“...พาไปส่งที่ผับได้ไหมคะ หนูห่วงพี่รหัสหนู”
“เขาไปกับผัวเขาแล้วไม่ต้องห่วงหรอก”
“พี่สาวหนูไม่มีผัวค่ะ”
“อืม ไม่มีก็ไม่มี ช่างพี่รหัสเธอเถอะ”
“ถ้างั้น... / แต่ถ้าเธอยังไม่รีบบอกทาง...คืนนี้เธอมีผัว”
“ฮะ?”
“อยากมีไหม?”
“อยาก เอ๊ย! ไม่อยากค่ะ ก็ต้องไม่อยากสิคะ!” ขมิ้นเอ๊ย~ น่าอายจริง ๆ เลย ทำไมไม่รู้จักตั้งสติแล้วคิดก่อนพูด แกไม่จำเป็นต้องพูดทุกอย่างที่ใจคิดตอนตั้งสติไม่ทันหรอกนะ -///-
“ถ้างั้นก็รีบบอก ถ้าช้าฉันเลี้ยวเข้าม่านรูด”
“บ้า! ซอย XXX ค่ะ รู้จักไหมคะ”
“ก็แค่นั้น” เขากระตุกยิ้มนิดหน่อยแล้วก็ขับรถช้าลง
เอายังไงดีมิ่น? จะชวนคุยหรือนั่งเงียบ ๆ ดี เครียดนะเนี่ย คนไม่รู้จักกันต้องนั่งรถด้วยกันแถมไว้ใจได้แค่ไหนก็ไม่รู้ รู้แค่สองอย่างจริง ๆ คือชื่อแม็คเวลกับ...หล่อมาก -_-!
“หอชื่ออะไร” ระหว่างที่กำลังตัดสินใจว่าจะชวนคุยไม่ให้บรรยากาศอึดอัดหรือนั่งเงียบ ๆ แล้วภาวนาให้เขาพาไปส่งถึงหอพักดีพี่เขาก็ถามขึ้น
“หอผกาแก้วค่ะ” ตอบแล้วจะรู้จักไหมก็คงไม่หรอก พอตอบออกไปเขาก็ปรายตามองแต่ทำไมฉันรู้สึกว่า...
“หอโทรม ๆ เกือบท้ายซอยนั่นน่ะเหรอ?”
“...ค่ะ รู้จักเหรอคะ” ใช่ฉันรู้สึกว่าเขามองเหยียด ไม่ใช่แค่มองเหยียดแต่คำถามพี่เขาก็ยังดูแคลนด้วย
ทำไมล่ะ? ก็หนูไม่ได้รวยเรียนมหาลัยไฮโซแบบพี่นี่คะ เรียนมหาลัยรัฐบาลแถมค่าเทอมยังกู้กยศ. อีกต่างหาก ฐานะทางการเงินไม่ได้มั่นคงที่ไหนพออยู่ได้ก็ต้องเลือกที่นั่นล่ะ ขอแค่ปลอดภัยสำหรับการอยู่คนเดียวก็พอแล้ว
“อืม เคยขับรถผ่าน”
“อ่อ” ฉันพูดแค่นี้ดีกว่า บอกตรง ๆ นะว่าแอบเขินเหมือนกัน สังคมพี่เขาคงมีแต่คนรวยไม่มีใครอยู่หอพักเก่า ๆ โทรม ๆ แต่ก็ช่างเถอะ ฉันเปลี่ยนแปลงความจริงไม่ได้ว่าฉันเป็นแค่เด็กต่างจังหวัดที่ฐานะทางบ้านแค่มีกินมีใช้ จะให้ไปอยู่ที่หรู ๆ ดี ๆ ก็เกินตัวไป
ไม่มีเสียงพูดคุยระหว่างฉันกับพี่เขาอีก ทุกอย่างเงียบจนกระทั่งใกล้จะถึงซอยของหอพัก อีกแค่นิดเดียวก็ต้องแยกย้ายแล้วสิเนอะ น่าเสียดายจังหลังจากวันนี้ก็คงไม่มีโอกาสได้พูดคุยกันอีกแล้วล่ะ อย่าว่าแต่คุยเลยโอกาสเจอก็คงแทบไม่มีหรือถ้าบังเอิญได้เจอกันขึ้นมาก็คงมีแค่ขมิ้นคนนี้ที่จำพี่แม็ลเวลได้
เป็นเศร้านะคะ พี่เขามองฉันแต่มองแล้วไง? เขาก็แค่อยากวันไนซ์สแตนด์ พอเราบอกตรง ๆ ว่าไม่ได้ทำแบบนั้นเขาก็ไม่ได้คิดจะเซ้าซี้ให้สานต่อหรืออยากจีบอะไรเลย ไม่แม้แต่แสดงอาการสนใจด้วยซ้ำ
-_-!
เกลียดคนหล่อว่ะ คนหล่อทำให้อกหักง่ายฉิบเป๋งเลย ไม่มีให้ได้ลุ้นนาน ๆ พอให้ใจได้กระชุ่มกระชวยเลยไอ้บ้าเอ๊ย -_-!
“มันปลอดภัยเหรอหอที่เธออยู่”
“คะ?”
“ถามว่าหอที่อยู่มันปลอดภัยเหรอ” ที่ถามนี่เวทนารึเปล่า พี่เขาต้องกำลังคิดว่าหอเก่า ๆ โทรม ๆ ของฉันมันมีความปลอดภัยระดับต่ำตมแน่ ๆ
“ก็มีรปภ. มีคีย์การ์ดเข้าตึก มีกล้องวงจรปิดนะคะ ปลอดภัยค่ะ”
“แค่นี้?”
“ค่ะ”
“คิดว่าปลอดภัยงั้นสิ” แล้วนี่พี่เขาจะทำเสียงเยาะเย้ยเพื่ออะไรมีทราบ? มันก็เป็นไปตามมาตรฐานที่หอพักต้องมีแล้วไม่ใช่รึไง มันต้องมีอะไรอีก มีทหารยามแบกปืนเฝ้าทุกจุดรึไงถึงจะเรียกว่าปลอดภัย -_-! หรือว่าพวกคนรวยเขามีระบบความรักษาความปลอดภัยที่มันดีกว่านี้มาก ๆ อันนี้ไม่ได้ประชดนะคะแต่ฉันไม่รู้จริง ๆ
“ก็คิดว่าปลอดภัยนะคะ ตั้งแต่อยู่มาก็ไม่เคยโดนอะไร”
“มันไม่ปลอดภัยหรอก อันตรายตั้งแต่เดินเข้าซอยเลยด้วยซ้ำ หรือเธอไม่รู้ว่าซอยนี้เป็นแหล่งของพวกนักเลงค้ายา”
“ก็...เขาอยู่กันที่ชุมชนท้ายซอยนี่ค่ะ ไม่ได้เกี่ยวกับหอพักที่หนูพักซะหน่อย”
“สักวันที่เธอมีภัยจากคนพวกนั้นเธอจะรู้ว่ามันเกี่ยวเต็ม ๆ”
“...รู้ค่ะ แต่จะให้ทำยังไงล่ะหนูไม่ได้มีเงินเยอะขนาดจะไปอยู่คอนโดหรือหอพักแพง ๆ นี่นา ความปลอดภัยมันก็มาตามสภาพเงินนั่นล่ะค่ะ” ยอมรับแบบแมน ๆ ไปเลยว่าจน แหะ ๆ
“ไม่มีเงินไปอยู่หอดี ๆ แต่มีเงินไปดื่มเหล้าเข้าผับ?” เขาหันมาถาม คำถามกับสายตาเหมือนโดนผู้ชายตบหน้าเลย -_-! แต่เสียใจเพราะถึงคำถามกับสายตาจะเหมือนตบหน้าแต่ฉันไม่เจ็บสักนิด เพราะอะไรรู้ไหม? เพราะ...
“ไม่ได้จ่ายเองค่ะ พี่รหัสเลี้ยง”
“อืม ก็ดี” อื้ม มันก็ต้องดีอยู่แล้วล่ะ ว่าแต่เขาชวนคุยเรื่องความปลอดภัยของหอพักเพื่ออะไรเนี่ย? คุยอะไรอย่างกับคนแก่เลย -_-!
“ข้างหน้าก็ถึงแล้วค่ะ” ฉันบอกออกไปถึงแม้ว่าพี่เขาจะดูรู้จักหอพักของฉันก็ตาม
“อืม” อีกแค่ประมาณหนึ่งร้อยเมตรข้างหน้าก็ถึงแล้วค่ะ ใจหายที่คงไม่มีโอกาสได้เจอเขาอีกพร้อมกับดีใจนะคะที่พี่เขามาส่งถึงหออย่างที่พูดโดยที่ไม่ได้ลวนลามฉันเลย
รถเลี้ยวเข้ามาในหอพักหัวใจดวงน้อย ๆ ของขมิ้นคนนี้ก็เริ่มเหี่ยวเฉาลง นี่ต้องจากกันจริง ๆ แล้วสินะ
“ขอบคุณนะคะที่มาส่ง”
“อื้ม รีบขึ้นไปเถอะ มีรปภ. แต่รปภ. นั่งก๊งเหล้าแบบนี้มันปลอดภัยตรงไหนวะ”
“แหะ ๆๆ แกง่วงมั้งคะเลยดื่มแก้ง่วง”
“คุณภาพชีวิตต่ำ”
“ฮะ? อะไรนะคะ?” ได้ยินนะ ได้ยินเต็มสองหูเลยแต่ถามเพราะไม่คิดว่าเขาจะพูดคำนี้ออกมา นี่วิจารณ์หรือดูถูก?
ถ้าวิจารณ์ก็คงต้องบอกว่าไม่มีสิทธิ์วิจารณ์คุณภาพชีวิตใครเพราะโอกาสของคนเราไม่เท่ากัน แต่ถ้าดูถูกก็คงต้องบอกว่าเกิดมาหล่อหน้าตาดีแต่ดูถูกคนอื่นแบบนี้ก็ไม่คิดจะเอาไปทำพันธุ์เหมือนกัน
“คุณภาพชีวิตต่ำไง”
“...พี่มีสิทธิ์อะไรตัดสินว่าใครคุณภาพชีวิตสูงหรือต่ำ?” ก่อนหน้านี้เสียงสองเสียงสามแต่ตอนนี้ไม่แล้ว เจอคำพูดแบบนี้ไปฉันพูดดีด้วยไม่ลง
“ไม่มีสิทธิ์หรอก แต่ฉันมองเห็นจากสภาพแวดล้อมของเธอนี่ไง หรือจะบอกว่ามันดี?”
“มันก็ดีในแบบของมันแต่มันแค่ไม่ดีในอุดมคติของพี่ค่ะ ขอบคุณนะคะที่มากส่ง แต่คราวหลังไม่ต้องไปส่งใครแล้วดูถูกชีวิตเขานะคะ...หยาบ!”
ปัง!
ฉันปิดประตูแล้วเดินลงรถเลย รีบเดินขึ้นห้องแบบไม่อาลับอาวรณ์ความหล่อของเขาด้วย...ไอ้คนรวยเฮงซวย! อย่าได้พบได้เลยคนแบบนี้อีกเลยนะไอ้ทิด!