บทที่ 3

1273 Words
“สวยจังค่ะพี่น่าน! ภัคไม่เคยมาที่นี่มาก่อน ไม่นึกว่าจะมีต้นกุหลาบพวกนี้อยู่ด้วย!” หญิงสาวร้องบอกอย่างตกใจเมื่อมาถึงแล้วพบต้นกุหลาบสีชมพูน่ารักอยู่เป็นพุ่ม ข้างๆ กันนั้นมีชิงช้าเล็กๆ ตั้งอยู่ “พี่ทำทั้งหมดนี้ด้วยตัวเองเชียวนะ ภัคชอบไหม” คนถูกถามพยักหน้าน้อยๆ พร้อมรอยยิ้มสดใสเหมือนทุกครั้ง สายตายังคงจับจ้องไปยังชิงช้าไม้ตรงหน้าอย่างไม่วางตา เธอชอบทุกอย่างที่เห็น เพราะว่ามันช่วยคลายความเศร้าเล็กๆ ภายในใจไปได้ไม่น้อยทีเดียว “ภัคขอนั่งได้ไหมคะ” “ได้สิ” เพราะมันเป็นของภัคทั้งหมด! คำตอบนั้นเกิดขึ้นแต่ภายในใจ  ไม่กล้าพอจะเอ่ยบอกเพราะกลัวว่าทุกอย่างมันจะเปลี่ยน เขาเลือกที่จะเก็บความรักของตัวเองที่มีต่อภัคจิราเอาไว้ เพราะรู้ดีว่าพูดไปมันก็คงไม่เปลี่ยนอะไรโดยเฉพาะอย่างยิ่งหัวใจของเธอ ที่มันไม่ได้มีที่ว่างหลงเหลือเอาไว้ให้กับเขาเลย หัวใจทั้งดวงของเธอมันมีแต่น้องชายเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น ซึ่งหากทั้งคู่ลงเอยกันได้เขาก็พร้อมที่จะยินดีด้วย “พี่น่านเคยรักใครบ้างไหมคะ” ภัคจิราเอ่ยถามขึ้นอย่างอดสงสัยไม่ได้ว่าผู้ชายอบอุ่นตรงหน้าเคยมีความรักกับใครบ้างรึเปล่า ตลอดเวลาที่รู้จักกันมาเขามักจะใช้ชีวิตอยู่ในสวนกับผู้เป็นพ่อ ไม่เคยเห็นเขาคบใครสักคน   ทั้งๆ ที่เขาหน้าตาดี ซ้ำยังเป็นผู้ชายอบอุ่น “เคยครับ ถึงตอนนี้พี่ก็ยังรักเธออยู่” “จริงเหรอคะ! ใครคะ ภัคกับพี่เมฆรู้จักไหม” คำตอบที่ได้สร้างความตกใจไม่น้อย   อยากจะรู้ว่าผู้หญิงแบบไหนที่พี่น่านตกหลุมรัก “รู้สิ” “ใครคะ เขาเป็นใครคะ!” “พี่ขอไม่บอกนะ เพราะพี่แอบรักเขาข้างเดียว ถึงตอนนี้เจ้าตัวเขาก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพี่แอบรักอยู่” ความรู้สึกนั้นเธอเข้าใจดีเพราะว่าเธอก็ตกอยู่ในสถานะนั้นเหมือนกัน แม้ว่าเหนือเมฆจะไม่ได้แสดงท่าทีรังเกียจกัน แต่เธอก็ไม่อาจรู้เลยว่าใจเขาคิดยังไงกันแน่ จะรักชอบเธอบ้างรึเปล่า “แล้วทำไมพี่น่านไม่บอกเธอไปล่ะคะว่าพี่น่านรักเธอ ภัคว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนกล้าปฏิเสธพี่ชายที่แสนดีของภัคคนนี้ได้ลงคอหรอกค่ะ” คำว่า ‘พี่ชาย’ ที่มันค้ำคออยู่ทำให้น่านฟ้าได้แต่ยิ้มเศร้า มันไม่จริงเลยสักนิดที่ว่าจะไม่มีผู้หญิงคนไหนปฏิเสธความรักที่เขามีให้ อย่างน้อยก็น่าจะมีอยู่แล้วหนึ่ง ทั้งยังเป็นคนที่ไม่เคยรู้อะไรเลยด้วยสิ “พี่แอบรักเขาตั้งแต่วันแรกที่ได้รู้จัก แต่ว่าเขาดันไปรักคนอื่น รู้อย่างนี้ภัคยังอยากให้พี่ไปบอกรักเขาอยู่ไหม” ความจริงที่ไม่เคยรู้มาก่อน   มันทำให้ภัคจิรายิ่งรู้สึกสงสารและเห็นใจน่านฟ้าอยู่ไม่น้อย “โถ ทำไมเป็นแบบนี้ไปล่ะคะ” “ไม่ต้องมาสงสารพี่หรอก เพราะว่าพี่ไม่เสียใจเลยที่ได้รักเขา อย่างน้อยความรักของพี่ก็ไม่ได้สร้างความเจ็บปวดให้ใครนอกจากตัวพี่เอง ว่าแต่ภัคเถอะ ยังจะรอเจ้าเมฆรึเปล่า”  แน่นอนว่าเธอจะรอ “รอสิคะ นานแค่ไหนภัคก็จะรอ ภัครักพี่เมฆค่ะ วันไหนที่พี่เมฆกลับมาภัคจะบอกคำนี้กับเขา พี่น่านให้กำลังใจภัคด้วยนะคะ” น่านฟ้าพยักหน้ารับ ก่อนจะปล่อยให้ความรักของตัวเองเป็นความลับต่อไป ไม่คิดจะบอกให้คนตรงหน้าได้รู้ เพราะมันคงไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับเธอ แค่ได้เห็นเธอมีความสุขแค่นั้นก็เกินพอแล้ว แม้ว่าคนที่ทำให้เธอมีความสุขจะไม่ใช่เขาก็ไม่เป็นไร  ไม่เป็นไรจริงๆ 5 ปีต่อมา ร่างบอบบางของหญิงสาวที่เพิ่งจะฉลองวันเกิดไปเมื่อไม่กี่วันก่อนวิ่งเท้าเปล่ามายังบ้านสุริเยนทันทีที่ทราบข่าวการกลับมาของใครบางคนอย่างมีความสุข ใครบางคนที่ปล่อยให้เธอรอการกลับมาของเขานานถึงห้าปีเต็ม ใครบางคนที่ไม่เคยติดต่อกลับมาหากันเลยสักครั้ง นับตั้งแต่วันที่เขาเลือกจะไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยในกรุงเทพ “ภัค!” น่านฟ้าที่เพิ่งจะกลับมาจากสวนร้องทักขึ้นเมื่อเห็นสภาพของคนที่เขาพอจะเดาได้ว่าเพราะอะไรเธอถึงวิ่งเท้าเปล่ามาที่นี่ในเวลานี้ “พี่น่าน” รอยยิ้มของผู้หญิงที่เปรียบได้ดั่งดวงตะวันของหัวใจทำให้เขามีความสุขทุกครั้งที่ได้เห็น  แม้สุดท้ายจะทำได้แค่มองก็ช่าง  “พี่เมฆจะกลับมาวันนี้ใช่ไหมคะ ภัคเพิ่งทราบข่าวจากคุณป้าก็เลยรีบมาค่ะ” ภัคจิรา หญิงสาววัยยี่สิบเอ่ยถามคนตรงหน้าอย่างเก็บงำความดีใจเอาไว้ไม่อยู่ ต่างจากน่านฟ้าที่เจ็บช้ำทุกครั้งที่ได้เห็นเธอแสดงความรักที่มีต่อเหนือเมฆ น้องชายของเขาออกมาให้เห็น มันคือความรักที่เธอไม่มีวันมอบให้เขา  “พี่ว่าภัคขึ้นไปรอบนบ้านก่อนดีกว่า คงอีกพักใหญ่กว่าเจ้าเมฆจะมาถึง” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นคนข้างกายยกมือขึ้นตบยุงเบาๆ ด้วยไม่อยากให้ผิวกายขาวละเอียดของภัคจิราต้องเกิดริ้วรอยจากรอยกัด “ไม่ดีกว่าค่ะ ภัคขอรอพี่เมฆตรงนี้ดีกว่า ภัคอยากให้พี่เมฆเห็นหน้าภัคเป็นคนแรกที่กลับมาถึงค่ะ” คำตอบนั้นบอกให้รู้ว่าคนพูดมีความสุขเพียงใดต่อการกลับมาจากกรุงเทพของผู้ชายที่เธอหลงรักนับตั้งแต่จำความได้จนกระทั่งเมื่อเข้าสู่มหาวิทยาลัยเธอกับเขาก็ต้องแยกจากกันเพราะเหนือเมฆตัดสินใจไปเรียนต่อที่กรุงเทพ นี่ก็ผ่านมาเป็นปีแล้วที่ไม่ได้เจอหน้า เพราะเขาไม่ยอมกลับบ้าน ซ้ำยังไม่เคยตอบข้อความของเธอเลยสักฉบับ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังให้กำลังใจกับตัวเอง ว่าอาจจะเป็นเพราะเขาเรียนหนักเลยไม่มีเวลา จนเมื่อรู้ว่าเขาจะกลับบ้านถึงได้รีบมาหา อยากจะพบหน้าเขาสักครั้ง เผื่อว่าความคิดถึงที่มีมันจะลดน้อยถดถอยลงไปได้บ้าง “ภัคครับ พี่มีเรื่องสำคัญจะบอก…” ยังไม่ทันที่น่านฟ้าจะได้บอกความจริงบางอย่างที่เขาได้แต่ปิดบังเอาไว้เพราะไม่อยากเห็นกระต่ายน้อยของเขาต้องเสียใจไฟจากรถคันหรูที่แสนคุ้นเคยก็สาดส่องมาแต่ไกล บอกให้รู้ว่าคนที่ภัคจิราเฝ้ารอมาตลอดหนึ่งปีกลับมาถึงแล้ว ภัคจิรายิ้มกว้างเมื่อเห็นร่างสูงกำยำที่คุ้นตาเดินลงมาจากรถเป็นคนแรก แต่ยังไม่ทันที่เธอจะวิ่งเข้าไปหา ประตูที่นั่งข้างคนขับก็ถูกเปิดขึ้น  ก่อนจะปรากฏร่างขอใครคนหนึ่ง คนที่ไม่เคยพบมาก่อน 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD