ปะทะครั้งที่6.2

1306 Words
ไม่รู้ว่าวันนี้เป็นวันน่าหงุดหงิดหรืออย่างไร เท้าจึงไม่สามารถพาผมกลับถึงห้องได้ดั่งใจ เหตุก็เพราะที่ใต้หอพักซึ่งยากจะมีใครกล้าย่างกรายเข้ามา เวลานี้กลับปรากฏร่างเล็กของหญิงสาวหน้าตาไม่คุ้นกำลังยืนอยู่ ท่าทางเธอเหมือนกำลังรอคอยอะไรหรือใคร ทันที่ผมก้าวเข้าไปหญิงสาวก็ก้มหัวลงนิดๆ แทนคำทักทาย เธอแต่งชุดนักศึกษาปกติ แต่เข็มบนปกเสื้อดันบ่งบอกว่าเธอมาจากที่อื่น “สวัสดีค่ะ” หญิงสาวแปลกหน้ากล่าวทักทันทีเมื่อผมเดินเข้าไปใกล้และถาม “ที่นี่ใช่หอพักอาถรรพ์ที่เขาล่ำลือกันหรือเปล่าคะ?” “ใช่ครับ” สีหน้าคนฟังเต็มไปด้วยความดีอกดีใจที่ได้รับคำตอบแบบนั้น “ดีจัง ถ้าอย่างงั้นคุณคงรู้เรื่องข่าวลือใช่ไหมคะ?” “ข่าวลืออะไรครับ?” “JOKER น่ะค่ะ...” เธอยิ้มเล็กยิ้มน้อย นัยน์ตากลมเต็มไปด้วยความหวังและความปรารถนาบางอย่าง “มีอะไรหรือเปล่าครับ?” “ฉันอยากเจอเขาค่ะ อยากให้เขาช่วยทำให้ความปรารถนาฉันเป็นจริง” ผมกระตุกยิ้มเมื่อได้ฟัง รับรู้ถึงความปรารถนาของคนตัวเล็กมากเสียจน อดที่จะเอ่ยตอบกลับไปไม่ได้ “ถ้างั้นผมจะบอกให้ แต่คุณต้องสัญญากับผมก่อนว่า...” “คะ?” คนฟังทำแสดงสีหน้าแปลกใจแต่ก็ยอมโน้มหน้าเข้ามาใกล้จังหวะเดียวกับที่ผมโน้มกายเข้าหาเธอ เพื่อกระซิบ “เรื่องนี้จะเป็นความลับระหว่างเรา..” - SUAY TALK - หลายนาทีมาแล้วที่ฉันนั่งกุมขมับตัวเองบนเตียงนับตั้งแต่กลับมายังห้องพัก ในหัวกำลังคิดทบทวนถึงเสียงตะคอกดุของอาจารย์ประจำวิชาหลักซึ่งโกรธจัดเพราะถูกหัวเราะเยาะ ผลจากการหัวเราะก็คือ ฉันถูกลากออกจากคลาสเรียนและโดนเรียกไปตักเตือนหลังจากนั้น ฉันไม่ควรทำแบบนั้นต่อหน้าทุกคนเลย... “บ้าชะมัด...” พอคิดว่าตัวเองทำเรื่องบ้าๆแบบนั้นลงไป เพราะเหตุผลใดและเพราะใคร สายตาก็พลันเหลือบมองข้ามโต๊ะเครื่องเขียนไปยังเตียงเปล่าเพื่อนร่วมหอพัก เกอร์... วันนี้เขากลับช้ากว่าฉันอีกแล้ว เหมือนเมื่อวานที่เขากลับช้าเพราะมัวแต่ทำธุระ แต่วันนี้ช้ากว่าเมื่อวาน และการที่เขาไม่ยอมกลับห้องในเร็วๆนี้ ทำให้สมองเผลอคิดรุกล้ำข้ามเขตแดนที่กั้นเราเอาไว้ ไม่รู้ทำไม ใจฉันเวลานี้ถึงอยากข้ามไปฟากฝั่งเขาเหลือเกิน อาจเพราะรู้สึกว่าที่ตรงนั้นมีบางอย่างที่ฉันต้องการถูกซุกซ่อนอยู่ล่ะมั้ง ยามได้มอง สมองก็เริ่มวนลูปคิดก้าวข้ามอาณาเขตอีกครั้ง ตอนนี้ฉันไม่อยากรู้อีกต่อไปแล้ว ว่า ‘เกอร์’ หรือ ‘JOKER’ เป็นคนคนเดียวกันหรือเปล่า ลำพังที่เห็นผ่านสายตามันก็ชัดมากพออยู่แล้ว ที่อยากรู้ตอนนี้น่ะ คือเหตุผลที่ทำให้เขากลายเป็นคนสองบุคลิกและมีความต้องการความรักและเรื่องเซ็กซ์สูงต่างหาก ไม่ใช่แค่คิดแต่ร่างกายยังเคลื่อนไหวตามใจชอบแบบไม่ปล่อยให้เสียเวลาเปล่า ลุกออกจากเตียงตรงไปยังเขตแดนของเกอร์อย่างย่ามใจ ข้าวของของผู้ชายถูกจัดไว้เป็นระเบียบตามชั้นวางเล็กๆบนพื้น คงเพราะเราไม่เคยยุ่มย่ามกับข้าวของส่วนตัวของกันและกัน การได้ข้ามมาฝั่งของเกอร์นั้นจึงถือเป็นความแปลกใหม่ ฉันเดินสำรวจไปตามความยาวพื้นห้อง มองของตกแต่งเล็กๆ น้อยๆตามประสาผู้ชาย แล้วตอนนั้นเอง ฉันก็ได้พบเข้ากับของบางอย่าง ที่พอเห็นแล้วถึงกับต้องตาค้าง เพราะมันมากมายเหลือเกิน “หนะ...หนังสือโป๊...” ไม่แปลกใจเลยที่คนอย่างเขาจะมีขออะไรแบบนี้เยอะนัก ฉันเอื้อมหยิบหนังสือโป๊เล่มบนสุดของกองขึ้นดู เพราะรู้สึกว่าในบรรดาหลายสิบเล่ม เล่มนี้ดูโฉ่งฉ่างน้อยที่สุดจังหวะเดียวกันนั้นของบางอย่างก็ได้ร่วงลงมาตกอยู่บริเวณปลายเท้า คาดว่าเขาคงจะสอดมันไว้ระหว่างหน้าหนังสือแทนที่คั่น ก้มมองถึงได้รู้ว่ามันคือเศษหนังสือพิมพ์เก่าๆ ซึ่งถูกตัดและเคลือบพลาสติกไงใสไว้อย่างดี หนังสือโป๊ในมือถูกวางลงบนเตียงเพื่อก้มหยิบเศษหนังสือพิมพ์ดังกล่าวขึ้นดู และพบว่ามันเป็นข่าวเมื่อ 13 ปีก่อน จากเนื้อข่าวพาดหัวดูเหมือนจะเป็นเรื่องของนักมายากลซึ่งเคยโด่งดังในอดีตที่เสียชีวิตระหว่างทำการแสดง ทว่า ยังไม่ทันได้อ่านรายละเอียดไปมากกว่านี้ เสียงไขกุญแจห้องกลับดังขึ้นเสียก่อน เขากลับมา! ด้วยความร้อนรน ทำให้ฉันรีบสอดกระดาษหนังสือพิมพ์กลับคืนสู่หนังสือตามเดิม แต่ว่าดูเหมือนจะช้าไป เมื่อผู้เป็นเจ้าของ ได้เปิดประตูเข้ามาก่อนที่ฉันจะทำทุกอย่างเสร็จสิ้น “สะ สวย!” เสียงร้อนรนดังขึ้นพร้อมกับเสียงประตูห้องซึ่งถูกปิดลง “สะ สวยทำอะไรบนเตียงเราอ่ะ” เกอร์ไม่ใช่แค่ถาม แต่เขายังกุลีกุจอตรงมาทางฉันพร้อมทั้งรีบดึงหนังสือโป๊ไปจากมือฉันด้วย “ฉะ ฉันก็แค่หาของ” “มะ ไม่มีของของสวยอยู่ในหนังสือโป๊ของเราหรอก” เขาบอกเสียงอุบอิบและคงความเป็นตัวเอง ต่างจากตอนเป็น JOKER “บางทีมันอาจจะอยู่ก็ได้” ฉันแย้งแบบข้างๆ คูๆ แต่เกอร์ก็ไม่ได้ว่าอะไร เขารีบจัดการเก็บซ่อนกองหนังสือโป๊ให้มิดชิดสายตา ฉันจึงอาศัยจังหวะในตอนนั้นถามออกไป “ทำไมวันนี้กลับช้าล่ะ?” “เรามีธุระน่ะ” เขามีธุระเหรอ หรือว่าจะแอบไปสักเพิ่มอีกแล้ว “ไปสักเพิ่มมาอีกแล้วเหรอ?” คิดได้แบบนั้นฉันจึงถามกลบเกลื่อนออกไป เพื่อให้เขาลืมเรื่องกฎระหว่างเราสักพักจนกว่าฉันจะกลับไปยังฝั่งของตัวเองได้ “เปล่า เราแค่ไปคุยธุระ ว่าแต่สวยเถอะ...” “...” “เข้ามาทำอะไรที่ฝั่งของเรา?” เจอคำถามนี่เข้าไปฉันก็ถึงกับพูดอะไรไม่ถูก ได้แต่แก้ตัวไปเรื่อย “ก็บอกว่ามาหาของไง…” “สวยทำผิดกฎของเรานะ” เขาขัดพลางหันกลับมามองฉันช้าๆ ด้วยสายตานิ่งๆ ซื่อตรงผ่านเลนส์แว่น “แล้วไง เมื่อวานนายก็ทำผิดกฎเหมือนกัน” ฉันยักไหล่แบบไม่ยินดียินร้าย ทั้งที่ลึกรู้สึกเสียหน้าอย่างสุดๆ ที่ถูกจับได้ “เอาเป็นว่าฉันหาของไม่เจอ งั้นกลับนะ” หมับ! วินาทีที่ตั้งใจจะชิ้ง เกอร์ก็พุ่งมือคว้าแขนฉันไว้ เขาไม่ได้ออกแรงบังคับให้หยุด แต่ร่างกายดันชะงันนิ่งแล้วเหลียวกลับไปมองเขาด้วยตัวเอง “มะ เมื่อวานเราขอโทษนะ ที่ข้ามไปเขตสวยแบบนั้น” พอมองหน้าเขาตรงๆ จู่ความรู้สึกก็เกิดเป็นบ้าอะไรขึ้นมาไม่รู้ อัตราการเต้นของหัวใจเริ่มถี่แบบผิดจังหวะ เมื่อในหัวดันเผลอนึกถึงภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องและสนามเด็กเล่นเมื่อวาน “ไม่เป็นไร ฉันเข้าใจ” ฉันตอบเขาส่งๆ พลางบิดแขนเล็กน้อยเพื่อให้อีกฝ่ายปล่อย ทว่า ฝ่ามือหนาที่เคยจับแขนฉันไว้หลวมๆ กลับเพิ่มแรงรวบรัดขึ้นจนรู้สึกได้ “สวยรู้ไหม ว่าทำไมเราถึงตั้งกฎว่าห้ามข้ามเขตของกันและกัน...” “ทำไม?” ฉันรู้สึกถึงลางสังหรณ์แปลกๆ ขณะที่มือของเกอร์เริ่มบีบแขนฉันแน่นมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง “ก็เพราะว่า ถ้าข้ามมาเขตของเราแล้ว...” และฉันกำลังได้รับคำตอบนั้น “สวยจะไม่มีโอกาสได้กลับออกไปอีก”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD