เขาพูดในขณะที่พยักหน้าให้คนขับรถซึ่งกำลังนำข้าวของของอิซาเบลล่าเข้ามาในอะพาร์ตเมนต์ “เธอจะต้องขอบคุณพวกเขาอย่างจริงใจ อย่าพูดอะไรอีกและอย่าทำกิริยาแบบนั้นกับพวกเขาอีกครั้งที่นี่”
แอชเชอร์คว้าซองที่คนขับรถมอบให้เขา พลางดึงเอกสารออกมา
“นี่คือสัญญาจ้างงานของเธอ และมีเอกสารทางกฎหมายอื่นๆ” เขาพูดขณะที่วางเอกสารเหล่านั้นไว้ในมือของเธอทีละแผ่น “เธอจะเริ่มทำงานในวันพุธ เพราะเธอจะได้มีเวลาอ่านเอกสารทุกอย่างในคู่มือขององค์กรรวมถึงทำความคุ้นเคยกับมัน”
“ผู้ช่วยออกแบบตกแต่งภายใน” เธอกล่าว พร้อมกับเบิกตากว้างเมื่อเห็นระดับเงินเดือน เธอมองเขาอย่างไม่เชื่อสายตา
“ฉันจะได้เงินเดือนด้วยเหรอคะ!?” เธอถามดวงตาเป็นประกาย
“เธอโง่หรือซื่อบื้อกันแน่?” เขาตะคอก “ถามอะไรโง่ ๆ แบบนี้!?”
อิซาเบลล่าหลับตาและพึมพำคำขอโทษ
“เธอกำลังพูดอะไร?” เขาถามเสียงดัง “อย่าพูดพึมพำอิซาเบลล่า”
“ฉันขอโทษที่เป็นคนงี่เง่า” เธอพูดอย่างชัดเจน
แอชเชอร์มองดูเธอด้วยสายตารังเกียจ ในที่สุดก็ดึงซองจดหมายออกมา "นี่คือกุญแจอพาร์ตเมนต์ของเธอ” เขาพูดก่อนจะวางมันลงบนฝ่ามือของเธอ
“ส่วนอีกดอกอยู่ที่ฉัน และนี่กุญแจรถที่จอดอยู่บนชั้นสิบอย่าคิดเอามันไปขับเพื่อแข่งอีก เข้าใจใช่ไหม”
“…” เธอพยักหน้ารับรู้
เขายังคงอธิบายให้เธอฟังต่อไปอีกประมาณสามสิบนาทีจนแน่ใจว่าเธอได้รับข้อมูลทุกอย่างที่จำเป็น เขาจึงเดินไปที่ประตูหลังจากเรียกคนขับเตรียมรถให้พร้อม
“เธอต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีกว่านี้อิซาเบลล่า” เขาเตือน
จากนั้นก็เดินออกจากห้องไปโดยปล่อยให้เธออยู่คนเดียว เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาเมื่อได้ยินเสียงสายเรียกเข้าและเห็นว่ารีเบคก้าโทรมา
Rrr! Rrr!
(ที่รักคุณกลับมาแล้วเหรอคะ) รีเบคก้าถามเสียงเย้ายวน
“ใช่ ฉันกำลังให้คนขับรถไปส่ง” เขาตอบขณะเข้าไปในรถ ก่อนที่คนขับรถจะปิดประตูรถให้เขาอย่างระมัดระวัง “เธอสั่งอาหารเย็นหรือยัง ฉันจะได้จิบไวน์ด้วยสักหน่อย อีกประมาณชั่วโมงฉันจะไปถึงที่นั่นหรืออาจจะช้ากว่านั้นเพราะตอนนี้รถติด”
(สั่งเรียบร้อยแล้วค่ะ) เธอตอบเสียงหวาน (แล้วฉันก็ซื้อชุดนอนใหม่มาเพื่อคุณด้วย)
แอชเชอร์หัวเราะอย่างอารมณ์ดีขณะมองดูนาฬิกาก่อนที่จะมองออกไปนอกเส้นขอบฟ้าของเมืองยามค่ำ
“ไปส่งฉันที่ K Park แล้วมารับฉันในวันจันทร์ตอนเจ็ดโมงเช้า” เขาสั่งคนขับรถของเขา ก่อนที่เขาจะหยิบเอกสารขึ้นมาอ่านต่อ
อิซาเบลล่าเปิดประตูอพาร์ตเมนต์ของเธอในคืนวันอังคาร หนึ่งอาทิตย์แล้วนับจากวันที่เธอเริ่มทำงานที่ Campbell Enterprise เธอถอดรองเท้าส้นเตี้ยออกและเดินไปที่โซฟาอย่างเหน็ดเหนื่อย เธอนั่งลงก่อนจะเอนศีรษะลงบนหมอนนุ่มเพื่อปิดตาของเธอ
คิดถึงช่วงสัปดาห์แรกที่ผ่านมาของการใช้ชีวิตในลอนดอน เธอหลงทางระหว่างทางกลับจากซูเปอร์มาร์เก็ตโดยเลี้ยวผิดและชนเข้ากับร้านค้าที่กำลังปรับปรุง นั่นทำให้แอชเชอร์โกรธจัด เขาไปรับเธอในตอนสายเช้าวันอาทิตย์ที่สถานีตำรวจหลังจากชดใช้ค่าเสียหายกับตำรวจเรียบร้อย
เหมือนว่าเขาจะมอิทธิพลไม่น้อยในลอนดอน และเธอถูกลากขึ้นรถไปกับเขาพร้อมอาการหัวฟัดหัวเหวี่ยง เธอถูกด่าเรื่องไม่ระมัดระวังเพราะรถเสียหายจนต้องส่งซ่อม เบลล่าพยายามอธิบายว่าเธอหลงทางแต่เขาไม่ยอมเชื่อสิ่งที่เธอพูดแม้แต่น้อย
‘ฉันเพิ่งบอกไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้วว่าที่นี่ไม่ใช่สนามแข่งรถ!’ เขาตะโกนและเขาก็เริ่มจิ้มนิ้วลงที่กลางหน้าผากของเธอ
‘เธอไม่เคยฟังสิ่งที่ฉันเตือนเลยใช่ไหม? เวลาที่ฉันพูดอะไรเธอปล่อยให้มันไหลผ่านหัวหนา ๆ ของเธอออกไปหรือเธอ มันโง่ เลยไม่เข้าใจคำพูดของฉัน?’
เขาด่าทอเธออีกครั้ง นั่นทำให้อิซาเบลล่าทำได้แค่รับฟัง เพราะเถียงไปยังไงเขาก็มีอคติกับเธอมากเกินกว่าจะมองความเป็นจริง
หลังจากรู้เรื่องที่เกิดขึ้น ๘จูดี้ก็ส่งของบำรุงมากมายมาให้ พร้อมข้อความที่ว่าจะดูแลเธอเอง แถมยังใจดีอธิบายพฤติกรรมลูกชายของเธอว่าที่เขาทำไปเพราะห่วงใยเท่านั้น แน่นอนว่าอิซาเบลล่าไม่เชื่อ
“นี่เธอแต่งตัวอะไรมาทำงาน คิดว่าแคมป์เบลล์เป็นบริษัทขายของเล่นรึไง ไม่ให้เกียรติงานและบริษัท!”
นี่คือคำทักทายจากลูซี่ หัวหน้างานแผนกที่เธออยู่ นอกจากนั้นยังมีสายตาเยอาะเย้ยหลายคู่ส่งมาเมื่อเธอเริ่มทำงานในวันแรก
หลังจากนั้นอิซาเบลล่ารู้ดีว่าเธอจะกลายเป็นที่รองรับอารมณ์ของทุกคนในแผนก ทุกวันเธอจะถูกสั่งไปชงกาแฟมาให้เพื่อนร่วมงาน เวลาทำงานมักถูกโยนงานอื่นที่ไม่ใช่ของเธอให้ทำ และถูกเรียกไปตำหนิอย่างรุนแรงจากความผิดพลาดที่ไม่ใช่สิ่งที่เธอทำ หลายครั้งในช่วงสัปดาห์เธอถูกกลั่นแกล้งนับไม่ถ้วนทั้งให้ไปยกลังกระดาษมาไว้ทั้งที่ไม่ใช่หน้าที่ ถูกขัดขาจนล้มในโรงอาหารของพนักงานโดยคนที่ทำมองเหยียดโดยไม่ขอโทษสักคำ เธอจึงเลือกกินข้าวบนโต๊ะทำงานแต่ถูกหัวหน้าเรียกเข้าไปด่าว่าผิดกฎจึงจำใจกินข้าวในห้องเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาด และเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เกิดขึ้นอีกมากมาย กระทั่งถูกใช้ให้ล้างจานที่ถูกแช่ไว้เหมือนเธอเป็นเพียงแค่แม่บ้าน
และสิ่งที่ซวยกว่าคือวันนี้เธอถูกปล้นเอาเงินไปจนหมดหลังจากเดินเข้าผิดซอย แต่เธอไม่กล้าพอที่จะบอกเขาหรือแม้แต่แจ้งความ หญิงสาวนั่งเหม่อบนโซฟาพลางพูดปลอบตัวเองเบา ๆ
“เดี๋ยวก็ดีขึ้นเบลล่า”
เธอพึมพำให้กำลังใจตัวเองในขณะยืนขึ้น มุ่งหน้าไปอาบน้ำในห้องอาบน้ำเพื่อชำระร่างกายให้สดชื่น
“เธอมีงานอีกอย่างที่ต้องทำ นั่นคือความสำเร็จของเธอเบลล่า” หญิงสาวยังคงปลุกปลอบตัวเอง
งานอีกอย่าง ที่หมายถึงการแก้ไขภาพวาดของเธอ ซึ่งมันทำให้มีความสุขทุกครั้งที่อยู่กับมัน