ตอนที่ 8

1246 Words
บทที่ 8 “ครับคุณพ่อ ผมเห็นด้วย” ผู้เป็นลูกชายสนับสนุนความคิดของบิดา “งั้นผมขอตัวออกไปทำงานก่อนนะครับ สายแล้ว” หัสบรรณลุกขึ้นยืนเต็มความสูง กำลังจะเดินจากไปแต่คำพูดของบิดาก็ทำให้เขาชะงักเท้าเสียก่อน แถมยังอารมณ์เสียขึ้นมาอีกด้วย “หวังว่าวันนี้หนูตันหยงคงไม่ข้ามมากวนใจแกนะตาหัส” คนฟังหันกลับมามองบิดา “นั่นคือสิ่งเดียวในโลกที่ผมต้องการเลยครับคุณพ่อ” แล้วหัสบรรณก็ก้าวยาวๆ จากไป ทิ้งให้อดิสรหัวเราะตามหลังไปเพียงลำพัง ทั้งๆ ที่คิดเอาไว้ว่าจะไม่ข้ามไร่เข้าไปวุ่นวายกับผู้ชายใจร้ายอย่างหัสบรรณอีก แต่ตันหยงก็ห้ามหัวใจตัวเองไม่ได้ แค่ได้ยืนอยู่บนผืนดินเดียวกับเขา แค่นี้หล่อนก็มีความสุข นอนหลับฝันดีแล้ว เด็กสาวระบายยิ้มกริ่ม พลางพาร่างเล็กกระโดดข้ามรั้วสีขาวที่กั้นอาณาเขตระหว่างไร่ของหล่อนกับหัสบรรณเข้าไปอย่างคล่องแคล่ว “หวังว่าจะไม่บังเอิญมาเห็นเข้าอีกนะ ตาหัสบรรณบ้า” ตันหยงบ่นอุบอิบต่อว่าผู้ชายที่ตัวเองคิดถึงทุกลมหายใจเบาๆ จากนั้นรองเท้าผ้าใบสีน้ำเงินเข้มที่ห่อหุ้มฝ่าเท้าเล็กขาวสะอาดเอาไว้ก็ก้าวเดินไปข้างหน้า มุ่งหน้าไปยังน้ำตกท้ายไร่ของหัสบรรณทันที วันนี้หล่อนจะไปนั่งเล่นน้ำตกเย็นๆ นั่นสักพัก ค่อยกลับไปไร่ของตัวเอง เด็กสาวเดินไปตามทางเดินที่ขรุขระนั้นอย่างช่ำชองชำนาญทาง ก็จะไม่ให้เชี่ยวชาญได้ยังไงกันล่ะ ในเมื่อหล่อนแอบเข้ามาเล่นในไร่ของหัสบรรณแทบทุกวัน เมื่อก่อนหล่อนจะมาเฉพาะช่วงปิดเทอม แต่ตอนนี้หล่อนจบ ม. 6 แล้ว และมหาวิทยาลัยก็ยังไม่เปิด หล่อนจึงข้ามเข้ามาเล่นในไร่องุ่นของหัสบรรณแทบทุกวัน แม้จะรู้ว่าตอนนี้สถานการณ์ของสองไร่นั้นเป็นยิ่งกว่าศัตรูคู่อาฆาตกันอีกก็ตาม พ่อของหล่อนถูกไร่ของหัสบรรณกล่าวหาว่าเป็นผู้บงการวางเพลิงเผาไร่องุ่นของหัสบรรณเมื่อห้าปีที่แล้ว เพื่อหวังจะฮุบไร่องุ่นแห่งนี้ไปรวมกับไร่ของตัวเอง แต่หล่อนไม่มีทางเชื่อหรอก พ่อของหล่อนอาจจะดูหยาบคายไปบ้าง มีอีหนูเป็นสิบและมีลูกน้องนับร้อย แต่หล่อนมั่นใจว่าพ่อไม่มีทางทำอย่างที่ถูกกล่าวหาแน่ พ่อคือผู้ชายใจดีในสายตาของหล่อนเสมอ ตันหยงคิดอย่างไม่พอใจ และก็ตั้งใจแน่วแน่ว่าหากหัสบรรณมาว่าร้ายบิดาอีก หล่อนจะต่อยเขาให้คว่ำคามือเลย เด็กสาวตั้งมั่นแน่วแน่อยู่ภายในอก ขณะก้าวเท้าเดินตรงไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายเสียงน้ำตกก็แว่วมาเข้าหู รอยยิ้มละไมแจ่มชัดบนดวงหน้างาม “ถึงแล้ว...” เด็กสาวแทบจะกระโดดตัวลอย ก่อนจะค่อยๆ เดินไปตามโขดหินที่เต็มไปด้วยตะไคร่ด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ ก่อนจะมาหยุดมองสายน้ำขาวสะอาดที่ตกลงมากระทบกับโขดหินน้อยใหญ่ ละอองน้ำซ่านกระเซ็นมาแต้มผิวหน้าและผิวกาย มันชุ่มฉ่ำและชวนให้ลงไปแหวกว่ายประดุจดั่งนางเงือกน้อยในลำธารนี่นัก ตันหยงชะเง้อคอมองไปรอบๆ กาย และยิ้มออกมาเมื่อไม่เห็นใครอยู่รอบตัว หล่อนจะลงเล่นน้ำตกนี่ จะเล่นให้ชุ่มปอดเลยทีเดียว ว่าแล้วเด็กสาวก็ถอดรองเท้าผ้าใบออก ก้าวเท้าเปลือยขาวสะอาดไปตามโขดหิน มองหาตำแหน่งที่เหมาะเจาะพอที่ตัวเองจะลงไปแหวกว่ายจนพบ จึงค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกทีละเม็ดจนหมด จากนั้นก็ตามด้วยกางเกงยีนส์สีซีดที่ใส่อยู่ ไม่นาน ร่างอรชรก็เหลือเพียงเสื้อซับสีขาวสะอาดกับกางเกงชั้นในแบบขาสั้นเท่านั้น เด็กสาวหันไปมองรอบๆ กายอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่แถวนี้ จึงก้าวเท้าลงไปในน้ำ และจากนั้นก็ดำผุดดำว่ายในสายน้ำเย็นฉ่ำด้วยความสำราญใจ โดยหารู้ไม่ว่ากำลังมีกลุ่มคนเดินตรงมาตรงนี้ “คุณหัสจะให้พวกผมตัดกิ่งไม้พวกนี้ใช่ไหมครับ” เสียงคนคุยกันทำให้คนที่กำลังแหวกว่ายอยู่ในน้ำประดุจนางเงือกแสนงามหน้าซีดเผือด และรีบว่ายไปหลบที่โขดหิน แต่เจ้ากรรม คนพวกนั้นก็ดันมาหยุดตรงโขดหินนั้นพอดี หญิงสาวชะเง้อคอมองก็เห็นว่าเป็นหัสบรรณกับคนงามสองสามคน ในมือถือมีพร้ากันคนละเล่ม “คนบ้า ทำไมต้องมาเจอกันอีกแล้วนะ” หญิงสาวบ่นอุบและค่อยๆ เบียดตัวแนบกับซอกหินให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่สุดท้ายคนงานคนหนึ่งก็มองเห็นหล่อนเข้า “นายครับ นั่น...” นิ้วของคนงานคนนั้นชี้มาที่หล่อน ต่อจากนั้น สายตาของทุกคนก็จบจ้องมาที่หล่อน ตันหยงหน้าแดงก่ำ รู้สึกร้อนจัดไปตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า สายน้ำเย็นๆ รอบตัวไม่สามารถทำให้หล่อนคลายความเดือดพล่านได้เลย เมื่อได้สบประสานสายตาเข้ากับนัยน์ตาสีนิลเนื้อดีของหัสบรรณ หล่อนยืนนิ่งอยู่ใต้น้ำราวกับถูกสาปให้เป็นหิน “ผู้หญิงแก้ผ้าเล่นน้ำตกครับ” แม้จะในระยะไม่ใกล้นักแต่หัสบรรณก็จำเจ้าของร่างเล็กนั่นได้ดี ให้ตายเถอะ แม่ตันหยงเด็กนรกนี่มาแก้ผ้าเล่นน้ำอยู่ในไร่ของเขาอีกแล้วหรือ ชายหนุ่มขบฟันแน่น รู้สึกอึดอัดในบางส่วนของร่างกายขึ้นมาอย่างรุนแรง แต่พอได้สติ เขาก็หันไปตวาดใส่หน้าลูกน้องทุกคนเสียงดังลั่น “หันหลังให้หมด ห้ามมองเด็ดขาด” คนงานตกใจกับคำสั่ง แต่ก็ยังมีบางคนมองไม่เลิก และนั่นก็ยิ่งทำให้หัสบรรณเดือดดาลมากยิ่งขึ้น เดือดดาลโดยหาสาเหตุไม่ได้สักนิด รู้เพียงแต่ว่าเขาไม่ต้องการให้ใครมองตันหยง ไม่ว่าจะในสภาพเกือบเปลือยแบบนี้หรือว่าในสภาพไหนก็ตาม “ระยำ! ฉันสั่งให้หันหลังกลับไปให้หมด หูแตกหรือไง” หัสบรรณยกกำปั้นขึ้น คนงานเห็นท่าทางของเจ้านายก็รับหันหลังกลับ แต่ก็อดพูดแซวไม่ได้ “นายจะห้ามพวกผมดูของสวยๆ งามๆ ทำไมล่ะครับ ขาวจั๊วะเลย” “หุบปาก และไสหัวไปจากตรงนี้ซะ ไปเร็วเข้า!” “อ้าว ไหนนายว่าจะให้ผมมาตัดกิ่งไม้แถวนี้ให้หมดยังไงล่ะครับ” คนงานคนหนึ่งเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย แต่ก็ถูกหัสบรรณไล่ตะเพิดไม่ไว้หน้า “ไม่ต้องมาถาม ไสหัวกลับไร่กันไปให้หมด บอกให้ไปยังไงล่ะ!” “ครับ... ครับนาย” คนงานรีบเดินจากไปอย่างรวดเร็ว และพอหายไปกันจนหมดแล้ว หัสบรรณจึงหันไปมองร่างอรชรที่ซ่อนอยู่ในสายธารอีกครั้ง มองด้วยสายตาเหี้ยมเกรียม โกรธจัด “เสนอหน้าเข้ามาในไร่ของฉันอีกทำไม” คนพูดเค้นเสียงเลือดเย็น ไร้ความรู้สึก ขณะเดินไปหยุดบนโขดหินใกล้ๆ กับจุดที่ตันหยงถอดเสื้อผ้ากองเอาไว้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD