ช่วงกลางดึกเวลาเดิมที่หอศิลป์นัดแนะกับเหล่าผู้ติดตามไว้ว่าตัวเองจะมาตรีมเกมในเวลานี้ เมื่อถึงเวลาประมาณ2ทุ่มชายหนุ่มจึงเริ่มทำการเตรียมคอมเปิดสตรีมอย่างทุกวัน
แต่เหมือนสิ่งที่ต่างออกไปอย่างทุกวันคงจะเป็นตัวบางอย่างข้างหลังของเขา ไวท์เดย์ยังคงอยู่ในร่างครึ่งมนุษย์ครึ่งงู ถ้าหากว่าผู้ติดตามที่มาดูสตรีมหมื่นกว่าคนได้เห็นคงต้องมีช็อคตาตั้งกันบ้าง
"คนสวยขาเธอแปลงร่างกลับเป็นตัวเล็กๆก่อนได้มั้ย แล้วเดี๋ยวพี่สตรีมจบเธอค่อยกลับร่างเดิม"
หอศิลป์หันกลับไปถามสิ่งมีชีวิตสีขาวที่เกาะขอบเก้าอี้รอดูเขาสตรีม และเมื่อเจ้าน้องได้ยินที่มนุษย์ขอไวท์เดย์ก็เข้าใจได้ไม่ยาก
เจ้าตัวน้อยเปลี่ยนร่างกลับเป็นร่างงูเช่นเดิม ลำตัวสีขาวถูกมือหนาของมนุษย์ช้อนอุ้มมาไว้บนตักของตัวเองที่เดิม
"เด็กดี"
งูขาวชูคอขึ้นมาให้อีกฝ่ายลูบหัว หอศิลป์เลยลูบหัวน้อยๆของมันเป็นรางวัลก่อนที่เจ้าตัวน้อยจะเลื้อยขึ้นไปบนแขนแล้วซุกตัวอยู่สักที่บนร่างกายอีกคนดั่งเดิม
"สวัสดีครับทุกคน ได้ยินเสียงผมมั้ย ดังเบายังไงบอกได้นะครับ"
พอเริ่มเปิดสตรีมเหล่าผู้ติดตามก็ทยอยเข้ามาดูเรื่อยๆ หอศิลป์ทำการเช็คไมค์เช็คเสียง คนในช่องแชทเลยตอบกลับมารัวเร็วซะจนเลื่อนอ่านช่องแชทไม่ทัน
หอศิลป์เอนเตอร์เทรนคนไปเรื่อยๆเพื่อรอเวลา หากว่ายอดคนดูถึงเป้าที่เขาต้องการเมื่อไหร่เขาก็จะเริ่มเล่นเกมทันที
คนดูจากหลักร้อยค่อยๆเพิ่มเป็นหลักพัน ก่อนที่จะไปจบที่หลักหมื่นตามเป้าที่หอศิลป์ตั้งไว้ เขาทำการบอกกับทุกคนที่เข้ามาว่าใครที่ดูไม่ทันก็ดูย้อนหลังได้เพราะเขามีคลิปลงให้ จากนั้นจึงค่อยเริ่มเล่น
เกมที่หอศิลป์เล่นเป็นเกมแนวเนื้อเรื่อง สยองขวัญ เอาชีวิตรอด สามารถเล่นได้คนเดียว เขาต้องไขปริศนาทำภารกิจต่างๆที่เกมมีให้ไปพร้อมๆกับคนดู
เวลาการสตรีมค่อยๆผ่านไปเรื่อยๆ ดวงตาคู่สวยมองตรงไปที่จอก็ค่อยๆปรือลงจากความง่วง งูขาวไม่เข้าใจวัฒนธรรมของมนุษย์เท่าไหร่ แต่มันรู้ว่าอุปกรณ์ตรงหน้าของหอศิลป์ใช้ติดต่อมนุษย์คนอื่นๆระยะไกลได้
ไวท์เดย์เข้าใจการเป็นอยู่ของโลกมนุษย์แต่มันก็ไม่ได้มีสติปัญญามากพอที่จะอ่านตัวหนังสือของมนุษย์ออก แค่มันสื่อสารกับผู้คนได้ก็ดีแค่ไหน
การสตรีมจบลงในช่วงค่ำ พอหอศิลป์ปิดคอมแล้วสะกิดปลุกเจ้างูขาว ดวงตาคู่สวยสองสีก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมา
"งื้มม เมื่อยจังเลย.."
ไวท์เดย์รีบกลับร่างครึ่งอสูรทันทีที่เห็นว่าหน้าจอนั้นดับไปแล้ว ครึ่งคนครึ่งงูนอนอยู่บนตักหนาซบอกร่างสูงอย่างเหนื่อยหน่าย
ก็นอนนิ่งเป็นงูแช่แข็งตั้งนานขอเหนื่อยนิดหน่อยได้มั้ยล่ะ
"เมื่อยหรอ ไปอาบน้ำด้วยกันมั้ยคะ เดี๋ยวพี่นวดตัวให้"
งูขาวที่ได้ยินถึงกับหูผึ่ง ดวงตาคู่สวยเป็นประกายทันทีที่มนุษย์ตรงหน้าเชิญชวน ไวท์เดย์พยักหน้ารับอย่างไม่รีรอ หอศิลป์จึงได้แต่อมยิ้มให้ความน่ารักของงูขาว
สองแขนแกร่งช้อนอุ้มร่างสีขาวนวลไปทั้งตัวพาไปยังห้องอาบน้ำที่มีอ่างขนาดกลางพอจะให้พวกเขาทั้งคู่ลงไปแช่ตัว
ร่างสูงวางกายสีขาวไว้ที่ขอบอ่างก่อนจะเปิดน้ำอุ่นกับน้ำเย็นให้ผสมกับในอุณหภูมิที่พอดี หอศิลป์สั่งให้ไวท์เดย์ล้างตัวกับฝักบัวก่อนครู่หนึ่ง เจ้าน้องที่พอรู้เรื่องบ้างเลยทำตามได้อย่างไม่อิดออด
กายสีขาวชโลมไปด้วยหยาดน้ำ ยิ่งหยดน้ำที่เกาะตามผิวสะท้อนกับแสงไฟก็ยิ่งทำให้กายสีนวลผ่องขึ้นมาทันตา
ไวท์เดย์เลื้อยกลับไปหาเจ้านายเมื่อทำภารกิจเสร็จ หอศิลป์จึงบอกให้เจ้าน้องรอจนกว่าน้ำจะเลยขอบอ่างขึ้นมา ดวงตาคู่สวยเลยจับจ้องไปที่อ่างน้ำอย่างไม่วางตา
"พี่ศิลป์ๆ น้ำได้แล้วใช่มั้ย"
งูน้อยส่ายหางไปมาอย่างตื่นเต้น ไวท์เดย์ไม่เคยแช่น้ำอย่างมนุษย์แบบนี้มาก่อน ทางหอศิลป์ที่เห็นเจ้าน้องของตัวเองตื่นเต้นจนออกหน้าออกตาก็เอ็นดูไม่ไหวแล้ว
"น้ำได้แล้วค่ะ เดี๋ยวพี่ลงไปแช่ก่อนแล้วเธอลงมาเอาหลังพิงอกพี่ไว้นะคะ"
ไวท์เดย์พยักหน้ารับอย่างว่าง่าย ร่างของมนุษย์จึงค่อยๆขยับตัวลงอ่างแล้วขยับตัวไปพิงขอบอ่าง งูขาวที่เห็นแบบนั้นเลยลงน้ำบ้างจากนั้นจึงขยังตัวไปพิงร่างของมนุษย์หนุ่ม
น้ำในอ่างอุณหภูมิกำลังอุ่นพอดีสบายตัว ไม่ร้อนเกินไป อีกทั้งยังมีกลิ่นหอมของดอกไม้ที่น่าจะเกิดจากการที่หอศิลป์ใส่สบู่แช่ตัวลงไป
"รู้สึกดีมากเลยพี่ศิลป์"
งูขาวว่าพลางส่ายหางไปมา อ่างน้ำทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าในความทรงจำของหอศิลป์มันค่อนข้างใหญ่สำหรับเขา แต่เมื่ออีกสิ่งมีชีวิตลงมาแช่ตัวด้วยหอศิลป์คิดว่าตัวเองอาจจะต้องทำอ่างให้ใหญ่กว่านี้แล้วล่ะ
"ให้พี่ถูตัวให้มั้ยคะ"
เจ้าของดวงตาสีรัตติกาลถามพลางมองสบร่างกายขาวผ่องของสิ่งมีชีวิตตรงหน้า จากเดิมทีที่กายนี้ขาวจนแสบตาอยู่แล้ว ยิ่งพอมากระทบกับสายน้ำสะท้องกับแสงไฟมันยิ่งเป็นประกายระยิบระยับขึ้นไปอีก
"เอาๆ พี่ศิลป์ถูตัวให้เราหน่อย"
ดวงตาสีอัญมณีเป็นประกายขึ้นมาอีกครั้งอย่างชอบใจ ไวท์เดย์เอี้ยวหน้ามามองใบหน้าหล่อเหลาเล็กน้อย หอศิลป์จึงเอื้อมไปกดสบู่ที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลมาชโลมตัวอีกฝ่าย
มือหนาลูบไล้ไปตามร่างกายขาวเนียนละเอียด ผิวเนื้อเนียนนุ่มให้ผิวสัมผัสที่ละเอียดยิ่งกว่าเม็ดทรายนับล้านเม็ด
หอศิลป์ลูบไล้ไปตามส่วนต่างๆของเรือนร่างสีขาว ตั้งแต่ช่วงลำคอระหงส์ ท่อนแขนเรียว ลากไปที่บริเวณหน้าอกราบเรียบซึ่งมียอดอกเล็กๆทั้งสองอัน ช่วงท้องเองก็แบนราบแต่สัมผัสได้ถึงกล้ามเนื้อ
กับอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้หอศิลป์รู้สึกแปลกใหม่ที่สุด คือเกล็ดงูที่อยู่กับร่างสิ่งมีชีวิตสีขาวตรงหน้า
"อ๊ะ! พี่..มะ ไม่ต้องถูตรงนั้นก็ได้"
งูขาวถึงกับสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อมือหนาลากไปตรงจุดนุ่มหยุ่นที่อ่อนไหวของเจ้าตัว ใบหน้าขาวผ่องถึงกับขึ้นสี พวงแก้มทั้งสองข้างเป็นริ้วแดงขึ้นมาในสายตาของมนุษย์หนุ่ม
"เอ่อ..ขอโทษค่ะ พี่ไม่ได้ตั้งใจ"
"ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราถูตัวให้พี่บ้างดีว่า"
งูขาวยิ้มบางกลับ ก่อนจะเอี้ยวตัวไปกดสบู่หอมๆแล้วใช้มือเรียวชโลมทั่วกายอีกคน ทั้งคู่หันหน้าเข้าหากันทุกการกระทำของอีกฝ่ายจึงอยู่ในม่านสายตาของกันและกันอย่างหลบเลี่ยงไม่ได้
มือเรียวสีขาวลากไล้ไปทั่วเรือนร่างของมนุษย์ตรงหน้า หอศิงป์แม้จะเอาแต่หมกตัวอยู่ในบ้าน แต่เจ้าตัวก็นับว่าเป็นคนที่ดูแลตัวเองดีไม่น้อย คอยออกกำลังกายสม่ำเสมอ อีกทั้งยังรักษาหุ่นของตัวเองได้อย่างดี
สัมผัสที่ลูบไล้ไปตามผิวหนังของหอศิลป์นุ่มมาก ถึงมือของไวท์เดย์จะมีเล็บที่ยาวเฟี้ยวเหมือนจะแทงคนตายได้ก็เถอะ แต่ทุกการขยับเจ้าตัวก็ระวังไม่ให้ส่วนแหลมคมของตัวเองไปบาดผิวของหอศิลป์ตลอด
"เดี๋ยวเธอ! ตรงนั้นไม่ต้องๆๆ"
"ทำไมอะพี่ศิลป์แล้วนั่นอะไร ทำไมมันแข็งๆ"
"ของสงวนพี่ค่ะเธอ ไม่เอานะเด็กดีอย่าจับนะ"
"หรอ..งั้นไม่จับก็ได้"
เจ้าน้องที่เหมือนถูกดุมาก็ถึงกับหน้าจ๋อย เขาไม่ได้ตั้งใจจะไปจับตรงนั้นของหอศิลป์สักหน่อยแต่มันตั้งชันขึ้นมาเอง แถมยังใหญ่ด้วย จะให้เลี่ยงก็คงเลี่ยงยาก
"เธอขาพี่ไม่ได้ว่าอะไร แต่ตรงนี้เป็นเครื่องเพศของมนุษย์ พวกมนุษย์ค่อนข้างให้ความสำคัญและหวงแหน"
"แบบนั้นพี่เลยต้องใส่เสื้อผ้าตลอดเลยใช่มั้ย"
"ใช่แล้วค่ะ"
พอได้รับคำตอบจากอีกฝ่าย งูขาวก็ก้มดูตัวเองทันที ในร่างนี้ของเขาไม่เห็นจะมีอะไรโด่เด่อย่างอีกคนเลย ช่วงล่างท้องลงไปก็เป็นหางงูเรียบๆ ถ้าเป็นร่างงูเต็มตัวไอ่ส่วนโด่เด่ก็มีอยู่หรอก แต่มันก็อันเล็กนิดเดียวเอง
นัยน์ตาสีรัตติกาลพยายามเบนไปทางอื่นเพื่อไม่ให้ส่วนกลางกายไม่รักดีไปมากกว่านี้ แต่ด้วยความที่ว่าไวท์เดย์อยู่ตรงหน้าอย่างเด่นชัด ดวงตาคู่คมจึงไม่สามารถละไปไหนได้
เหตุผลที่แก่นกายของเขามันตั้งชันขนาดนี้เขาก็ไม่อยากจะยอมรับมันเท่าไหร่ ยิ่งรู้เหตุผลยิ่งโกรธตัวเองที่มีความคิดอกุศลชั่วๆแบบนี้ออกมา
เหตุผลที่ว่าก็คงไม่พ้นร่างสีขาวตรงหน้าเขานี่แหละ
ผิวกายสีขาวเนียนผ่องรับกับใบหน้างดงามที่ดูยั่วยวนโดยไม่รู้ตัว ทั้งดวงตาที่คอยช้อนมองมาอย่างน่ารัก ริมฝีปากกระจับที่ฉ่ำน้ำ และเรือนร่างนวลเนียนที่อยู่เพียงแค่เอื้อม
แม้เพศสภาพจะเป็นบุรุษแต่งูขาวตรงหน้าก็มีช่วงเอวเรียวคอด และความน่าหลงไหลที่แม้แต่คนต่างสายพันธุ์ยังเหมือนถูกต้องมนต์สะกด รู้ตัวอีกทีส่วนกลางกายก็ดันแข็งขืนขึ้นมาแล้ว
หอศิลป์ตีกับตัวเองในหัวจนหัวแทบระเบิด เขาก่นด่าตัวเองที่มีจิตใจคิดไม่ดีกับไวท์เดย์งูน้อยแสนน่ารักที่ตัวเองเฝ้าทะนุดถนอมมาเนิ่นนาน แล้วแบบนี้เขายังจะเรียกตัวเองว่าปะป๊าน้องไวท์ได้อีกหรอ
ดวงตาคู่สวยมองตามนัยน์ตาคู่คมที่เหม่อลอยและวูบไหวอย่างน่าประหลาด อีกฝ่ายมองสบมานิ่งไม่พูดอะไร อีกทั้งยังไล่สายตาไปทั่วตัวของเขาอีก
ไวท์เดย์ได้แต่งงไม่เข้าใจ แต่เมื่ออีกฝ่ายมองมาเจ้าน้องเลยมองกลับ จะว่าไปแล้วตอนนี้หอศิลป์ก็ถอดเจ้าสิ่งเกะกะที่เรียกว่าเสื้อผ้าออกหมดแล้ว เรือนร่างใต้ร่มผ้าจึงได้เด่นเป็นสง่าในม่านสายตาของเขาขนาดนี้
เรือนร่างสีขาวเผลอกลืนน้ำลายลงคออย่างไม่รู้ตัว ไวท์เดย์ขยับตัวเข้าไปประชิดมนุษย์ตรงหน้าพร้อมกับลากมือไล้ไปตามกล้ามเนื้อดีของอีกฝ่าย
หอศิลป์ตัวแข็งทื่อไม่รู้ว่าไวท์เดย์ต้องการอะไรแต่สายตาของอีกฝ่ายร้อนระอุจนร่างของเขาเหมือนจะแผดเผา
"พี่ศิลป.."
เจ้าของชื่อถึงกับหายใจติดขัด หน้าแดงลามไปยันหู ทว่าเหมือนฝันกลางวันลมๆแล้งๆของเขาจะถูกขยี้ดับในพริบตา เพราะคำพูดต่อไปของคนตรงหน้านี่แหละ
"น่ากินจัง"
กินของเราไม่เหมือนกันไวท์เดย์! กินของเราคือกินแบบกระซ้วกเข้าไป! แต่ของพี่ไม่ใช๊!
"โน้วๆๆ ไวท์อย่าาา! เผลอไม่ได้เลยนะนังตัวดี! โอ้ย!! เธอขาพี่กินไม่ได๊!"
แท่งกลางกายที่เคยตั้งชันหดลงกลับเข้าที่เดิมโดยพลัน ตอนนี้หอศิลป์ไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่นแล้ว
เพราะเขาต้องเอาชีวิตตัวเองให้รอดก่อน!
น่า55555สง555555สาร5555555522
คำว่า 'กิน' ของเราไม่เท่ากัน
อย่ามาคิดไม่ดีกับน้องนะ! หดกลับไปเลย//ตีๆ