“ทำไมกลับดึกนักล่ะครับพี่ทศ”
ทศวัฒน์หันไปตามเสียงเรียกและก็ได้เห็นว่าน้องชายลุกขึ้นจากโซฟาภายในห้องรับแขก เดินออกมาหยุดตรงหน้า
“วันนี้คนไข้เยอะมากน่ะ”
ทศวัฒน์ตอบเสียงเรียบ สีหน้าก็เรียบเฉยเช่นกัน
“ว่าแต่นายเถอะ ทำไมยังไม่นอนอีกล่ะ พรุ่งนี้มีงานแต่เช้าไม่ใช่เหรอ”
หัสวีร์ระบายยิ้มบางๆ
“ผมก็มีงานเช้าทุกวันนั่นแหละครับ”
“งั้นก็ไปนอนเถอะ นี่ก็ดึกมากแล้ว”
พี่ชายตัดบทด้วยการจะเดินหนี แต่หัสวีร์เรียกเอาไว้เสียก่อน
“พี่ทศครับ”
“ว่าไง”
“ผมมีเรื่องจะคุยด้วยสักหน่อยครับ”
ทศวัฒน์พยักหน้ารับน้อยๆ ก่อนจะหมุนตัวเดินกลับเข้าไปนั่งในห้องรับแขก หัสวีร์เดินตามไปนั่งบนโซฟาตัวตรงกันข้ามกับพี่ชาย
“มีอะไรก็ว่ามาเถอะ”
คนเป็นน้องชายถอนใจเล็กน้อย ก่อนจะตัดสินใจพูดออกมา
“ความจริงผมก็ไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวอะไรด้วยหรอกนะครับ เพราะรู้ดีกว่ามันเป็นเรื่องภายในครอบครัวของพี่ทศ แต่...”
“ยาใช่ไหมที่เป็นคนเอาเรื่องนี้ไปรบกวนหัสน่ะ”
น้ำเสียงของพี่ชายดูจริงจังและเคร่งเครียดเป็นอย่างมาก
“อย่าไปว่าพี่ยาเลยครับ คนเป็นเมียยังไงก็ยอมไม่ได้หรอก หากผัวจะไปมีเมียน้อยเมียเก็บอยู่นอกบ้านน่ะครับ”
หัสวีร์พูดออกไปตามตรง และก็มองหน้าพี่ชายอย่างจับสังเกต
“พี่ก็แค่เบื่อๆ น่ะ”
“แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลที่ดีเลยนะครับพี่ทศ”
“พี่ก็ไม่ได้บอกว่าสิ่งที่พี่ทำมันดี แต่พี่ทำไปแล้วน่ะ จะให้ทำยังไงล่ะ”
ในที่สุดพี่ชายของเขาก็ยอมรับออกมาเสียทีว่าแอบซุกเมียน้อยเอาไว้
“เลิกกับผู้หญิงคนนั้นซะเถอะครับ พี่ยากับน้องกิ่งยังคงรอพี่ทศอยู่นะครับ”
ทศวัฒน์หลบสายตาน้องชาย ก่อนจะพูดออกมาเสียงเป็นกังวล
“พี่ทิ้งเขาไม่ได้หรอก”
“ทำไมล่ะครับพี่ทศ ก็แค่เอาเงินฟาดหัวไปสักก้อนก็น่าจะพอแล้วนี่ครับ”
ทศวัฒน์ส่ายหน้าไปมา ท่าทางเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด
“น้องเขายังเรียนหนังสืออยู่เลย ถ้าพี่ทิ้งเขา เขาก็คงไม่มีที่ไป”
“พี่ทศครับ นั่นมันผู้หญิงคนอื่นนะครับ ไม่ใช่เมียไม่ใช่ลูกของพี่สักหน่อย ผู้หญิงพวกนี้ก็แค่หาคนรวยๆ เกาะเท่านั้นเองครับ”
หัสวีร์เตือนพี่ชายของตัวเอง และก็แสนจะขยะแขยงผู้หญิงเหล่านั้น
“เอาเป็นว่า พี่ทิ้งน้องเขาไม่ได้ก็แล้วกัน” ทศวัฒน์ลุกขึ้นยืน
หัสวีร์มองหน้าพี่ชายอย่างไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่ได้เห็น
“นี่พี่ทศหลงเด็กนั่นจนตาบอดไปแล้วเหรอครับ ลูกเมียของพี่ไม่ผิดนะครับ ทำไมพี่ทศจะต้องทำให้ครอบครัวที่อบอุ่นแตกแยกด้วย”
“นายหุบปากไปเถอะ เพราะถึงแม้นายจะพูดยังไง พี่ก็คงเลิกกับน้องเขาไม่ได้”
หัสวีร์ลุกขึ้นยืน และจ้องหน้าพี่ชายด้วยความกังขาเป็นที่สุด
“นี่ถ้าเป็นสักเมื่อยี่สิบปีก่อน ผมคงคิดว่าพี่ทศถูกยาเสน่ห์...” หัสวีร์ยิ้มหยัน “แต่สมัยนี้คงไม่มีแล้วล่ะเสน่ห์ยาแฝด จะมีก็คงแต่ลีลาเซ็กซ์ร้อนๆ ที่พี่ทศติดใจจากเด็กสาวๆ เท่านั้น ใช่ไหมล่ะครับพี่ทศ”
“นายจะเข้าใจยังไงก็เรื่องของนายเถอะ พี่ขอตัวไปพักผ่อนก่อน”
“แต่ผมจะไม่ยอมให้หลานของผมต้องกำพร้าพ่อหรอกนะครับ”
หัสวีร์ตะโกนตามหลังพี่ชายไปเสียงเดือดดาล แต่พี่ชายของเขาไม่สะทกสะท้านแม้แต่นิดเดียว ชายหนุ่มกำมือแน่น และก็โกรธแค้นไปถึงผู้หญิงคนนั้นเหลือเกิน
“ผู้หญิงแพศยา!”
ชายหนุ่มเกรี้ยวกราดคลั่งแค้นเป็นที่สุด เขายืนสงบสติอารมณ์อยู่สักพักก็เดินขึ้นบันไดไป และแน่นอนว่าต้องเดินผ่านห้องนอนของพี่ชายและพี่สะใภ้ด้วย เท้าใหญ่ชะงักกึก เมื่อได้ยินเสียงทะเลาะกันของสามีภรรยาดังมาจากด้านใน
“คุณทำอย่างนี้ได้ยังไงคะคุณทศ คุณนอกใจฉันทำไม คุณไม่สงสารฉันไม่สงสารลูกหรือไงคะ”
เสียงของจริยาแผดดังลั่น ก่อนจะตามมาด้วยเสียงสะอื้นไห้
“ผมจะทำอะไรก็ได้ คุณก็อยู่ในที่ของคุณก็พอแล้ว ทำหน้าที่แม่ที่ดีของน้องกิ่งก็พอ”
พี่ชายของเขาพูดออกมาอย่างเห็นแก่ตัวเป็นที่สุด นี่ขนาดเขาเป็นผู้ชายนะ ยังนึกรังเกียจเลย หัสวีร์กัดฟันแน่น
“ฉันไม่ยอมหรอก คุณจะต้องเลิกกับมัน”
“ผมไม่เลิก และคุณก็ไม่มีสิทธิ์มาบงการชีวิตของผมด้วย”
“คุณทศ!”
“ลืมไปแล้วหรือไงจริยา คุณมีวันนี้เพราะใคร มีกินมีใช้ มีบ้านหลังโตๆ อยู่เพราะใคร หรืออยากกลับไปอยู่สลัมเหมือนเดิม”
“คุณมันคนใจร้าย... คนใจร้าย...”
เสียงของทศวัฒน์เงียบกริบไปแล้ว เหลือแต่เพียงเสียงร้องไห้คร่ำครวญของพี่สะใภ้ที่ดังขึ้นต่อเนื่อง เขาสงสัยจับหัวใจ อยากจะเข้าไปห้ามปราม แต่ก็รู้ดีว่าไม่ควรทำ
ยิ่งได้ยิน ยิ่งได้เห็น ยิ่งได้รู้ว่าพี่ชายของตัวเองเปลี่ยนไปแบบนี้ เขาก็ยิ่งเกลียด ยิ่งชิงชังผู้หญิงมือที่สามคนนั้นเป็นที่สุด
“แพศยา!” เขากำมือแน่น ราวกับต้องการจะขยี้แม่นั่นให้แหลกเละคาฝ่ามือ ดวงตาคมกริบลุกโชนไปด้วยเพลิงไฟ
“อย่าให้รู้เชียวนะว่าเป็นใคร”
เขารวบรวมสติอยู่นาน กำลังจะเดินกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง แต่ก็เห็นหลานสาววิ่งร้องไห้หน้าตาตื่นออกมาจากห้องนอนที่อยู่ถัดไปจากห้องนอนของทศวัฒน์และจริยาเพียงห้องเดียวเท่านั้น
“น้องกิ่ง... เป็นอะไรไปครับคนเก่ง”
เขาย่อตัวลงและดึงร่างของกานจิราเข้ามากอดแนบอก จากนั้นก็เอานิ้วยาวเช็ดน้ำตาบนแก้มนุ่มให้อย่างเอ็นดู