บทที่ 5 : นายอำเภอแห่งผาตะวัน (1)

1406 Words
“ของในตลาดสดส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าทางการเกษตรที่มาจากชาวบ้านผาตะวัน ไม่ว่าจะเป็นข้าวสาร ถั่วหลากสีสัน ผลไม้นานาชนิด ผักปลอดสารพิษ ทุกอย่างที่นี่ล้วนแต่ออร์แกนิคทั้งสิ้น คุณเลือกซื้อได้ตามใจเลย” ศรัณร่ายยาวให้สาวน้อยฟังระหว่างเดินดูของในตลาดสด ซึ่งอิงครัตก็ทำตัวเป็นผู้ฟังที่ดี โดยการเดินตามอย่างเงียบๆ และระหว่างที่เธอเลือกซื้อของก็จะได้ยินภาษาถิ่นที่ไม่คุ้นหูของพ่อค้าแม่ขายทั้งหลายดังทักทายนายอำเภอหนุ่มเป็นระยะๆ จากที่ฟังมาอิงครัตมั่นใจว่าเธอได้ยินมาแล้วไม่ต่ำกว่าสี่ภาษาอย่างแน่นอน เป็นอะไรที่น่าทึ่งมากสำหรับเธอ เพราะตลาดแห่งนี้ไม่มีการสื่อสารด้วยภาษาไทยเลยแม้แต่น้อย แต่ที่น่าทึ่งไปกว่านั้นเห็นจะเป็นนายอำเภอหนุ่มที่สามารถสื่อสารกับทุกคนได้อย่างคล่องแคล่วราวกับเป็นเจ้าของภาษา ไม่ว่าใครจะทักอะไรมานายอำเภอก็สามารถโต้ตอบได้อย่างราบรื่นพร้อมรอยยิ้มอย่างเป็นมิตรให้กับทุกคน และประโยคที่ทำให้สะดุดหูที่สุดเห็นจะเป็นประโยคที่ว่า… “คุณนายหน่อ-ดะ-จะ-โก้-เว” เพราะอิงครัตพอจะทราบอยู่คำหนึ่งที่ว่า ‘คุณนาย’ ซึ่งนายอำเภอหนุ่มก็จะคลี่ยิ้มออกมาพลางตอบกลับไปด้วยภาษาเดียวกัน “อะ-บู-ด่ะ-ยะ” และมันก็เป็นอยู่แบบนี้กระทั่งมาถึงร้านสุดท้าย หลังจากที่เธอเลือกซื้อข้าวสารเป็นที่เรียบร้อย นายอำเภอหนุ่มก็ทำหน้าที่ชำระเงินอย่างที่เป็นมาตั้งแต่แรก และก็มิวายถูกพ่อค้าทักเป็นภาษาถิ่นอีกตามเคย “นายอำเภอ นา-เหน่อ-คุณนาย-เก-ระ” “ต่า-บลึ ครับพาตี่” ศรัณกล่าวด้วยใบหน้ายิ้มๆ แล้วก็หันมารับของในมือเธอไปถือไว้เอง เมื่อทนสงสัยต่อไปไม่ไหวอิงครัตก็เลยเอ่ยถามชายหนุ่มด้วยความอยากรู้ “เขาพูดว่าอะไรเหรอคะ นายอำเภอ” “เขาบอกว่าคุณนายของผมสวย” คำตอบเรียบๆ แต่ก็ทำคนฟังถึงกับสะดุดลมหายใจพลางเลิกคิ้วถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ เผื่อว่าเธอจะได้ยินผิดไป “วะ…ว่าไงนะ” “พวกเขาบอกว่าคุณนาย ของนายอำเภอสวย ผมก็เลยตอบไปว่าขอบคุณ” ศรัณตอบคำถามของเธออีกครั้ง และครั้งนี้ก็ดูเหมือนจะกระจ่างกว่าเดิมมาก เล่นเอาแก้มขาวเนียนต้องเปลี่ยนสีกลายเป็นลูกตำลึกสุกอย่างกะทันหันทันที “ตายจริง! ไม่ใช่นะคะ” สาวน้อยอุทานออกมาด้วยความตกใจ หันกลับไปโบกไม้โบกมือเพื่ออธิบาย แต่เมื่อเห็นทุกคนส่งยิ้มให้เธอก็รู้แล้วว่าพวกเขาไม่มีทางเข้าใจแน่นๆ เพราะตั้งแต่เธอเดินเข้ามาในตลาดแห่งก็ไม่มีใครใช้ภาษาไทยกลางสื่อสารกันเลยแม้แต่ประโยคเดียว เมื่อเห็นแบบนั้นสาวน้อยก็จำต้องหันกลับมาเขย่าแขนคนข้างๆ พร้อมส่งสายตาอ้อนวอนขอให้เขาช่วยแปลที “นายอำเภอช่วยอธิบายให้พวกเขาเข้าใจหน่อยได้ไหมคะว่าฉันไม่ใช่คุณนายของคุณ” ท่าทางและน้ำเสียงวิงวอนของสาวน้อย ทำให้นายอำเภอหนุ่มอดที่จะระบายยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดูไม่ได้ แต่กระนั้นก็ไม่ยอมทำตามที่เธอเรียกร้องแต่อย่างใด “มาด้วยกันตั้งแต่เช้ามืดแบบนี้ อธิบายไปก็เปล่าประโยชน์ ทางที่ดีคุณควรสร้างไมตรีโดยการยิ้มกว้างๆ ส่งกลับไปน่าจะดีกว่า” ได้ยินคำตอบหน้าตายพร้อมคำแนะนำของอีกฝ่าย อิงครัตก็อยากจะกระทืบเท้าแรงๆ ด้วยความขัดใจ แต่กระนั้นไม่กล้าพอเพราะตระหนักได้ว่าไม่ได้อยู่กับเขาตามลำพัง สิ่งเดียวที่เธอทำได้ตอนนี้ก็คือ เม้นริมฝีปากแน่นจนเป็นเส้นตรงพร้อมสะบัดหน้าก้าวยาวๆ ตรงไปที่รถโดยไม่สนใจรอเขาอีกต่อไป ………………………………….……………… “นี่คุณยังโกรธผมอยู่เหรอ…อิง” ศรัณเอ่ยถามเมื่อสาวน้อยที่นั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซน์นั่งเงียบมาตั้งแต่ตลาด ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังนั่งทิ้งห่างไม่ยอมกอดเอวของเขาไว้เหมือนตอนขาไปอีกด้วย “รู้ตัวก็ดี” “ผมบอกแล้วไงว่าอธิบายไปก็เปล่าประโยชน์ เรามากันด้วยกันตั้งแต่เช้ามืดแบบนี้พูดอะไรไปก็เหมือนเป็นการแก้ตัว” “แล้วจะปล่อยให้ทุกคนเข้าใจผิดแบบนั้นเหรอคะ” สาวน้อยย้อนถามด้วยน้ำเสียงสะบัด ทั้งโกรธทั้งเจ็บใจที่เขาไม่คิดจะช่วยเธอ ศรัณเลยต้องละมือซ้ายจากแฮนมอเตอร์ไซค์เพื่อคว้ามือเล็กของคนข้างหลังมาดึงแนบไว้ที่เอวสอบของตัวเอง แต่คนตัวเล็กก็ขัดขืนไม่ยอมให้ความร่วมมือง่ายๆ ทว่าสุดท้ายแล้วแรงอันน้อยนิดของเธอก็สู้เขาไม่ได้เลยต้องปล่อยให้เขากุมมือเธอแนบเอวไว้แบบนั้น “ไม่เข้าใจผิดหรอก เพราะวันหนึ่งผมจะทำให้ทุกอย่างเป็นจริงเอง” คราวนี้อิงครัตถึงกับชะงักนิ่งไปทันที เพราะประโยคเรียบๆ นั้นแฝงไปด้วยความนัยอะไรบางอย่างที่ชวนให้คาดเดาไปต่างๆ นาๆ ‘หรือนายอำเภอจะรู้แล้วว่าเราเป็นคู่หมั้นของเขา’ คิดแล้วก็รู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย แต่ก่อนที่จะได้ถามอะไรเขาออกไป ชายหนุ่มก็หักเลี้ยวมอเตอร์ไซน์เข้าข้างทางจากนั้นก็ดับเครื่องลงจากรถ ทำให้เธอจำต้องเดินตามลงมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ “คุณอยากชมทะเลหมอกไหม เช้าๆ แบบนี้ทะเลหมอกกำลังสวย” จู่ๆ เขาก็เปลี่ยนเรื่องพร้อมหันมาถาม ทำให้อิงครัตหูผึ่งไปทันที ใครล่ะจะไม่อยากชมทะเลหมอก นั่นมันเป็นความฝันของเธอตั้งแต่สมัยเด็กๆ เลยนะ การที่เติบโตมาในเมืองกรุงทำให้ไม่ค่อยได้มีโอกาสเที่ยวต่างจังหวัดสักเท่าไหร่ พอไปอยู่เมืองนอกก็เอาแต่เรียนกระทั่งจบกลับมาเมืองไทยแทบจะไม่ได้เที่ยวเลย สาวน้อยรีบก้าวตามหลังเขาตรงไปยังหน้าผา ก่อนจะหยุดมองดูภาพตรงหน้าด้วยความตกตะลึง “สวยจัง” เสียงหวานพึมพำกับตัวเองเบาๆ อย่างลืมตัว อิงครัตเพิ่งจะมีโอกาสได้เห็นทะเลหมอกของจริงแบบเต็มสองตาก็วันนี้เอง ด้วยจุดที่เธอยืนอยู่นั้นเป็นยอดดอยสูงทำให้สามารถมองเห็นวิวทิวเขาที่ปกคลุมด้วยทะเลหมอกจนสุดลูกหูลูกตา เป็นภาพที่งดงามเกินคำบรรยาย และเป็นภาพที่ตราตรึงจิตยากที่จะถอดถอนสายตาละออกไปได้ “นายอำเภอโชคดีจังเลยนะคะที่ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ และเห็นภาพสวยๆ แบบนี้ทุกวัน” สาวน้อยหันมาบอกกับคนข้างๆ ด้วยความรู้สึกอิจฉาอีกฝ่ายในใจลึกๆ แต่แล้วเสียงทุ้มเรียบก็เอ่ยทำลายอารมณ์สุนทรีของเธอให้มลายหายไปในพริบตา “ก็ไม่เสมอไปหรอก เพราะถ้าเข้าหน้าร้อนเมื่อไหร่ก็จะเห็นแต่หมอกควันจากไฟป่า” พูดจบก็ต้องถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ด้วยความรู้สึกหนักอก คิ้วดกขมวดเข้าหากันยุ่งเมื่อพูดถึงหมอกควันในฤดูร้อน บ่งบอกชัดว่าน่าจะเป็นปัญหาใหญ่ของที่นี่ ทำให้สาวน้อยอดที่จะเอ่ยถามด้วยความสงสัยไม่ได้ “ไฟป่าเกิดจากอะไรเหรอคะ นายอำเภอ” ‘ช่างเจรจาแบบนี้แสดงว่าหายโกรธแล้วสินะ’ นายอำเภอหนุ่มคิดพลางลอบยิ้มด้วยความพอใจ ก่อนจะตอบคำถามของเธอ “ก็มีหลายสาเหตุนะ… ทั้งจากธรรมชาติและฝีมือมนุษย์ แต่หลักๆ ก็มาจากมนุษย์เสียมากกว่า โดยเฉพาะการเผาป่าในช่วงฤดูร้อน” “คนที่นี่อยู่กับป่า แล้วทำไมต้องเผาที่อยู่ของตัวเองด้วยละคะ” ...................................................................... ได้อะไรจากนิยายตอนนี้บ้าง? ภาษาลาหู่ / หน่อ=เธอ , ดะจะโกเว=สวยมาก,อะบูดะยะ=ขอบคุณ / ภาษากะเหรี่ยง(สะกอ หรือ ปาเกอญอ) / นา=เธอ , เกระ=สวยมาก,ต่าบลึ=ขอบคุณ / เพิ่มเติมให้อีก 2 ภาษานะคะ ภาษาลีซู / นู=เธอ, อะกึบิว=สวย , อะคือโบะโม๊ะ=ขอบคุณ / ภาษาไทยใหญ่ / เมา=เธอ,ฮั่งหลี=สวย,ยีหลีหน่ำๆ=ขอบคุณมากๆ / หมายเหตุ: เนื่องจากภาษาถิ่นบางตัวไม่สามารถสะกดด้วยพยัญชนะไทยได้ อาจจะมีความคลาดเคลื่อนบ้างเล็กน้อยนะคะ ...ใครชอบคำไหนลองคอมเม้นต์มาบอกกันบ้างนะ…
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD