ตอนที่ 8 ขอไปห้องคุณได้ไหม

1406 Words
แนนเริ่มมีความรู้สึกแปลกประหลาดก่อตัวขึ้นอย่างบอกไม่ถูก ใบหน้าที่ว่าแดงและร้อนเนื่องจากฤทธิ์ของน้ำเมา แต่ตอนนี้มันกลับมีอุณหภูมิที่สูงขึ้นมากกว่าเดิมราวกับคนเป็นไข้ แต่แล้วคำถามที่เธอถามไปก็ไม่ได้รับคำตอบ เพราะคนตัวสูงเลื่อนใบหน้าเข้ามาข้างแก้ม พ่นลมหายใจอุ่นร้อนกระทบใบหู แนนรู้สึกว่ากำลังถูกมือหนาล่วงเกินด้วยการจับตรงซิปที่หน้าอก “รูดมันขึ้นหน่อยไหมครับ ผมไม่ชอบให้ใครเห็น” เสียงทุ้มกระซิบข้างหู พร้อมกับมือที่ถือวิสาสะรูดซิปชุดเดรสของเธอขึ้น ก็ทำให้แนนรู้สึกตื่นเต้นและร้อนวูบวาบไปทั่วทั้งตัว พลางทำให้ขนกายลุกชันอย่างห้ามไม่อยู่ แต่แล้วคำพูดของเพื่อนก็ผุดขึ้นในหัวมาว่าถ้าหากอยู่ใกล้ใครแล้วใจมันรู้สึกหวิว เนื้อตัวร้อนวูบวาบ ขนลุกขนพอง แสดงว่าผู้ชายคนนั้นคือคนที่เธอรู้สึกดีด้วย คือเขาอย่างนั้นหรือ แนนยังคงสับสนกับใจตัวเอง เธอรู้สึกไม่มั่นใจว่าสิ่งที่คิดมันจะใช่หรือไม่ เพราะความรู้สึกนี้มันเกิดขึ้นกะทันหันเกินไป เธอและเขาแทบไม่เคยทำความรู้จักกันเลย นอกจากการบังเอิญเจอกันก็เท่านั้น เควินเลื่อนใบหน้าออกก็สบเข้ากับดวงตาคู่หวานที่ช้อนสายตาขึ้นมอง แนนเผลอมองหนุ่มหล่อที่จ้องมองเธอด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดา และแล้วคนตัวสูงก็เลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้จนหน้าของทั้งคู่แทบจะชนกันอยู่รอมร่อ วินาทีนี้มันเหมือนกับว่าเข็มนาฬิกาได้หยุดเดิน ใจของเธอเต้นตึกตักแข่งกับเสียงเบสของลำโพง แต่หูของเธอก็เหมือนว่ากำลังมีปัญหาเพราะไม่ได้ยินเสียงอะไรทั้งนั้น และแปลกที่เธอเองก็ยังยืนนิ่งไม่ได้คิดจะขัดขืน แนนคิดว่าคืนนี้คงต้องเสียจูบแรกให้เขาอย่างแน่นอน แต่ใครจะคิดว่าอีกนิดที่เดียวปากของทั้งคู่จะประกบเข้าด้วยกัน ก็มีคนเมาเดินผ่านและเซมาชนกับแผ่นหลังของเควินอย่างไม่ทันตั้งตัว ทำให้เขาพุ่งตัวไปด้านหน้า หัวโหม่งเข้ากับกำแพง เควินสอดมือเข้าไปประคองศีรษะของแนนเอาไว้ตามสัญชาตญาณ เพื่อป้องกันไม่ให้หัวของเธอกระแทกกับฝาผนัง ใบหน้าหวานตอนนี้แนบชิดอยู่ที่แผงอกด้วยความตกใจปนกับความเสียดาย ไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้มันผุดขึ้นมาได้อย่างไร แต่เมื่อกี้เธอกับเขากำลังจะจูบกันอยู่แล้ว กรี๊ด… แนนหลับตาปี๋ส่งเสียงกรีดร้องในใจ เควินมองตามหลังชายคนดังกล่าวที่โซเซเข้าไปในห้องน้ำ ลอบถอนหายใจด้วยความเสียดายที่มีคนเข้ามาขัดจังหวะ เขาผละตัวออกเล็กน้อย ก้มลงมองคนตัวเล็กด้วยความเป็นห่วง “เป็นอะไรไหมครับ” “ไม่เป็นไรค่ะ” “เมื่อกี้...” เขากะจะพูดถึงเรื่องจูบ แต่ก็โดนขัดจังหวะ “โอ๊ะ” แนนเงยหน้ามองคนตัวสูง แต่แล้วก็ต้องเปล่งเสียงอุทาน ยกมือเล็กชี้ที่หน้าผากที่แดงเถือกและกำลังเริ่มมีรอยนูน เควินเลื่อนมือขึ้นลูบหน้าผากก็ขมวดคิ้วมุ่นด้วยความอาย โดนชนจนเสียเรื่องยังไม่พอ นี่ยังมาหัวโนต่อหน้าสาวอีกหรือ “ชนแรงเหรอคะ หัวโนง่ายจัง หึหึ” แม้ว่าจะเป็นห่วงที่เขาได้รับบาดเจ็บ แต่สติที่เลือนลางไปบ้างก็ทำให้เธอถามคำถามที่เหมือนจะเป็นการแซวเขาเสียมากกว่า แถมเธอยังแค่นหัวเราะในลำคอเพราะพยายามกลั้นเอาไว้ไม่อยู่ “สมองจะได้รับการกระทบกระเทือนไหมครับ ตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกมึน ๆ” เควินลูบหน้าผากปรอย ๆ ทำหน้าเหยเก ผิวของเขานั้นบอบบางมาก โดนชนนิดหน่อยก็เกิดรอยแดงและหัวโนได้ง่ายอย่างที่เธอว่า “ไม่มั้งคะ ตอนเด็ก ๆ ฉันก็หัวโนแบบนี้ประจำ ตอนนี้ฉันก็ยังอยู่ดี ที่คุณคีย์รู้สึกมึน ๆ อาจจะเพราะดื่มเหล้ามาด้วยมั้งคะ” แนนพูดไปตามความจริง ตอนวัยเด็กเธอเป็นคนที่ซุกซนและซุ่มซ่าม เรื่องเจ็บตัวแบบนี้จึงเกิดขึ้นบ่อยครั้ง เควินได้ฟังก็อึ้งไปหลายวินาที ก่อนจะเอ่ยต่อ “คุณช่วยประคบให้หน่อยได้ไหมครับ ถ้าคืนนี้ไม่ได้ประคบ เช้ามาเลือดต้องคลั่งแน่ ๆ” เขาจ้องใบหน้าหวานที่ดูเป็นคนจิตใจดีเพื่อรอฟังคำตอบ “คุณมีผ้าเช็ดหน้าไหมคะ เดี๋ยวฉันไปห่อน้ำแข็งที่โต๊ะมาให้” แนนคิดวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้แค่นี้ ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย “ไม่มีครับ” เขารีบปฏิเสธ ทั้งที่ได้พกผ้าเช็ดหน้าติดตัวตลอดเวลา “งั้นจะทำยังไงกันดีคะ” เควินคว้าข้อมือของเธอให้เดินตามกันออกไป แนนก็เดินตามอย่างเชื่อฟังทั้งที่ไม่รู้ว่าเขาจะพาไปไหน แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็อดไม่ได้ที่จะถามออกไป “จะพาฉันไปไหนเหรอคะ” “ร้านขายยาครับ” พอได้รับคำตอบแนนก็เข้าไปนั่งในรถโดยไม่คิดอะไร และส่งข้อความไปบอกเพื่อนว่าขอตัวกลับก่อน โดยให้ข้ออ้างว่ามีธุระด่วน “นั่งรอในนี้นะครับ เดี๋ยวผมมา” พอไปถึงเควินก็เอ่ยกับหญิงสาวด้วยน้ำเสียงสุภาพไม่ต่างจากเวลาที่ไม่ได้ดื่ม จากนั้นก็เปิดประตูลงจากรถ ผ่านไปไม่ถึงห้านาที เขาก็กลับมาพร้อมกับถุงที่มีเจลประคบเย็นสองก้อนอยู่ในนั้น ทำเอาแนนรู้สึกแปลกใจว่าซื้อเจลประคบเย็นมาก็ต้องหาตู้แช่อีก ไม่อย่างนั้นคงจะใช้ประคบไม่ได้ “ผมขอเอาเจลไปแช่ตู้เย็นห้องคุณได้ไหมครับ” ดวงตาคู่คมที่จ้องเข้าไปในดวงตาของหญิงสาวก็เหมือนกับมีมนตร์สะกด คืนนี้เธอคงดื่มเยอะไปทำให้ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ “ได้ค่ะ” และแล้วแนนก็เผลอตอบตกลงทันที @ อะพาร์ตเมนต์สีเหมียว รถของเควินดับเครื่องลงเมื่อเข้าไปถึงโรงจอดรถที่อยู่ด้านข้างของตึกเจ็ดชั้น ทั้งสองคนก้าวลงจากรถ ดวงตาคู่คมเงยดูแผ่นป้ายขนาดใหญ่ที่ติดอยู่ตรงหน้าตึกก็กระตุกยิ้มขึ้นและบังคับตัวเองไม่ให้หลุดขำ “รู้นะคะว่าคิดอะไร” “อะไรเหรอครับ” “ขำชื่ออะพาร์ตเมนต์ใช่ไหมล่ะ คิกคิก” ก็มันน่าขำจริง ๆ ขนาดเธอเห็นก็ยังหลุดหัวเราะทุกครั้งก่อนจะเข้าไปด้านใน “ปะ เปล่านะครับ” “ไม่ต้องมาทำฟอร์มหรอกค่ะ ครั้งก่อนคุณคีย์ก็ว่าให้ฉันชอบไปสถานที่ที่มีชื่อแปลก ๆ” “จำได้ด้วยเหรอครับ ผมก็พูดไปอย่างนั้นเอง” เควินเอ่ยพลางลูบท้ายทอยอย่างคนเสียอาการ “ถือซะว่าเป็นห้องเช่าอารมณ์ดี ใครเข้าพักก็มีแต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ฮ่าฮ่า” แนนเอ่ยพลางส่งเสียงหัวเราะชอบใจ คงจะอารมณ์ดีอย่างที่เธอว่า เพราะเควินเองก็หลุดขำออกมาเบา ๆ เช่นกัน ประตูลิฟต์ชั้นเจ็ดได้เปิดออก แนนก็เดินนำคนตัวสูงไปยังห้องหมายเลข 757 แล้วเปิดกระเป๋าสะพาย หยิบคีย์การ์ดออกมาเปิดประตู “นั่งรอที่โซฟาก่อนนะคะ เดี๋ยวฉันเอาเจลไปแช่ตู้เย็นก่อน” “ครับ” ระหว่างที่รอให้เจลเย็นตัวแนนก็มานั่งเป็นเพื่อนผู้มาเยือน เนื่องจากมีโซฟาตัวยาวแค่ตัวเดียวจึงต้องนั่งด้วยกัน แม้ทั้งสองจะไม่ได้สนิทกัน แต่ด้วยเหล้าที่ดื่มไปปริมาณมาก มันก็เพียงพอที่จะไม่ทำให้บรรยากาศในห้องมันกระอักกระอ่วน จากนั้นแนนก็เริ่มชวนคุยเพื่อทำลายความเงียบ “ห้องเล็กไปหน่อยนะคะ พอดีฉันอยู่คนเดียว” “ผมก็อยู่คนเดียวเหมือนกันครับ” “หึหึ โสดเหมือนกันเลยสินะคะ” แนนแค่นหัวเราะใส่คนที่กำลังนำเสนอว่าตัวเองเป็นหนุ่มโสด แบบนี้ก็ค่อยสบายใจหน่อย อย่างน้อยก็ไม่ได้อยู่กับคนมีเจ้าของสองต่อสอง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD