ตอนที่ 6 เผลอคิดว่าคนเดียวกัน

1686 Words
@ อะพาร์ตเมนต์สีเหมียว แนนลงจากรถแท็กซีก็ขึ้นไปยังชั้นเจ็ดของที่พัก ประตูห้องหมายเลข 757 ก็ได้ถูกเปิดเข้าไป ภายในห้องที่ไม่ได้ใหญ่มาก มีเพียงห้องนอนหนึ่งห้อง มีโซนสำหรับนั่งพักผ่อน มีโซฟาหนึ่งตัวไว้นั่งดูหนังฟังเพลง มีโต๊ะกินข้าวอยู่ติดกับผนัง ห้องครัวขนาดย่อม และโซนซักล้างอยู่ตรงระเบียงหลังห้อง แล้วอีกอย่างค่าเช่าที่นี่ก็ไม่ได้แพงมาก เหมาะสำหรับหญิงสาวที่อยู่ตัวคนเดียว แนนหิ้วของกินเข้าไปวางบนโต๊ะกินข้าว แล้วหอบเสื้อสูตของคีย์ไปซักด้วยมือเพราะกลัวว่าเนื้อผ้าจะได้รับความเสียหาย จากนั้นก็มานั่งกินของที่ซื้อมาและได้รับมาจากแม่ค้าทั้งสามราย เธอขึ้นมานอนเล่นบนเตียงหลังจากอาบน้ำเสร็จ ริมฝีปากก็มีรอยยิ้มขึ้นอย่างแปลกประหลาด พลางคิดถึงใบหน้าของคนใจดีที่ช่วยเหลือเธอถึงสองรอบ ก่อนจะสะบัดหน้าไปมา คิดอะไรเนี่ย เขาแค่มีน้ำใจ ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันเลยยื่นมือเข้าช่วย รอเสื้อของเขาแห้งแล้วนำไปคืนก็ไม่มีเรื่องให้ต้องเจอกันอีก @ บริษัทจำกัด เค วี คอนแท็กต์ เซ็นเตอร์ เควินพักสายตาจากการดูเอกสาร ก็เลื่อนดวงตาคู่คมมองไปยังปฏิทิน สลับกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดดูหน้าจอว่ามีสายที่ไม่ได้รับหรือไม่ เพราะยังไม่ได้รับการติดต่อกลับจากแนน แต่แล้วก็ต้องถอนหายใจ ไม่ว่าจะกดดูกี่ครั้งก็ไม่มีเบอร์ที่ว่าโทรเข้ามา เขาจึงเปลี่ยนไปดูข้อมูลของพนักงาน เวลาเข้าออกและการเปลี่ยนกะของแผนก Call love (คอล เลิฟ) ปรากฏว่าเธอได้เปลี่ยนไปทำงานอีกกะแล้ว หญิงสาวคงคิดว่าเลิกงานไม่ตรงกันเลยไม่ได้ติดต่อมา “สองทุ่มแล้วยังไม่กลับเหรอครับ” คณิตที่นั่งเคลียร์เอกสารที่โต๊ะทำงานหน้าห้องของเควิน เมื่อเห็นว่าเลยเวลาเลิกงานของเขาแล้ว แต่เจ้านายยังไม่กลับ จึงได้เปิดประตูเข้าไปถาม “นายกลับไปก่อนเลย ฉันกลับไปก็ไม่มีอะไรทำ ว่าจะอยู่ต่ออีกสักพัก” “ครับ” พอคณิตกลับไปแล้ว เขาก็นั่งจ้องโทรศัพท์ และแล้วก็ตัดสินใจปลอมตัวเป็นลูกค้าโทรเข้าไปใช้บริการอีกครั้ง เพราะอดที่จะได้ยินเสียงหวานละมุนนั้นอีกไม่ได้ “สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่บริการคอล เลิฟ ดิฉันนางสาวณัฐชา อมรธนาศิริ รหัสพนักงานซี แอล สองหนึ่งหกเก้า ยินดีให้บริการค่ะ” “สวัสดีครับ ผมชื่อคีย์นะครับ ผมมีเรื่องจะปรึกษา” แต่แล้วรอยยิ้มของแนนก็เปลี่ยนไปชั่วครู่ เธอเหมือนกำลังตกอยู่ในภวังค์ เมื่อได้ยินชื่อของผู้ใช้บริการก็ทำให้แนนนึกถึงคนที่เคยเจอกันถึงสองครั้ง ซึ่งเขาก็มีชื่อว่าคีย์เหมือนกัน “เนื่องจากเป็นข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ ดังนั้นไม่ต้องบอกชื่อกับทางเราก็ได้ค่ะ” “อ่าครับ” “ขออนุญาตเรียกว่าคุณเอแทนนะคะ ไม่ทราบว่าคุณเอมีเรื่องอะไรจะปรึกษาหรือคะ” “คือว่าผมเริ่มสนใจผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ และมักจะมีเรื่องบังเอิญให้ผมได้เจอกับเธออยู่บ่อยครั้ง แม้บางครั้งจะมีแค่ผมที่มองเห็นเธออยู่ฝ่ายเดียว แต่มันทำให้ผมรู้สึกว่าอยากเข้าหาเธอมากขึ้น คุณว่าอาการแบบนี้มันคือการชอบใครสักคนใช่ไหมครับ” ชายคนนี้ดูไร้เดียงสาไม่ต่างจากเธอเลย คงยังไม่เคยมีแฟนสินะ แนนเผลอคิดแล้วนิ่งไป “คุณครับ” “ค่ะ ฉันว่าคุณกำลังชอบเธอค่ะ” เมื่อกี้ใจลอยจนทำให้แนนลืมค้นหาข้อมูล แต่อาการข้างต้นมันก็ทำให้คิดได้ง่ายมาก เพราะที่เขาบอกมาทั้งหมดนั้น คนทั่วไปที่ไม่ได้มีความรู้สึกพิเศษต่อกัน ไม่มีทางเป็นอย่างนั้นแน่นอน เพราะเธอเองก็ไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อน เธอคิดว่าต้องเดาถูกแน่ ๆ แนนเอ่ยชมตัวเองในใจ คนอะไรทั้งสวยทั้งฉลาด “เหมือนกับตอนนี้ ที่ผมรู้สึกว่าชอบเสียงของคุณณัฐชามาก” “ฮึ” แนนเผลอส่งเสียงอุทานดังขึ้นเบา ๆ ที่พูดมาเขาหมายถึงเธออย่างนั้นหรือ แต่ก่อนที่สติจะเตลิดเปิดเปิงไปมากกว่านี้ จึงได้รีบทำหน้าที่ต่อ “ขอบคุณสำหรับคำชมนะคะ เรามาคุยเรื่องที่ปรึกษากันต่อดีไหมคะ” เธอรีบเปลี่ยนเรื่อง พร้อมกับใบหน้าที่ร้อนผ่าว “ผมคิดว่า ผมได้คำตอบแล้วครับ” เอ่ยจบคนที่ชื่อคีย์ก็ตัดสายไปทันที ทำเอาแนนถึงกับไปไม่เป็น นี่เป็นครั้งแรกที่โดนลูกค้าผู้ชายเอ่ยปากชม น้ำเสียงทุ้มต่ำที่ไม่ได้แข็งกระด้างมาก มันทำให้เธอรู้สึกสับสนอย่างบอกไม่ถูก เขาโทรมาปรึกษาเรื่องแอบชอบใครสักคนอยู่ แต่เขาก็บอกว่าชอบน้ำเสียงของเธอ แถมยังบอกชื่อกับเธออีก ซึ่งผู้ใช้บริการรายอื่นไม่มีใครทำแบบนี้เลยสักคน เพราะอยากจะปิดเป็นความลับกันทั้งนั้น มันแปลกมาก คงไม่ได้หลงเสียงอันหวานละมุนของเธอหรอกนะ หลังจากวางสายแนนก็เผลอคิดไปไกล พร้อมกับริมฝีปากอวบอิ่มที่ยกยิ้มราวกับคนเพ้อฝัน เธอเผลอคิดว่าเขาเป็นคนเดียวกันกับคีย์ที่เธอรู้จัก @ อะพาร์ตเมนต์สีเหมียว หลายวันต่อมา ก๊อก ก๊อก ขณะที่กลับถึงห้องได้ไม่นานและกำลังจะไปอาบน้ำก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น แนนจึงออกไปดูที่ตาแมวก่อนจะเปิดประตู “เซอร์ไพรส์” หลินส่งยิ้มกว้างทักทายเจ้าของห้อง “จะมาทำไมไม่บอกก่อน ถ้าฉันเข้ากะดึกมาไม่เจอจะทำไง” “มาไม่เจอก็กลับสิคะคุณณัฐชา แล้วทำไมฉันต้องบอกล่วงหน้า หรือว่าแกซ่อนผู้ชายเอาไว้ในห้อง ไหนขอดูหน่อย” หลินจ้องจับผิดเพื่อนพร้อมกับแทรกตัวเข้าไปในห้อง สอดส่ายสายตาไปทั่วแต่ก็ไม่พบใคร “ฉันไม่ใช่แกนะที่จะบ้าผู้ชาย” แนนปิดประตูเสร็จก็เข้าไปนั่งที่โซฟา เอ่ยกับเพื่อนที่หย่อนก้นลงนั่งข้างกัน “ใยแมงมุมเกาะเต็มแล้วมั้ง” “อะไรของแก” “ก็หอยแกไง ร้างมายี่สิบสี่ปีแล้วนะ จะรอให้ขึ้นคานก่อนหรือไง เสียของหมด” หลินเอ่ยอย่างเสียดาย ไม่รู้ว่าแนนจะเก็บความซิงเอาไว้ให้ใคร “ดูแลหอยของแกให้ดีเถอะ ใช้งานหนักเกินไประวังจะเสื่อมสภาพ” แนนตอบกลับยัยเพื่อนบ้าที่มาแช่งให้เธอขึ้นคาน “ว้าย ยัยแนน ปากเสีย” “ฮ่าฮ่า กลัวเหมือนกันเหรอ เห็นเปลี่ยนแฟนเป็นว่าเล่น” “อย่างน้อยก็เอาทีละคนย่ะ ฉันไม่ได้มั่วขนาดนั้นสักหน่อย” ถึงหลินจะใช้งานช่วงล่างอย่างหนักหน่วง เพราะเธอเป็นคนเสพติดเซ็กส์ แต่อย่างน้อยก็ทำกับแฟนทีละคน แม้จะคบกับใครได้ไม่นาน แต่ก็คงไม่เสื่อมสภาพไวอย่างที่แนนว่าหรอก “ว่าแต่แกเถอะ เมื่อไหร่จะเปิดซิง” “บ้า มาบอกให้ฉันไปนอนกับผู้ชายได้ไง ไม่เอาหรอก ฉันชอบอยู่คนเดียว” “จะอยู่ไปจนแก่ตายเลยเหรอจ๊ะ ทำไมไม่ไปบวชเลยล่ะ” หลินแซวกลับ แนนก็ใช่ว่าจะขี้ริ้วขี้เหร่ หุ่นก็ดี สูง 160 ซม. ตามมาตรฐานหญิงไทย ใบหน้าโดยรวมก็มีทั้งความสวยและน่ารักผสมกันแบบมองไม่เบื่อ แต่เสียดายที่ใช้ความสวยไม่เป็น ถึงได้โสดมาจนถึงป่านนี้ “ไม่รู้สิ ยังไม่เจอคนถูกใจอะ” “แกไม่มีความรู้สึกว่าอยู่ใกล้ใครแล้วใจมันหวิว เนื้อตัวมันร้อนวูบวาบ ขนลุกขนพองบ้างเลยเหรอ” “นั่นมันอาการเห็นผีรึเปล่า แบบเห็นแล้วขนลุกอะ” “จะบ้าเหรอยัยแนน แกก็เรียนหนังสือออกจะเก่งนะ แต่ทำไมเรื่องพวกนี้ถึงได้โง่จัง อาการที่เห็นใครแล้วปิ๊ง แบบใช่เลย คนนี้แหละคือคนที่รู้สึกดีด้วย แกเข้าใจปะ” หลินต่อว่าเพื่อนด้วยเสียอารมณ์ อยู่ใกล้ผู้ชายแล้วขนลุกซู่ มันจะเหมือนกับขนลุกเพราะเห็นผีได้อย่างไรกัน “เข้าใจ แต่มันยังไม่รู้สึกกับใครไง” ยังไม่เคยมีความรู้สึกแบบนั้นกับใครมาก่อน แล้วจะให้เธอตอบว่ายังไงล่ะ “นั่นเสื้อใครอะ ที่ตากอยู่หลังห้อง” หลินตาดีเห็นเสื้อตัวใหญ่ห้อยอยู่ตรงราวตากผ้า เนื่องจากหลังห้องจะมีหน้าต่างกระจกบานเล็กทำให้มองผ่านออกไปได้ “อ๋อ เสื้อคุณคีย์น่ะ” พอพูดถึงชื่อนี้ก็ลืมไปเสียสนิทว่ายังไม่ได้เอาเสื้อไปคืนคนที่ช่วยเหลือเธอที่ตลาด หัวสมองปลาทองมากเลยเธอเนี่ย “คุณคีย์ ใครเหรอ ไม่เคยเห็นแกพูดถึงชื่อนี้เลย” “เขาทำงานที่บริษัทข้าง ๆ ฉันน่ะ” จากนั้นแนนก็เริ่มเล่าเรื่องที่โดนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์แล้วก็ได้คีย์เป็นคนช่วยไว้ และเรื่องที่เคยเจอกับคีย์ก่อนหน้านั้นให้หลินฟัง รวมทั้งเรื่องที่เธอเผลอสงสัยว่าชื่อของเขาเหมือนกับชื่อของลูกค้าที่โทรเข้ามาปรึกษา “ฮ่าฮ่าฮ่า ก็แกตอบไปแบบนั้นเป็นฉันก็เข้าใจผิด แต่ว่าคุณคีย์ก็ดูเป็นสุภาพบุรุษเหมือนกันนะ” หลินส่งเสียงหัวเราะชอบใจ แต่แล้วก็แอบเชียร์หนุ่มคนนี้ขึ้นมา “อืม สุภาพบุรุษ” จู่ ๆ ใบหน้าของเขาก็ลอยเข้ามา ทำให้แนนต้องรีบสลัดความคิดนั้นออกจากหัว “ฉันว่าพรหมลิขิตต้องส่งเขามาเปิดซิงแกแน่ ๆ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD