ตอนที่ 15 วันกลับบ้าน

1436 Words
ตอนที่ 15 วันกลับบ้าน “คุณหนู คุณหนูเจ้าคะตื่นได้แล้วเจ้าค่ะ” เสียงร้องเรียกของเชาเย่ดังทั่วตำหนัก ทำให้ฉันต้องยกผ้าห่มขึ้นมาใบหน้าเอาไว้ “เจ้าจะปลุกทำไมเนี่ย ไก่โต้งยังไม่ทันขันเลย” ฉันบ่นอุบอิบแล้วนอนต่อ ยังรู้สึกเพลียจากการขุดดินเมื่อวานอยู่เลย “วันนี้คุณหนูต้องกลับบ้านเจ้าค่ะ หากช้าอีกครึ่งชั่วยามจะไม่ทันเอานะเจ้าคะ” เชาเย่บ่นต่อ ฉันใช้มือเปิดผ้าห่มออก แต่ยังคงหลับตาอยู่ แล้วพูดกับเชาเย่ “เช่นนั้นเจ้าก็จัดการเถิด” สิ้นคำพูดของฉันเชาเย่ก็เดินออกไป เพียงชั่วครู่นางก็กลับมาพร้อมสาวใช้หลายคน ดึงตัวของฉันให้ลุกขึ้น แล้วพาไปห้องอาบน้ำ นอนต่อเลยได้ไหม~ อย่าปล่อยให้ตัวฉันไป~ เธอก็รู้ทั้งหัวใจ ฉันอยู่ที่เตียงหมดแล้วตอนนี้~ T^T ฉันถูกปลุกขึ้นมาแต่งตัวแต่เช้า ตั้งแต่ไก่ยังไม่ขัน (ฉันคงขันให้ไก่ตื่นแทน) วันนี้เป็นวันกลับบ้านของเจ้าสาว ถ้าให้ฉันพูดตามประสาบ้าน ๆ อะนะ วันนี้เชาเย่แต่งตัวให้ฉันด้วยผ้าแพรสีอ่อน แต่งเติมหน้าด้วยชาดอ่อน ๆ แค่นี้ใบหน้าของหญิงงามล่มเมือง ก็งามจนจะล่มจมแล้วเจ้าค่ะ -O- ฉันสะบัดชายผ้าเล็กน้อย แล้วยกกระโปรงขึ้นเพื่อนั่งรถม้า แต่กลับโดนสายตาของเชาเย่ดุเบา ๆ ว่ามันไม่งาม - - หากจำไม่ผิด พี่หญิงของหลินซานซาน คงกลับบ้านด้วยแหละ และองค์รัชทายาทด้วย อะ อ่าว แล้วเจ้าบ่าวของฉันล่ะ ทำไมถึงให้ฉันนั่งรถม้ามาคนเดียว “เชาเย่” ฉันกระซิบกระซาบ ยื่นใบหน้าไปใกล้ ๆ หูของเชาเย่ “เจ้าคะ?” เชาเย่กระซิบกระซาบเบา ๆ ตอบฉัน แม่นางน้อยผู้นี้อยู่เป็น ให้ทำอะไรทำหมด เห็นฉันทำท่าทางแบบไหน เชาเย่จะทำตามตลอด “เจ้าบ่าวข้าล่ะ” “เจ้าบ่าว?” เชาเย่ทำหน้างงงวย “สามีข้าน่ะ เขาไม่มาด้วยหร๊อ!” ฉันกระซิบเสียงเบา ค่อนข้างออกไปเสียงสูง เชาเย่ส่ายหัวน้อย ๆ - - นั่นคงเป็นคำตอบสินะ ไม่รู้ ไม่มา “สามีข้าจะตามมาทีหลังงั้นรึ” “อาจจะเป็นไปได้เจ้าค่ะ” เชาเย่ตอบ ฉันไม่พูดอะไรต่อ ได้แต่เอนหลังลง นั่งอยู่ในท่ากอดอก อย่างไม่แยแส บุรุษแบบนี้ยังเป็นสามีอยู่อีกรึ ตั้งแต่ตกน้ำตกท่า ยังไม่มาดูซักตา วันแต่งงานก็ไม่มาเข้าห้องหอ วันรุ่งขึ้นไปแต่งงานรับสนมเข้ามาในตำหนัก แถมเมื่อวานไปคั่วผู้หญิงที่หอคณิกา ตายแล้ว! วาสนาของหญิงใดที่จะได้ผู้ชายเช่นนี้ ไปเป็น ผ.ผึ้ง สระอัว ว.แหวน ก็วาสนาคนรันทดอย่างฉันไง ที่ชื่อว่าหลินหลิน แม้จะเป็นเพียงแค่ในนาม แต่ภารกิจคือต้องให้เขามารักหลินซานซาน อ๊ากก มันยากยิ่งกว่าตามหากลีบบุปผาอีกไหมเนี่ย ดี! ก็ดี หากวันนี้ไม่มา ฉันไม่ได้ว่าอะไร ฉันเองไม่ได้อยากเจอหน้าคนที่เอาปลายกระบี่มาจ่อคอ แบบเมื่อวานหรอก พูดถึงแล้วยังรู้สึกขนลุกซู่ไม่หายเลย โหดร้ายมาก! เวลาผ่านไป 1 ชั่วยาม (ประมาณ 2 ชั่วโมง) รถม้าก็ได้มาถึงที่บ้านตระกูลหลิน โดยข้างหน้าได้มีรถม้าของคนอื่นจอดอยู่แล้ว งั้นแสดงว่าองค์รัชทายาทและหลินเย่ถงได้มาถึงก่อนแล้ว นี่ฉันตื่นตั้งแต่เช้า ยังมาไม่ทันเขาอีกหรอเนี่ย -O- เมื่อเห็นดังนั้น ฉันยกชายกระโปรงขึ้น กระโดดลงจากรถม้า แล้วรีบวิ่งเข้าไปในบ้านทันที “คุณหนูท่านระวังกิริยาด้วยเจ้าค่ะ” เชาเย่ตะโกนไล่หลังของฉันมาด้วยน้ำเสียงที่ตื่นตระหนก ใช้เวลาเพียงครู่เดียวร่างอันบอบบางสง่าของฉันก็ได้เข้ามาในบ้านตระกูลหลิน จากที่วิ่งเข้ามาก็หยุดร่างกายให้เบรคอย่างกะทันหัน หากเป็นรถยนต์คงจะเบรก เสียงดังเอี๊ยด ทุกสายตากำลังจับจ้องมาที่ฉันเป็นสายตาเดียว พร้อมกับมองหาอะไรซักอย่าง มองหาสามีของฉันน่ะสิท่า สามี มี สามี ต้องมา ถ้าสามีไม่มา แสดงว่า สามี ไม่มี!!! จู่ ๆ เพลงก็แวบเข้ามาในหัว “ซานซานสามีของเจ้าล่ะ” เสียงเข้มของชายวัยกลางคน อายุประมาณ 50 กว่า ๆ หนวดเครายาวเฟื้อย ฉันเดาว่าน่าจะเป็นบิดาของหลินซานซาน “ท่านเห็นหรือไม่เจ้าคะ” ฉันตอบ “ข้าไม่เห็น ข้าจึงถามเจ้าอย่างไรเล่า” “ท่านไม่เห็นแสดงว่าข้าไม่มีสามีไงเจ้าคะ” “นี่ เจ้า!”ผู้เป็นบิดาชี้หน้าฉันอย่างคาดโทษ “ท่านพี่ ท่านอย่าโกรธนางเลยเจ้าค่ะ นางคงเลอะเลือนหลังจากที่ตกน้ำ ทำให้กิริยาเปลี่ยนไป ท่านอย่าโทษนางเลย” ผู้หญิงน้ำเสียงนิ่มนวล จับแขนผู้เป็นบิดาไว้ให้ระงับโทสะ นั่นคงจะเป็นฮูหยินของตระกูลหลิน แม้จะมีอายุ แต่ใบหน้ายังเยาว์วัย มิน่าหลินเย่ถงถึงได้งามพริ้งขนาดนี้ ฉันคิดในใจ แล้วหันหน้าไปมองหลินเย่ถงเล็กน้อย นางยิ้มตอบให้ฉัน ฉันจึงละสายตาออกมาจากนาง สมกับเป็นนางเอกจริง ๆ ส่วนองค์รัชทายาท หล่อเหลา สุขุม แววตาอ่อนโยน เหมาะสมกันดังกิ่งทองใบหยก ผู้เป็นบิดาได้แต่ถอนหายใจ “แต่ถึงอย่างไร นางต้องถูกลงโทษตามกฎของตระกูล” หืม ลงโทษ ? ลงโทษอะไร บนสวรรค์ยังลงโทษฉันยังไม่พองั้นรึ “ท่านพ่อ ข้าขอร้องแทนน้องเล็ก อย่าลงโทษนางเลยนะเจ้าคะ” เย่ถงพูด พร้อมกับคุกเข่าลงกับพื้น หืม ? -_-? อะไรอ่ะ ขอร้องแทนฉัน “เจ้าขอร้องแทนนาง เจ้าจะให้ข้าละเว้นกฎของตระกูลงั้นรึ! เจ้าจะให้ข้าผิดต่อบรรพบุรุษของตระกูลรึ เย่ถง!” ผู้เป็นบิดาถามเสียงเข้ม เย่ถงเม้มริมฝีปากแน่น พร้อมกับองค์รัชทายาทพยุงนางขึ้น “ลูกมิกล้า ข้าเพียงแต่ ไม่อาจทนดูน้องเล็กถูกทำโทษ” เย่ถงอธิบาย สมกับเป็นนางเอกของฉันจริงๆ “เสี่ยวอี้ เจ้าไปนำแส้มา!” “เจ้าค่ะ” คนรับใช้ประจำตระกูลหลินรับคำ อ๊ากกก! ฉันจะโดนฟาดอีกแล้ว ลูกน้องของผู้เป็นบิดาของหลินซานซาน ได้จับตัวของฉันมานอนราบกับแผ่นไม้ หลังจากนั้นไม่ต้องอธิบายก็ได้ใช่ไหมคะ ว่าฉันโดนฟาดแผ่นหลังงาม ๆ ฮือ ชีวิตไม่หลุดพ้นกับการโดนเฆี่ยน ตี พิธียกน้ำชา ก็ไม่ได้ยก ข้าวก็ไม่ได้กิน แถมยังต้องนั่งรถม้ากลับตำหนักจื่อรุ่ยอย่างทุลักทุเล ตอนนี้ฉันต้องมานอนคว่ำเปลือยหลังให้เชาเย่ใส่ยาให้ ฮึ่มมม กฎตระกูลบ้าบอคอแตกอะไรเนี่ย “อ๊ากกก เชาเย่นี่เจ้าจะฆ่าข้าใช่หรือไม่” ฉันโวยวายเสียงดังเมื่อเชาเย่ใส่ยาเข้าไปในแผล “คุณหนู ข้าเบามือที่สุดแล้ว” เชาเย่อธิบายอย่างลนลาน ละล่ำละลั่กที่จะใส่ยาไปยังบาดแผล เพราะกลัวว่าฉันจะเจ็บอีก “ใส่ยาต่อเถอะ ข้าทนได้” ฉันบอกเชาเย่ “เจ้าค่ะ” เชาเย่ตอบรับแล้วลงมือใส่ยาต่อ “อ๊ากกกก เจ็บ ๆ ๆ มันมีบ้านไหนเนี่ยที่ตั้งกฎตระกูลแบบนี้ แค่เจ้าบ่าวไม่เข้าร่วมยกน้ำชาต้องโบย 20 ที” ฉันบ่นอุบอิบ แหกปากร้องดังลั่น “ก็บ้านคุณหนูไงเจ้าคะ” เชาเย่ตอบ -_-“ เรื่องนั้นมันก็จริง “ข้าล่ะอยากเห็นหน้าคนที่ตั้งกฎตระกูลนั่นจริง ๆ ต้องเป็นคนแบบไหนถึงได้ตั้งกฎนี้ขึ้นมา” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟึดฟัด เพราะไม่พอใจน่ะสิ ฮึ “เจ้าเองไม่ใช่รึ เป็นคนตั้งกฎนั้นขึ้นมา” เสียงนี้ ! หวังเย่ ฉันหันขวับไปยังหวังเย่ โดยที่ยังนอนราบอยู่บนเตียง หันได้แค่หัว T^Tชัดเลยผมสีน้ำตาลอ่อน เสื้อผ้าชุดขาว ใบหน้าเนียนละเอียด จมูกโด่งเป็นสัน หล่อราวกับเทพบุตร คือหวังเย่ ตัวเป็น ๆ “หวังเย่ ท่านไม่กลัวคนอื่นเห็นรึ” ฉันกระซิบกระซาบ พร้อมกับเอามือป้องปากไว้ ไม่ให้เชาเย่เห็น อีตาหวังเย่นั่นได้แต่เมินหน้าหนีไม่จับจ้องฉันเลยแม้แต่น้อย หุหุ พ่อสุภาพบุรุษ “มนุษย์ธรรมดาจะเห็นข้าได้อย่างไร หากข้าไม่ให้เห็น” หวังเย่ตอบด้วย สีหน้าราบเรียบ “แต่ข้าเห็น อุ๊บ!” เชาเย่เหมือนจะลืมตัวพลั้งปากพูดออกมา -O- <<<< สีหน้าของหวังเย่ O[]O <<<< สีหน้าของฉัน O__O <<<< สีหน้าของเชาเย่ เชาเย่ เธอคือใคร๊ ?
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD