บทที่ 6 ไฟไหม้…

785 Words
บทที่ 6 ไฟไหม้…  23 : 30 น. ฟุดฟิดๆ จู่ๆ จมูกเหมือนจะได้กลิ่นควันไฟ ลืมตาโพลงแล้วพยายามนึกว่าตัวเองได้เผลอเปิดเตาแก๊สทิ้งไว้ไหม แต่ก็นึกไม่ออก “ ไปดูดีกว่า ไฟไหม้หรือเปล่าทำไมกลิ่นควันไฟถึงรุนแรงขนาดนี้ ” พูดกับตัวเองแล้วพาร่างบางลุกขึ้นเพื่อเดินลงไปชั้นล่าง แต่…มีควันโขมงเลยจนต้องชะงัก ก้าวเท้าลงบันไดไปขั้นหนึ่งอย่างสั่นๆ พลางในใจก็นึกกลัว “ ฟะ…ไฟไหม้ ” เธอเกิดอาการกลัว น้ำเสียงสั่น เมื่อสายตามองไปยังด้านล่าง เพราะไฟมอดไหม้หมดแล้ว อีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงคงล่ามขึ้นมาชั้นบนแน่ๆ คิดได้ดังนั้นก็รีบไปหยิบโทรศัพท์เพื่อโทรหาใครบ้างคน ระหว่างนั้นควันก็เข้าจมูก ทำให้ไอสำลักควันไปด้วย “ หรือว่าจะหลับไปแล้วเพราะนี่มันก็จะเที่ยงคืนแล้ว ” เพราะโทรไปสายแรก เขาไม่รับสาย แต่ก็ลองอีกครั้งแล้วกัน ไม่มีเวลาจะคิดมาก เพราะคิดอะไรไม่ออก คิดถึงเขาแค่คนเดียว และจำประโยคที่เขาพูดได้ว่า ถ้าหากมีอะไรก็สามารถโทรหาเขาได้ทุกเวลาเลย (“ ฮัลโหลครับ ครูดาว ”) พอปลายสายกดรับและกรอกเสียงตามสายมา หัวใจมันกลับเต้นตึกตักด้วยความดีใจ (“ พี่แสนคะ แค่กๆ คือว่า ไฟไหม้ค่ะ ”) (“ ไฟไหม้ที่ไหนครับ ที่บ้านพักเหรอ ”) (“ แค่กๆ ฮัดชิ้ว ใช่ค่ะ มันกำลังจะลามขึ้นมาชั้นบนแล้ว ดาวกลัว ไม่รู้จะออกไปยังไง ”) (“ ทำใจดีๆ ไว้นะครับ ตั้งสติไว้ ผมกำลังจะออกไป ครูดาวเอาผ้าขนหนูชุปน้ำแล้วมาห่มตัวไว้ก่อนนะครับ ”) น้ำเสียงของปลายสายสื่อออกมาว่าห่วงใยอีกคนสุดๆ “ แค่ก ฮัดชิ้ว ” หลังจากวางสายไป เธอก็ทำตามที่เขาบอก แต่ควันไฟมันเริ่มเข้ามาในห้องนอน จนทำให้แสบตาแสบคอไปหมด อีกอย่างก็เริ่มหายใจไม่ออกแล้วด้วย “ ครูดาว ครูดาว ” เริ่มมีเสียงชาวบ้านดังขึ้น คงจะเห็นไฟหรือได้กลิ่นควันแล้ว “ ดาวอยู่นี่ค่ะ ” เธอเดินอย่างคนอ่อนแรงไปที่ริมหน้าต่างสูง แต่รู้สึกว่าบ้านหลังนี้มันเริ่มโยกตัวแล้วนะ ฐานที่รับน้ำหนักคงจะโดนไฟเผาจนมอดไหม้แล้วแหละ “ ฉันคงไม่รอดแล้ว ” พูดกับตัวเองเบาๆ พร้อมปล่อยน้ำตาให้ไหล มองภาพที่ชาวบ้านวิ่งกันไปมา เพื่อไปเอาน้ำมาดับไฟ แต่มันคงสายไปแล้ว หนทางรอดริบหรี่เหลือเกิน “ ครูดาวครับ อย่าเพิ่งเป็นอะไรไปนะ ผมมาแล้ว ” เสียงหนึ่งดังขึ้น ทำให้เธอเผลอยิ้มออกมาราวกับว่าพบแสงสว่างต่างกับเมื่อกี้ที่มันกำลังมืดแปดด้าน ชายหนุ่มคิดหาวิธี ก็เลยไปเอาบันไดยาวมา เขาจำได้ว่ามันว่างไว้ตรงไหน เพราะมาทำงานที่นี่ออกจะบ่อย “ ลงมาครับ ” เขาตะโกนแล้วกวักมือเรียกเธอ ยังลังเลใจ พร้อมหันกลับไปมองของในห้อง อย่างหดหู่ เพราะทุกอย่างเธอสร้างขึ้นมาเอง มันก็อดเสียดายเป็นธรรมดา แต่ก็ต้องทำใจ จึงหยิบแค่โทรศัพท์มือถือออกมาแล้วลงตามบันไดที่พิงกับตัวบ้าน ลงอย่างขาสั่นๆ พรึ่บ! “ เฮ้ย ระวัง ” เสียงคนด้านล่างดังขึ้น “ ครูดาว! ” จู่ๆ ตัวบ้านก็ทรุด ทำให้บันไดมันไปไม่มีที่ยึด และเอียงลง คนที่กำลังก้าวขาลง ใจเสียทันที “ ว้ายยย ” เธอร้องออกมาแล้วหลับตาปี่ มันยังสูงอยู่นะ ตกลงไปร่างกายคงพิการแหละ พรึ่บ! แต่มันเกิดคาด เพราะเหมือนจะมีอ้อมแขนใครบางคนมารับไว้ทัน…ดวงตากลมเริ่มเปิดออกเพื่อดู “ พี่แสน ” เป็นเขานั่นเอง เขามีสติสุดๆ เป็นใครจะมารับได้ทันล่ะ เพราะมันเกิดขึ้นกระทันหันมาก “ เจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับ ” ใบหน้าห่วงใย “ มะ…ไม่ค่ะ ” เขาปล่อยให้ฉันลงยืนอย่างเป็นอิสระ สักพักโครงบ้านที่เหลือก็ล่มตึ้งเพราะไฟมันกินหมดแล้ว บ้านพักครูอย่างที่รู้ๆ คือมีสองชั้น บ้านทั้งหลังเป็นไม้หมด ไม่แปลกที่ไฟจะมอดไหมัเร็วขนาดนั้น หญิงสาวได้แต่นึกและมองด้วยความเสียดายของที่เอาออกมาไม่ทัน รู้งี้น่าจะโยนของออกมาทางหน้าต่างตั้งนานแล้ว แต่ในตอนนั้นหัวมันตื้อไปหมด คิดอะไรไม่ออกเพราะไม่เคยอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน ❤️________❤️ นามปากกาผกายมาส ​
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD