10 | มอมเหล้า

1422 Words
“เปลี่ยนใจ มานั่งกินเป็นเพื่อนเหรอคะ” มิลลิยิ้มเก๋ให้คนที่เดินเข้ามาหา ขยับตัวมานั่งเก้าอี้ตัวที่อยู่ตรงกันข้ามก่อนจะมีเด็กที่ร้านถือเครื่องดื่มมาให้ที่โต๊ะ ตากลมโตเป็นประกาย มองคนตัวโตตรงหน้าสลับกับพนักงานของร้าน “เธอบอกจะช่วยฉันทำงานใช่ไหม” น้ำเสียงของเขาญาติดีจนมิลลิสงสัย แต่ก็ยอมพยักหน้ารับเพราะนั่นมันเป็นความตั้งใจของเธอจริงๆ “ใช่ค่ะ พี่ติณห์จะยอมใจดีกับหนูแล้วเหรอคะ” “ถ้าจะช่วยกันทำงานจริงๆ รู้ใช่ไหมว่าการทำงานที่นี่ เธอเองก็ต้องมีความรู้ติดตัวเอาไว้” “ความรู้?” “เรื่องเหล้า ไวน์ เครื่องดื่มทุกชนิดในร้าน” “แล้วต้องเรียนรู้จากตรงไหนคะ จะมีคนคอยสอนเหรอ” “ทุกคนมีงานที่ต้องทำ ไม่มีใครว่างคอยสอนเธอทั้งนั้น เธอต้องเรียนรู้ทุกอย่างด้วยตัวเอง เริ่มเลย” ติณห์หงายแก้วขึ้นก่อนจะเปิดเหล้าราคาแพงซึ่งเหมาะกับคนคอแข็งๆ ดื่มเป็นประจำลงไปในแก้วทั้งสองใบ “ลูกค้าที่มาที่นี่ มักถามตลอดว่าเครื่องดื่มแนะนำของทางร้านคืออะไร เธอต้องชิมทุกอย่าง จดจำและต้องมีข้อมูลที่แน่นถึงจะตอบคำถามลูกค้าได้ว่าเครื่องดื่มแบบไหนเหมาะกับใคร” “จะให้หนูเป็นคนเข้าไปรับออเดอร์เหรอคะ” “ใช่ งานง่ายๆ แค่นั้นเธอคงทำได้ใช่ไหม” เขาสบประมาทและมองคนตาใส “ได้ค่ะ แต่จำเป็นต้องชิมเครื่องดื่มทุกเมนูและจำเป็นต้องรู้ทุกเรื่องด้วยเหรอคะ บางทีลูกค้าอาจจะรู้อยู่แล้วว่าเขาจะดื่มอะไร จริงๆ เราไม่…” “อย่าเถียง หรือเธอคออ่อน ดื่มไม่ได้ ดื่มไม่เป็น จะรอให้ลูกค้าเป็นฝ่ายเลือกเองหรือถ้าลูกค้าถามก็ตอบคำถามไม่ได้แล้วโยนคำถามไปให้คนอื่นมาตอบแทนแบบนั้นใช่ไหม เหมือนเธอจะถนัดผลักภาระไปที่คนอื่นนะ แบบนี้เขาเรียกทำงานไม่เป็นมืออาชีพ ถ้าอยากเป็นมืออาชีพต้องเรียนรู้ทุกอย่างด้วยตัวเอง เครื่องดื่มทุกชนิด เธอต้องชิมเอง” โดนว่าแบบนั้นหน้าไม่ซีดก็ให้มันรู้ไป “ก็ได้ค่ะ แล้วเรา…” “เริ่มเลย เริ่มจากแก้วนี้ เหล้ายี่ห้อนี้ ดูสี กลิ่น ดูยี่ห้อจากนั้นก็จดจำรสชาติหลังจากที่เธอดื่มมันลงไป” เสียงของคนตรงหน้าดูจริงจังจนไม่กล้าต่อต้าน มิลลิคว้าแก้วเครื่องดื่มมาถือ กดสายตากลมลงสำรวจเล็กน้อย มองเขาที่เป็นฝ่ายดื่มแก้วของตัวเองก่อน เสมือนกำลังจะบอกว่าเขาสนใจเรื่องงานจริงๆ “ทำไมชักช้า เธอไม่กล้า?” “เปล่าค่ะ” “หรือเธอไม่ไว้ใจฉัน” สบตาจริงจัง แม้คนที่ดื่มไปบ้างแล้ว ดื่มบ่อยเป็นชีวิตจิตใจสายตาจะแพรวพราวมากเป็นพิเศษ แต่เขาควบคุมตัวเองได้ดี ไม่แสดงออกให้รู้ว่าจริงๆ แล้วกำลังคิดอะไร “คุณลุงบอกว่าพี่ไว้ใจได้ หนูก็ต้องกล้าไว้ใจอยู่แล้ว” “งั้นก็ดื่มซะ ยังมีอีกหลายยี่ห้อที่ต้องชิมต่อ ไหนๆ วันนี้ก็มาแล้ว ก็เรียนรู้งานไปเลยจะได้ไม่เสียเวลา” เสียงกดดันส่งผลให้คนตัวเล็กพยักหน้ารับ ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยดื่ม มีดื่มบ้าง แต่ไม่เคยเกินลิมิตของตัวเอง ไม่เคยดื่มอะไรที่มันแรงเกินไป แต่แก้วที่เขาให้เธอชิม กลืนลงคอคำแรกมันขมคอมาก นี่มันไม่ใช่ทางของเธอ และเหมือนจะแรงมากสำหรับเธอเช่นกัน “ตัวนี้จะเหมาะสำหรับผู้ชายที่เป็นสายปาร์ตี้ ดื่มหนักๆ จะพุ่งเป้ามาที่ตัวนี้ ราคามันค่อนข้างแรง อาจจะมีลูกค้าหลายกลุ่มที่ถามถึงเรื่องรสชาติก่อน เพราะฉะนั้นเธอต้องรู้ ต้องอธิบาย ลูกค้าที่นี่เงินหนากันทั้งนั้น อย่าทำให้ที่ร้านต้องขาดรายได้เพราะเธอ” “แรงจริงๆ ค่ะ ขนาดหนูดื่มแค่แก้วเดียวเอง ยังมึนเลย” มิลลิยกมือขึ้นลูบใบหน้า รู้สึกว่าศีรษะมันหนักอึ้ง แก้มฝาดเปลี่ยนเป็นสีระเรื่อเหมือนคนแพ้แอลกอฮอล์อย่างรุนแรง แต่ความจริงคือร่างกายของเธอแค่เจอของแรงเท่านั้น “งั้นชิมเมนูต่อไป” ติณห์หันไปเรียกพนักงานให้เสิร์ฟต่อเนื่อง โดยมีอีกคนนั่งมองตาปริบๆ ต่อต้านหรืออ้างเหตุผลว่าเมาแล้วก็ไม่น่าจะได้ เดี๋ยวเขาก็หาว่าเธอไม่อยากช่วยงานอีก “เมนูนี้เบสิคที่สุดแล้ว ลูกค้าส่วนมากนิยม แต่มันก็ยังมีคนบางกลุ่มที่ยังไม่เคยชิม จำเป็นต้องรู้เหมือนกัน” เสียงแก้วกระทบแก้วดังขึ้นเป็น เหมือนเร่งเร้าให้เธอยกแก้วขึ้นมาชิมไปพร้อมๆ เขา เธอไม่มีทางเลือก ก็ทำได้เพียงทำตามอย่างว่าง่าย พยายามจดจำในส่วนที่เขาบอกว่าต้องจำ ค่อยๆ เรียนรู้ในแบบที่เขาสอน แก้วแล้วแก้วเล่า แทบแยกไม่ออกด้วยซ้ำว่าแก้วไหนแรงกว่ากัน แต่ทั้งหมดที่ดื่มมา มันไม่ใช่ทางของเธอ และมันก็หนักหน่วงสำหรับเธอจริงๆ “มะ ไม่ไหวแล้วนะคะ~” ติณห์ขยับเข้าไปประชิดคนที่ทรงตัวแทบไม่ไหว แก้มเนียนๆ แดงระเรื่อ จมูกแดง ตาเยิ้ม สภาพเธอบอกเลยว่าไม่ไหวจริงๆ “ไอ้เหี้ยติณ์ มึงเล่นแรงว่ะ ระวังน็อคนะมึง แดกตัดกันมั่วสัดๆ” ลีโอเดินเข้ามาบ่นอย่างไม่สบอารมณ์ รู้เห็นทุกอย่างว่าเพื่อนคิดจะทำอะไร แต่ขัดไม่ได้ เปิดปากปุ๊บมันด่าปั๊บ มันบอกว่าเป็นปัญหาของมัน ห้ามเสือก แล้วแบบนั้นใครจะกล้าเข้าไปเสือกวะ “หนูไม่ไหว~” เสียงหวานๆ ดึงสายตาคนที่ดื่มเยอะพอกันให้หันมามอง มือขาวๆ ไขว่คว้าตัวเขาหมายจะให้เป็นที่พึ่ง เลยทำได้เพียงหันไปไล่เพื่อนให้ถอยออกไป “เออน่า กูรู้ว่าทำอะไรอยู่ เดี๋ยวกูจัดการเอง” “อย่าให้มากเกินไปนะมึง ผู้หญิงนะเว้ย หลานสาวพ่อมึงนะ” “เออน่า” หันไปกระแทกเสียงตอบใส่คนที่ย้ำซ้ำๆ ลีโอส่ายหน้าก่อนจะเดินกลับ ปล่อยให้โซนวีไอพีที่แม้รอบตัวจะมีคนเยอะมาก แต่พื้นที่ตรงนี้มีแค่เขากับเธอ “แค่นี้ก็ทนไม่ไหวแล้วเหรอ อ่อนไปไหม?” หันไปถาม พอย้ายมานั่งฝั่งเดียวกัน ทำให้เห็นหน้าชัดขึ้น สบตาในระยะใกล้ขึ้นด้วย “พี่ติณห์ หนูปวดหัวอ่ะ~” “แค่เมา มันไม่ทำให้ใครตายหรอกน่า อย่าสำออย เพราะต่อให้เธอสำออย ฉันก็ไม่สงสารเธออยู่ดี” “ทำไมเป็นคนใจร้ายแบบเน้~” คนเมาพยายามหรี่ตามอง มือเล็กยกขึ้นปัดป่ายใบหน้าคมคายของคนที่มองเธออยู่ “พี่ให้หนูดื่ม พี่ต้องรับผิดชอบดิ” “คิดว่าเธอจะดูแลตัวเองได้ดีกว่านี้ แต่นี่อะไร ไม่ได้เรื่องเลย ทำตัวเป็นภาระได้ทุกครั้งจริงๆ” “อย่ามาว่าหนูนะ!” “แล้วทำไมจะว่าไม่ได้ เป็นแม่ฉันเหรอ ก็ไม่ใช่ เมียก็ใช่ ไม่ได้เป็นอะไรเลยในชีวิตของฉัน เอามือเน่าๆ ของเธอออกไป” ปัดมือขาวๆ ทิ้งอย่างไม่ใยดี และไม่คิดว่าเธอจะมึนเมาหนักถึงขั้นทรงตัวไม่ไหว ร่างบางๆ เซถลาลงด้านล่าง ปัดป่ายโดนแก้วจนตกแตก เลอะไปตามๆ กัน “โอ๊ย!” “เหี้ยแล้วไง ฉิบหายอีกแล้วกู!” สายตาหลายๆ คู่หันมาจับจ้องยังร่างบอบบางที่ทรุดลงกับพื้น แล้วชุดของยัยเด็กเปรตก็เรียกร้องความสนใจจากเพศตรงข้ามได้เป็นอย่างดี กระโปรงสั้นๆ ที่ตอนปกติมันก็ปิดตรงนั้นแทบไม่มิด มาล้มแบบนี้ผู้ชายหลายคนเตรียมเข้าชาร์จ เขาเลยจำเป็นต้องพุ่งตัวเข้าไปก่อน ก่อนที่คนอื่นจะเข้ามาถึงตัวเธอ แน่นอนแหละ ไม่ได้หวงเลยถ้าเธอจะถูกใจใครหรือใครจะถูกใจเธอ ที่ยังไม่อนุญาตเพราะคิดว่ายังไงสถานะตรงนี้มันก็ควรต้องจบก่อน พูดออกมาก่อนว่าเธอจะไป ไม่อยู่แล้ว เขาเป็นอิสระเมื่อไหร่ เขาจะปล่อยเธอไปโดยไม่มีข้อแม้อะไรเลย เธอจะมีใคร ใครจะสนใจเธอ เขาไม่ได้คิดที่จะสนใจ! ———————— ร่วมกันสาธุพร้อมๆ กันนะคะ 55555555555
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD