ตอนที่ 2 ปฐมบทแห่งความแค้น

1542 Words
2 “ดูแลพ่อให้ดีนะจอห์น แล้วอาจะมาใหม่” ไม่ใช่ไม่เป็นห่วงชายตรงหน้าซึ่งเป็นทั้งเพื่อน ทั้งพี่ เป็นครอบครัวที่เขามี รวมไปถึงเป็นครูคอยสอนสั่งแนะนำกลยุทธ์เล่ห์เหลี่ยมในเรื่องงานให้ อย่างไม่เคยจะตระหนี่และหวงแหน แต่ความกดดันจากหุ้นส่วนที่โยนใส่เขามาเต็มๆ จนเขาเองก็แย่ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ช่วยเหลือคนหัวแข็งได้ยังไงเหมือนกัน ในตอนนี้ เขาจึงเป็นเหมือนกับคนใจร้ายไป ที่ทำให้พี่ชายถึงกับเป็นลมแล้วยังจะไม่ดูดำดูดีอีก ใครรู้เข้าก็ต้องหาว่าเขาใจดำ แต่การอยู่ของเขาอาจทำให้ทุกๆ อย่างมันย่ำแย่ไปกว่านี้ก็เป็นได้ สู้เขาเลี่ยงไปเสียก่อน ให้ชินวุฒิได้มีโอกาสตั้งหลักตั้งตัวดึงเอาความสามารถที่มีทำให้คนอื่นเห็นจะเป็นการดีกว่า แต่ตอนนี้ ก่อนอื่นชินวุฒิจะต้องยอมรับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นด้วย ไฟกำลังร้อน เหตุการณ์ในบริษัทกำลังย่ำแย่ ผู้ถือหุ้นทั้งหลายเริ่มหวาดระแวงและไม่ไว้วางใจแล้ว บางรายถึงกับพูดเปรยๆ เรื่องการถอนหุ้นอีกด้วย ถ้าหากยังปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป บริษัทที่ร่วมกันสร้างมาตั้งแต่เล็กๆ จนเป็นบริษัทใหญ่และมั่นคงก็จะล้มครืนลงไปเพียงแค่พริบตาเดียว เขาซึ่งเป็นหนึ่งในคนซึ่งร่วมก่อตั้งทนให้เป็นแบบนั้นไม่ได้ แล้วสิ่งที่เขาเสนอไปนั้นไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อทุกๆ คน หากว่าชินวุฒิสามารถหาหลักฐานพิสูจน์ตัวเองได้ว่าไม่ได้เป็นอย่างที่ทุกคนกล่าวอ้าง... ยักยอกเงินและทุจริต...เปิดเผยความจริงให้ทุกคนได้รู้ว่าใครกันแน่ที่เป็นคนผิด เขาเชื่อว่าทุกๆ คนก็พร้อมยอมรับให้ชินวุฒิกลับมาดำรงตำแหน่งเดิมได้อีกครั้ง ทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดี อย่างเปิดเผยและงามสง่าด้วย ชินกฤตไม่สนใจว่าคนตรงหน้าพูดอะไร เพราะใจเขาอยู่ที่บิดา ซึ่งตอนนี้ร่างกายเย็นเฉียบเหมือนกับมีน้ำแข็งเกาะ ลมหายใจก็อ่อนแรง แม้กระทั่งลมหายใจควรจะออกมาจากจมูกก็ไม่มี “แม่ครับพ่อเป็นอะไรไม่รู้ แม่เรียกหมอหน่อยครับ” แม้จะตกใจแต่เด็กหนุ่มก็ยังพอจะมีสติพอที่จะตะโกนสั่งให้มารดา ซึ่งตอนนี้ก็แทบจะลมจับไปอีกคนเรียกหมอโดยเร็ว รอคอย...แต่ดูว่าอาการของบิดาดูจะไม่น่าไว้ใจเลย มารดาก็ชักช้างุ่มง่าม จะก้าวเดินแต่ละก้าวก็ช้าจนเหมือนกับเต่าคลาน ช้าเกินไปไม่ทันใจวัยรุ่นและทันต่ออาการของบิดาซึ่งดูเหมือนว่าจะแย่ลงเรื่อยๆ ชินกฤตเลือกที่จะช้อนร่างไร้สติของบิดาขึ้น ถลาพาวิ่งออกไปนอกบ้าน พร้อมร้องตะโกนบอกมารดาให้วิ่งตามหลังมาติดๆ “แม่ครับ แม่เอากุญแจรถมาให้ผมด้วยนะครับ…พ่อครับ พ่ออย่าเป็นอะไรไปนะครับ ผมกับแม่จะพาพ่อไปหาหมอ” ร้องตะโกนบอกมารดาสลับกับเรียกชื่อบิดา เพื่อให้ท่านรับรู้ว่าตรงนี้ยังมีเขากับแม่เป็นห่วงและอยู่เป็นเพื่อนใกล้ๆ   หนึ่งหนุ่มน้อยกำลังเติบโตเป็นหนุ่มใหญ่ อุ้มร่างผู้เป็นประมุขของบ้านเข้าไปในรถอย่างทุลักทุเล เหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดไหลออกจากขมับและแผ่นหลัง มือสั่นเทาไล่ไปตามท่อนแขนกำยำและเรือนกาย แต่ในเสี้ยววินาทีนั้นชินกฤตไม่มีกะจิตกะใจจะสนใจ ร่างหนาใหญ่รีบหันหลังกลับไปประคองหญิงร่างเล็กมาที่รถ แทบจะต้องยัดร่างมารดาให้ตามเข้าไปนั่งแนบข้างบิดา ก่อนวิ่งอ้อมไปอีกฝั่ง รีบก้าวขึ้นไปประจำตำแหน่งและพารถออกจากบ้านอย่างรวดเร็ว สองมือใหญ่จับพวงมาลัยรถไว้มั่น จนเส้นเอ็นตามข้อมือปูดโปน กรามหนาขบกัดจนแก้มนูนขึ้นสัน เหลือบสายตามองคนร่วมทางผ่านกระจกมองหลัง ในหัวใจกระตุกและหวาดหวั่น เมื่อใบหน้าบิดาที่เคยขาวราวกับกระดาษเริ่มจะมีสีคล้ำขึ้น เหมือนกับคนหายใจไม่ออก ‘พ่อครับ อดทนอีกนิดนะครับ ผมจะพาพ่อไปหาหมอ’ เขาอยากจะเปล่งเสียงออกไปบอกให้พ่อได้รับรู้ แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรทำไมถึงได้ขยับเปิดปากไม่ได้ น้ำตาอุ่นร้อนเอ่อล้นคลอหน่วยตา อึดอัดอยากจะตะโกนออกไปดังๆ แต่ในลำคอตีบตันไปหมด ในอกเหมือนกับมีลมก้อนใหญ่ แม้จะบางเบา แต่กลับหนักจนหายใจไม่ออก ได้แต่เฝ้าภาวนาอ้อนวอนต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อย่าให้บิดาเป็นอะไรไปเลย สิ่งที่เขาอ้อนวอน สวรรค์เบื้องบนคงจะไม่เห็นและไม่รับรู้ เพราะเพียงแค่รถเลี้ยวออกจากซอยขึ้นถนนใหญ่ก็มีรถมอเตอร์ไซค์ตามประกบติด ถ้าในช่วงไม่เกิดวิกฤติอย่างนี้ คนซึ่งเคยละเอียดรอบคอบอย่างชินกฤตก็คงจะมองเห็น แต่เพราะในสายตาเขาตอนนี้มีเพียงแค่ความเป็นความตายของบิดา จึงได้แต่เร่งรีบพารถคันใหญ่ไปยังโรงพยาบาลซึ่งอยู่ใกล้ที่สุด “เร็วหน่อยลูก พ่อเขาจะไม่ไหวแล้ว” น้ำเสียงเบาหวิวของแม่ลอยมากระทบหู ทำให้ชินกฤตเกิดอาการละล้าละลัง สั่นสะท้านไปทั้งตัวอย่างที่บังคับเอาไว้ไม่ได้ น้ำตาไม่รู้ว่ามันมาจากไหนเอ่อล้นคลอเบ้าจนแทบจะมองทางไม่เห็นและไหลอาบสองแก้มอย่างเร็ว สองมือหนาจับพวงมาลัยประคองรถให้ผ่านโค้งที่ถ้าประมาทเพียงนิดเดียวก็มีหวังลงไปนอนอยู่ในคูน้ำและพงหญ้าข้างทางแทน แล้วเส้นทางก็ค่อนข้างจะเปลี่ยวด้วยว่าบ้านเขาอยู่ชานเมืองออกไป กว่าจะมีคนเข้ามาให้การช่วยเหลือ มันคงจะไม่ทันการ หนุ่มน้อยประคองรถไปได้อีกเพียงแค่เล็กน้อย รถคันใหญ่ก็เซถลาไปไม่ตรงเส้นทาง เสียงหวีดร้องเล็กดังมากระทบใบหู ตามติดมาด้วยเสียงถามอย่างตื่นตระหนก แต่เขากลับไม่มีโอกาสได้ตอบ ด้วยสายตาเหลือบมองไปแล้วเห็นปลายกระบอกปืนสีดำเมื่อมอยู่ไม่ไกล สติที่กำลังจะขาดผึงลงไปสั่งให้เขาอย่าไปสนใจและหวั่นไหวกับกระสุนหลายนัดที่กระหน่ำยิงเข้ามา ประคองรถไปให้ตรงทางและไปให้เร็วสุดเท่าที่จะทำได้ แต่เพราะความที่เขายังเป็นมือใหม่หัดขับ อีกทั้งความห่วงใยต่อผู้เป็นบิดาที่อาการย่ำแย่เต็มที แม้จะพยายามจนสุดความสามารถแล้วก็ตาม แต่ไม่อาจประคองรถเอาไว้ได้ รถคันใหญ่บรรจุคนสามคนถลาพุ่งเข้าชนเสาไฟฟ้าอย่างจัง หนึ่งร่างคนขับถูกอัดเข้ากับพวงมาลัยรถ แต่ดีว่ามีถุงลมอัดดันประตูเปิดดีดตัวเด็กหนุ่มกระเด็นออกจากรถ แต่อีกสองร่างกลับติดอยู่ในนั้น ก่อนคนร้ายซึ่งต้องการความมั่นใจว่าเหยื่อที่ได้รับคำสั่งมาจะไม่มีชีวิตรอดก้าวลงจากรถ เดินลงมากระหน่ำยิงซ้ำอีกครั้งจนรถคันใหญ่เกิดระเบิด เปลวไฟจะโหมลุกไหม้อย่างทันใจ จากนั้นชายใจเหี้ยมหาญก็เดินอย่างอาจหาญกลับไปขึ้นรถและขับหนีไปอย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใดและกลัวว่าจะมีใครมาเห็นเข้า ชินกฤตผุดลุกขึ้นนั่งสะบัดศีรษะให้คลายจากอาการมึนงง เพราะหล่นลงมากระแทกกับอะไรที่เขาไม่คิดจะสนใจมองด้วยความกลัวระคนตื่นตระหนกเกาะกุมหัวใจ ข่มความเจ็บที่มีทั่วร่าง ดึงสติกลับมาอย่างรวดเร็ว ก่อนดวงตาคมกริบสีสนิมจะเบิกกว้าง ร่างคนหนึ่งนิ่งสงบไปไม่มีแม้แต่เสียงร้อง ส่วนอีกร่างกำลังตะเกียกตะกายพาตัวเองให้รอดพ้นจากการถูกเผาทั้งเป็น “พ่อ!!! แม่!!!” ร้องเรียกบิดาและมารดาที่อยู่ในรถเสียงดังลั่น รีบถลาลุกขึ้นยืนแต่กว่าจะยืนทรงตัวได้ เพราะอาการทางร่างกายที่เกิดขึ้นอย่างที่เขาหักห้ามไม่ได้ ทั้งสั่นและหมดแรงผุดมาเป็นระลอกเหมือนกับเกลียวคลื่นพัดเข้าหาฝั่ง บริเวณศีรษะเจ็บร้าวรวมไปถึงกลิ่นคาวเลือดลอยคละคลุ้งมาเข้าปะทะจมูก แต่ถึงอย่างนั้นหนุ่มน้อยก็ไม่ได้คิดสนใจ เพราะหัวใจเขาอยู่กับสองร่างในรถ ซึ่งมีเพลิงไฟลุกไหม้อย่างน่ากลัว  “คุณตื่นซิคะตื่น...จอห์น...ช่วยแม่ด้วย” เอรียาสลบไปเป็นชั่วครู่และตื่นขึ้นมาเพราะความร้อน เขย่าร่างสามีอันเป็นที่รักให้ตื่นขึ้น หันไปร้องเรียกลูกชายให้ช่วยเหลือสลับไปเปิดประตูรถ แต่ทำยังไงมันก็ไม่ยอมออก น้ำตาอุ่นร้อนไหลพรากอาบสองแก้ม หน้าสามีขาวซีดยิ่งกว่ากระดาษ อีกทั้งลมหายใจก็เบาหวิว มือเล็กเขย่าแรงๆ ให้คู่ชีวิตที่อยู่กินกันมาเป็นเวลาสามสิบปีตื่นฟื้น แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าชินวุฒิจะได้สติ 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD