นเด็กเขาแน่นอนฉันฟันธง
“เงียบ” เขาพูดคำเดียว สั้น ๆ แอบดุนิดหน่อยฉันเลยยิ้มปนเบ้ปากเบา ๆ ถึงแม้เขาจะไม่เห็นก็ตาม
“อ่อ เข้าใจแล้ว”
ขวับ!
“อะไร” ก็แค่พูดว่าเข้าใจแล้วจะหันมามองดุทำไม
“มีอะไร” ถามมาฉันก็ถามกลับบ้าง
“เข้าใจว่าอะไร”
“เอ้า! ยังต้องถามอีกเหรอ” เหมือนเขาจะหงุดหงิดฉันเลยแกล้งปั่นประสาททำหน้ารู้ทันกลับไปอีตาแม็คเวรเลยจ้องหน้าแต่ไม่นานก็ดึงฉันให้เดินตามเขาอีกครั้ง เดินพาฉันขึ้นลิฟท์ไปที่ชั้นห้าพอเดินออกมาก็เงียบมากรอบบริเวณก็ตกแต่งแบบเทา ๆ ดำ ๆ ดูดาร์กตามสไตล์ผู้ชายดี ยิ่งบวกความเย็นชากับเลือดเย็นของเขาบรรยากาศของชั้นนี้ก็ยิ่งดูดาร์กในดาร์กของดาร์ก โคตรจะดาร์กเลยให้ตายเถอะ
“นี่คือที่ทำงานเหรอ?” มันดาร์กก็จริงแต่พอเดินผ่านประตูหน้าลิฟท์เข้ามามันกลับเหมือนบ้านหรือคอนโดมากกว่ารึเปล่า
“เปล่า นี่ห้องพักของฉันเอง” เขาบอกแล้วเปิดประตูบานหนึ่งทำให้เห็นว่าข้างในเป็นห้องที่เหมือนห้องชุดในคอนโดไม่มีผิด จริงสิเขาบอกให้เด็กของเขาเอากล่องปฐมพยาบาลมาให้ที่ห้องพักนี่คะ ฉันก็ตงิดใจอยู่นะตอนนั้นแต่ทำไมอยู่ ๆ ก็ลืมไปได้นะบ้าจริง ฉันเริ่มรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยก็เลยกระตุกมือเขาแรง ๆ แล้วมองขู่
“เข้ามา” เขาหันมาเรียกฉันก็เดินตามเข้าไปช้า ๆ จนกระทั่งไปถึงโซฟากลางห้อง
“อย่าคิดจะทำอะไรฉันนะไม่งั้น...”
หมับ~
“บอกว่าจะทำแผลไง” ยังพูดไม่จบเขาก็เอามือมาแตะที่ปากฉันไว้แล้วพูดออกมาว่าพามาทำแผล พอพูดจบเขาก็เอามือมาไล้ที่ริมฝีป ากฉันเบา ๆ ก็ตรงที่มันเป็นแผลเล็ก ๆ แต่มีเลือดออกนั่นล่ะค่ะ
“มันก็แค่เป็นแผลนิดเดียวเพราะโดนกัดปาก แป๊บเดียวก็หายไม่จำเป็นต้องทำแผลเลยสักนิด”
“จำเป็นสิ ไม่จำเป็นสำหรับเธอ...แต่จำเป็นสำหรับฉัน”
“...พูดเพื่ออะไร คิดว่าฉันจะเคลิ้มตามแล้วโง่หลงกลนายอีกเหรอ? เก็บคำพูดปลอม ๆ ของนายไปเถอะ” ฝันไปเถอะ! คนอย่างฉันเจ็บแล้วจำ ฉันเป็นคนไม่ใช่ควาย!
“หึ! โอเค ถ้างั้นจะได้ไม่พูดอีก ฉันก็ไม่ชอบพูดเหมือนกัน”
หมับ~
“อื้อ~”
อีกแล้ว เขาจูบฉันอีกแล้วแต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนครั้งก่อนหน้าที่เขาจูบได้หยาบคายมากจนฉันปากแตก ครั้งนี้กลับเป็นจูบที่อ่อนโยน มือเขากอดเอวฉันไว้แล้วรั้งเข้าหา จูบในวันนี้เหมือนจูบในคืนนั้นเลย มันอ่อนโยนมากแล้วก็ไม่มีท่าทางคุกคามเลยสักนิดเพราะทันทีที่ฉันตั้งสติได้แล้วบอกตัวเองให้ถอยแค่ขยับใบหน้าหนีจูบของเราสองคนก็หยุดลงได้อย่างง่ายดาย
“นะ นายอย่ามาจูบฉันตามอำเภอใจนะ” ฉันรีบบอกเขา พยายามทำเสียงให้ดูโมโหที่สุดถึงแม้ว่ามันจะสั่นก็ตาม แต่ถึงจะขยับปากออกห่างจากเขาได้มือเขากลับไม่ยอมปล่อยแล้วยังกอดเอวฉันแน่นขึ้นด้วยซ้ำ
“หึ ๆๆ นี้ก็สั่นเหรอเด็กน้อย แล้วถ้าฉันทำอะไรเธอขึ้นมาจริง ๆ จะสู้ยังไงไหว”
“ใครเด็ก?” ความจริงฉันน่าจะโกรธเพราะประโยคตอนท้ายมากกว่าแต่บังเอิญว่าน้ำเสียงเขาไม่ได้พูดเพื่อข่มขู่ให้กลัวฉันเลยไม่สนใจคำพูดนั้นแต่สนใจคำที่เขาเรียกฉันว่าเด็กน้อยแทน
“เธอไง”
“ฉันไม่ใช่เด็ก แล้วก็ปล่อยเดี๋ยวนี้เลยนะเดี๋ยวเด็กนายก็มาเห็นหรอก”
“ไม่ใช่เด็กฉัน” เสียงเขาดุขึ้นมาอีกครั้ง นอกจากดุก็ยังรั้งฉันเข้าหามากขึ้นจนร่างกายท่อนล่างมันแนบชิดติดกัน
“เหรอ?” ฉันว่าสมองระดับที่หลอกผู้หญิงเก่งขนาดนี้เขาก็น่าจะฉลาดมากจนอ่านสายตาฉันออกนะ สายตาที่กำลังมองเขาแล้วสื่อความหมายว่า...ฉันไม่เชื่อนายหรอกไอ้คนตอแหล!
“อืม”
“เหอะ!”
“ทำไม...หึงรึไง?”
“ไม่มีทาง! ให้ฉันหึงนายสู้ให้ฉันไปแต่งงานกับควายกลางทุ่งนายังมีความเป็นไปได้มากกว่าอีก”
“หึ ๆๆ ตลกดี ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับฉันขนาดนั้นเชียว”
“แน่นอน ความจริงไม่จำเป็นต้องถามเลยนะคำถามนี้”
“หึ ๆๆ ฉันรู้ แต่เสียใจด้วยนะขมิ้น เราสองคนยังต้องอยู่ด้วยกันไปอีกนาน”
“...หมายความว่ายังไง” คำพูดเขาแปลก ๆ จะให้มองผ่านก็เลยทำไม่ลง พอโดนถามเขาก็ยิ้มที่มุมปาก เป็นรอยยิ้มที่ดูมีอะไรชั่วแอบแฝงเหมือนตัวร้ายในซีรีย์ไม่มีผิด
“อยากรู้… / เฮียคะ” เขากำลังพูดกับฉันแต่ก็มีเสียงบุคคลที่สามแทรกขึ้นมาทำให้เราทั้งคู่หันไปมองต้นเสียงพร้อมกัน มองคนที่เดินผ่านเข้ามาด้านในประตูที่เป็นส่วนของห้องพักโดยที่ไม่เคาะประตูแถมยังเอ่ยปากพูดแทรกเขาแล้วมองมาที่เราสองคนเหมือนการกอดกันในพื้นที่ส่วนตัวอยู่ตอนนี้เป็นเรื่องปกติที่คนอื่นเข้ามาเห็นแล้วไม่จำเป็นต้องตกใจหรือใส่ใจ
เหอะ! แล้วก็ปากหนักบอกไม่ใช่เด็ก แสดงออกขนาดนี้ไม่ใช่เลยมั้ง คิดจะหลอกให้ฉันโง่อีกแล้วไอ้บ้าแม็คเวร
“ฝ้ายเอากล่องปฐมพยาบาลมาให้แล้วค่ะ” พนักงานคนนี้ไม่สิเรียกว่าเด็กเขาน่าจะง่ายกว่า นั่นล่ะค่ะเด็กของเขามองเราสองคนแล้วเดินเข้ามา ทำท่าทางของเธอปกติไม่ได้พยายามแสดงตัวว่ามีความสัมพันธ์อะไรที่มากกว่าเจ้านายกับลูกน้องเลยนะแต่เชื่อเถอะว่าอาการทำเป็นไม่สนใจว่าเขากำลังกอดผู้หญิงแปลกหน้าที่แนะนำว่าเป็นแฟนอยู่แล้วยิ้มทำเป็นปกติอยู่ตอนนี้นี่ล่ะที่เป็นการแสดงออกที่ชัดเจนในอีกรูปแบบหนึ่ง
...ร้าย
ฉันว่ายัยนี่ร้ายชัวร์ ร้ายมาก เข้าขั้นร้ายเวอร์เลยล่ะ
“ขอบใจ”
“ค่ะ แล้วเฮียจะเอาอะไรอีกไหมคะ”
“ไม่ ออกไปเถอะ”
“ค่ะ” เธอยิ้มให้เขาแล้วหันมาสบตาฉันจากนั้นก็ยิ้มบาง ๆ ให้แล้วหันหลังเดินไปจนกระทั่งเปิดประตูห้อง
“ฝ้าย” อ้าว~ พอเขาจะไปจริง ๆ ดันอาลัยอาวรณ์กลัวเด็กเข้าใจผิดขึ้นมารึไงคะพี่เวร
“คะ” พอถูกเหี้ย เอ๊ย เฮียของตัวเองเรียกเด็กของเขาก็รีบหันมาเลยนะคะ ยิ้มเลยล่ะ
“คราวหลังเคาะประตู อย่าเข้ามาแบบนี้อีก เกรงใจแฟนฉันด้วย” อ้าว ผิดคาดแฮะ แต่...ฉันไม่ใช่แฟนนาย!
“...ค่ะ” เธอรับคำช้า ๆ ก่อนจะหันหลังแล้วเดินออกไปแต่ฉันเห็นสายตาไม่ค่อยดีที่มองมาที่ฉันแว๊บหนึ่ง แต่ช่างมันเถอะฉันมาที่นี่แค่ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายเท่านั้นล่ะ
พอเด็กของเขาออกไปเขาก็ดึงฉันให้นั่งลงแล้วทำแผล อันที่จริงยังมีคำถามติดอยู่กับคำพูดแปลก ๆ ของเขาก่อนหน้านี้แต่ช่างมันเถอะทำแผลแล้วกลับเลยดีกว่า แต่ก็ไม่รู้จะทำเสร็จเมื่อไหร่เพราะอีตาแม็คเวรนี่ทำแผลได้ช้ามาก ค่อย ๆ แตะ ค่อย ๆ ทายาจนรู้สึกรำคาญไปหมด
“เร็ว ๆ เถอะ” ฉันเร่งเขาเพราะแค่ทายามันก็จบแล้ว ไม่ต้องทาเลยก็ได้ด้วยซ้ำไปแต่เขาก็ค่อย ๆ แตะยาทาเบา ๆ อยู่นั่น
“เฉย ๆ” เขาดุแล้วทายาต่อ ฉันกรอกตามองบนด้วยความรำคาญจากนั้นก็มองไปที่เขา มองไปก็เห็นแต่หน้าหล่อบรรลัยที่หน้านิ่วคิ้วขมวดทายาให้แผลเล็ก ๆ ที่ปากฉันอย่างกับทำแผลคนไส้ติ่งแตกที่ยังเย็บแผลไม่ได้ -_-!
“เสร็จแล้ว” เขาชักมือกลับฉันก็ขยับออกห่างเหมือนกัน
“ฉันทาเองก็จบ”
“เธอทาเองก็คงทาลวก ๆ”
“แผลแค่นี้จะต้องทาดีอะไรนักหนา”
“หึ ๆๆ เธอไม่เข้าใจหรอก” เขาเก็บยาไปหัวเราะเบา ๆ ไป พอพูดจบก็ยิ้มบาง ๆ ออกมา เป็นรอยยิ้มที่แปลกดีนะคะ ดู...อบอุ่น แต่ไม่หรอก ฉันน่าจะตาฝาดมากกว่า
“อือ ฉันไม่เข้าใจอยู่แล้วล่ะ” วิถีคนเลวอย่างนายคนดีนิสัยเหมือนนางฟ้านางสวรรค์อย่างฉันคนนี้ไม่มีทางเข้าใจและเข้าถึงหรอกย่ะ
“แล้วนี่ยังไงต่อ ทำแผลเสร็จแล้วฉันกลับเลยได้ไหม ท่าทางนายจะไม่ได้อยากเคลียร์อะไรเท่าไหร่หรอก ปล่อย ๆ มันไปเถอะเรื่องวันนั้นฉันจะอโหสิให้”
“ไร้สาระ จะดื่มน้ำหน่อยไหมจะได้คุยกัน” ตกลงคือจะคุย?
“ไม่อ่ะ ถ้างั้นก็พูดมาเถอจะได้จบเรื่อง”
“โอเค” เขาพูดแล้วเอนตัวพิงโซฟา แล้ว? แล้วยังไงต่อ โอเคแล้วก็อ้าปากพูดสิวะ -_-!
“พูดสิ” ฉันบอกเขาอีตาแม็คเวรก็ระตุกยิ้มบาง ๆ
“ย่าของฉันอยากให้ฉันมีแฟน”
“แล้ว?” แล้วมาบอกเพื่อ จะขอร้องให้ฉันไปเป็นแฟนนายตบตาย่านายเหมือนในละครรึไง ตลก!
ฉันถามสั้น ๆ แต่เขาไม่ตอบอะไรนอกจากล้วงกระเป๋าเสื้อตรงหน้าอกหยิบของบางอย่างออกมา มันเป็นกระดาษขนาดเท่าแบงค์แล้วก็วางลงบนโต๊ะซึ่งแน่นอนว่ามองตาเดียวก็รู้ว่ามันคืออะไร
??? อย่าบอกนะว่าเป็นอย่างที่ฉันคิดเล่น ๆ จริง ๆ
“เอาเช็คมาวางเพื่อ” ฉันถามสั้น ๆ มองเช็คบนโต๊ะแล้วก็มองเขา
“เดือนละแสน ค่าจ้างมาเป็นแฟนตบตาย่าฉัน”
“ฮะ?” เอาจริงเหรอ? นี่ฉันเผลอหลุดเข้ามาในโลกละครรึเปล่าคะ
“ตามนั้น ช่วยมาเป็นแฟนให้หน่อย ฉันไม่อยากถูกย่ายัดเยียดลูกหลานของคนรู้จักมาให้”
“ทำไมต้องเป็นฉัน ไปจ้างคนอื่นก็ได้มั้ง เผลอ ๆ ไม่ต้องจ้างหรอกแค่นายหลอกเขานิดหน่อยว่านายอยากจริงจังเขาก็พร้อมเป็นแฟนจริง ๆ ให้นายแล้ว นายหลอกเก่งจะตาย” ขอแนะนำไปแอบด่าไปหน่อยนะคะ หมั่นไส้
“ถ้าฉันอยากมีแฟนจริง ๆ ฉันจะจ้างเธอทำไม” เสียงเย็นชาไร้ความรู้สึกของเขาพูดออกมา มันเป็นคำพูดตรง ๆ แต่ทำไม...ฉันแอบรู้สึกหน่วงในใจแบบนี้นะ
“แล้วทำไมต้องเป็นฉัน ไปจ้างคนอื่นก็ได้”
“เพราะย่าฉันดุมาก แต่ย่าก็รักยัยวีญ่ามาก ถ้าเป็นเธอที่เป็นเพื่อนรักของหลานสาวยังไงย่าก็ต้องเกรงใจ”
“แน่ใจ?”
“ไม่แน่ใจฉันจะยอมเสียเงินเป็นแสนจ้างเธอทำไม” เขาบอกแล้วมองฉันด้วยสายตาที่ฉันรู้สึกเหมือนเขากำลังจะบอกว่า ถามอะไรโง่ ๆ ยังไงก็ไม่รู้สิคะ
“เหอะ! ไม่เอาอ่ะ ฉันไม่รับงาน เสียใจด้วยนะไปหาคนอื่นเถอะ”
“แน่ใจ?”
“อืม แน่ใจมาก แน่ใจยิ่งกว่าตอบข้อสอบที่โจทย์ถามว่าคนกับหมาผสมพันธ์กันได้รึเปล่าอีก”
“ขมิ้น อย่ามากวนประสาทฉัน” ดุอีกแล้วค่ะ ดุเหมือนหมาเลย นี่แหละคำตอบ คนกับหมาผสมพันธ์กันไม่ได้
“โอเค ไม่กวนแล้ว แต่นายได้คำตอบแล้วเนอะถ้างั้นฉันกลับล่ะ”
“อืม กลับไปเลย...กลับไปรอยัยวีญ่าที่ห้อง ตอบคำถามน้องสาวฉันด้วยล่ะตอนที่น้องฉันเอารูปฉันกำลัง...นอนดูดนมเธอไปให้ดู”