อันที่จริงเรื่องลูกเธอดูแลได้อยู่หรอกหากวันไหนมีประชุมแต่ก็คงทุลักทุเลนิดหน่อยเท่านั้นเอง
“จะบอกว่าไม่มีพี่ก็ดูแลลูกได้อย่างนั้นใช่ไหม”
ไม่รู้ว่าเขาโมโหเรื่องอะไร ปกติเบญจมินทร์จะพูดจาดีมีเหตุมีผลเสมอ เธอจึงเลี่ยงที่จะคุยกับเขาต่อด้วยการบอกปัดเขาไปว่า
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันจะเข้าห้องนะคะ คุณจะกลับเลยไหม”
เบญจมินทร์ไม่กลับยังไม่พอ เขาเดินเข้ามาหยุดที่ตรงหน้าเธอ
วสุกัญญาเลยต้องถอยหลังไปหนึ่งก้าว ความสูงของเธอกับเขาต่างกันไม่น้อย เมื่อต้องยืนใกล้กันขนาดนี้เธอเลยต้องเงยหน้าจนคอเกือบตั้งบนบ่าเพื่อมองเขา
“ลูกบอกว่าหนูจะแต่งงานกับลุงหมอ…อย่างนั้นหรือ”
เขาถามด้วยเสียงที่ฟังดูราบเรียบแต่ตาคู่คมของเขานั้นดูแล้วมีอารมณ์คุกรุ่นคล้ายไม่พอใจอะไรบางอย่าง
แต่จะไม่พอใจอะไรล่ะ
ในเมื่อเรื่องนี้มันเป็นเรื่องส่วนตัวของเธอ
“ไอ้หมอนั่นมันให้พ่อกับแม่มาคุยอีกแล้วหรือ ทำไมมันมาคุยเรื่องแต่งงานหลายรอบจัง ตั้งแต่ก่อนจะขอให้พี่เซ็นใบหย่านั่นก็รอบหนึ่งแล้วนี่ ตอนนั้นหนูบอกว่ามันจะให้พ่อแม่มาคุยเรื่องแต่งงานด้วย แล้วคราวนี้ยังไงอีก หรือว่าตอนนั้นสินสอดไม่ลงตัวเลยมาคุยใหม่อีกรอบ”
วสุกัญญากะพริบตาปริบ ๆ เธอเองก็โกรธเป็นเช่นกัน ยิ่งเมื่อได้ยินเขาพูดจาแบบนี้ยิ่งทำให้เธอโกรธ ทั้งที่ปกติเธอออกจะเป็นคนสุขุมและโกรธใครได้ยากเอามาก ๆ
เธอคิดทบทวนเล็กน้อยถึงสิ่งที่เขาพูดก็ค่อยพบว่าน่าจะเป็นแม่ตัวดีที่เอาไปบอกเขา แล้วก็ไม่คิดด้วยว่าลูกจะจับเรื่องราวในวันนั้นได้ จะว่ามาพูดจาสู่ขอก็ไม่ใช่แต่ก็ไม่เชิง ปกรณ์ชวนเธอไปกินข้าวที่บ้านของเขา และเธอก็บ่ายเบี่ยงเขาทุกครั้ง เขาเลยออกปากบอกว่าหากเขาพาพ่อและแม่ของเขามากินข้าวที่บ้านของเธอจะได้หรือไม่ วสุกัญญาไม่คิดว่าเขาจะทำแบบนี้ แล้วก็ไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไร
นัดหมายวันแล้ว ปกรณ์ก็พาพ่อกับแม่ของเขามาที่บ้านหลังนี้ พ่อและแม่ของนายแพทย์ปกรณ์น่ารักมาก ท่านทั้งสองเป็นข้าราชการเกษียณอายุ ที่สำคัญท่านไม่มีท่าทีรังเกียจเธอเลยที่เป็นแม่ม่ายลูกติด
ท่านพูดหว่านล้อมเรื่องให้เธอเปิดใจรับลูกชายของท่าน แล้วยังพูดย้ำอีกว่าท่านรักและเอ็นดูเธอกับลูกสาวของเธอมาก ๆ ท่านยังขอให้เธออย่าคิดว่าเรื่องที่เธอเคยมีครอบครัวแล้วเป็นความด่างพร้อยของผู้หญิง นับว่าครอบครัวของปกรณ์น่ารักไม่น้อยเลยทีเดียว แต่เธอไม่พร้อมจะเข้าไปใช้ชีวิตในครอบครัวของปกรณ์
แม่ตัวดีของเบญจมินทร์อยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ก็น่ารักดีอยู่หรอก แต่พอทางนั้นกลับกันไปก็บ่นปอดแปดว่าไม่ชอบให้คนมาบ้าน ทั้งยังบอกอีกด้วยว่าตนหวงแม่ หวงมาก ๆ ขอร้องว่าอย่าให้นายแพทย์ปกรณ์มาที่บ้านอีก
“ใช่ค่ะเรื่องสินสอดไม่ลงตัว” เธอยอมรับเสียให้มันแล้ว ๆ กันไป เขาจะได้เลิกก่อโทสะเสียที
เบญจมินทร์สูดลมหายใจเข้ายาว ๆ เขาเป็นคนโกรธยากมาแต่ไหนแต่ไหนแล้ว แต่ก็จะมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ปั่นหัวเขาได้ ก่อกวนอารมณ์ของเขาได้แม้ว่าเจ้าตัวจะไม่ได้ทำอะไรมากมายเลยด้วยซ้ำ แค่เพียงคำพูดสั้น ๆ ท่าทีเฉยเมยคล้ายไม่ใส่ใจ เพียงเท่านั้นคนสุขุมอย่างเบญจมินทร์ก็แทบคลั่ง เขาอยากเข้าไปคว้าร่างเล็กของเธอมาเขย่าแรง ๆ และตะโกนถามใส่หน้าเสียจริง
“แล้วหนูเรียกเขาไปเท่าไร ลงตัวแล้วใช่ไหม จะแต่งกันวันไหนล่ะ”
“นั่นมันเป็นเรื่องส่วนตัวของฉันแล้วนะคะ และถ้าไม่ใช่เรื่องของลูก ฉันคิดว่าเราไม่ควรคุย…”
“ชอบพูดจาปัดพี่แบบนี้เรื่อยเลยนะ”