บทที่ 7
"ได้เลยไอ" เมื่ออยู่กันพร้อมหน้าเด็กแสบอย่างพะพิงมักจะทำตัวน่ารักคอยออดอ้อนผู้ใหญ่สองคนอย่างเอาใจ และไอยังชอบให้พะพิงหรือไม่ก็อนุรักษ์ทำอาหารไทยให้ทานตลอด
"ป๋าไม่ช่วยนะ ป๋าจะง้อเมีย"
"ตามสบายเลยป๋า" ร่างบางได้แต่ส่ายหัวให้กับคนแก่คลั่งรัก นาน ๆ ทีป๋ากับไอจะได้มีเวลาอยู่ด้วยกันสักทีพะพิงเลยไม่อยากขัด
ร่างบางใช้เวลาทำอาหารเกือบชั่วโมงก็เสร็จเรียบร้อย จึงเรียกป๋ามาช่วยกันยกไปวางไว้บนโต๊ะอาหาร
"ว้าว พะพิงน่าทานทุกอย่างเลย" ไอเซยาห์ตื่นเต้นกับอาหารที่พะพิงกับสามียกเข้ามาเสิร์ฟ ถึงแม้เขาจะสั่งแค่ส้มตำไปอย่างเดียวแต่เด็กขี้ประเลาะอย่างพะพิงก็ทำของโปรดของเขาเพิ่มให้อีกสามอย่าง
"ทำสุดฝีมือเลยไอ" คนทำยิ้มขำเมื่อเห็นท่าทางแบบเด็ก ๆ จากไอ
หลังจากทานอาหารกันเสร็จเรียบร้อยพะพิงกับไอเซยาห์ก็ช่วยกันล้างจานโดยมีอนุรักษ์คอยยืนป่วนอยู่ด้านนอก
"ว่าแต่ไอ้หนุ่มนั่นเป็นไง" คนเป็นป๋าหมายถึงท่านรองแผ่นดิน
"หนุ่มไหนเหรอป๋า" ส่วนคนถูกถามแกล้งทำเป็นเฉไฉ
"คนที่เราหลอกให้เขาไปหลบลูกปืนด้วยน่ะ"
"อ๋ออออ" คนเฉไฉแกล้งลากเสียงยาว ก่อนจะเช็ดจานใบสุดท้ายเสร็จก็เดินไปเกาะแขนปะป๋าของตัวเองต่อ "สบายดีป๋าตอนแยกกันไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน"
"หืม" ไม่ใช่ว่าหลังจากแยกกันแผ่นดินจะซวยโดนหางเลขไปด้วยนะ
"ป๋าไม่ต้องกลัวว่าไม่มีคนช่วยทำคดีนี้หรอกน่า ตอนนี้เขาถึงไทยโดยสวัสดิภาพแล้ว" เก่งกล้า กับ ณภัทรรายงานมาแบบนั้น
"อืม"
"ป๋าเถอะเก็บข้อมูลถึงไหนแล้วให้พิงช่วยไหม" งานที่ป๋ากับแผ่นดินร่วมกันทำรอบนี้เป็นคดีใหญ่ระดับเอเชียเลยแหละ ความเสี่ยงก็เพิ่มมากขึ้นตามขนาดของคดีด้วย
"ไม่ต้องหรอก ป้อมเพชรเข้ามาช่วยน่ะ" ป้อมเพชรที่ป๋าพูดถึงคือหัวหน้าหน่วยตำรวจสากลที่ดูแลคดีค้ามนุษย์ข้ามชาติ
"คดีใหญ่ขนาดไหน" เป็นไอที่กอดอกฟังสองพ่อลูกคุยกันถามขึ้น
"ก็ปกติ" อนุรักษ์พูดด้วยรอยยิ้มบาง ๆ แต่เมื่อเห็นว่าคนรักมีสีหน้าเคร่งเครียดกว่าเดิมก็ส่งสายตาให้ลูกบุญธรรมช่วย
"พิงไม่เกี่ยวนะไอ" เมื่อได้รับสายตากดดันจากทั้งสองฝ่ายคนกลางอย่างพะพิงถึงกับเหงื่อตก
"พะพิง" ไอเซยาห์เรียกชื่อเต็มด้วยน้ำเสียงเข้มยิ่งทำให้พะพิงถึงกับอ้ำอึ้ง "ถ้าพิงไม่บอกเราจะกลับไทยด้วย"
"ไม่ได้"
"เออ ใหญ่กว่านิคันชินที่ป๋าพึ่งปิดไปน่ะไอ" คดีที่ว่าอนุรักษ์และทีมทำอยู่ร่วมปีพึ่งปิดไปได้ส่วนหนึ่งมาจากพะพิงแฝงตัวเข้าไปร่วมงานกับหนึ่งในระดับหัวหน้าถึงได้ข้อมูลสำคัญ
"แต่รอบนี้ได้มือดีมาช่วยตั้งสองคนแล้วไง ที่รักอย่าเป็นห่วงไปเลย"
"เดี๋ยวพิงช่วยดูให้อีกแรง ไอไม่ต้องเป็นห่วงหรอก" เพราะไอมีสถานะไม่ธรรมดาช่วงนี้เลยไม่อยากเป็นที่จับตาสักเท่าไหร่ เรื่องกลับไทยก็อย่าเพิ่งนึกถึง
"แบบนั้นก็ได้"
พะพิงใช้เวลาอยู่กับไอเซยาห์และพ่อบุญธรรมอีกสามอาทิตย์ก็ขอตัวบินกลับไทยมาก่อน และช่วงนี้ก็ว่างร่างบางไม่ได้รับงานอะไรไว้จึงนัดเพื่อนสนิทอย่าง ธาร ธารธารา ที่ไม่ได้เจอกันหลายเดือน
ร่างบางมาก่อนเวลานัดครึ่งชั่วโมงเลยสั่งกาแฟกับขนมเค้กทานระหว่างรอเวลา
"ขอนั่งด้วยคนได้ไหม" เสียงหวานของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นทำให้พะพิงที่กำลังตักเค้กทานอยู่ละสายตาขึ้นไปมอง
"เชิญค่ะ" ถึงจะแปลกใจที่มีโต๊ะว่างอยู่แต่เธอมาขอนั่งด้วยก็ยินดีเชิญเธอนั่ง
"มารอเพื่อนเหรอจ๊ะ" ใบหน้าสวยกว่าทุกคนที่พะพิงเคยเจอมาถามด้วยรอยยิ้มบาง ๆ
"ค่ะ" ถึงจะสงสัยว่าเธอรู้ได้ไงแต่ก็ไม่ได้ถามออกไปเพราะเมื่อลองพิจารณาดี ๆ แล้วก็คิดว่าเธอไม่น่าจะใช่คนไม่ดียิ่งชุดกระโปรงสีขาวที่เธอสวมใส่นั้นยิ่งทำให้เธอเหมือนเทพเจ้าที่หลุดออกมาจากเทพนิยาย
"หึ ฉันไม่ใช่คนชั่วหรอก ว่าแต่เธอเถอะไม่ได้เจอเพื่อนนานเหรอ"
"คุณรู้ได้ไง"
"เดาเอาน่ะ ดูจากของฝากที่เธอขนมาด้วย" พะพิงได้แต่ร้องอ๋อในใจก็ถูกอย่างที่เธอพูดนั่นแหละก็ของฝากที่เขาหอบมาฝากเพื่อนห้าถุงใหญ่ก็ไม่ใช่น้อย ๆ สำหรับคนที่พบกันบ่อย ๆ
"แหะ ๆ งั้นคุณรับอันนี้ไว้ทานคู่กับกาแฟเถอะค่ะ ไม่หวานมากคุณน่าจะชอบ" มือบางส่งไวท์ช็อกโกแลตกล่องไม่เล็กไม่ใหญ่ส่งให้แก่เธอ
"ขอบใจจ้ะ งั้นเธอรับหนังสือเล่มนี้ไป" หนังสือเล่มสีขาวปกแข็งเล่มหนาที่ไม่มีชื่อแต่มีรูปปากกาขนนกถูกส่งกลับมาให้
"ขอบคุณครับแต่ผมไม่ชอบอ่านนิยาย" มือบางดันมันกลับไปให้เจ้าของ
"หึ เก็บไว้เถอะเธอไม่อ่านก็เอาไว้ให้เพื่อนเธอ ถือเสียงว่าฉันให้ตอบแทนช็อกโกแลตที่เธอตั้งใจเอามาให้เขา" รอยยิ้มงดงามที่ส่งมาให้ทำให้พะพิงใจอ่อน เก็บหนังสือเล่มหนาใส่แทนที่กล่องช็อกโกแลต
"ขอบคุณครับ"
"มันอาจมีประโยชน์กับเพื่อนเธอก็ได้นะ"
"ครับ"
"โอ๊ะ เพื่อนเธอมานู้นแล้ว" พะพิงผินหน้าไปตามทางที่หญิงสาวบอกก็พบกับร่างสูงโปร่งของธาร ธารธารากำลังเดินเข้ามาในร้าน
"สวัสดีพิงพิง"
"สวัสดีธาร" ร่างโปร่งที่เดินเข้ามาทักทายด้วยรอยยิ้ม
"รอนานไหมพิงพิง"
"ไม่นานหรอกธาร พอดีมี...อ้าว" พอหันกลับมาอีกทีพะพิงก็ไม่พบกับสาวสวยที่นั่งคุยอยู่เมื่อครู่แล้ว
"มีอะไรหรือเปล่า"
"เปล่านั่งเถอะธาร"
"ไปเที่ยวไหนมาเหรอพิงพิง ทำไมของฝากเยอะขนาดนี้" ธารถามด้วยรอยยิ้มบาง ๆ
"ไปเที่ยวมาหลายที่เลย ว่าแต่ธารเถอะเป็นไงบ้าง" เมื่อเห็นสีหน้าซีด ๆ ของเพื่อนสนิทก็อดถามไม่ได้
"ก็งานยุ่ง ๆ น่ะ"
"เฮ้อ ธารมีอะไรไม่สบายใจเล่าให้เราฟังได้นะ ทุกเรื่องเลย" เมื่อเห็นว่าเพื่อนสนิทเหมือนมีอะไรอยู่ในใจก็อดเป็นห่วงไม่ได้
"ธารไม่เป็นอะไรจริง ๆ ช่วงนี้แค่พักน้อยน่ะ ว่าแต่มีหนังสือด้วยเหรอ" ธารหยิบหนังสือเล่มสีขาวที่โผล่พ้นถุงขึ้นมาดู
"หึ ไม่ใช่หรอกอันนี้พี่สาวคนสวยเขาเอามาแลกกับไวท์ช็อกโกแลตที่เราเอามาฝากธารน่ะ"
"อ๋อ พิงพิงก็เลยเอามาให้ธารอ่านเหรอ" เพราะสนิทกันมากเลยรู้ว่าหญิงสาวไม่ชอบอ่านหนังสือจำพวกนิยายหรือวรรณกรรมเท่าไร
"ใช่ ฮ่า ๆ เบื่อธารรู้ทัน"
"ฮ่า ๆ พิงพิงเล่าให้ฟังหน่อยสิไปเที่ยวอะไรมาบ้าง"
"ได้สิ" ทั้งสองนั่งคุยกันไปจนเวลาล่วงเลยมาหลายชั่วโมงธารเลยขอตัวกลับเพราะมีนัดทานข้าวกับคนสำคัญ
"เอาไว้เจอกันใหม่นะธาร"
"ได้สิ ไว้เดี๋ยวธารเคลียร์งานแล้วหาวันหยุดไปเที่ยวทะเลทางใต้กัน"
"สำหรับธารเราว่างเสมอ"
"แล้วพบกัน"
"อืม" ร่างบางโบกมือลาเพื่อนสนิทก่อนที่ร่างสูงโปร่งจะเดินออกจากร้านไป พะพิงจึงโทรหาเพื่อนในทีมทันที
/ว่าไงเจ้/
"หมดเวลาพักร้อนแล้ว"
/อ้าว ยังไม่ครบเดือนเลยเจ้/ ปลายสายโอดครวญที่โดนเรียกตัวกลับมาทำงานก่อนกำหนด
"สืบทุกอย่างเกี่ยวกับธารให้หน่อย"
/เพื่อนสนิทเจ้เหรอ/
"ไม่ต้องถามเยอะ ขออย่างไวที่สุดนะเก่ง"
/รับทราบ/