“เธอปล่อยให้คนพวกนั้นรังแกเธอมาตลอดเลยเหรอ?” ในที่สุดเขาก็ถามออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “อย่างนั้นหรืออิซาเบลล่า? ทำไมเธอไม่สู้กลับ? เธอไม่กลัวฉันเมื่อเธอถูกทิ้งไว้ที่บ้านในชนบท ฉันยังจำได้เวลาที่เธอสร้างปัญหาและเรื่องไร้สาระทั้งหมดที่เธอก่อขึ้น”
“ฉันไม่อยู่ในฐานะที่จะตอบโต้ได้” เธอตอบด้วยน้ำเสียงสงบ ขณะที่เธอเอื้อมมือไปหยิบจานเปล่า เธอสะดุ้งเมื่อแอชเชอร์ตบโต๊ะเสียงดังจนแก้วน้ำตกแตกด้วยความโกรธ เธอถอยห่างจากเขา และชนกับเคาน์เตอร์กลางห้องครัว “ฉัน...”
แอชเชอร์จับไหล่ขวาของเธอ พลางสายตาโกรธขึ้งก็มองลงมาที่เธอ
“เธอจะบอกให้ฉันไปแก้แค้นแทนเธองั้นเหรอ!” เขาพูดขณะที่เขย่าตัวเธอด้วยความโกรธ “เธอคิดจะใช้ฉันงั้นเหรอ เพราะว่าเธอแต่งงานกับฉัน เธอคิดว่าเธอเป็นใคร ห๊ะ!?”
“คุณกำลังทำร้ายฉัน” เธอร้องไห้ น้ำตาเอ้อล้นออกมา
“ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเธอเลย” เขาตอบ “ถ้าพูดอีกทีฉันจะลงโทษเธอ”
อิซาเบลล่าหน้าซีด เงียบแต่น้ำตาของเธอไหลรินออกมาจนเปื้อนสองแก้มอย่างน่าสงสาร โดยไม่ได้ตั้งใจแอชเชอร์ดึงเสื้อของเธอและเห็นรอยห้อเลือดเป็นวงขนาดใหญ่ที่ใต้กระดูกไหปลาร้าของเธอ เขานึกถึงวิดีโอหนึ่งที่เธอถูกผลักออกจากลิฟต์ในตอนที่ประตูลิฟต์กำลังปิดลง
“นรก!” เขาสบถและปล่อยเธอ
เธอรีบปิดเสื้อตัวเองและเบี่ยงตัวหลบเลี่ยงเขา แต่เพียงไม่นานโลกของเธอกลับดับมืดลง แอชเชอร์รีบรับตัวเธอไว้ได้ทัน เขารู้สึกตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขารีบโทรหาหมอที่เป็นเพื่อนสนิทเขาทันที รอไม่นานก็มาถึง
“เธอเหนื่อยและขาดน้ำ แถมยังพักผ่อนไม่เพียงพออีกด้วย”
แอชเชอร์เงยหน้าขึ้นจากโซฟา หลังจากที่ได้ยินเพื่อนของเขาวินิจฉัยเสร็จดวงตาเขาก็ดำมืดลงทันที
แพตตี้ถอดหูฟังของเธอออก วางไว้ในกระเป๋าแล้วลุกขึ้นยืน เธอมองไปที่แอชเชอร์ซึ่งเธอรู้จักมาตั้งแต่เด็กเพราะพวกเขาเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน
“ฉันแนะนำให้พาเธอไปที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจอย่างละเอียดอีกรอบถ้านายต้องการ” เธอเอ่ยเสียงเบาเสนอความคิดเห็น ขณะที่เดินตามเขาออกไป
“ให้เธอพักผ่อนและดื่มน้ำมากกว่านี้ ฉันให้ยานอนหลับกับเธอเพื่อให้เธอพักผ่อนอย่างเต็มที่ ให้เธอลาพักซะ นายควรโทรหาเอรินาและแจ้งให้เธอทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้”
“แล้วฉันก็จะโดนเอรินาด่าอีก” แอชเชอร์พึมพำขณะเดินไปเปิดตู้เย็น และพบน้ำสองขวด “ฉันสาบาน ถ้าเธอบอกเอรินาว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่ ฉันจะทำให้ชีวิตของเธอตกนรกทั้งเป็นอย่างแน่นอน”
“เหอะ ฉันควรกลัวจนหัวหดงั้นสิ!” แพตตี้ตอบโต้ด้วยรอยยิ้มขณะที่เธอนั่งบนเก้าอี้ในห้องครัว “เกิดอะไรงั้นเหรอ? ฉันเพิ่งกลับมาจากวันหยุดยาว กลับมาก็เจอผู้หญิงที่นายแต่งงานและลืมเธอไปแล้ว แถมตอนนี้ยังทำงานที่บริษัทของนายด้วย ไม่ยักรู้นะว่านายปล่อยให้เธอถูกแกล้งขนาดนี้” แพตตี้พูดพลางจ้องหน้าแอชเชอร์อย่างต้องการคำตอบ
“นายกำลังทดสอบเธอ หรืออยากให้เธอตายเพราะพนักงานของนายและไม่ยอมร้องขอความช่วยเหลือจากนายกันแน่แอช?”
แอชเชอร์ขมวดคิ้วหลังจากได้ยิน
"ฉันบอกกับเพื่อน ๆ ว่าอยากให้เธอทำงานในตำแหน่งนี้ เพื่อที่เธอจะได้เรียนรู้งาน สัมผัสถึงบริษัทจากระดับล่างและค่อย ๆ ขยับขึ้นมา” แอชเชอร์อธิบาย “ฉันไม่คิดว่าเธอจะได้รับการปฏิบัติเช่นนั้น หรือเป็นเพราะฉันเพิกเฉยต่อสิ่งที่เกิดขึ้นกับพนักงานในบริษัทของตัวเองมานานเกินไป เพราะฉันจดจ่ออยู่แต่กับเป้าหมายสูงสุดของฉัน”
“แล้วนายจะทำอะไร?”
เขานิ่งเงียบ ใคร่ครวญว่าจะจัดการกับสถานการณ์อย่างไร
“อีกอย่าง” แพตตี้พูดหลังจากนั้นไม่กี่นาที เธอวางขวดน้ำลงแล้วมองดูเขาอย่างจริงจัง
“นายจะบอกเธอเกี่ยวกับรีเบคก้าเมื่อไหร่ รีเบคก้ารู้เรื่องการแต่งงานของนายหรือเปล่า? ถ้าเธอรู้เธอจะไม่ชอบใจเรื่องนี้ และนี้จะเป็นปัญหาที่ใหญ่กว่า เพราะเธอจะตามระรานภรรยาของนาย แอชเราเป็นเพื่อนเป็นญาติกัน ฉันขอเตือนนายว่าให้คิดให้ดีก่อนจะทำอะไร อิซาเบลล่าน่าสงสาร ถ้าเกิดเธอทนไม่ไหวขึ้นมา…”
“ฉันกำลังจ้างนักสืบสอบสวนการแต่งงานครั้งนี้อยู่ว่าทำไม อะไรคือสาเหตุ” แอชเชอร์ตอบ เขามองเพื่อนของเขาด้วยสายตาจริงจัง
“ครอบครัวของฉัน พวกท่านไม่เคยบอกฉันถึงเหตุผลของการแต่งงานในครั้งนี้ ฉันอยากรู้ความจริงว่าเพราะอะไรฉันถึงต้องแต่งงานกับเธอ ทำไมแด๊ดกับปู่ของฉันถึงยอมรับเรื่องนี้”
สองชั่วโมงหลังจากที่แพตตี้ออกไป เมื่อแน่ใจว่าอิซาเบลล่าไม่เป็นไร แอชเชอร์ก็ส่งข้อความบอกคนขับรถให้นำเสื้อผ้ามาให้เขาเปลี่ยนสำหรับคืนนี้และพรุ่งนี้เช้า ส่วนคืนนี้เขาจะนอนที่อะพาร์ตเมนต์เธอ ชายหนุ่มเข้าไปในห้องของอิซาเบลล่าเพื่อตรวจดูเธอ เขาพบว่าเธอกำลังหลับสนิทอยู่ ปากของเธอเผยอขึ้นเล็กน้อย บ่งบอกว่าร่างกายของเธออ่อนล้าเพียงใด
จากนั้นเขาจึงส่งข้อความหาเอรินาเรื่องที่เธอจะไม่ไปทำงานพรุ่งนี้และให้เอรินาส่งข้อความถึงผู้จัดการของอิซาเบลล่าด้วยเช่นกัน
เขาวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะข้างเตียงอีกฝั่ง เดินไปเข้าห้องน้ำ เขาถอดเสื้อผ้าแล้วจึงอาบน้ำอย่างรวดเร็ว เขาขมวดคิ้วเมื่อเขาเอื้อมมือไปหยิบสบู่ที่มีกลิ่นพีชออกมา ส่วนตัวแล้วเขาไม่ชอบกลิ่นแบบนั้น