การเริ่มต้นในลอนดอน ( New life in London) #1

1241 Words
เช้าวันต่อมา อิซาเบลล่ายังคงนั่งอยู่บนเตียงของเธอ ห่อตัวแน่นด้วยผ้าห่มแม้จะเป็นเช้าวันใหม่แล้วในขณะที่เธอจ้องมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยสายตาว่างเปล่า เมื่อวานเธอถูกเขาเหวี่ยงจนต้องตกน้ำแม้ว่าเขาจะได้กระโดดลงไปช่วยเธอ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น มันทำให้ความทรงจำแย่ ๆ ของเธอกลับคืนมา เรื่องที่เธอต้องการลืม เธอกอดเข่าขณะที่น้ำตาไหลอาบแก้ม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ทำให้เธอนึกถึงเรื่องในอดีต มัมของเธอกระโดดลงไปช่วยชีวิตเธอไว้อย่างไม่นึกกลัว หลังจากที่เธอถูกเด็กชายคนหนึ่งผลักลงไปสระลึกตอนเธออายุสิบขวบ มัมของเธอเสียชีวิตขณะช่วยชีวิตเธอ เธอยังจำสายตาของครอบครัวแคมป์เบลล์ได้ เมื่อเจสันบอกพวกเขาว่าทำไมเธอถึงว่ายน้ำไม่เป็น พวกเขาให้หมอในเมืองมาตรวจสุขภาพร่างกายของเธอ “เบลล่า?” เธอได้ยินเสียงของจูดี้เรียกอยู่นอกประตูพร้อมกับเสียงเคาะเบา ๆ “มัมขอเข้าไปได้ไหม ทาราเอาอาหารเช้ามาให้” ในที่สุดเสียงเคาะก็สงบลงในไม่กี่นาทีต่อมา เธอเลือกที่จะไม่ตอบรับทั้งที่รู้ดีว่าถ้าทำตัวแบบนี้จะเกิดอะไรขึ้น แต่เธออยากจะอยู่คนเดียวมากกว่า อิซาเบลล่าแตะแก้มของเธอในตำแหน่งที่โดนตบเมื่อวาน และเธอยังคงรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวด หญิงสาวหลับตาลงขณะนึกถึงคำพูดของแด๊ดเธอพูดได้ทุกคำ ‘แอชจะปฏิบัติต่อลูกอย่างดีเบลล่า’ เขารับรองขณะที่เขาจุมพิตที่หน้าผากของเธอในวันแต่งงานของเธอ ‘แด๊ดรู้จักแอชและเขาเป็นคนดีมาก’ ในที่สุดเธอก็ลุกขึ้นจากเตียง เดินไปที่โต๊ะ เอื้อมมือไปหยิบสมุดไดอารี เธอเริ่มเขียนเล่าระบายอารมณ์ความรู้สึกตนเอง เธอหยุดเป็นระยะ ๆ มองภาพครอบครัวของเธอ และภาพวาดสี่เหลี่ยมที่มัมของเธอมอบให้ในวันเกิด มันเป็นภาพวาดต้นไม้ที่มีชิงช้าในฤดูหนาว สาเหตุก็เพราะว่าวันที่อิซาเบลล่าเกิดเป็นวันแรกของหิมะในปีนั้น ตกตอนเย็น เธอได้ยินเสียงเคาะประตูหนัก ๆ เธอยืนตัวแข็ง เมื่อถึงเวลาอาหาร เสียงแอชเชอร์ดังมาจากด้านหลังประตู เธอเปิดประตูและเดินออกไปข้างนอกโถงทางเดินยืนอยู่ข้างหน้าเขาอย่างเงียบ ๆ สายตาของเธอมองลงที่พื้น “พวกเขากำลังรอเราอยู่ที่ชั้นล่าง” เขาพูดอย่างไม่พอใจและเริ่มเดินไปที่บันได อิซาเบลล่าเดินตามเขาโดยไม่พูดจาใด ๆ ไปที่ห้องอาหารที่มัมกับแด๊ดของเขานั่งอยู่ จูดี้มองเธออย่างรอคอย เธอทักทายพวกเขาอย่างเป็นทางการก่อนจะนั่งข้างแอชเชอร์ ก่อนจะขอบคุณทาราเงียบ ๆ เมื่ออาหารของเธอถูกเสิร์ฟ “ดื่มไวน์หน่อยไหมเบลล่า” จูดี้ถามเบาๆ “ไม่ค่ะ ขอบคุณ” อิซาเบลล่าตอบด้วยรอยยิ้ม “ขอบคุณที่ถามนะคะ” “เจสันบอกว่าเธอไม่เคยดื่ม” จูดี้พูดพร้อมกับยิ้มขณะวางแก้วของเธอ “ยังไงก็เถอะ พรุ่งนี้มัมจะเข้าไปในเมืองแต่เช้าเพื่อเช็กและซื้อของพื้นเมืองเพื่อนำกลับบ้าน มัมอยากให้เธอไปกับมัมจริง ๆ” “ได้ค่ะฉันจะไปด้วย” อิซาเบลล่าตอบ ห้าวันต่อมา แอชเชอร์เงยหน้าขึ้นจากรายงานที่เขากำลังอ่านอยู่ เมื่อคนขับบอกเขาว่าตอนนี้กำลังจะถึง River view Apartment ในเย็นวันเสาร์ เขาวางเอกสารบนที่ว่างข้างเขา และมองไปที่อิซาเบลล่าซึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ เธอนั่งเงียบดวงตาของเธอมองออกไปหน้าต่างรถตลอดเวลา วันนี้เธออยู่ในชุดเดรสสีเขียวขี้ม้าทรงโอเวอร์ไซต์แขนสั้น ความยาวเลยน่องกับรองเท้าผ้าใบสวมทับด้วยเสื้อโค้ทสีดำ เธอไม่ได้รวบผมขึ้นไปความยาวของผมคลอเคลียอยู่ตรงหน้าเธอ เขายอมรับว่ารู้สึกผิดที่พลั้งมือตบหน้าเธอไปวันนั้น อีกทั้งเขาก็ไม่ได้เอ่ยคำขอโทษเธอออกไป เธอร้องไห้อย่างน่าสงสาร เขายังจำแววตาที่เธอมองมาที่เขาอย่างเจ็บปวดได้ ตั้งแต่เกิดมานี่คือครั้งแรกที่เขาทำร้ายผู้หญิง เขาไม่รู้ว่าผีห่าซาตานตัวไหนดลใจให้เขาทำร้ายเธอแบบนั้นทั้งที่เธอตัวเล็กและบอบบาง ผิวของเธอขาวใสจนเห็นรอยมือเขาประทับอยู่บนนั้น ตั้งแต่ที่เธอตกลงไปในสระว่ายน้ำ เธอเปลี่ยนไปเป็นคนละคนตอนฟื้นขึ้นมา หลังจากในคืนนั้นเมื่อเขาไปเรียกเธอเพื่อมาทานอาหารค่ำ จากที่เธอเคยกระตือรือร้นและดื้อรั้น กลับกลายเป็นคนเงียบขรึม อ่อนน้อมถ่อมตน แตกต่างจากรายงานทั้งหมดที่เจสันได้รายงานให้เขาฟังตลอดหลายปีที่ผ่านมา อิซาเบลล่าไม่เคยรู้เลยว่าที่ผ่านมาเขาจับตาดูความเคลื่อนไหวของเธอมาโดยตลอด เมื่อแด๊ดของเธอเสียชีวิต หลังจากที่เธอเคยโทรมาหาเขา เพื่อขอยืมเงินมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลแด๊ดของเธอ แอชเชอร์เริ่มสงสัยเกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้ที่เขาแต่งงานด้วย เธอใช้เวลาหลายเดือนในการทำใจเรื่องแด๊ดของเธอที่จากไป เมื่อหญิงสาวพยายามโทรหาเขาอีกหลายครั้งเพื่อขอเรียนต่อ มันเป็นวิธีการขจัดความเศร้าเธอพยายามรับมือกับความสูญเสีย ในที่สุดเขาก็ยอมให้เธอได้เรียนออนไลน์ เหตุผลเป็นเพราะเขารู้เรื่องที่เธอโดนกลั่นแกล้งจากเพื่อนที่โรงเรียน เธอต้องอดทนจนจบ A-Level เธอไม่เคยพูดอะไรเกี่ยวกับมันเลย แต่เขารู้เรื่องทั้งหมดนี้จากเจสัน “เธอจะพักที่ห้องนี้ บิลค่าน้ำและค่าไฟจะหักออกจากเงินเดือนโดยอัตโนมัติ” แอชเชอร์อธิบายให้เธอฟังด้วยน้ำเสียงราบเรียบเมื่อขึ้นมาถึงชั้น 26 ของอะพาร์ตเมนต์ “ถ้าเธอไม่ชอบเฟอร์นิเจอร์ที่มีอยู่แล้ว เธอสามารถสั่งมาใหม่ได้ตามต้องการ” เธอยังคงเงียบไม่ได้สนใจคำพูดของเขาเลย แอชเชอร์หันมามองเธออย่างหงุดหงิด และเห็นว่าหญิงสาวยืนอยู่กลางห้องนั่งเล่น ดวงตาของเธอมองไปรอบ ๆ พื้นที่อันหรูหรา “เธอฟังฉันอยู่หรือเปล่าอิซาเบลล่า!?” แอชเชอร์ถามด้วยความไม่พอใจ อิซาเบลล่ากะพริบตาและหันหน้าไปหาเขาขณะที่เธอกำภาพวาดที่เธอนำมาด้วย “ฉันคิดว่ามันใหญ่เกินไปสำหรับฉันค่ะ” เธอพูดเสียงเบา “ฉันว่าห้องแบบสตูดิโอน่าจะดีกับฉันมากกว่า" “แบบนั้นมันไม่เหมาะกับเธอ เธอเป็นภรรยาของฉันนะอย่าลืม เธอต้องหัดใช้ชีวิตแบบชนชั้นสูง นี่เป็นของขวัญจากครอบครัวของฉัน มันไม่ใหญ่เกินไปสำหรับเธอ ฉันคิดว่าห้องนี้โอเคแล้ว มัมยืนยันว่าจะซื้อให้เธอที่ Paradise ด้วยซ้ำซึ่งมันใหญ่กว่านี้มาก แต่ฉันต้องปฏิเสธ เธอต้องรักษาหน้าตาของครอบครัวฉันด้วย หัดเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตแบบพวกเรา”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD