Chapter 4

1589 Words
ในรุ่งเช้าเวลาเจ็ดโมงกว่า นัยน์สีฟ้าครามเข้มเบิกโพล่งสะดุ้งตื่นจากนิทรา พลันผลักผ้านวมหนาที่คลุมห่มตัวอยู่อย่างงุนงง เมื่อคืนที่หลับไปทั้งชุดทำงานเขาไม่ได้หยิบจับอะไรสักอย่าง ผ้าห่มลายตุ๊กตาน่ารักจะเป็นฝีมือใครหากไม่ใช่เมียเจ้าของบ้าน! ร่างสูงในเชิ้ตสีดำยับยู่ยี่หยัดกายลุกขึ้นนั่ง พอดีกับที่โทรศัพท์สั่นดังจากข้างหมอน สายจากปรเมษฐ์โทรมาถามสารทุกข์สุกดิบของลูกเมีย และงานเฝ้าของเขาว่าเรียบร้อยดีไหม พร้อมส่งข่าวมาว่ากำลังจะกลับในวันพรุ่งนี้ทำให้ตื่นเต็มตาได้ไม่ยาก ทว่าพอวางสายจากเจ้านายหนุ่ม อลันมีความคิดบางอย่างเมื่อเหลือบมองตามบันไดทางขึ้นไปชั้นสองของบ้านสไตล์โมเดิร์นโทนสีเทาอบอุ่น ทำไมบ้านเงียบ? พุทราก็ไม่มาเรียกเขาสักคำ เพราะนิสัยของปรายลดาเป็นคนช่างห่วง ยังดูแลทุกคนรอบตัวเป็นอย่างดี เขาไม่ลังเลที่จะถือวิสาสะบุกห้องนอนตามหน้าที่ ก้าวขายาว ๆ เหยียบย่องขึ้นบันไดไป ชั้นสองมีสามห้องนอน ห้องโถงกลาง และห้องนอนสำหรับเล่นสนุกซุกซนของเจ้านาย ซึ่งคนเป็นเลขาฯ มานานถึงสิบปีต้องรู้ความลับเรื่องรสนิยมทางเพศของปรเมษฐ์เป็นอย่างดี ถึงเจ้าตัวจะเลิกราจากคู่ขาประหลาด ๆ ไปเพราะความรักในตัวลูกเลี้ยง ห้องนอนห้องในสุดของชั้น ประตูสีดำสลับขาวเปิดอ้าไว้ทำให้เขาต้องถือวิสาสะผลักลูกบิดเบา ๆ เข้าไป สัญชาตญาณบอกได้ในทันทีว่าปรายลดาคิดแผนบางอย่างไว้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ยิ่งพอพบว่าบนเตียงนอนเหลืออยู่เพียงผ้านวมหนาก้อนม้วนกลม เสียงไอค่อกแค่กหลุดมาเป็นระยะ ขณะปลายเท้าหนาหยุดอยู่ข้างเตียง ก้มหน้าลงมองกระดาษใบเล็ก ๆ ที่หญิงสาวเขียนทิ้งไว้ [ไปซื้อยาให้ปริม ปริมไม่สบาย... จะรีบกลับ] “Damn!” คำสบถหลุดรอดมาจากหนุ่มบราซิลที่กำลังจะกลายร่างเป็นพวกหัวรุนแรง แน่ว่าตระกูลแบรดฟอร์ดตั้งแต่รุ่นทวด ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นแค่เลขาฯ ประกายโทสะปะทุขึ้นในแววตาคู่สีฟ้าคราม ฉับพลันกับที่ความคั่งแค้นทั้งเก่าและใหม่พุ่งขึ้นมา อลันไม่คิดว่าปรายลดาจะไปซื้อยา แต่ไปหาปองกานต์ต่างหาก! “ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้ นังตัวดี!” เสียงตวาดกร้าวดัง มือหนากระชากผ้านวมจากคนที่ซุกกอดมันอยู่อย่างหวงแหน แต่เป็นเพราะความหนาวจับใจ ร่างสั่นเทายกสองมือกอบกุมตัวเองแล้วห่อไหล่ลีบเล็ก “ไม่ลุกใช่ไหม...?” เสียงขู่ฟ่อผ่านไรฟัน ร่างสูงกระโจนกายข้ามผ่านเตียงนอนไปในอีกฝั่ง เพื่อหยิบอ่างใบเล็ก ๆ ที่ลอยน้ำอยู่บนโต๊ะหัวเตียงเทสาดลงไปบนที่นอนด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราด น้ำเย็นตามอุณหภูมิห้องและผ้าขนหนูบนกายไม่ต่างจากน้ำร้อนดี ๆ คนหลับอย่างไรก็ต้องตื่น ในสติสัมปชัญญะอันน้อยนิดทำให้ดวงตาคู่สวยหรี่มองภาพพร่าเลือนตรงหน้า ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว “ผมจะถามครั้งเดียว... เพื่อนคุณอยู่ที่ไหน?” “หนาว... ผ้าห่ม...” เสียงตะกุกตะกักกระซิบบอกผู้ชายตัวโตที่ไม่มีวี่แววส่งของให้ตามคำขอ ชุดกระโปรงนอนเปียกโชกชุ่มแนบไปกับเรือนกายผุดผ่อง อาการนิ่งเงียบบนใบหน้าเย็นยะเยือกเป็นคำตอบได้อย่างดี เมื่อคำสั่งของเจ้านายทุกคำสั่งนับเป็นคำขาดกับอลัน แบรดฟอร์ด เลขาฯ ผู้ไม่เคยทำงานพลาด! ร่างสูงตวัดกายออกจากห้องไปอย่างไม่แยแสคนข้างหลัง เพื่อหยิบโทรศัพท์บนโซฟาข้างล่าง ขณะที่ยังพยายามสงบสติอารมณ์ในทุกย่างก้าวเดิน คว้าโทรศัพท์กดเบอร์ซึ่งคนปลายสายแทบจะรับในทันที “อยู่ไหนครับ?” [ร้านขายยา... รถติดมาก ประมาณชั่วโมงนะคุณอลัน ขอโทษที่ไม่ได้บอกค่ะ ปริมไม่สบายมาก แบตจะหมดแล้ว แค่นี้ก่อนนะ] “พุด...” สายที่ตัดไปทำชายหนุ่มสะบัดศีรษะอย่างหัวเสีย มือเก็บโทรศัพท์ใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง เขาจึงใช้ความคิดว่าควรไปตามหาปรายลดาที่ไหน หรือควรรอก่อนสักหนึ่งชั่วโมง ก่อนจะกลับขึ้นไปข้างบนอีกครั้ง ผ้าสีขาวกับอ่างใบเล็ก ๆ ด้วยฝีมือของเขายังคงกองอยู่ตรงปลายเตียงที่เดิม ใบหน้าสดสวยซีดเซียวปิดตาสนิทแน่นจนหัวคิ้วผูกกัน ริมฝีปากสีขาวซีดสั่นจนกรามกระทบ ดูอย่างไรแล้วก็ไม่น่าจะใช่คนแกล้งป่วย กว่าจะคิดได้ว่าเขาควรติดต่อปรายลดาก่อนสาดน้ำใส่คนในห้องอย่างนั้น ก็ตอนไล่สายตาไปตามเสื้อผ้าเปียกโชกชุ่ม สองแขนของเธอกอดกุมตัวเองแน่น นอนตัวขดงอ จนหน้าอกทะลักออกมาตามซอกแขน ภายใต้ชุดสีชมพูหวานแนบเนื้อติดสัดส่วนโค้งเว้าชัดเจน เขาแน่ใจว่าข้างในเปลือยเปล่าไม่มีชั้นในสักชิ้น อลันลอบกลืนน้ำลายลงคอเมื่อเห็นทุกอย่างเต็มสองตา เด็กปากดีทำไมโตมานมใหญ่ขนาดนี้วะ! เอวเป็นเอว ตูดเป็นตูด แล้วนี่... เขาจะทำยังไงต่อ? “นี่... คุณปริม..” เหมือนกลายเป็นคนโง่ขึ้นมากับการเรียกคนป่วยที่ตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า ร่างสูงค่อยหย่อนก้นนั่งลงบนเตียง เอื้อมมือไปแตะแก้มแดงก่ำซึ่งเขาต้องดึงมือออกในทันที เพราะตัวเธอร้อนเป็นไฟ! เขาสาดน้ำใส่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เนี่ยนะ? “น้ำ... ฉัน.. หิวน้ำ” เสียงแผ่วเบาผ่านริมฝีปากที่กระทบกัน ร่างสูงลุกไปหยิบน้ำบนโต๊ะตรงมุมห้องที่เจ้าของบ้านเตรียมไว้ ยังเจอกระดาษอีกใบ [ให้ปริมกินยาลดไข้ตัวนี้ไปก่อนนะคะ ฉันกำลังไปหาเภสัชกรอีกที] แน่ว่าอลันนั้นอยู่เมืองไทยมานานจนอ่านออก เขียนได้ และพูดชัดเท่าเจ้าของภาษา แม้ว่าเขาจะยังมีลักษณะของชาวต่างชาติทุกประการ คิ้วเข้มหนาย่นเข้าหากันครั้งหนึ่ง หยิบน้ำ เทยาในกระปุกออกมาสองเม็ด ทำไมพุทราไม่พาปริมไปโรงพยาบาล? “บ้าเอ๊ย...!” สบถอย่างหัวเสีย เพราะรู้แน่แล้วว่าหญิงสาวมีแผนอะไร แต่จะให้ทิ้งคนป่วยไว้ในบ้านก็น่าจะชักตายเสียก่อน เขาหยิบน้ำและยาไปประคองร่างเปียกปอน โดยช้อนท้ายทอยน้อยขึ้น พร้อมเส้นผมสีน้ำตาลเปียกหมาดสยายกระจายอยู่บนท่อนแขน “กินยาก่อน...” “แม่... หนูขอโทษ...” “ไม่เป็นไรจ้ะ.. กินยาก่อนนะลูก” เขาเออออไปตามน้ำ ด้วยว่าน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้ว ทว่าแก้วน้ำในมือก็เกือบหก! ทันทีที่สองแขนไร้เรี่ยวแรงตะครุบเข้าเอวหนา เสื้อเชิ้ตสีดำสนิทบนร่างกำยำกลายเป็นเครื่องดูดซับน้ำดี ๆ “แม่ขา...” ยัยปริมคงละเมอพิษไข้ ไม่ก็เสียสติไปแล้วแน่ ๆ ที่เห็นฝรั่งตัวเท่าเสาไฟฟ้าเป็นแม่! เรียวปากหนาเม้มติดกันแล้วผ่อนลมหายใจเฮือกใหญ่ ร่างร้อนระอุที่กอดรัดเอาสอบแน่นไม่ได้มีแค่ความเปียก ปลายแหลมมนบีบอัดไปกับสองเต้าทะลักไถอยู่ตรงสีข้าง ขณะที่หญิงสาวคงไม่ได้รู้สึกตัวอะไรเลยกับสติพร่าเลือน เธอคงจะคิดถึงคนคนเดียวคือแม่... เอาวะ! กล้าทำก็ต้องกล้ารับผิดชอบ คิดพลันเชยปลายคางมนขึ้นแล้วบีบกรามไว้ด้วยแรงระดับหนึ่ง เพื่อที่จะโยนยาเข้าไปในปากอย่างง่ายดาย “กินเข้าไปนะ นังหนู...” ว่าแล้วก็ส่งน้ำตามให้คนที่ยังหลับตาไร้การโต้ตอบใด เขาจึงต้องยกแก้วน้ำขึ้นดื่มเสียเอง ก่อนดึงแขนที่ติดหนึบออกจากเอว โน้มตัวลงประกบริมฝีปากคู่อิ่มงามเพื่อส่งน้ำตาม น้ำดื่มในปากคงจะต้องไหลลงตามแรงโน้มถ่วง ชายหนุ่มคิดว่าเธอคงไม่ได้กินยาแน่ แม้จะรู้สึกดีกับปากนุ่มราวปุยนุ่นนี้สักเท่าไร สะกิดคนหลับให้รู้สึกตัวตื่นด้วยปลายลิ้นหนา แทรกเข้าไปกระหวัดลิ้นเรียวเบา ๆ ตามสัญชาตญาณของคนรับซึ่งถูกก่อกวนก็อ้าปากดูดหาอากาศ รับน้ำเข้าไปแทน รสชาติขมเฝื่อนของยาที่ละลายไปพร้อมน้ำในปากผสมปนเปมั่วไปหมด เขาดันรู้สึกว่ามันหวาน! จนไม่อยากปล่อยกลีบปากบางนุ่มให้เป็นอิสระ... แต่เพราะไม่อยากเอาเปรียบหญิงสาวในสภาวะไร้สติ ริมฝีปากหนาจึงยอมผละออกอย่างจำใจ ฉับพลันกันนั้นเอง เปลือกตาขาวปรือขึ้นเบา ๆ บนดวงหน้าแดงก่ำของร่างสั่นเทาในอ้อมแขน ตาสบตาอย่างไม่ได้ตั้งใจ เกิดเสียงดังอึกทึกครึกโครมจากในอกของคนทั้งสองที่ชนปลายจมูกไว้ตรงกัน “คุณ... อลัน?” เสียงหวานพร่าถาม เธอรู้สึกถึงความร้อนไปทั่วทั้งใบหน้ายิ่งเสียกว่าเป็นไข้ พอตระหนักรู้ว่าเพิ่งได้รับจุมพิตอันอ่อนโยน อาการเต้นตุบในหัวเหมือนมีบางอย่างกำลังเริงระบำสร้างความเจ็บปวดในอ้อมกอดอุ่น “รู้สึกตัวแล้วเหรอ เป็นเจ้าหญิงนิทรารึไง? ต้องให้จูบถึงจะตื่นน่ะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD