บนพื้นที่กว่าพันไร่ของตระกูลนิรชา ฟากหนึ่งเป็นรีสอร์ตและโรงแรม ส่วนอีกฟากเป็นไร่องุ่น ซึ่งตอนนี้คชากำลังจะขยับขยายสร้างโรงบ่มไวน์ ที่แห่งนี้ห้อมล้อมด้วยภูเขา น้ำตก ลำธาร นอกจากนี้ในอาณาเขตของนิรชายังมีโรงเรือนเมล่อน ทุ่งดอกไม้ กลายเป็นธรรมชาติที่นักท่องเที่ยวปักหมุดไว้ในใจอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดที่เรียกกันติดปากว่าเป็นประตูสู่ภาคอีสาน
นิดาเดินสำรวจบ้านพักสไตล์ล็อฟต์ของรีสอร์ต บ้านแต่ละหลังปลูกห่างกันพอสมควร คั่นด้วยสวนสวยพร้อมแมกไม้บดบังจากสายตาเพื่อความเป็นส่วนตัว ด้านหน้าของบ้านแต่ละหลังจะเป็นแนวลำธาร เสียงขับกล่อมของสายน้ำและความใสจนเห็นหินด้านล่างดึงดูดให้นิดาก้มลงปลดสายรัดรองเท้าและถอดรองเท้าไว้ในสวนหย่อม แล้วก้าวตามขั้นบันไดลงไปในลำธาร เธอย่างเท้าไปเรื่อยๆ รับความสดชื่นจากทั้งสายลมอ่อนๆ และสายน้ำ ตอนนี้เป็นเวลาเย็นแล้ว พนักงานเริ่มบางตา คนที่เห็นเธอจากที่ไกลๆ คิดว่าหญิงสาวในชุดนักศึกษาคือลูกค้าของรีสอร์ตจึงไม่ได้เข้ามาทักทาย
ในความสงบ สงัด หญิงสาวได้ยินเสียงที่ต่างออกไปจากเสียงน้ำไหล เสียงนั้นดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เธอจึงหันหลังกลับไปมอง
เป็นไปไม่ได้...
“ครูธีร์” นิดาอุทานชื่อของคนที่เธออยากเจอเป็นคนสุดท้ายในโลกนี้ออกมา
เท้าเปลือยภายใต้ขากางเกงยีนส์ที่ถูกพับขึ้นมาจนถึงน่องลุยน้ำตรงมาหาเธอจนกระทั่งมาหยุดอยู่ตรงหน้า ใบหน้าของเขาหล่อคม คิ้วเข้ม จมูกโด่งเป็นสันเหนือริมฝีปากกระจับ ตาสีน้ำตาลวาววับจับจ้องอยู่ที่ดวงตาดำสนิทของเธอนิ่ง เขาดูดีขึ้น เข้มขึ้น และหล่อขึ้น รูปร่างสูงใหญ่ กล้ามเนื้อชัดทุกสัดส่วนแม้จะซ่อนอยู่ในเสื้อเชิ้ตลายสก๊อต ผิวที่เคยขาวคล้ำขึ้นจากแดด สุขุม นิ่ง แฝงความน่ากลัวลึกๆ ต่างไปจากครูหนุ่มขี้เล่นที่มักจะมีรอยยิ้มติดอยู่บนใบหน้าคนเดิมที่นิดาเคยรู้จัก ไร้ประกายเสน่หาในดวงตาที่เคยล่อลวงเธอ นิดาสัมผัสได้เพียงความเฉยชา กระด้างกระเดื่องที่เขาส่งมา ยิ่งจ้องมองเธอยิ่งรู้สึกยะเยือก
เพียงหนึ่งนาทีแต่เหมือนยาวนานชั่วนิรันดร์ที่ทั้งสองมองตากัน ความรู้สึกหลากหลายไหลท่วมสรรพางค์กายของนิดา ทั้งตระหนก หวาดกลัว และประหลาดใจ แน่นอน การหันหลังกลับแล้ววิ่งหนีในตอนนี้เป็นเรื่องที่ไร้ประโยชน์
“ครูมาเที่ยวเหรอคะ”
“เปล่า”
“หรือครูมารับแฟน แฟนครูทำงานอยู่ที่นี่เหรอคะ”
มุมปากเขากระตุกเล็กน้อย “เปล่า”
“แล้วครูมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ” นิดาพยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุด เหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่ภาพจำต่างๆ ระหว่างเธอกับเขาไหลย้อนเข้ามาในหัวเป็นฉากๆ
“ฉันทำงานอยู่ที่นี่” เขาบอก “โลกกลมใช่ไหม”
“เป็นไปได้ยังไง” นิดาสงสัย
“พรหมลิขิตมั้ง” ธีร์ตอบข้อสงสัยเพียงเท่านั้น “ไป กลับบ้านเถอะ ยิ่งเย็นยุงจะยิ่งชุม” พูดจบเขาก็เดินนำเธอขึ้นฝั่ง ท่าทางไม่ได้ยินดียินร้ายหรือดีใจของเขาทำให้นิดาใจเสียอยู่ไม่น้อย
“ครูพักที่ไหนเหรอคะ” นิดาทำลายความเงียบขึ้นเมื่อชายหนุ่มเดินเข้าไปในสวนหย่อมโดยไม่สนใจจะพูดอะไร
“ฉันไม่ใช่ครูแล้ว” เขาเดินไปหยิบรองเท้าของนิดา และกลับมาคุกเข่าข้างหนึ่งลงบนพื้นเบื้องหน้าเธอ จับขาขาวเรียวเล็กขึ้นทำให้นิดาต้องจับไหล่เขาไว้เป็นหลัก เขาจัดการปัดเศษหินเศษทรายใต้ฝ่าเท้าเรียว ลมหายใจร้อนรินรดอยู่บนผิวอ่อนๆ บนต้นขา นิดารู้สึกวูบวาบจนต้องชักขากลับ แต่เขาดึงไว้ เขาปัดเบาๆ จนสะอาดไม่ระคายเท้าเวลาเดินเสร็จ ก็สวมรองเท้าและรัดสายให้เธอ จากนั้นก็ทำแบบนี้กับเท้าอีกข้าง ก่อนจะลุกขึ้น
“ขอบคุณค่ะ เอ่อ คุณพักที่ไหนคะ” นิดาเปลี่ยนสรรพนามที่ใช้เรียกเขา
“จากตรงนี้ก็ต้องเดินไปอีกไกล เดี๋ยวฉันไปส่งเธอที่บ้านนะ” เขาไม่ได้ระบุแน่ชัดว่าพักอยู่จุดไหนของรีสอร์ตเพราะคิดว่ามันไม่ได้สำคัญอะไร
ทั้งสองเดินมาถึงบ้านของหญิงสาวก็เป็นช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ตกดินพอดี ตอนนี้พนักงานคนอื่นๆ ของรีสอร์ตกลับบ้านกันหมดแล้ว จะมีก็เพียงประชาสัมพันธ์ที่ต้องเข้าเวรสับเปลี่ยน
“เงียบจัง” ปกติเวลานิดากลับมาบ้าน เธอจะมีพี่ชาย หรือไม่ก็มากับบิดาและมารดา ก่อนหน้านี้คชาบอกว่าจะให้พนักงานในสโมสรมาอยู่เป็นเพื่อนในระหว่างนี้ แต่นิดาก็ปฏิเสธ เพราะเธอเคยชินกับการใช้ชีวิตคนเดียวที่คอนโดฯ แล้ว แต่ก็ไม่คิดว่า พอไม่มีใครจริงๆ มันจะเงียบเหงาแบบนี้
ความวังเวงก่อตัวขึ้นในความรู้สึกของเธอทันที
“กลัวเหรอ” ธีร์เห็นท่าทีตื่นกลัวของหญิงสาวก็อดที่จะถามไม่ได้ วูบหนึ่งที่ความห่วงใยพาดผ่านแววตา
“เอ่อ มะ...ไม่ค่ะ อยู่ได้ค่ะ” นิดาปด
“ถ้าอยู่ได้งั้นฉันกลับก่อนนะ” ตัดบทแล้วหันหลังเดินจากไป เขาก้าวออกจากรั้วไม้ แต่ความพะว้าพะวังก็ทำให้หันกลับไปมองอีกครั้ง
นิดารีบหันหลังกลับและเดินเข้าบ้านเมื่อเห็นเขาหันกลับมามอง เธอเปิดไฟที่ชั้นล่าง ทันทีที่ไฟในห้องรับแขกสว่างขึ้นนิดาก็ถึงกับตัวแข็งค้าง ก้าวขาไม่ออก ขนลุกซู่ ดวงตาตื่นกลัวจับจ้องสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า ก่อนจะกวาดมองบนผนัง ราวผ้าม่าน ช่องแอร์ แล้วตวัดตากลับมามองจุดเดิม ขาก็ค่อยๆ ก้าวถอยหลัง หัวใจเธอเต้นตูมตาม ก่อนจะสะดุ้งสุดตัวเมื่อเผลอเหยียบอะไรบางอย่างนิ่มๆ อุ่นๆ เท้าบางชักขึ้นโดยอัตโนมัติ
“เป็นอะไร” เสียงทุ้มก้มลงถามชิดใบหู แขนแกร่งกอดเอวเธอไว้
พอตั้งสติได้และรู้ว่าเป็นเขา เธอก็รีบหันหลังกลับ แล้วกอดเขาหมับทันที ธีร์สูดลมหายใจเข้าลึกกับความอวบอิ่มนิ่มที่เบียดเข้ามา
ตัวเล็กแต่เอ็กซ์เป็นบ้า!