ตอนที่ 3 มาเฟียกรุงโรม

874 Words
สาวน้อยเดินถ่ายรูปไปเรื่อย ๆ ตอนนี้หล่อนอยู่ที่โรม โรมมีประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่า 2,800 ปี ตั้งอยู่บนเนินเขาทั้งเจ็ดริมฝั่งแม่น้ำไทเบอร์ตอนกลางของประเทศ โดยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรในอดีตมากมาย เช่นอาณาจักรโรมัน ที่คนทั้งหลายต่างพากันยอมรับในอารยธรรม โรมเคยเป็นเมืองที่มีบทบาทมากที่สุดของอารยธรรมตะวันตก และในอดีตได้เป็นอาณาจักรที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปัจจุบันได้เป็นเมืองหลวงของประเทศอิตาลี มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายหลายแห่งที่น่าสนใจ (อ้างอิง:วิกิพีเดียกรุงโรม) “สวยจัง อยากอยู่เที่ยวนาน ๆ จังเลย” สาวสวยพูดกับตัวเองเบา ๆ ไม่รู้อะไรทำให้หล่อนหลงใหลเมืองนี้ ยิ่งมาเจอยิ่งมาเห็นก็ยิ่งชอบมากขึ้นเรื่อย ๆ หญิงสาวไม่รู้ตัวเลยว่าอีกไม่นานเมืองนี้จะไม่ได้สร้างแค่ความสุขให้กับหล่อนเพียงอย่างเดียว ภายในโกดังร้างที่มีเหล่าบอดี้การ์ดหน้าเข้มยืนกันอยู่ทั่วทั้งโกดังบ้างกำลังเดินตรวจตรารอบ ๆ แข่งกับเสียงดังโหยหวนจากด้านในของโกดัง ที่เจ้านายหนุ่มคารอส มาเฟียผู้โหดเหี้ยมแห่งกรุงโรม กำลังพิพากษาและรีดเอาความลับจากหนอนบ่อนไส้ที่แฝงตัวเข้ามาหาข้อมูลภายในกาสิโนไปบอกยังคู่อริฝั่งตรงข้าม “อ๊ากกกก !!” เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดจากการถูกชกต่อยและเอาน้ำเกลือมาสาดไปทั่วร่าง “ใครส่งมึงมา” น้ำเสียงเย็นชาเปล่งออกมาถามเชลยที่ถูกมัดไว้ตัดกับเก้าอี้ ที่ตอนนี้สภาพสะบักสะบอมไม่เหลือชิ้นดี “ถุ้ย ต่อให้กูตายกูก็ไม่บอก” น้ำลายจากปากร่างสะบักสะบอมถูกถุยมาใส่ชายหนุ่มที่เพิ่งถามคำถาม ชายหนุ่มยกมือขึ้นหยิบกระดาษมาเช็ดน้ำลายที่ติดหัวไหล่เพียงเล็กน้อย “แป๊ะ ๆ ๆ ๆ ดี กูชอบลูกหมาที่ซื่อสัตย์แบบมึงจริง ๆ” เสียงปรบมือดังขึ้นพร้อมกับน้ำเสียงที่แสนดุดันเปล่งออกมา ‘กรี๊ดดดดด ปล่อยนะ ๆ อย่าทำอะไรฉันเลย ฮือ ๆ ๆ ๆ’ ภาพหญิงสาวถูกชายร่างใหญ่มัดไว้กรีดร้องอย่างหวาดกลัวถูกฉายขึ้นบนหน้าจอโทรศัพท์หรู “มิเชล อย่าทำอะไรเธอ ปล่อยเธอไป ถ้าจะทำมาทำที่กูคนเดียว” ชายสภาพปางตายเริ่มเอ่ยวิงวอนต่อคนตรงหน้า “ทำมึงมันจะไปสนุกอะไรละ บอกมาดีกว่าว่าใครส่งมึงมา” เสียงเหี้ยมบอกเนิบ ๆ อย่างเย็นชา พร้อมกับยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาอีกครั้ง ‘กรี๊ด ๆ ๆ ปล่อย ๆ ๆ อร๊ายยย ออกไป ๆ’ หญิงสาวกรีดร้องเมื่อผู้ชายที่ยืนล้อมอยู่เริ่มกระชากเสื้อยืดบนตัวหญิงสาวออก ชายที่นั่งอยู่เก้าอี้พยายามดิ้นเมื่อเห็นภาพของภรรยาถูกผู้ชายหลายคนกำลังรุมทึ้งเสื้อผ้าออก “ตัดสินใจช้า เมียของมึงต้องมีผัวทีเดียวสิบคนเลยนะ และกูก็ไม่ว่างมารอมึงนาน ไอ้พวกนั้นก็เหมือนกัน” มาเฟียแห่งกรุงโรมเอ่ยพร้อมกับยิ้มเหี้ยมให้คนบนเก้าอี้ คนชั่วก็ต้องเจอคนชั่วมันถึงจะสมน้ำสมเนื้อ “กูยอม ปล่อยมิเชล กูขอร้อง” “พูดง่าย ๆ แบบนี้ก็คงไม่มีปัญหา ใครส่งมึงมา” คารอสเค้นถามอีกฝ่าย “ฉันไม่รู้ว่าใครจ้าง รู้อย่างเดียวคือต้องการข้อมูลธุรกิจ และสร้างความเสียหายให้ที่นี่มากที่สุด” ร่างอ่อนแรงพูดตามที่ตนได้รับรู้มา “กูจะพยายามเชื่อที่มึงเล่า แล้วใครเป็นสายอีก” “มีพนักงานเสิร์ฟ 2 คน แล้วก็ นักร้องเอเชียที่เพิ่งลาออกไปอีกคน ส่วนคนอื่นกูไม่รู้” ข้อมูลที่ได้นับว่ามากพอให้มาเฟียหนุ่มไปสืบหาต่อเองได้ “ขอบคุณสำหรับข้อมูล” สีหน้าเหี้ยมกระตุกยิ้ม ปัง! กระสุนปืนฝังบนกลางหน้าผากอย่างแม่นยำ ร่างชายไร้วิญญาณตาเหลือกมองมาทางชายหนุ่มที่เป็นคนยิง ก่อนจะวางปืนแล้วหยิบกระดาษทิชชูมาเช็ดมือที่เปื้อนเลือด และใบหน้าคมคายออก “จัดการด้วยมาโค แล้วตามจับพวกที่เหลือมาด้วย ขอวันนี้!” เสียงเย็นชาสั่งลูกน้องคนสนิท “ครับเจ้านาย” ชายชุดดำก้มศีรษะรับคำสั่งจากเจ้านายเล็กน้อย “ออ พวกที่เหลือจับมันแยกขังไว้ เดี๋ยวกูจะมาจัดการเอง” คารอสหันมาสั่งลูกน้องอีกรอบก่อนจะเดินขึ้นไปบนรถ มาเฟียแบบเขาไม่เคยปล่อยให้คนทรยศรอดไปได้สักคนยิ่งพวกหนอนบ่อนไส้ เขายิ่งไม่มีทางละเว้น ผู้ชายโทษของพวกมันคือตายด้วยวิธีที่แสนจะทรมาน ส่วนผู้หญิงจะถูกส่งไปขังในห้องมืดรวมกันแล้วส่งลอยออกไปกลางทะเลที่กว้างใหญ่ หรือถ้าสร้างความเสียหายมากเขาก็ไม่เก็บไว้ไม่ว่าจะเพศอะไร เพราะแบบนี้เขาถึงได้ฉายามาเฟียแห่งกรุงโรม ด้วยหน้าตาที่คมคายหล่อเหลาแต่ความโหดเหี้ยมตัดกับหน้าตานั้นอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะตาสีท้องทะเลที่หากได้จ้องศัตรูคนนั้น ก็แทบอยากฆ่าตัวเองตายก่อน เพราะนั่นเป็นสัญญาณแห่งความทรมานที่ไม่มีทางสิ้นสุด…
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD