3
“พ่อ!!! แม่!!!”
เด็กหนุ่มร้องเรียกอย่างที่เขาคิดว่าดังสุดเสียงแล้ว แต่มันกลับเป็นเพียงแค่สายลมบางเบาออกจากปาก อีกทั้งน้ำตาที่ไหลหลั่งออกจากสองตาอย่างหักห้ามเอาไว้ไม่ได้ ถึงจะเป็นอย่างนั้นเด็กหนุ่มก็ไม่ได้อิดออดรีรอ ข่มกลั้นอาการหวาดกลัวและอาการต่างๆ ทางร่างกายเอาไว้พยุงตัวเองที่เดินโงนเงนไปช่วยมารดาอย่างไม่หวั่นเกรงไฟร้อนๆ เผาไหม้ร่างกายเพื่อช่วยคนที่รักให้ออกมาอย่างปลอดภัย
“อดทนนิดนะครับแม่ ผมมาช่วยแล้ว” ปากก็ร้องตะโกนบอกคนในรถ มือก็สาละวนดับไฟสลับปาดไล้น้ำตาบนวงหน้า สองมือพยายามแกะแงะให้ประตูรถฝั่งที่มารดานั่งอยู่ที่ไม่รู้ว่าติดอะไร เปิดยังไงก็เปิดออก
ในทรวงเหมือนถูกเพลิงไฟที่ได้เห็นแผดเผา กลัวจนหายใจติดขัด ภาวนาอย่าให้คนในรถเป็นอะไรไป พ่อกับแม่ต้องปลอดภัยและยังจะต้องอยู่กับเขาไปอีกนาน แต่เพียงยื่นมือเอื้อมไปไม่ทันจะได้แตะตัวรถด้วยซ้ำ ความร้อนที่แผ่กระจายมาแทบจะเผามือและกายให้ไหม้ ทว่าหนุ่มน้อยก็คิดจะไม่ยอมแพ้ เสื้อตัวใหญ่ถูกถอดออกมาเพื่อพันมือเอาไว้
ปากสีแดงๆ ขยับเอ่ยบอกคนภายในรถให้รับรู้ว่าเขายังอยู่ตรงนี้ มือก็ยังทำงานของมันอย่างเต็มความสามารถที่มี พร้อมที่จะฝ่าเปลวไฟร้อนแรง เพื่อช่วยให้ท่าน...คนที่เขารักทั้งคู่ยังคงอยู่กับเขาต่อไป
น้ำตาเอ่อล้นคลอเบ้าด้วยความยินดีที่ได้เห็นว่าบุตรชายคงปลอดภัย
“จอห์น ช่วยพ่อก่อนลูก ช่วยพ่อก่อน”
แม้สถานการณ์จะอยู่ในขั้นวิกฤติ เอรียาก็ยังเป็นห่วงสามี ยังเลือกบอกลูกชายให้ช่วยเหลือชินวุฒิ ซึ่งตอนนี้ความตายดูจะมาเยือนมากกว่าความเป็น
“คุณ...คุณคะ คุณต้องไม่เป็นอะไรนะ อยู่กับฉันกับลูกก่อนนะคุณ อย่าเป็นอะไรไปนะ” เขย่าแขนสามีคู่ทุกข์คู่ยากให้ลืมตาตื่น เพื่อจะได้หนีจากกองไฟไปพร้อมๆ กัน
“คุณอย่าทิ้งฉันนะ อย่าทิ้งฉันไป...ได้โปรด” เสียงแผ่ว น้ำตานองหน้า
“ถอยไปครับแม่ ถอยไป!” ชินกฤตร้องตะโกนบอกคนในรถให้ถอยห่างไป คิดว่าถ้าทำอยู่อย่างนี้ไม่แคล้วทั้งบิดาและมารดาจะต้องถูกไฟคลอกตายก่อนเขาจะช่วยเหลือได้สำเร็จ หนุ่มน้อยซึ่งตอนนี้ร่างกายเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อและร่องรอยแดงๆ ของไฟ กระชากเสื้อออกมาพันมือใหม่อีกครั้งให้แน่นพอ
“ถอยออกไปครับแม่ ถอยไป!” ตะโกนบอกทั้งที่น้ำตาอาบไล้เต็มวงหน้าคมสันที่มีอาการตื่นตระหนก มือกระหน่ำซ้ำทุบไปบนกระจกจนแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย รีบคว้าร่างที่เขาสามารถคว้าได้ก่อน อย่างไม่สนใจว่าเป็นใคร กระชากลากเต็มแรงให้ร่างเล็กหลุดออกจากรถไปอยู่ในที่ปลอดภัยอย่างทุลักทุเล
“แม่รออยู่ตรงนี้นะครับ ผมจะไปช่วย...” แต่ไม่ทันที่ชินกฤตจะได้ย้อนกลับไปช่วยชินวุฒิในรถ ไฟซึ่งโหมไหม้ลุกท่วมอยู่ก็ระเบิดขึ้นตูมใหญ่
“คุณ...กรี๊ด!!!” เอรียากรีดร้องเสียงหลง ก่อนร่างเล็กจะฟุบแน่นิ่งไปอย่างคนช็อกสุดขีด
“พ่อ!!!”
ชินกฤตตะโกนร้องเรียกบิดาเสียงหลง เป็นลูกผู้ชายไม่สมควรจะร้องไห้ แต่เขาไม่อาจระงับน้ำตาซึ่งหัวใจสั่งมาให้ไหลอาบสองแก้มให้หยุดไหลได้ จะไปช่วยบิดาออกจากรถก็ทำไม่ได้แล้ว เพราะร่างเล็กบางของมารดาที่เย็นเฉียบและอ่อนระทวยซบแน่นิ่ง วงหน้าสวยหวานซีดเผือดยิ่งกว่ากระดาษ ลมหายใจก็อ่อนแรงจนเขากำลังกลัว...กลัวว่าจะต้องสูญเสียคนที่รักไปอีกคน
“แม่ครับ แม่อย่าเป็นอะไรไปนะครับ อย่าทิ้งผมไว้คนเดียวนะครับแม่”
พร่ำพูดเหมือนกับคนละเมออย่างหวาดกลัวสุดหัวใจ แขนใหญ่สอดกระชับร่างเล็กขึ้นพาวิ่ง...วิ่งอย่างไม่ยอมหยุดพร้อมร้องตะโกนขอความช่วยเหลือจากคนซึ่งผ่านไปมาช่วยพามารดาไปหาหมอ แต่กลับไม่มีใครสนใจเลยสักคนเดียว
กว่าชินกฤตจะพามารดาไปถึงมือหมอก็เป็นเวลาย่ำค่ำ หนุ่มน้อยได้แต่เฝ้าภาวนาให้มารดาปลอดภัย สองเท้าก้าวย่ำเดินไปมาอย่างไม่หยุดนิ่ง หนุ่มน้อยซึ่งตอนนี้กลายเป็นคนคิดมากและหวาดระแวงไปเสียแล้ว ด้วยเรื่องที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นการจงใจของใครบางคนที่เขายังไม่รู้ว่าเป็นใคร ที่เขาจะต้องตามหาตัวให้เจอ
กรามหนาขบกัดบดเบียดจนแก้มตอบนูนเด่น ตาคมกริบเป็นประกายแข็งกระด้างดุกร้าว
ไม่ว่ามัน...คนนั้นจะเป็นใคร เขาจะต้องตามหาตัวให้เจอ และจัดการเรียกเอาความยุติธรรมและแก้แค้นให้กับบิดาให้จงได้!
เวลาเนิ่นน่านผ่านไปชินกฤตเดินวนไปเวียนมา พากายหนาสูงใหญ่หลบลี้ซ่อนแอบอยู่มุมซอกหนึ่ง โดยไม่สนใจอาการเจ็บที่มือและส่วนอื่นๆ ของร่างกาย หลบคนที่ทำร้ายเขาและครอบครัว
สายตาหวาดระแวงเหลียวมองไปทั่วทุกสารทิศ เชื่อว่าคนที่ทำเรื่องเลวร้ายนี้ลงไป หากรู้ว่าเขาและแม่ยังคงอยู่ คนใจดำอมหิตจะต้องไม่รามือหันมาทำร้ายอีกครั้งเป็นแน่
ใบหน้าคมเข้มชะโงกหน้าออกไปดูว่าแพทย์ที่เข้าไปทำการรักษามารดาเดินออกมาหรือยัง แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่เลย ยังไม่มีใครออกมาจากห้องนั้นสักคน เขาได้แต่ร้อนรนกระวนกระวายใจ
จากเดินไปรอบๆ ชินกฤตทรุดตัวลงนั่งบนพื้นเย็นๆ อย่างไม่คิดจะสนใจว่ามันสกปรกเพียงใด สองแขนวางทาบบนหัวเข่า ปลายนิ้วสองข้างเกี่ยวกันไว้ แม้จะพยายามเรียกเอาความเข้มแข็ง แต่ยังไงเขาก็คือเด็กเพิ่งจะแตกเนื้อหนุ่มยังคงมีความเป็นเด็กอยู่สูง ให้พยายามเท่าไหร่น้ำตามันก็ยังออกมาอย่างหักห้ามเอาไว้ได้ไม่ได้
เวลาผ่านไปจากวินาทีเป็นนาที เป็นชั่วโมงแต่หมอก็ยังไม่ออกมาแจ้งข่าว สีหน้าซีดเซียวและยุ่งเหยิงเต็มไปด้วยฝุ่นละออง บวกกับอาการตื่นตระหนกและขลาดกลัวทำให้ดูเหมือนเด็กหนุ่มจะแก่ขึ้นไปอีกโข ในอกหนุ่มน้อยเหมือนกับถูกเปลวไฟร้อนเผาไหม้ให้ในทวงอกตรม หนักและอึดอัดจนแทบจะหายใจไม่ออก
“แม่ครับ แม่อย่าเป็นอะไรไปนะครับ”
ชินกฤตได้แต่สวดภาวนาอ้อนวอนให้เกิดปาฏิหาริย์ ช่วยให้มารดาไม่จากเขาไป แล้วตาหนุ่มน้อยก็เบิกกว้าง ลุกขึ้นและหลบเข้าซอกมุมแทบไม่ทัน เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นตำรวจสองนายเดินมาพร้อมกับผู้ชายคนเดิมซึ่งมาบ้านเขาก่อนเกิดเรื่อง ทำให้พ่อเป็นลมหมดสติ แล้วเขากับแม่ก็แทบจะเอาชีวิตไม่รอด สอดส่ายสายตามองเหมือนกำลังหาใครสักคน…ใครคนนั้นอาจจะเป็นเขาก็ได้ เพราะความกลัวทำให้ชินกฤตไม่กล้าเปิดเผยตัวออกไป ด้วยในวินาทีนี้ไม่ว่าใครก็ย่อมเป็นอันตรายแก่ตัวเขาทั้งนั้น ประจวบเหมาะกับหมอเดินออกมาจากห้องฉุกเฉินทำให้คนเหล่านั้นหันเหความสนใจไปยังเรื่องตรงหน้า
ตรงจุดที่เขาแอบอยู่ไม่ไกลสักเท่าไหร่ ทำให้ได้ยินคำพูดอย่างชัดเจน แต่คำพูดใดก็ไม่ชัดเจน เหมือนเหล็กแหลมพุ่งออกตรงสู่กึ่งกลางหัวใจ หนุ่มน้อยแทบจะทรุดกองลงไปกองบนพื้นอีกหน...
‘พ่อ...เสียชีวิตอยู่ในรถ’
อันนั้นเขาพอจะเดาได้อยู่แล้ว ไฟโหมกระหน่ำไหม้เสียขนาดนั้น ต่อให้มีปาฏิหาริย์ก็แทบจะเป็นไม่ได้ที่คนซึ่งถูกไฟคลอกจะฟื้นคืนมา แต่แม่...
“สิ่งที่เกิดขึ้น คงทำให้คุณเอรีนาช็อก สมองและร่างกายไม่ตอบสนอง”
เสียงลอยมากระทบช่องหู แล่นพล่านไปทั่วร่างกายฝังอยู่ในสมองและหัวใจ พานทำให้ร่างกายแข็งแกร่งถึงกับโงนเงนอย่างไม้ยืนต้นใหญ่ตระหง่าน ล้มลงมาเพียงแค่ถูกมือเด็กเล็กๆ ผลัก
แม้จะทำใจยอมรับไว้บ้างแล้วว่ายังไงเสียบิดาก็คงจะไม่รอด แต่มาได้ยินอย่างนี้ก็ทำเอาเขาถึงกับเสียศูนย์ไปเหมือนกัน
หนุ่มน้อยอยากเข้าไปหาแม่ใจจะขาด อยากปลอบโยนและบอกกับท่านว่ายังมีเขาอยู่ตรงนี้นะ ท่านไม่ได้โดดเดี่ยว ยังมีเขาอีกคนเป็นเพื่อน แต่ทำไม่ได้ เพราะผู้ชายคนนั้นยืนสั่งการและคุมเชิงอยู่จนเขายอมล่าถอยไป เมื่อเริ่มมีการเคลื่อนไหวเหมือนกำลังหาตัวเขาอยู่
กรามหนาขบกัดบดเบียดจนแก้มตอบนูนเด่น ดวงตาสีสนิมเปล่งประกายลุกโชนเป็นเพลิงไฟ สองมือใหญ่กำหมัดไว้จนแน่น...เชื่อว่าตราบใดที่ผู้ชายคนนั้นยังไม่ได้ตัวเขา แม่จะยังคงปลอดภัย เด็กหนุ่มตัดสินใจอย่างแน่วแน่ ด้วยความแค้นซึ่งฝังอยู่ในหัวใจ
วันนี้เขาจำต้องล่าถอย เพราะไม่มีอะไรทำให้เขาต่อสู้แล้วเอาชนะผู้ชายคนนั้นได้ แต่วันหนึ่งเขาจะกลับมา...กลับมาอย่างสง่างามเพื่อที่จะ...
“พ่อครับแม่ครับ ไม่ว่าใครที่ทำให้ครอบครัวเราต้องกลายเป็นแบบนี้...ผมสัญญาว่าจะเอาคืนมันให้สาสม พ่อกับแม่เป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ”