-บทที่-11 ปราณระดับเซียนแรกเริ่ม
“ถ้าเช่นนั้นข้าจะซื้อโพชั่นชำระไขกระดูกหนึ่งขวด โพชั่นทะลวงปราณระดับจิตวิญญาณเจ็ดขวด” กินทีเดียวเจ็ดขวด กะให้พลังปราณทะลวงถึงขั้นเซียนแรกเริ่มกันเลย
[...โฮสต์ต้องซื้อโพชั่นชำระไขกระดูกและโพชั่นทะลวงปราณระดับจิตวิญญาณก่อนขอรับ...]
“…ขวดละเท่าไหร่” สังหรณ์ใจว่าจะต้องแพงอย่างแน่นอน แต่ไม่ซื้อก็ไม่ได้ ของมันจำเป็นจะต้องมี ไม่เช่นนั้นจะเอาตัวรอดไม่ได้
[...โพชั่นชำระไขกระดูก ราคา สองพันเหรียญทองเครดิต ส่วนโพชั่นทะลวงปราณระดับจิตวิญญาณขวดละ สองพันสองร้อยเหรียญทองเครดิตขอรับ...]
แพงโคตร ๆลี่จินปวดใจจนอยากร้องไห้
[...แต่ แต่ หากโฮสต์ซื้อภายในหนึ่งชั่วโมงนี้ ระบบแม่จะลดราคาให้เป็นพิเศษ เหลือเพียงขวดล่ะ สามหมื่นเหรียญเงินเครดิต ยืนยัน...] ฟู่ ยังดีที่ลดราคา ไม่อย่างนั้นเงินที่เหลืออยู่เจ็ดพันเหรียญทองคงหมดแน่
“ยืนยัน”
[...ระบบทำการซื้อโพชั่นทะลวงปราณระดับจิตวิญญาณทั้งหมดเจ็ดขวดในราคา สองแสนหนึ่งหมื่นเหรียญเงินเครดิต และซื้อโพชั่นชำระไขกระดูกหนึ่งขวดในราคาสามหมื่นเหรียญเงินเครดิตเรียบร้อยแล้ว ยอดเงินคงเหลือ เจ็ดพันเหรียญทองเครดิตและ เก้าล้านเจ็ดแสนสามหมื่นสามพันห้าร้อยเหรียญเงินเครดิต...]
“เงินจ๋า ข้าขอลาก่อนนนนน !” ลี่จินปาดน้ำตาที่ไม่มีอยู่จริงทิ้งไป
[...อันดับแรก โฮสต์จะต้องกินโพชั่นชำระไขกระดูกก่อน เพราะจะต้องเปลี่ยนถ่ายกระดูก เปลี่ยนเส้นปราณ และที่สำคัญ...]
“อะไร” ตากระตุกแปลก ๆ มันจะต้องมีอะไรมากกว่านี้
[...โพชั่นชำระไขกระดูก โฮสต์จะต้องเจ็บปวดเล็กน้อยนะขอรับ...]
“เจ็บปวดเล็กน้อย ?” ย้ำ
[...ขอรับ...]
“แน่ใจนะ ทำไมข้าถึงรู้สึกว่าเจ้ามีอะไรปิดบังข้า” หญิงสาวหรี่ตา มั่นใจว่านี่แหละตาถึงได้กระตุก
[...ไม่มีนี่ขอรับ ข้าบอกท่านแล้วว่าจะต้องเจ็บปวด ขอให้ท่านอดทนให้มาก ห้ามสลบเป็นอันขาด ไม่เช่นนั้นจะต้องกินโพชั่นใหม่ และแน่นอน ราคาสองพันเหรียญทองเครดิต ข้าหวังว่า โฮสต์จะจำการเสียเงินครั้งนี้ได้...]
เหมือนถูกหลอกด่าอย่างไรไม่รู้
[…ข้าไม่ได้หลอกด่าโฮสต์นะขอรับ ท่านอย่ากล่าวหาข้านะ...]
“...เอาเถอะ ไหน ๆ ข้าจะต้องแข็งแกร่งอยู่แล้ว เจ็บแค่นี้มันคงไม่ตายหรอกมั้ง...” หญิงสาวกรอกตา
แค่นี้กับผีสิ ...
ไม่ใช่แค่นิดหน่อยนะ เพราะมันเจ็บมาก มากแบบตะโกน เพียงแค่กินโพชั่นชำระไขกระดูกอึกแรก ความเจ็บปวดก็ถามหา เจ็บเหมือนถูกกรีดในวันนั้นเลย หญิงสาวกัดฟันกินจนหมดขวด คราวนี้เจ็บทรมานจนอยากตายก็ได้ประสบพบเจออีกครั้ง
ลี่จินเจ็บปวดจนใจแทบขาด ร่างกายบิดขดงอ เส้นปราณทุกเส้นต่างบวมเป่งจนเห็นได้อย่างชัดเจน รูขุมขนเปิดกว้างเหงื่อกาฬสีดำทะลัก กลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วห้อง แต่ในเวลานี้ เหยียนลี่จินไม่คิดจะสนใจ เจ็บจะตายอยู่แล้วจะให้ไปสนใจสิ่งใดได้ แค่รอดชีวิตในครั้งนี้ก็เป็นบุญวาสนาแล้ว
เสียงของกระดูกแตกดังเปรี๊ยะ ๆ จนหูแทบดับ ความเจ็บปวดที่มากเกินจะทนไหว เกือบทำให้ลี่จินสลบ แต่เพราะคำว่า หากสลบจะต้องเริ่มใหม่ แปลได้ว่า จะต้องเจ็บปวดใหม่ และซื้อโพชั่นชำระไขกระดูกนี่อีกครั้งใมารดามันเถอะ แพงขนาดนี้ใครจะยอมซื้อใหม่วะ ! ต้องท่องสองพันเหรียญทองเครดิตซ้ำ ๆ ถึงจะอดทนได้ เรียกได้ว่าเรื่องเงินเรื่องใหญ่จริง ๆ สำหรับเหยียนลี่จิน
นานชั่วกัปกัลป์ในความรู้สึกของลี่จิน แต่ความจริงเป็นเพียงหนึ่งชั่วยามหรือสองชั่วโมงเท่านั้น แต่เพราะมันเจ็บปวดมากจึงรู้สึกว่ายาวนานเหลือเกิน
ก่อนจะถึงหนึ่งชั่วยาม จู่ ๆ ไอปราณเข้มข้นหนาแน่นได้ซึมเข้าสู่ผิวหนัง ครั้งแรกร้อนวาบกระจายไปทั่วร่าง ไม่ถึงจิบชาร้อนกลับเย็นจัด และเริ่มอุ่นสบาย
จากนั้นมีไฟเย็นสีเหลืองนวลได้เคลื่อนจากบริเวณหน้าท้อง ซึ่งคือจุดตันเถียน ไล่ไปตามเส้นปราณจากนั้นวนกลับไปที่เดิมขึ้นลง ๆ อยู่นับร้อยครั้ง จากช้าเริ่มเร็ว และเร็วขึ้น เสียงดังปังหนึ่งครั้ง ไฟเย็นดวงนั้นจึงเคลื่อนกลับมาอยู่ตรงจุดตันเถียนอีกครั้ง
ครบหนึ่งชั่วยาม การชำระไขกระดูกเป็นอันเสร็จสิ้น ร่างกายเริ่มเปลี่ยนไป จากที่งดงามอยู่แล้วกลับงดงามขึ้น ร่างกายมีแสงสีเหลืองครอบคลุม ดูเปล่งปลั่งดุจเซียนสาว ร่างกายแข็งแรงทันตาเห็น คุ้มแล้วที่ต้องทนเจ็บปวดนานถึงหนึ่งชั่วยาม
หลังจากเฉียดตายมาหมาด ๆ ก็มาถึงคราวกินโพชั่นทะลวงปราณระดับจิตวิญญาณอีกเจ็ดขวด ร่างกายเกิดร้อนวูบวาบอีกครั้ง โอสถช่างมีประสิทธิภาพจนน่าเหลือเชื่อ เส้นปราณที่เคยตีบตันกลับถูกทะลุทะลวงจนเส้นปราณขยายใหญ่ขึ้น
เมื่อเส้นปราณถูกรักษาสมบูรณ์ก็รู้สึกได้ว่ามีพลังลมปราณอันมหาศาลไหลเวียนไปทั่วร่าง พลังนั้นทะลวงเส้นปราณต่าง ๆ อย่างบ้าคลั่ง เมื่อไร้สิ่งติดขัด เสียงระเบิดจึงดังลั่นในหัวของนาง
ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง !!!
ดังอยู่ห้าครั้ง พร้อมกับจุดตันเถียนที่เกิดแสงสีเหลืองไล่มาถึงสีเขียว สีน้ำตาล สีส้ม สีม่วง สีแดงเพลิง และสุดท้าย สีขาว ซึ่งเป็นระดับเซียนแรกเริ่มขั้นกลางวาบขึ้น แล้วก็หายไป การเหาะเหินเดินอากาศได้เริ่มขึ้นแล้ว
[...โฮสต์ขอรับ โฮสต์ต้องฝึกวิทยายุทธก่อนนะขอรับ ถึงจะเหาะเหินเดินอากาศได้...] ระบบทักท้วงมา
“…แล้วตำราฝึกยุทธในระบบมีอะไรแบบไหนบ้าง”
[...เคล็ดลับฝึกยุทธ์เทพอุดร ราคาหนึ่งพันหกร้อยเหรียญทองเครดิต...]
“ข้าจนแล้วนะ” เหยียนลี่จินทำใจเรื่องราคาแพงได้แล้ว แต่เพราะตอนนี้เงินในระบบแค่เจ็ดพันเหรียญทองเครดิตเท่านั้น ความยากจนเป็นอย่างไร เพิ่งจะรู้ซึ้งในตอนนี้
[...ถ้าอยากเก่งเกินใคร โฮสต์ต้องฝึกเคล็ดวิชานี้ เพราะเป็นเคล็ดวิชาโบราณที่สูญหายเกือบห้าร้อยปี ปกติแล้วราคานับหมื่นเหรียญทองเครดิต...]
“ซื้อ” เอาก็เอาถึงจะจนลงอีกก็ตาม ทุกอย่างขับเคลื่อนด้วยเงินตราทั้งนั้น ไม่ว่าจะภพใด มิติใด จะก้าวข้ามเงินไปไม่ได้ ไม่มีเงินก็เหมือนหมาตัวหนึ่ง แม้กระทั่งความยุติธรรมก็ไม่มี
พอมีเงินมีทองผู้คนจะนับหน้าถือตา กลับดำเป็นขาว อย่างที่คนในโลกนี้เปรียบเปรย ‘ผีโม่แป้ง’ นั่นเอง
[…แล้วตำราฝึกวิชาตัวเบา...]
“เท่าไหร่” กัดฟันกรอด ๆ
[...หนึ่งพันแปดร้อยเหรียญทองเครดิตขอรับ...]
“ฮึ่ม ซื้อ” งานซื้อก็มา งานนี้ต้องเอาให้คุ้ม ไหน ๆ ก็เสียเงินแล้วนี่นา นางจะต้องแกร่งกว่าใครในยุทธภพนี้
ฟันธง !! ตอนนี้ยอม ๆ ไปก่อนล่ะกัน
[...ระบบทำการซื้อเคล็ดลับตำราฝึกยุทธ์เทพอุดรในราคาหนึ่งหนึ่งพันหกร้อยเหรียญทองเครดิตเรียบร้อยแล้ว ซื้อ ตำราวิชาตัวเบาในราคาหนึ่งพันแปดร้อยเหรียญทองเครดิต เรียบร้อยแล้ว ยอดเงินคงเหลือ สามพันหกร้อยเหรียญทองเครดิตและ เก้าล้านเจ็ดแสนสามหมื่นสามพันห้าร้อยเหรียญเงินเครดิต...]
ฮือ เงินลดฮวบ ๆ เลย เสียดายจัง