“วกมาเรื่องนี้อีกแล้วนะ สรุปแกมาหาฉันมีเรื่องอะไร”
แนนถอนหายใจ รีบเปลี่ยนไปถามหลินแทน
“เปล่า” หลินเอ่ยเสียงสูง ก่อนจะพูดต่อ “ฉันก็แค่แวะมาหา กลัวแกอยู่ห้องคนเดียวแล้วเหงาไง”
“เอาความจริง” แนนส่งเสียงคาดคั้นอย่างรู้ทัน
“หึ เรื่องผู้ชายทำเป็นหน่อมแน้ม ทีกับเพื่อนนี่จับผิดเก่งตลอด ฉันนัดกับพี่ทิว พี่ริสาที่คลับแถวนี้น่ะ พรุ่งนี้แกหยุดนี่ สนใจไปด้วยกันไหม”
ทิวคือรุ่นพี่สายรหัสของหลิน ส่วนริสาคือรุ่นพี่สายรหัสของแนน ขณะที่ยังเป็นนักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ สาขาการสื่อสารมวลชน
“ขี้เกียจดื่มอะ อยากนอนโง่ ๆ บนเตียง” แนนบ่ายเบี่ยง
“อย่ามาสะตอ รีบไปอาบน้ำเลย ฉันจะรอ”
เห็นแนนโสดแบบนี้แต่เธอก็ไม่ได้เป็นสาวเรียบร้อยราวกับผ้าพับไว้ สมัยเป็นนักศึกษาก็มักจะถูกหลินพาไปเที่ยวกลางคืนอยู่บ่อย ๆ เพราะทั้งสองตัวติดกันราวกับฝาแฝด เจอหลินที่ไหนก็ต้องมีแนนที่นั่น ยกเว้นตอนหลินอยากอยู่กับแฟนสองต่อสองเท่านั้น
“ไปก็ได้”
ดีที่ว่าวันนี้เป็นวันหยุดและกลางวันก็ได้นอนเต็มอิ่มแล้ว เนื่องจากเช้านี้แนนเพิ่งออกจากกะดึก เลยตกลงรับปากไป
“อย่างนี้สิเพื่อนรัก”
หลินไหวไหล่พร้อมกับยักยิ้ม มีหรือเธอชวนแล้วแนนจะปฏิเสธ
จากนั้นแนนก็เข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเป็นชุดเที่ยวกลางคืน เดินไปสวมใส่รองเท้าส้นสูงสีดำเข้ากับชุด แล้วทั้งสองสาวก็พากันออกจากห้อง
@ Ma Yes Club (มา เยส คลับ)
แนนและหลินไปถึงเป็นสองคนแรก จึงมองหาโต๊ะว่างแล้วเข้าไปนั่ง พร้อมกับยกมือขึ้นเรียกพนักงานเสิร์ฟมาสั่ง Absolut Raspberri Vodka (แอบโซลูต ราสป์เบอร์รี วอดกา)
“มาจ้า คนละช็อต”
หลินเทเหล้าสีชมพูลงในแก้วช็อตแล้วยื่นให้เพื่อนรัก พร้อมกับยกแก้วของตัวเองออกไปชน
ทั้งสองสาวกระดกน้ำเมาในแก้วใบเล็กที่เต็มไปด้วยกลิ่นหอมของราสป์เบอร์รีปนกับกลิ่นเหล้าที่ไม่แรงมาก ก็หลับตาลงชั่วครู่เพื่อดื่มด่ำกับรสชาติหอมละมุนแต่เฝื่อนลิ้นเล็กน้อย ก่อนจะลืมตาส่งยิ้มให้กัน
แม้ว่าคนส่วนใหญ่มักจะผสมวอดกากับอย่างอื่นเพื่อทำเป็นค็อกเทล แต่สายเมาอย่างหลินเลือกที่จะดื่มเป็นช็อตแทน เพราะมันให้รสชาติของเหล้าได้เข้มข้นกว่า และแนนเองก็ถึงไหนถึงกันอยู่แล้ว เพื่อนดื่มแบบไหน เธอก็ดื่มได้หมด
และแล้วช็อตต่อไปก็ตามมาเรื่อย ๆ
แค่ก แค่ก
ขณะที่แนนกำลังยกแก้วเหล้าจรดกับริมฝีปากอวบอิ่มที่คืนนี้ทาลิปสีเชอร์รี ตัดกับผิวที่ขาวอมชมพูมีออรา เป็นที่น่าจับตามองของชายหนุ่มโต๊ะใกล้เคียง รวมทั้งคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเคาน์เตอร์บาร์ที่ตอนนี้หันมาทางที่เธอนั่ง
แม้ว่าจะนั่งห่างกันพอสมควร แต่แนนก็พอจะมองออกว่าเขาเป็นใครจึงทำให้สำลักเหล้า รีบวางแก้วลงแล้วยกมือขึ้นปิดปาก
“เบา ๆ ก็ได้ แกจะรีบไปไหน”
หลินแซวเพื่อนที่ตอนนี้ใบหน้าแดงก่ำไปด้วยสีเลือดฝาด ทีตอนชวนทำเป็นเล่นตัว มาถึงนี่รีบดื่มเชียว
“ฉันเห็น…” แนนเอ่ยสั้น ๆ ก่อนจะหยุดชะงัก ปรายตามองไปหาใครบางคน
“ใครเหรอ” หลินหันมองตามสายตาของเพื่อน แต่ก็เดาไม่ถูกว่าแนนมองใคร
“คุณคีย์”
“นั่นไง ครั้งที่สาม”
“อะไรของแก” แนนทำหน้างุนงง ก่อนจะคิดได้ว่าเจอกับคีย์เป็นครั้งที่สามแล้ว
“ไม่เคยได้ยินเหรอ พบกันครั้งแรกเขาเรียกว่าบังเอิญ พบกันครั้งที่สองเขาเรียกว่าโชคชะตา พบกันครั้งที่สามเขาเรียกว่าพรหมลิขิต”
“พรหมลิขิตบ้าอะไร มันก็แค่เรื่องเพ้อฝัน” แนนไม่อยากจะเชื่อเรื่องพวกนี้สักเท่าไร
“จำที่ฉันพูดที่ห้องแกได้ไหม”
“เรื่องอะไร” แนนถามกลับ
“ก็ที่ฉันบอกว่าเขาคือคนที่พรหมลิขิตส่งมาเปิดซิงแกไง กรี๊ด ยัยเพื่อนรัก แกกำลังจะมีผัวแล้ว”
หลินส่งเสียงกรี๊ดดีใจราวกับถูกรางวัลที่หนึ่ง แนนเห็นแล้วก็ชักจะหมั่นไส้ เอะอะก็กลัวเธอไม่มีผัวอยู่นั่นแหละ เลยเทเหล้าใส่แก้วแล้วยื่นให้เพื่อน จะได้หยุดพูดเรื่องนี้เสียที
“อะ เอาไปปิดปากซะ มีผัวบ้าบออะไร ฉันยังไม่อยากมี”
“สวัสดีครับสาว ๆ”
“สวัสดีจ้ะน้องแนน น้องหลิน”
รุ่นพี่สายรหัสที่เพิ่งมาถึงทักทายสองสาวที่มาถึงก่อนประมาณครึ่งชั่วโมงได้ และทิวก็เลือกเข้าไปนั่งที่ว่างข้างแนน ส่วนริสาก็นั่งข้างหลิน
“โอ้ เล่นแรงไปรึเปล่า ดื่มกันเป็นช็อตแบบนี้จะกลับกันไหวเหรอ” ริสาเห็นขวดวอดกาขนาดหนึ่งลิตรก็เบิกตาโพลง
“ไหวสิคะพี่ริสา อย่าลืมสิคะว่าหนูเป็นยูทูปเบอร์สายเมา คิกคิก” หลินโฆษณาตัวเองพลางส่งเสียงหัวเราะแผ่วเบา
“ถ้าน้องแนนไม่ไหวบอกพี่นะครับ เดี๋ยวพี่ไปส่ง” ทิวคลี่ยิ้มหล่อเอ่ยขึ้น
“น้องรหัสพี่อยู่นี่ค่ะ มาดูแลหนูนี่มา”
หลินรีบท้วงขึ้นทันที พร้อมกับพยักหน้าคล้ายกับแซวเล่นให้หนุ่มรุ่นพี่มานั่งข้างเธอแทน และสามคนนั้นก็ส่งเสียงหัวเราะชอบใจ
“หลินมีผัวแล้วพี่ไม่อยากยุ่ง เดี๋ยวจะหาว่าเป็นกิ๊กเราอีก”
“เกินไปมาก” หลินลากเสียงยาว
“งั้นก็เชิญดูแลยัยแนนเลยค่ะ หลินดูแลตัวเองได้ เหล้าแค่นี้สบายมาก” หลินไหวไหล่ใส่ทิวอย่างไม่ยี่หระ
“มา ๆ มาชนแก้ว” ริสาเห็นหลินและทิวเริ่มโต้เถียงกันก็เลยชวนยกเหล้าแทน
ทั้งสี่คนพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ชนแก้วแล้วยกดื่มกันช็อตต่อช็อต เห็นแบบนี้ก็ทำให้นึกถึงสมัยเรียนที่มักจะชวนกันออกมาดื่มเป็นประจำ แต่พอริสากับทิวเรียนจบ ทุกคนเลยไม่ค่อยได้นัดรวมตัวกัน
“ฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะยัยหลิน” แนนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเริ่มยาน ก่อนจะลุกออกจากเก้าอี้พร้อมกับสะพายกระเป๋าออกไปด้วย
พอออกมาจากห้องน้ำก็พบกับคนคุ้นหน้าที่เหมือนจะมาเข้าห้องน้ำเหมือนกัน แต่เขาดันเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า และตอนนี้แนนก็หันหลังเข้าหากำแพง
“สวัสดีครับคุณแนน”
คืนนี้เพื่อนที่เป็นนักธุรกิจโทรชวนเควินให้มานั่งดื่มเป็นเพื่อน แต่มาถึงได้สักพักสายตาก็เหลือบไปเห็นคนที่บอกจะซักเสื้อมาคืน แต่ก็ยังไม่ติดต่อเขามาสักทีเข้ามานั่งที่โต๊ะว่างไม่ไกลจากเคาน์เตอร์บาร์มาก แถวยังดื่มเหล้าเพียว ๆ ก็ทำให้เขาละสายตาจากเธอไม่ได้เลย
และครานี้เขาก็เห็นเธอลุกออกจากโต๊ะมาเข้าห้องน้ำ จึงได้เดินตามหลังออกมาเช่นกัน
“สวัสดีค่ะคุณคีย์ ไม่คิดว่าจะเจอกันที่นี่นะคะ”
เธอทักทายคนตัวสูงที่ก้มลงมองเธอด้วยสายตาเปล่งประกาย ตั้งแต่แนนมานั่งดื่มก็เผลอมองเขาเป็นระยะ และเห็นเขานั่งอยู่ที่เดิมตลอด
“ผู้ชายคนนั้น แฟนคุณเหรอครับ”
เนื่องจากเสียงดนตรีที่ดังกระหึ่ม เขาจึงโน้มใบหน้าเข้ามากระซิบข้างหูโดยเข้าประเด็นที่อยากรู้ทันที แล้วใบหน้าหล่อเหลาราวกับเทพบุตรก็เลื่อนมาอยู่ตรงหน้าเธอในระยะที่ห่างกันไม่ถึงคืบ
“ฮึ” แนนอุทานพร้อมกับขมวดคิ้วเล็กน้อย เธอยังไม่มีแฟน แล้วเขาหมายถึงใคร ก่อนจะนึกขึ้นได้
“อ๋อ นั่นรุ่นพี่สายรหัสค่ะ”
เธอไม่ได้บอกว่าสายรหัสของใคร แต่ก็เหมือนกันเพราะเป็นแค่รุ่นพี่
เมื่อได้รับคำตอบรอยยิ้มมุมปากของเขาก็กระตุกขึ้น กลิ่นเหล้าดีกรีแรงโชยเข้าจมูกของเธอ สายตาคู่คมก้มลงมองชุดที่สวมใส่อยู่บนเรือนร่างของคนตัวเล็กที่ดูแปลกตาไปจากชุดทำงานค่อนข้างมาก
คืนนี้แนนใส่ชุดเดรสสีดำกึ่งสายเดี่ยว กึ่งปาดไหล่ ด้านหน้าเป็นซิปรูดตั้งแต่หน้าอกลงไปถึงช่วงท้อง ความยาวกลางหน้าขา แม้จะดูเรียบร้อยแต่ก็โชว์ส่วนเกินของก้อนเนื้อหน้าอกที่โผล่พ้นชุดชั้นใน เพราะยัยเพื่อนสาวรูดซิปชุดของเธอลงเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความเซ็กซีให้ดูมีความแหวกหน้าอก
“มองอะไรเหรอคะ”