กรุงโรม อิตาลี
เปาะแปะ คุณหนูคนสวยของบ้านอภินันท์ธร ร่ำรวยเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ ใคร ๆ ต่างก็พากันอิจฉาที่หล่อนเกิดมาพร้อมทั้งสมบัติและรูปสมบัติ ร่างสวยบอบบางอ้อนแอ้นแต่กลับมีทรวดทรงองค์เอวที่พอดี อกสวยซ่อนรูปสะโพกสวยรับกับเอวคอด
และหน้าหวานที่ดูเด็กราวกับเด็กมัธยมปลาย ทั้งที่หล่อนอายุ 23 ปีแล้ว ไม่รู้ตอนเด็กคุณพ่อกับคุณแม่ป้อนด้วยอะไร หน้าถึงได้เหมือนเด็กจนเวลาทำงานจะดุใครก็ไม่ค่อยจะมีคนกลัว
หล่อนเปิดร้านดอกไม้และบริหารจนทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำ อีกทั้งยังขยายสาขาออกไปหลายแห่งในประเทศ ก่อนจะฝากฝังให้ผู้จัดการดูแลร้านแทนไปก่อน เพราะตอนนี้หญิงสาวกำลังเดินเที่ยวชมสถานที่ในฝันอันสุดโรแมนติก ที่กว่าจะขอบิดามาได้เลือดตาแทบกระเด็น ดีที่มารดาช่วยพูดให้ ไม่อย่างนั้นหล่อนคงไม่มีทางได้มาเที่ยวคนเดียวแบบนี้ ว่าแล้วก็กดโทรไปหาผู้เป็นบิดามารดาทันที
“ฮัลโหลค่ะ คุณพ่อคุณแม่ขา เปาะแปะถึงแล้วนะคะ”
เสียงหวานสดใสกล่าวรายงานท่านทั้งสอง อารมณ์สดใสบ่งบอกได้ถึงความสุขที่เจ้าตัวกำลังมี
“ดูแลตัวเองดี ๆ นะลูก พ่อเป็นห่วง หึย น่าจะให้คนไปดูแลด้วย” ท่านทรงศักดิ์อดห่วงลูกสาวคนเดียวไม่ได้ ต้องจากอกท่านไปในที่ไกล ๆ แบบนั้น หนำซ้ำยังขอไม่ให้มีคนติดตามไปอีก
คุณพ่อขี้หวงนึกอยากตามลูกสาวไปด้วย ตั้งแต่เล็กจนโตท่านไม่เคยปล่อยลูกสาวไปไหนคนเดียวสักครั้ง ความห่วงใยหวงแหนแล่นลิ่วทั่วร่าง
“โถ่ คุณพ่อคะ เปาะแปะมาเที่ยวนะคะ ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอกค่ะ” เธอโตมากแล้ว การมาเที่ยวคนเดียวไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอะไร
“นั่นแหละพ่อเป็นห่วง” คนหวงและห่วงลูกบอกเสียงอ่อน
“ไปเที่ยวเถอะลูกอยากไปมานานแล้วไม่ใช่หรือ ถ่ายรูปมาให้แม่ดูเยอะ ๆ นะ” คุณหญิงสินีผู้เป็นมารดาบอกลูกสาวด้วยความเข้าใจ ท่านเห็นสมควรและเป็นตัวช่วยลูกสาวเต็มที่
“ได้ค่า รักคุณพ่อคุณแม่ที่สุดเลย จุ๊บค่ะ” สายถูกตัดไปเมื่อบุตรสาวได้กล่าวจบ
“ผมไม่น่าให้ลูกไปคนเดียวเลย ผมห่วงลูก เมื่อคืนฝันร้ายด้วย”
ชายสูงวัยทำหน้าเศร้าหันมาหาภรรยาที่รัก
“ฝันว่าอะไรคะ” คุณหญิงถามอย่างแปลกใจ
“ฝันว่ามีงูสีดำตัวใหญ่มันรัดเปาะแปะลูกสาวเราเอาไว้จนแน่น แล้วมันก็พาลูกสาวเราไป ผมพยายามช่วยก็ช่วยไม่ได้”
ท่านกังวลใจกลัวลูกสาวเจอเรื่องร้าย การฝันแบบนี้ไม่ใช่เรื่องดีแน่
“มันก็แค่ฝันนะคะ อย่าไปคิดมากเลย” ท่านมองสามีด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มระคนอ่อนใจกับความหวงลูกสาวเกินเหตุ
“แต่คนโบราณบอก ถ้าฝันแบบนี้จะเจอเนื้อคู่ ถ้าลูกสาวเราไปเจอไอ้หัวทองแล้วเกิดมีความรักขึ้นมาละคุณ ไม่ได้การละ ผมต้องให้คนตามไปเฝ้า” ร่างใหญ่ที่ออกกำลังกายสม่ำเสมอทำท่าจะลุกขึ้นไปหยิบโทรศัพท์แต่ก็ถูกผู้เป็นภรรยามองตาเขียว
“หยุดเลยนะคุณ สัญญากับลูกแล้วนะคะ อีกอย่างเปาะแปะก็โตพอที่จะไปไหนมาไหนคนเดียวได้แล้วค่ะ” เสียงหวานแข็งขึ้น
“….”
เมื่อเถียงภรรยาไม่ได้จึงได้แต่ทำหน้ามุ่ยไม่พูดไม่จาเป็นการประท้วง ซึ่งวิธีนี้จะถูกงัดออกมาใช้อ้อนคุณหญิงผู้เป็นภรรยาโดยเฉพาะ
“ทำไปก็ไม่ได้ผลหรอกค่ะ แต่ถ้าอยากทำก็เชิญสิไม่สนใจคุณหรอก ก็ดีซะอีกคืนนี้สิจะได้นอนคนเดียว คุณก็ไปนอนที่ห้องรับแขกแล้วกันนะคะ ถ้ายังจะประท้วงแบบนี้อยู่”
ว่าจบคุณหญิงสินีก็พาร่างสวยที่แม้ว่าอายุจะมากแล้วแต่ก็ยังไม่ได้ลดทอนความสวยลงไปสักนิดเดินหนีออกไป
“คุณหญิงใครบอกว่าผมประท้วง คุณคิดไปเองแล้ว”
ท่านทรงศักดิ์รีบเดินตามเข้าไปสวมกอดภรรยา ใครจะไปยอมนอนนอกห้องแม้เวลาจะผ่านมาเนิ่นนานจนบุตรสาวโตแล้ว เขาก็ไม่เคยอยากห่างภรรยาคนสวยเลยสักนิดเดียว
“สิจะเชื่อคุณได้มั้ยคะเนี่ย” สามีท่านเจ้าเล่ห์เกินกว่าใคร
“ได้สิ ๆ ไป ๆ ๆ ผมพาไปดูดอกไม้ที่สวนหลังบ้านกัน ดอกกุหลาบสีขาวที่คุณชอบออกดอกแล้วนะ” ท่านเอ่ยชวนภรรยาอย่างเอาใจ
“กะล่อนไม่เปลี่ยนเลยนะคุณเนี่ย” คุณหญิงค้อนผู้เป็นสามีแต่ก็ยอมเดินตามไปด้วยแต่โดยดี