ตอนที่5 ผู้ชายป่าเถื่อน

1351 Words
"ที่แท้คุณมันก็เป็นแค่ผู้ชายเลวๆคนหนึ่ง คุณเอาแต่จะตัดพ้อว่าอดีตภรรยาของคุณเขาจะเป็นคนไม่ดี แต่คุณคงไม่เคยพิจารณาตัวเองเลยสินะ" พริมพิจิกาพูดออกมากด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันโดยไม่เกรงกลัวคำขู่ของพ่อเลี้ยงหนุ่มเลยแม้แต่น้อย "ปากดี! คิดว่าฉันไม่กล้าทำอะไรเธออย่างนั้นหรอ ฉันไม่ได้สนใจหรอกนะว่าเธอจะเป็นลูกเต้าเหล่าใคร ฉันสนใจแค่ความต้องการของฉัน!" ปักษ์พูดเท่านั้นก็บดจูบริมฝีปากอวบอิ่มอีกครั้ง มือหนาของเขาสอดสัมผัสลงไปภายใต้เสื้อรัดรูปที่ถูกตัดจากผ้าไหม เขานวดคลึงเต้านมอวบอิ่มที่ยังคงมีบราเซียเป็นปราการขวางกั้นไว้อยู่อย่างเอาแต่ใจ ร่างบอบบางดิ้นขลุกขลักทว่าไม่สามารถต่อสู้การกระทำอันดิบเถื่อนของพ่อเลี้ยงหนุ่มได้หญิงสาวจึงร่ำไห้ออกมา "อึก! ฮือ...ไอ้คนเลว ฉันไม่เคยคิดเลยว่าแกมันจะเลวได้ขนาดนี้ แกมันคนน่ารังเกียจ! น่าขยะแขยง!" พริมพิจิกาด่าทอพ่อเลี้ยงหนุ่มด้วยถ้อยคำรุนแรงหลังจากที่เขาถอนริมฝีปากออกมา และนั่นก็ทำให้ชายหนุ่มได้รับรู้ว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงใจง่าย ที่สำคัญคำด่าทอเมื่อครู่แสดงให้เห็นว่าพริมพิจิกาไม่ได้เป็นหญิงสาวผู้เรียบร้อยอ่อนหวานเช่นที่ตนเห็นก่อนหน้านี้ "ตั้งแต่ฉันเกิดมายังไม่เคยมีใครกล้าด่าฉันขนาดนี้มาก่อน เธอคิดว่าตัวเองเป็นใครถึงกล้าใช้ถ้อยคำแบบนี้?" "แล้วคุณคิดว่าคุณเป็นใครถึงได้กล้าล่วงเกินฉันแบบนี้ การกระทำของคุณมันเลวกว่าสิ่งที่ฉันพูดเป็นร้อยเท่า!" "ปากดี! นึกไม่ถึงว่าผู้หญิงที่ดูเรียบร้อยอย่างเธอจะร้ายกาจไม่เบา แต่เธอรู้มั้ยว่ามันทำให้ฉันอารมณ์" เขาจ้องมองคนตรงหน้าด้วยแววตากะลิ้มกะเหลี่ย จังหวะนั้นสายฝนข้างนอกกับซัดกระหน่ำลงมาอีกพร้อมกับลมพายุที่รุนแรงยิ่งขึ้น ปักษ์เห็นสภาพอากาศย่ำแย่จึงตัดใจถอยกลับไปนั่งประจำที่คนขับรถของตน "ไม่ทำตัวเหมือนนางเอกในละครหรอ กระโดดลงรถแล้วก็วิ่งหนีไปท่ามกลางสายฝน" "ฉันไม่ได้โง่ขนาดนั้น และถ้าคุณคิดว่าฉันกลัวในสิ่งที่คุณทำกับฉันคุณคิดผิด คุณต้องกลับไปส่งฉันที่บ้าน" "ฉันไม่ไปส่งเธอหรอก ฉันมีธุระที่จะต้องไปดูไร่ดูสวน ฉันมีงานที่จะต้องทำไม่ได้เกิดมาสบายบนกองเงินกองทองอย่างเธอ" เขาประชดประชันในขณะที่สายตาจ้องมองไปยังหนทางข้างหน้า "ฉันไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทอง แล้วก็ไม่ได้สบายอย่างที่คุณกำลังกล่าวหา แต่สิ่งที่คุณทำกับฉันมันเป็นอันตรายต่อตัวฉันมากเกินไป เพราะฉะนั้นคุณต้องรับผิดชอบในการกระทำของคุณโดยการไปส่งฉันที่บ้าน" คนตัวเล็กเถียงกลับเสียงดุดันไม่ต่างจากเขานัก "ทำไมฉันต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เธอเสนอตัวมาให้ฉันถึงในรถ!" พ่อเลี้ยงปักษ์เลิกคิ้วถามสีหน้าจริงจัง "ฉันจะเล่าเรื่องที่คุณล่วงเกินฉันให้แม่ของคุณฟัง แล้วฉันก็จะเล่าเรื่องนี้ให้พ่อกับแม่ของฉันฟัง คุณเตรียมคำตอบไว้ดีๆก็แล้วกัน" "ในเมื่อเธอจะเล่าให้พ่อกับแม่ของเธอฟังโดยที่ฉันยังไม่ได้ทำอะไรล่ะก็...ฉันคิดว่าฉันควรทำนะเธอจะได้มีเรื่องเล่า" "ก็คุณจูบฉันไง! แล้วคุณก็จับ..." พริมพิจิกาพูดไม่ออกเมื่อนึกถึงความรู้สึกตอนที่มือหนาของพ่อเลี้ยงปักษ์กำลังสัมผัสนวดคลึงเต้านมอวบอิ่มของตนซึ่งไม่เคยมีบุรุษใดรุกล้ำมาก่อน "จับนม? เธอกล้าไปฟ้องพ่อกับแม่ของเธอว่าฉันจับนมเธอจริงๆหรอ?" คำพูดคำจาของพ่อเลี้ยงหนุ่มทำให้พริมพิจิกายิ่งรู้สึกจงเกลียดจงชังเขามากยิ่งขึ้น "คุณจะไปดูไร่ไม่ใช่หรอ รีบออกรถสักทีสิจะได้รีบกลับไปส่งฉันที่บ้าน!" เธอไม่อยากต่อปากต่อคำกับเขาในเรื่องนั้นจึงพูดเรื่องอื่นขึ้นมาแทน "กว่าฉันจะไปดูไร่และกลับถึงบ้านก็คงดึกดื่น ฉันไม่ไปส่งเธอหรอก แต่ถ้าเธออยากเสนอตัวนอนกับฉันคืนนี้ฉันก็ไม่ติดนะ เพราะว่าฉันขาดของแบบนี้มันนานแล้วเหมือนกัน" ปักษ์กวาดสายตามองเรือนร่างบอบบางด้วยแววตาดูถูกเหยียดหยาม พริมพิจิกาชักสีหน้าไม่พอใจต่อสายตาคู่นั้นจึงยกมือขึ้นมาปิดหน้าอกของตนเองไว้และเบือนหน้าหนีไปทางอื่น "ดี! รู้จักรักนวลสงวนตัวบ้าง" พ่อเลี้ยงหนุ่มพูดจบก็ขยับมือขึ้นมาคุมพวงมาลัยและขับรถตรงไปยังพื้นที่ไร่ของตนเอง "ฝนตกหนักขนาดนี้จะลงไปทำไมคะ?" ปักษ์ไม่สนใจคำพูดของคนตัวเล็กข้างกาย หลังจากรถจอดสนิทแล้วเขาก็เปิดประตูก้าวลงจากรถเพื่อไปดูคำเสียหายบางส่วนในขณะสายฝนยังคงซัดกระหน่ำลงมาอย่างหนัก คนงานบางส่วนออกมาดูไร่ก่อนพ่อเลี้ยงหนุ่มแล้ว "ทั้งฝนทั้งพายุหนักขนาดนี้ยังจะออกมาดูไร่อีก แถมออกไปยืนดูเฉยๆไม่เห็นจะทำอะไรได้สักอย่าง ไม่รู้จะมาทำไมในเมื่อพรุ่งนี้เช้าก็ต้องออกมาเก็บพืชผักที่เสียหายอยู่แล้ว" พริมพิจิกาบ่นพึมพำในขณะที่จ้องมองไปยังร่างสูงกำยำซึ่งยืนเท้าเอวมองความเสียหายอยู่ด้านนอกรถ "คุณปักษ์" ร่างเล็กกะทัดรัดเปิดประตูลงจากรถและเดินไปหาพ่อเลี้ยงหนุ่มจึงได้เห็นว่าเขามีสีหน้าเครียด "ลงมาทำไม?" "มีอะไรเปล่าคะ?" "เธอไม่เห็นหรอว่ามันเสียหายเกินกว่าที่ฉันคาดการณ์ไว้แค่ไหน" "คุณเครียดแบบนี้แสดงว่าเสียหายมากกว่าทุกครั้งสินะคะ" "มากกว่าหลายเท่าเลยแหละ ฉันจำเป็นที่จะต้องหาคนงานเยอะกว่าปกติเพื่อเก็บผลผลิตที่เสียหายแล้วก็เอาไปดัดแปลงเป็นอาหารแปรรูป ไม่งั้นที่ลงทุนไปทั้งหมดก็เกือบจะสูญเปล่า" "ถ้างั้นฉันขอซื้อผักผลไม้พวกนี้ไปที่โรงแรมนะคะ ปกติฉันก็ซื้อผักผลไม้จากชาวบ้านทุกวันอยู่แล้ว" "ไม่ต้องสมเพชฉันขนาดนั้นหรอก ฉันมีวิธีแก้ไขปัญหาของฉัน" "ฉันไม่ได้สมเพช ปกติฉันก็ซื้อผักซื้อผลไม้จากชาวไร่ชาวสวนที่ปลอดสารพิษไปทำอาหารในโรงแรมอยู่แล้ว" "แต่นี่มันเยอะเกินไป" "ก็แปรรูปอย่างที่คุณบอกไงคะ" "เลิกแกล้งทำดีกับฉันได้มั้ย เธอเกลียดที่ฉันจับนมเธอไม่ใช่หรอ มีแผนอะไรกันแน่?" เขาถามเสียงดังแข่งกับสายฝน "ใช่" ฉันเกลียดที่คุณทำเรื่องทุเรศๆกับฉัน แต่ที่ฉันอยากช่วยเพราะฉันอยากจะช่วยชาวบ้านแล้วก็คนอื่นๆไม่ได้อยากจะช่วยคุณเลยสักนิด พืชผักพวกนี้เกิดจากน้ำพักแรงงานของพวกเขาทั้งนั้น" "ได้! อยากซื้อมากนักก็เอาไปให้หมดเลยนะ พรุ่งนี้ฉันจะให้คนงานชั่งกิโลแล้วก็ไปส่งที่โรงแรม เธอก็รอจ่ายเงินด้วยก็แล้วกัน" "ตามนั้น แต่เรื่องที่ฉันซื้อผักคุณมันไม่เกี่ยวกับเรื่องที่คุณล่วงเกินฉัน เรื่องนั้นมันน่าขยะแขยงเกินกว่าที่ฉันจะรับได้ ตอนนี้ช่วยกรุณาไปส่งฉันที่บ้านด้วยค่ะ" พริมพิจิกาอีกเริ่มรู้สึกหนาวจึงยกมือขึ้นมาโอบกอดตัวเองไว้ ปักษ์เห็นร่างบางเริ่มเนื้อตัวสั่นเทิ้มจึงรั้งข้อมือเล็กมากุมไว้และพาเดินกลับไปขึ้นรถทันที
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD