ตอนที่6 อารมณ์พาไป NC 25++

1273 Words
พริมพิจิกาเริ่มหนาวสั่นเมื่อผิวบอบบางสัมผัสกับความเย็นของเครื่องปรับอากาศ ปักเอื้อมมือปิดปุ่มเครื่องปรับอากาศและหยิบเอาเสื้อคลุมของตนเองโยนให้กับหญิงสาว มือเรียวรีบคว้ามาคลุมกายของตนเองไว้ทว่าก็ยังไม่ผ่อนคลายความหนาวสั่นลงเลย "เธอเป็นคนเสนอหน้าลงไปตากฝนเองนะ ถ้าเกิดเป็นไข้ไม่สบายขึ้นมาอย่ามาโทษฉันก็แล้วกัน" ปักษ์พูดเท่านั้นก็เอื้อมมือไปเปิดปุ่มสตาร์ทรถและขับรถออกจากไร่ตรงไปยังบ้านของตนเองทันที "หนาว..." พริมพิจิกาพึมพำออกมาในขณะที่พ่อเลี้ยงหนุ่มขับรถเข้ามาจอดบริเวณหน้าบ้านของตน "ถึงแล้ว คืนนี้ฉันคงขับรถกลับไปส่งเธอที่บ้านไม่ไหวเพราะต้องขับอีกเป็นชั่วโมง นี่ก็ห้าทุ่มแล้วนอนที่นี่ก็แล้วกัน" ปักษ์หันมามองหญิงสาวจึงได้รู้ว่าเธอเผลอหลับไปและเอาแต่ละเมอออกมาว่าหนาวเท่านั้น "บ้าชะมัด!" ชายหนุ่มกวาดสายตามองเข้าไปในบ้านก็เห็นว่ามีเพียงแสงไฟที่เปิดไว้เท่านั้น เขารู้ดีว่ามารดาของตนหลับไปแล้วเพราะนางเข้านอนแต่หัวค่ำเป็นประจำ ส่วนแม่บ้านหลายคนก็คงจะเข้านอนกันไปหมดแล้ว ปักษ์ถอนหายใจเฮือกใหญ่และเปิดประตูลงจากรถ เขาเดินอ้อมมาเปิดประตูรถฝั่งที่หญิงสาวนอนหลับอยู่ จากนั้นจึงช้อนร่างบางขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนและอุ้มเข้าไปในบ้านทันที กายบอบบางที่ห่อหุ้มด้วยเสื้อผ้าซึ่งเปียกปอนไปด้วยน้ำฝนถูกวางลงบนโซฟาภายในห้องนอนอย่างทะนุถนอม ปักษ์หยัดกายขึ้นตรงและยืนเท้าเอวจ้องมองร่างอรชรที่นอนหลับปุ๋ยอยู่บนโซฟาในสภาพที่เริ่มขดตัวเข้าไปเรื่อยๆเพราะความหนาวเหน็บ "เป็นภาระชะมัด! มันเป็นธุระอะไรที่ฉันต้องเอาเธอมาไว้ในห้องนอนของฉัน?" พ่อเลี้ยงหนุ่มตั้งคำถามกับตนเอง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังโน้มตัวลงไปหาคนตัวเล็กอีกครั้งพร้อมกับถอดเสื้อผ้าของหญิงสาวออก ปักษ์อดใจไม่ไหวที่จะกวาดสายตามองเรือนร่างงดงามตั้งแต่เต้านมอวบอิ่มลงมายังหน้าท้องแบนราบ กลีบดอกไม้ของสตรีถูกปกปิดไว้ด้วยเรียวขาสวยที่หนีบกันไว้แนบชิด ปักษ์มองเห็นเพียงไรขนบางเบาที่ปกปิดเนินเนื้ออวบไว้ แต่ถึงอย่างนั้นสตรีที่นอนเปลือยกายอยู่ตรงหน้าก็สร้างอารมณ์แปรปรวนในร่างกายของเขาได้มากเป็นพิเศษ "บ้าชะมัด!" ชายหนุ่มตัดใจช้อนร่างบางเปลือยเปล่าขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนและพาเดินตรงไปยังเตียงนอนของตนเอง มือหนาดึงผ้าห่มมาคลุมกายบอบบางไว้เพื่อให้หญิงสาวได้รับความอบอุ่น จากนั้นเขาจึงถอดเสื้อผ้าอันเปียกชุ่มของตนเองออกและหยิบผ้าขนหนูมาพันรอบเอวไว้อย่างหมิ่นเหม่ "ฉันไม่ใช่คนดีพอที่จะอดทนเรื่องแบบนี้หรอกนะ!" ปักษ์พยายามควบคุมสติอารมณ์ของตนเองโดยการเดินออกไปดูดบุหรี่อยู่ที่ริมระเบียงโดยที่ข้างนอกสายฝนก็ยังคงซัดกระหน่ำลงมาไม่ขาดสาย "หนาว..." พริมพิจิกาเอาแต่พึมพำว่าหนาวและนอนขดตัวอยู่บนเตียง สาเหตุอาจเป็นเพราะหญิงสาวดิ้นไปดิ้นมาและถีบผ้าห่มผืนหนาลงไปกองไว้ตรงปลายเตียง จังหวะนั้นปักษ์ก็เดินกลับเข้ามาในห้องนอนก็เห็นหญิงสาวนอนขดตัวในสภาพเปลือยกายอยู่บนเตียงจึงเดินตรงเข้ามาใกล้ เขารู้สึกหงุดหงิดใจที่เธอไม่ยอมห่มผ้าจึงก้าวขึ้นไปบนเตียงและคร่อมร่างบางไว้ ชายหนุ่มดึงข้อมือเล็กที่กำลังโอบกอดตัวเองไว้ออกจนเผยให้เห็นหน้าอกอวบอิ่ม จากนั้นกดข้อมือเล็กลงบนเตียงนอนนุ่มและจ้องมองกายเปลือยเปล่าไม่ยอมละสายตา "หนาวแล้วยังจะถีบผ้าห่มออกอีกนะ ตั้งใจอ่อยฉันว่างั้น?" ปักษ์ถามด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง ไม่ใช่เพราะเขารู้สึกโกรธแต่กำลังพยายามควบคุมสติอารมณ์ของตนเองต่างหาก งานในไร่ที่หนักหนามานานหลายเดือนหลังทำให้พ่อเลี้ยงหนุ่มแทบไม่มีเวลาหาความสุขใส่ตัว วินาทีนี้กายบอบบางตรงหน้าจึงทำให้อารมณ์ดิบในกายบุรุษที่ห่างหายการมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับสตรีมานานหลายเดือนเกินที่จะควบคุมอารมณ์ของตนเอง พริมพิจิกาเปรียบเทียบเสมือนชิ้นเนื้อรสหวานที่ถูกนำมาวางตรงหน้าราชสีห์ผู้หิวกระหาย อารมณ์ดิบที่เปรียบเสมือนเดรัจฉานขาดการควบคุมเมื่ออารมณ์ความใคร่เข้าครอบงำ กายบุรุษตื่นตัวขึ้นมาง่ายดายปราศจากสติสัมปชัญญะและความผิดชอบชั่วดี "หนาว..." ราชสีห์โน้มใบหน้าลงไปใกล้ชิ้นเนื้อกลิ่นหอมหวาน ริมฝีปากหยักได้รูปจูบสัมผัสกับเต้านมอวบอิ่มและพรมจูบไปทั่ว ความนุ่มละมุนส่งผลให้ปักษ์ดิ่งลึกลงสู่ห้วงอารมณ์ดิบ เขาขยับริมฝีปากขึ้นมาครอบดูดยอดบัวตูมอย่างเอาแต่ใจ "อ่าส์..." เสียงครวญครางแผ่วเบาของพริมพิจิกาดังออกมาเมื่อจังหวะการดูดดื่มยอดบัวตูมนั้นหนักหน่วงยิ่งขึ้น ปักษ์ยอมปล่อยมือเรียวเล็กทั้งสองข้างและสอดมือลงไปสัมผัสกับแผ่นหลังเนียนพร้อมกับโอบกอดเธอไว้แน่น หญิงสาวแอ่นหน้าอกอวบอิ่มเข้าหาริมฝีปากหยักตามอารมณ์ความโหยหายามไร้สติ วงแขนเรียวขยับขึ้นมาโอบกอดรอบลำคอของชายหนุ่มไว้อย่างหวงแหน "อื้ม..." ปักษ์ยังไม่ยอมถอนริมฝีปากออกจากยอดบัวตูมชี้ชัน เขาขยับกายกำยำของตนเองแทรกเข้าตรงกลางเรียวขาสวย มือข้างหนึ่งขยับลงมากระชากผ้าเช็ดตัวออกจนกายกำยำที่ถูกโอบล้อมด้วยกล้ามเนื้อแน่นทุกสัดส่วนเปลือยเปล่า พริมพิกาสัมผัสได้ถึงความรู้สึกอุ่นจากของบางอย่างที่กำลังแพร่กระจายสัมผัสอยู่ตรงต้นขาอ่อนของตน "อื้ม..." พ่อเลี้ยงหนุ่มดูดดื่มยอดบัวตูมหนักหน่วงยิ่งขึ้นเรื่อยๆก่อนจะถอนริมฝีปากออก จากนั้นจึงพรมจูบลงมาตามหน้าท้องแบนราบจนกระทั่งริมฝีปากหยักจูบสัมผัสเข้ากับไรขนอ่อนที่ปกคลุมเนินเนื้ออวบ เขาถอนริมฝีปากออกและหยัดใบหน้าขึ้นเล็กน้อยเพื่อจ้องมองกลีบดอกไม้อวบที่ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะคลี่แย้ม ปักษ์เหยียดยิ้มมุมปากพร้อมกับโน้มใบหน้าลงจูบสัมผัสกับกลีบดอกไม้อวบหนักหน่วง เขายื่นเรียวลิ้นสากออกมาแตะแสกลงตรงกลางกลีบเนื้อเพื่อปลุกให้มันคลี่แย้ม ชายหนุ่มตวัดปลายลิ้นร้อนขึ้นลงอย่างเอาแต่ใจจนร่างบอบบางดิ้นเร่าไปมาด้วยความรู้สึกแปลกใหม่ "ฝันดีจัง..." เพราะไม่เคยได้รับสัมผัสเช่นนี้มาก่อนในชีวิตพริมพิจิกาจึงพึมพำออกมาราวกับความรู้สึกแสนพิเศษที่ตนเองกำลังได้รับในขณะนี้เป็นความฝันเท่านั้น "อ้าส์..." หญิงสาวครวญครางออกมาอย่างไร้สติและบิดเร่ากายบอบบางไปมา มือหนาแข็งแรงของปักษ์จับเรียวขาสวยขึ้นมาไว้บนบ่าแกร่งและเร่งจังหวะปลายลิ้นหนักหน่วงเพราะต้องการให้พริมพิจิกามีสติตื่นขึ้นมา "อื้ม..." มือเรียวทั้งสองข้างกำผ้าปูที่นอนไว้แน่นและรับกับสัมผัสพิเศษที่พ่อเลี้ยงหนุ่มกำลังมอบให้อย่างไร้สติ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD