EP.5

1575 Words
จัสมินถอนหายใจออกมาเบาๆ เมื่อเดินเข้ามาในบ้านของตัวเองแล้ว ป้าสายหยุดเป็นแม่บ้านคนเก่าที่อยู่ดูแลรับใช้คุณย่าอรพินมานานหลายปี พอครอบครัวของอาเพ็ญแขย้ายไปอยู่อเมริกา พวกแม่บ้านคนรับใช้ก็กลับไปอยู่บ้านเดิมที่ต่างจังหวัดกันหมด เธอไม่คิดว่าจะได้เจอพวกเขาอีกด้วยซ้ำ ส่วนแม่บ้านสองคนที่เห็นเมื่อเช้าก็คงเป็นคนงานใหม่ จะว่าไปแล้วก็น่าแปลกไม่น้อย บ้านหลังใหญ่ขนาดนี้มีเขาอยู่แค่คนเดียว ทำไมเธอแทบไม่เคยเห็นอาเพ็ญแขหรือพี่นทีกลับมาที่บ้านหลังนี้เลย ถึงเขาจะบอกว่าแม่กับน้องชายยังอยู่ที่เมืองนอกก็ตามที สรัลเดินลงมาจากชั้นสองด้วยใบหน้าอิดโรยและท่าทางเนือยๆ เมื่อวานเขาดื่มหนักเกินกว่าปกติเลยทั้งแฮงค์เหล้าและปวดหัวอยู่ เขามองพี่สาวที่นั่งทำรายงานอยู่ตรงระเบียงติดกับสวนครัวเล็กๆ มุมหนึ่งของบ้านก่อนจะเดินเข้าไปหา “พี่มิน หิวจังมีอะไรให้กินบ้าง” สรัลทำเสียงงุ้งงิ้งอ้อนพี่สาว “ขนมจีนน้ำยาปู อยู่ในตู้กับข้าวนะ” พอบอกน้องไป จัสมินก็นึกขึ้นมาได้ว่าพี่วายุฝากขนมกับน้ำหอมมาให้สรัลด้วย เธอรีบหยัดตัวลุกขึ้นจากเบาะรองนั่งเดินไปหยิบถุงของฝากก่อนจะเดินตามหลังสรัลเข้าไปในครัว “โห! น่ากินจัง พี่ซื้อมาเหรอ” สรัลมองอาหารตาโตเพราะมันน่ากินมาก มองน้ำยากระทิที่มีเนื้อปูชิ้นใหญ่และผักสดๆ ในจาน “เปล่า พี่วายุให้มาเมื่อเช้า อะ! แล้วนี่ของสรัล พี่วายุซื้อมาฝาก” ยื่นถุงของฝากให้สรัลที่เอื้อมมือออกไปรับอย่างงงๆ “พี่วายุกลับมาอยู่ที่บ้านแล้วเหรอพี่ ผมก็นึกว่าพี่วายุจะอยู่ที่เมืองนอกถาวรไม่กลับไทยแล้วซะอีก ว้าว! น้ำหอมCHANEL Allure ซะด้วย ขวดนี้แพงมากเลยนะพี่ ถุงนี้อะไร? ขนมกับช็อกโกแลต” สรัลยิ้มร่าด้วยความดีอกดีใจจนเธออดรู้สึกหมั่นไส้น้องชายไม่ได้ “พี่นทีกับอาเพ็ญแขกลับมาไหม” สรัลตักน้ำขนมจีนน้ำยาปูเข้าปากพร้อมทำหน้าฟินๆ “ไม่นะ ยังอยู่ที่เมืองนอก” พอเห็นสรัลกินอย่างเอร็ดอร่อยก็เกิดหิวขึ้นมา เธอเดินไปหยิบจานมาใส่เส้นขนมจีนตักน้ำยาปูที่มีเนื้อปูชิ้นโตๆ ใส่ในจาน ขยับเก้าอี้หย่อนตัวลงนั่งข้างๆ น้องชาย พอตักมันเข้าปากคำแรกถึงกับหลุดอุทานออกมา “อร่อยจัง รสมือป้าหยุดยังอร่อยเหมือนเดิมเลย” “เนอะ ไปกินที่ไหนก็ไม่อร่อยเท่าขนมจีนน้ำยาปูที่ป้าหยุดทำ ผมคิดว่าป้าหยุดจะไม่กลับมาทำงานที่นี่อีกแล้วนะเนี่ย” “อืม” จัสมินพยักหน้าเห็นด้วย ป้าสายหยุดเป็นนครศรีธรรมราชและทำอาหารปักษ์ใต้ได้อร่อยถึงรสชาติอาหารปักษ์ใต้จริงๆ “ไม่ได้เจอพี่วายุเกือบสามปีแล้วใช่ไหมพี่ ตั้งแต่งานศพคุณย่าอรพินก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย พี่วายุเป็นยังไงบ้าง” “ก็หล่อแล้วก็ใจดีเหมือนเดิม” “ทำหน้าแบบนี้ ยังชอบพี่วายุอยู่เหรอพี่” สรัลยิ้มแซวพี่สาว เขารู้ว่าพี่จัสมินแอบชอบพี่วายุมานานตั้งแต่มัธยมปลายจนกระทั่งเข้ามหาลัย ตอนที่พี่วายุไปเรียนต่อเมืองนอกพี่สาวเขาก็ร้องไห้แล้วก็เศร้าอยู่เป็นเดือนๆ “พูดมากน่า รีบกินๆ ไปเถอะ” จัสมินทำเสียงดุใส่สรัลแก้เขิน ถึงเธอจะยังชอบเขาแต่มันก็เป็นไปไม่ได้หรอกเพราะพี่วายุไม่ได้ชอบเธอ พอคิดถึงตรงนี้ก็รู้สึกปวดหน่วงในอกขึ้นมาอีกแล้ว หลังจากรับประทานอาหารมื้อเที่ยงเสร็จจัสมินก็กลับมาตั้งหน้าตั้งตาทำรายงานต่อจนถึงเย็นก่อนจะเข้าไปในครัวเพื่อทำกับข้าว ยังไม่ทันลงมือทำเสียงกริ่งหน้าประตูบ้านก็ดังขึ้นเสียก่อน เธอตะโกนออกไปบอกสรัลที่นั่งดูทีวีอยู่ให้ออกไปดูว่าใครมา ผ่านไปห้านาทีน้องชายของเธอกลับเข้ามาในครัวพร้อมกับปิ่นโตใหญ่สองอัน “ป้าหยุดเอามาให้ พี่มินไม่ต้องทำกับข้าวแล้วนะ” สรัลยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เมื่อนึกถึงอาหารอร่อยๆ ที่อยู่ในปิ่นโต ถึงพี่สาวของเขาจะทำกับข้าวรสชาติใช้ได้แต่ก็เทียบไม่ได้กับฝีมือทำอาหารของป้าสายหยุดหรอก “มีลาภปากแบบนี้บ่อยๆ ก็ดีนะพี่มิน” สรัลเปิดปิ่นโตหยิบอาหารที่ยังร้อนๆ อยู่ขึ้นมาตักใส่ชาม “พี่รู้สึกเกรงใจพี่วายุจัง ที่จริงไม่เห็นต้องลำบากเอากับข้าวมาให้แบบนี้ก็ได้” “ให้มาก็รับๆ ไปเถอะ พี่วายุออกจะรวยขนาดนั้น แค่นี้ขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอกน่าพี่มิน” “มันไม่ดีหรอกสรัล ไว้คราวหน้าถ้าเจอพี่วายุพี่จะบอกว่าไม่ต้องส่งอาหารมาให้แบบนี้อีก” เธอรู้สึกไม่ดีเท่าไหร่ถึงแม้เขาจะใจดีมีเมตตาหยิบยื่นมาให้ก็ตาม ถ้านานๆ ครั้งคงไม่เป็นไรแต่บ่อยๆ มันคงไม่ดีแน่ เมื่อก่อนตอนคุณย่าอรพินยังอยู่ท่านก็ให้คนรับใช้ในบ้านเอาขนมหรืออาหารมาให้ที่บ้านเธอบ่อยๆ ท่านคงสงสารเพราะเห็นว่าอยู่กันสามคนแม่ลูก พ่อของเธอเสียไปได้เจ็ดปีแล้วเพราะอุบัติเหตุรถชน โชคดีหน่อยที่แม่ของเธอทำงานเป็นพนักงานธนาคารมาหลายปี เงินเดือนเดือนหนึ่งก็มากพอจะส่งเสียให้เธอกับน้องชายเรียนหนังสือได้สบาย แต่ทุกอย่างก็แลกมากับการทำงานหนักและเครียดมาก แม่ทำงานธนาคารสาขาในห้างไม่ได้หยุดเสาร์อาทิตย์เหมือนธนาคารสาขาปกติ แม่บ่นบ่อยๆ ว่าต้องทำยอดให้ถึงแถมยังต้องขายประกันพ่วงกับขายสินค้าจิปาถะ และแม่ก็ยังมีภาระอื่นๆ อยู่ทั้งเงินที่กู้ยืมธนาคารมาสมัยที่พ่อยังมีชีวิตอยู่และเงินที่ต้องผ่อนรถทุกเดือน จัสมินเคยทำงานพิเศษหลายอย่างเพราะอยากช่วยแบ่งเบาภาระของแม่บ้างจนกระทั่งขึ้นปีสี่เธอถึงหยุดทำงานพิเศษพวกนั้นไปเพราะอยากทุ่มเวลาให้กับการเรียนให้มากที่สุด และตอนนี้ก็เหลือแค่เทอมเดียวเท่านั้น ถ้าเธอเรียนจบเมื่อไหร่ก็จะได้หางานทำ จะได้ช่วยหาเงินส่งสรัลเรียนด้วยเพื่อที่แม่จะได้ไม่เหนื่อยมากแบบนี้อีก เกือบสองทุ่มแล้วแม่ก็ยังไม่กลับบ้าน ใกล้สิ้นเดือนทีไรแม่จะกลับบ้านหลังสองทุ่มทุกครั้ง หญิงสาวเปิดไฟหน้าบ้านและในบ้านไว้ตามปกติก่อนจะเดินกลับขึ้นไปชั้นบน พอเปิดประตูเข้าไปในห้องทีไรจัสมินอดไม่ได้ที่จะมองออกไปนอกหน้าต่างเพื่อมองดูห้องของพี่วายุ ห้องของเขายังเปิดไฟสว่างอยู่แต่ผ้าม่านยังปิดสนิทอยู่เหมือนเดิม ริมฝีปากปากพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ เอื้อมมือออกไปปิดผ้าม่านให้สนิทก่อนจะถอดเสื้อผ้าและเดินเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำและทำธุระส่วนตัว สวมเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้วถึงเดินไปเปิดผ้าม่านออก เพราะยังไม่ง่วงเธอเลยนั่งทำรายงานต่อไปเรื่อยๆ เสียงรถยนต์ที่ขับเข้ามาในบ้านทำให้เธอละสายตาจากตัวหนังสือขึ้นมามองดูเวลา ตอนนี้สามทุ่มกว่าแล้วแม่คงทานข้าวมาจากข้างนอกแล้วแต่ถึงยังนั้นเธอก็แปะกระดาษแผ่นเล็กบอกแม่ไว้ว่ามีกับข้าวอยู่ในตู้เย็น ทำรายงานไปแต่ใจก็จดจ่ออยู่ที่บ้านฝั่งตรงข้าม จัสมินอดไม่ได้ที่จะชำเลืองสายตาขึ้นไปมองดูเป็นระยะ คราวนี้เธอเห็นร่างสูงเดินออกมายืนอยู่ตรงระเบียงและกำลังจ้องมองมาทางเธออยู่ เธอกลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผากเพิ่งสังเกตเห็นชายหนุ่มไม่ได้สวมเสื้อ ท่อนบนนั้นเปลือยเปล่าอวดกล้ามเนื้อขาวๆ ส่วนท่อนล่างสวมกางเกงขายาว หัวใจดวงน้อยเต้นแรงขึ้นขณะที่จ้องมองไปที่ชายหนุ่มไม่ละสายตา พยายามพูดบอกตัวเองว่าเขาแค่ออกมารับลมเย็นๆ ที่ระเบียงและบังเอิญมองมาทางนี้เท่านั้น แต่เขาก็ยืนอยู่ตรงนั้นนานมากและไม่กลับเข้าไปในห้องเสียที เป็นเธอเสียเองที่ละสายตาจากเขากลับลงมามองหน้าจอโน้ตบุ๊คก่อนจะเริ่มพิมพ์งานต่อไปเรื่อยๆ ทั้งที่ใจแทบไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เธอพยายามจดจ่ออยู่กับงานตรงหน้าแต่ก็มันก็ทำได้ยากเย็น ดวงตากลมโตเหลือบมองออกไปนอกหน้าต่างก็ยังเห็นพี่วายุยืนมองมาทางห้องของเธออยู่ หัวใจเต้นแรงโครมครามจนไม่มีสมาธิจะทำงานตรงหน้าต่อเธอเงยหน้าขึ้นมามองเขานิ่งงันอยู่แบบนั้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD