เช้าวันต่อมา...
"มีอะไรให้อันช่วยไหมคะ" ถึงสภาพร่างกายจะอ่อนแอแค่ไหนเธอก็ยังคงฝืนที่จะมาช่วยแม่บ้านทำงาน เพราะหน้าที่เธอไม่ได้มีแค่บนเตียงเท่านั้น
"คุณดูไม่โอเคเลยนะคะ ไปพักก่อนไหม" แม่บ้านวัยกลางคนเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นสภาพของหญิงสาว ไหนจะแผลที่ศีรษะและร่างกายที่เต็มไปด้วยรอยแดงช้ำเต็มไปหมด
"อันไหวค่ะ ไม่ต้องเรียกคุณหรอกนะคะเรียกอันเฉยๆ ก็ได้" ฐานะอย่างเธอคำว่าคุณคงมีค่ามากเกินไป อันนาฝืนยิ้มให้คนตรงหน้าที่ดูจะเป็นห่วงเป็นใยเธอไม่น้อย
ถึงจะรู้สึกสงสารสาวน้อยคนนี้นัก แต่ตำแหน่งแม่บ้านอย่างเธอคงช่วยอะไรอันนาไม่ได้ เพราะนั่นจะหมายถึงเธอเองที่จะไม่ปลอดภัยไปด้วย
"งั้นช่วยเอากาแฟไปให้นายที่ห้องทำงานทีนะ" แม่บ้านเอ่ยขึ้นพร้อมกับยื่นถาดที่มีถ้วยกาแฟส่งให้อันนา
อันนาพยักหน้ารับแล้วรับถาดต่อจากแม่บ้านก่อนจะเดินมาตามทางที่แม่บ้านบอกมาจนถึงหน้าห้องทำงานภายในคฤหาสน์ของคามิน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"ขออนุญาตค่ะ ฉันเอากาแฟมาให้" อันนาเคาะประตูห้องทำงานของคามินก่อนจะเปิดเข้ามาเลยเมื่อไม่มีเสียงตอบรับ
คามินไม่ได้ว่าอะไรเพียงแค่ปรายตามองร่างบางตรงหน้าก็ถึงกับชะงักกับสภาพเธอ แต่ก็เพียงแค่แป๊บเดียวเท่านั้น
"เสร็จแล้วก็ออกไปสิ หรืออยากจะทำหน้าที่นางบำเรอตอนนี้เลยว่างั้น? อืม… ฉันว่าก็ดีนะเหมือนกันนะ"
อันนายืนตัวสั่นเม้มปากเข้าหากันแน่น ถ้าเขาจะทำแบบที่พูดจริงๆ เธอคงไม่ไหวแน่ๆ คิดได้แบบนั้นก็รีบหมุนตัวเดินออกจากห้องไป
"เดี๋ยว" สองขาหยุดชะงักตามเสียงเรียก ก่อนจะค่อยๆ หมุนตัวกลับมาเผชิญหน้าเขาอีกครั้ง
"..."
"ฉันเปลี่ยนใจแล้ว ตอนนี้ฉันกำลังอยากจะออกกำลังกายตอนเช้าอยู่พอดี" คามินเดินเข้ามาประชิดตัวดึงรั้งร่างบางเข้าหาแผงอกแกร่งของตัวเอง
"แต่ฉัน..."
"ลืมไปหรือเปล่าว่าฐานะเธอคืออะไร เธอไม่มีสิทธิ์ต่อรองอะไรได้นะ"
"ค่ะ คุณอยากทำอะไรก็เชิญเลยค่ะ" ลืมไปว่าเธอไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธเขาได้ เพราะหน้าที่เธอคือนางบำเรอขัดดอกให้เขา
อันนาหลับตาลงช้าๆ เมื่อรับรู้ได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อนของคนตรงหน้าเป่ารดที่ต้นคอ ก่อนที่ปลายลิ้นร้อนจะตวัดเลียบาดแผลที่เกิดจากการถูกเขากัดเมื่อคืน ทำเอาเธอสะดุ้งและขนลุกซู่ไปทั้งตัว
"ถึงกับตัวสั่นเลยเหรอ หึ" มือหนาลูบไล้ไปตามเอวคอดของเธอไปมา ก่อนจะสอดมือเข้าไปใต้เสื้อยืดตัวใหญ่ของเธอ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"นายครับ!" แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรไปมากกว่านี้ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ตามมาด้วยเสียงลูกน้องคนสนิทของเขา
"เข้ามา" คามินเอ่ยอนุญาตก่อนจะกระซิบเบาๆ ที่ข้างหูของคนตัวเล็ก
"วันนี้ถือว่าเธอโชคดีนะ ออกไปได้แล้วก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจเอาเธอต่อหน้ามัน" อันนาไม่ได้ตอบโต้อะไร รีบเดินออกมาเงียบๆ เธอมันไม่มีสิทธิ์อะไรสักอย่างแม้แต่พูดยังผิดเลย
"มีอะไร" พอร่างบางเดินออกไปคามินก็หันไปถามลูกน้องคนของตัวเองทันที
"คืนนี้มีส่งของล็อตใหญ่ครับนาย" เจมส์ตอบ
"อืม เตรียมคนให้พร้อมเดี๋ยวกูจะไปตรวจเช็คสินค้าอีกรอบ" อาวุธเถื่อนรอบนี้สร้างกำไรให้เขามากมายมหาศาล ทุกอย่างจะต้องเป็นไปในทางที่ดีไร้ปัญหาติดขัด
"ครับนาย"
การส่งของล็อตใหญ่ครั้งนี้ผ่านไปได้ด้วยดีตามที่เขาคาดหวัง ร่างสูงของเจ้าของใบหน้าหล่อคมกำลังเดินกลับเข้ามาในบ้านเมื่อเคลียร์ทุกอย่างเรียบร้อย ก่อนจะไปสะดุดกับร่างบางที่อยู่ในชุดนอนกระโปรงสั้นเหนือเข่ากำลังยืนดื่มน้ำอยู่ในครัว ร่างกายอันน่าหลงใหลที่อยู่ภายใต้ชุดนอนตัวบางนั้นดึงดูดความต้องการของเขาได้เป็นอย่างดี
"อุ๊ย!" อันนาสะดุ้งตกใจเมื่ออยู่ดีๆ ก็มีท่อนแขนกำยำของใครบางคนกอดรัดเลยจากทางด้านหลัง ก่อนจะพบว่าเจ้าของแขนนั้นเป็นคามิน
"นี่คงตั้งใจใส่ชุดนอนบางๆ นี่มาอ่อยฉันละสิ" จมูกโด่งคลอเคลียกับพวงแก้มใสไปมาไม่ห่าง
"นี่คุณ หยุดนะ! นี่มันในครัวนะ" เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ไม่กลัวใครมาเห็นหรือไงกัน
"แล้วไง ถ้าฉันจะเอาไม่ว่าที่ไหนก็ต้องได้" เขาบอกอย่างเอาแต่ใจ ไม่สนว่าจะมีใครมาเห็นหรือเปล่า
"ฉันไม่ได้หน้าด้านเหมือนคุณนะ บอกให้หยุดไง!" อันนาแหวเสียงใส่พยายามขืนตัวออกจากพันธนาการของเขา เพราะกลัวจะมีคนมาเห็นเข้า
แต่แทนที่คามินจะหยุด เขากับถลกกระโปรงชุดนอนตัวบางของเธอขึ้น ก่อนจะลูบไล้ไปมากับบริเวณกลางกายสาวของเธออย่างจาบจ้วง
"อย่าดิ้น! แล้วก็อย่าเสียงดังถ้าไม่อยากให้คนทั้งบ้านออกมาดูหนังสด" คำขู่ของเขาใช้ได้ผลกับเธอมาก ร่างบางหยุดดิ้นขัดขืนทันที ก่อนจะยืนนิ่งๆ ปล่อยให้เขาเอาเปรียบและเชยชมร่างกายของเธอต่อไป
"ถ้าไม่อยากให้ฉันร้ายกับเธอก็ทำตามที่ฉันบอก และตอนนี้ฉันอยากได้ยินเสียงครางหวานๆ จากปากเธอ" เขาจับเธอหันหน้าเข้าหาตัวเอง ก่อนจะยกร่างบางขึ้นนั่งบนเคาน์เตอร์ครัว จับสองขาเรียวสวยแยกออกจากกันกว้างพร้อมกับแทรกตัวเข้าไปยืนหว่างขาของเธอ
"โอ๊ย! อยากตายหรือไงวะ!" ก่อนที่เขาจะได้ทำอะไรไปมากกว่านั้น อันนาก็กัดเข้าที่ใบหูของเขาอย่างแรง
"ถ้าฉันตายแล้วหมดหนี้กับคุณ... ฉันยอมตาย" ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ เธอเองก็พร้อมที่จะยอมถูกฆ่า ดีกว่าต้องทนไร้ค่าให้เขาย่ำยีอย่างไร้ศักดิ์ศรีแบบนี้
"หึ! ง่ายไปไหม แต่ถ้าเป็นพ่อเธอก็ไม่แน่นะ" คนที่เขาอยากให้ตายก็คือคนทรยศแบบพ่อเธอต่างหากล่ะ ไม่ใช่เธอ
"อย่าทำอะไรพ่อฉันนะ!"
"เป็นเด็กดีสิอันนา แล้วพ่อเธอจะปลอดภัย"
อันนาเม้มปากแน่น เธอไม่มีสิทธิ์ต่อรองอะไรกับเขาได้เลยจริงๆ เพียงแค่เขายกเรื่องพ่อขึ้นมาขู่เธอ เธอก็ยอมสงบปากสงบคำกับเขาได้ไม่ยาก เพราะกลัวคนเป็นพ่อได้รับอันตราย
"ฉันขอถามอะไรคุณหน่อยได้ไหม"
"..." คามินเงียบเป็นสัญญาณเปิดโอกาสให้เธอได้พูดต่อ
"การที่ฉันมีอะไรกับคุณครั้งหนึ่ง… มันสามารถลดหนี้ได้มากแค่ไหนคะ" การที่ต้องโดนรังแกแล้วไม่ได้อะไร นั่นก็ไม่มีคำตอบว่าเธอจะได้ออกจากนรกนี้เมื่อไหร่เหมือนกัน
"กล้าพูดดีนะ" คามินกระตุกยิ้มเยาะเย้ยคนตรงหน้าอย่างดูถูก ไม่คิดมาก่อนว่าผู้หญิงบริสุทธิ์อย่างเธอจะเป็นคนที่กล้าพูดกล้าทำแบบนี้
"ตอบฉันสิ" อันนาเร่งเอาคำตอบ
"แล้วเธออยากได้เท่าไหร่ล่ะ"
"..." เธอยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหนี้มากมายแบบนั้นต้องนอนกับเขากี่ครั้งถึงจะใช้หมด
"หึๆ เท่าไหร่ดีนะ คืนละสองพันพอไหม?"
"เลว"
"ฉันเลวได้มากกว่าที่คิดนะสาวน้อย ถ้ายังไม่อยากให้พ่อเธอตายก็ทำตามที่ฉันบอก แค่นอนถ่างขาให้ฉันกระแทกทุกๆ วันก็พอ" มือหนาของคามินบีบปลายคางมนของเธออย่างแรงจนคนตัวเล็กนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ
"ฉันขอสาปแช่งคุณ ให้คุณเจ็บปวดกว่าที่ฉันเจอ คุณจะต้องเจ็บปวดกว่าที่ฉันเป็น!"
หมับ!
มือหนากำรอบลำคอระหงของคนตัวเล็กไว้แน่น แววตาดุดันจ้องมองเธอด้วยความไม่พอใจ อันนาถึงกับตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ ยกมือขึ้นจับมือหนาที่บีบลำคอตัวเองไว้แน่น พยายามดึงให้เขาปล่อยเมื่อเริ่มที่จะขาดอากาศหายใจ
"มีสิทธิ์อะไรมาสาปแช่งฉัน จำใส่หัวของเธอไว้ซะนะ ว่าเธอมันก็แค่นางบำเรอที่ใช้ร่างกายใช้หนี้เท่านั้น ถ้ายังอยากให้พ่อเธอมีชีวิต ก็อย่าคิดลองดีกับฉันอีก"
"ฉะ…ฉัน ฉันสัญญาว่าถ้ามีโอกาสฉันจะฆ่าคุณ อึก!" น้ำเสียงติดขัดเอ่ยออกมาอย่างหมายมั่น ว่าสักวันหนึ่งเธอจะทำให้เขาเจ็บปวดแบบเธอ และจะมากกว่าเธอเป็นเท่าตัว
"คิดว่าฆ่าได้ก็ลองดู"